เดินป่า เขาหลวงนครศรีฯ เส้นทาง ห้วยน้ำเย็น-หินสองเกลอ-ยอดฝามี-ผาเหยียบเมฆ



เดินป่า เขาหลวงนครศรีฯ เส้นทาง ห้วยน้ำเย็น-หินสองเกลอ-ยอดฝามี-ผาเหยียบเมฆ
**ช่วงปลายเดือนเมษายน



#คลิปvdo
ห้วยน้ำเย็น-หินสองเกลอ-ยอดฝามี-ผาเหยียบเมฆ เขาหลวงนครศรี
ตอน1 https://youtu.be/z5Jlqv_vaKE
ตอน2 https://youtu.be/ZqFT7irCw40
ตอน3 https://youtu.be/ZBNDw0_jylg

ทริปนี้ผมเดินทางไปกับ น้อยหลงทาง กับ เพื่อนร่วมทริป พี่ปกเกล้า,พี่เต็ม,ตูน,จอนนี่ อินดี้,สายหยุด,เจมส์,แป้ง,ตรี,แบงค์ และ ฮ้อHD

พวกเราเริ่มต้นเดินทางจากกทม. ด้วยรถตู้ ตอนเกือบ3ทุ่ม เพื่อที่จะมาถึงเช้าที่ อ.พรหมคีรี เราแวะกินมื้อเช้าแถว ตลาดบ้านดอนคา กันก่อนที่จะเข้าไปที่จุดเริ่มเดินตรง #น้ำตกวังลุง โดยมี พี่บ่าวพรหมโลก มารอรับ



โดยแผนการเดินรูทนี้ เราเริ่มต้นเดินที่ #น้ำตกวังลุง (#น้ำตกสองรัก) ต.ทอนหงษ์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ที่ความสูงจุดเริ่มเดิน ราว145ม.

แต่ก่อนการมาเดินที่นี้ จะยังไม่มีเจ้าหน้าที่อช.มาดูแล  แต่เดี๋ยวนี้ ที่นี้..เริ่มมีเจ้าหน้าที่อช.เขาหลวง มาเดินด้วย เนื่องจากเป็นกฏใหม่ ซึ่งก็ถือว่าเป็นข้อดี ที่เจ้าหน้าที่จะได้สำรวจตรวจตรา และ ทำความรู้จักกับพื้นป่าที่นี้ด้วย

แต่อย่างไรก็ตามคนนำทาง และ ความชำนาญพื้นที่ ก็ยังคงเป็นหน้าที่ของกลุ่มชุมชน ที่ยังดูแลด้านนี้อยู่เป็นหลัก

โดยทริปนี้เราได้ พี่ป้อน  เป็นคนนำทางทริปนี้ ซึ่งได้รับการมอบหมายจาก พี่บ่าว พรหมโลก



หลังจากรอเจ้าหน้าที่อช. มาสมทบ พวกเราก็เริ่มออกเดิน ราว9โมงเช้า  ช่วงแรกจะเดินผ่านน้ำตกวังลุง แล้วเดินผ่านสวนชาวบ้าน เส้นทางจะเป็นทางราบแบบค่อยๆไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ

แต่แค่เริ่มเดินไม่นาน เหงื่อก็ซกซะแล้ว เพราะ อากาศร้อนอบอ้าวมาก แถมก็มีเจ้าทาคุ (ทาก:ตัวดูดเลือด) มาคอยต้อนรับพวกเราตลอดทาง โดยระหว่างทางก็จะมีสายน้ำตกอยู่ด้านขวามือ



จนเดินมาได้ ราว2.3km. ก็เจอกับลำธารแรก ที่ความสูงราว270ม.

ระหว่างทาง พี่ป้อนคนนำทางให้เราทริปนี้ ก็ได้เด็ดลูกมะปริงข้างทางให้ชิมกัน ลักษณะผลเป็นลูกทรงกลมรูปไข่ ขนาดราว3-4cm.  ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังออกลูกพอดี

ช่วงที่เราเด็ดกิน ลูกมะปริงยังไม่สุกมาก ผลยังเขียวอยู่ รสชาติจะเหมือนมะม่วงมัน อมเปรี้ยวนิดๆ



แล้วเดินต่อมาได้ราวชั่วโมง ก็จะเจอขนำสุดท้าย ที่ความสูงราว380ม.  ตอนนี้เดินมาได้ราว3km.กว่า  

ที่นี้พวกเรานั่งพักจิบน้ำผึ้งป่า กันสักพัก ที่ขนำท้ายสวน จริงๆสามารถจ้างให้มอไซด์มาส่งได้ถึงขนำจุดนี้ได้ หากขี้เกียจเดิน เพราะ ยังเป็นเส้นทางที่รถมอไซด์วิ่งเข้าสวนกัน
:
:
หลังจากจุดนี้  ก็จะเริ่มเข้าเขตป่ากันแล้ว เราเดินต่อมาอีกสักครึ่งชั่วโมง ก็เริ่มเจอลำธารอีกครั้ง ที่ความสูงราว420ม.



ช่วงนี้ทางเดินยังราบๆ ค่อยๆเดินขึ้นแบบซึมๆมาเรื่อยๆ  จึงเดินกันไม่เหนื่อยมากเท่าไร  มีเพียงอากาศอันร้อนอบอ้าวเท่านั้น

จนมาเจอ #น้ำตกหนานตาส้ม แล้วเดินต่อมาอีกนิดหน่อย ก็เจอ #น้ำตกหนานไม้ไผ่ ที่หน้าน้ำตกมีแอ่งน้ำใหญ่พอสมควร  








น้ำตกหนานไม้ไผ่

หลังจากเดินเลย น้ำตกหนานไม้ไผ่ มาได้ไม่ไกล แค่ราว300ม.  พวกเราก็พักกินมื้อเที่ยง ที่ความสูงราว570ม. ตรงน้ำตกกันก่อน




ตอนนี้พวกเราเดินมาได้ ราว6.3km. ใช้เวลาไป3ชั่วโมง  มื้อเที่ยงของเราวันนี้คือ ข้าวเหนียวไก่ทอด  

เราพักกินมื้อเที่ยงกันราวครึ่งชั่วโมง ก็เดินกันต่อ ตอน12:30  แล้วเดินต่อมาอีกสักพักก็เจอ #น้ำตกหนานมะพร้าว

น้ำตกหนานมะพร้าว


แล้วเดินพ้นน้ำตกมาได้สักพัก ก็เจอห้วยอีกครั้ง  ตอนนี้เดินมาได้ราว7.5km.


พวกเรานั่งพักตรงห้วย เพื่อเติมน้ำ แล้วล้างหน้าล้างตา ให้หายคลายร้อนกันก่อน เพราะ หลังจากจุดนี้ไป  พี่ป้อนคนนำทาง บอกว่า “ทางจะเริ่มชันขึ้น และ เดินลำบากมากขึ้น”  แถมช่วงนี้อากาศยังคงร้อนอบอ้าว

จนเราเดินไต่ระดับมาถึงความสูงราว800ม.  ก็มีฝนตกลงมานิดหน่อย พอให้หายคลายร้อนกัน เมื่อป่าชื้นมากขึ้น น้องทากก็ออกมาต้อนรับมากขึ้นตามไปด้วย





ตอนนี้ทางยังคงชันแล้วก็ชัน และ ที่สำคัญ ต้องก้าวขาสูงมาก เพราะ มีลักษณะเป็นเนินบังคับก้าวขา เล่นกินกำลังขาไปพอสมควร บวกกับน้ำหนักเป้ผมที่หนักราว20kg.  ทำให้ช่วงระยะก้าวขาก็สูงมาก สูงชนิดว่ายกขานี้ หัวเข่าสูงเท่าหน้าอกเลย ซึ่งจะลำบากมากสำหรับคนตัวเล็กๆอย่างผม555  บวกกับช่วงนี้ร่างกายผมไม่ค่อยฟิตด้วย แต่ยังดีที่มีต้นไม้ไว้ให้คอยเกาะยึดเหนียว ไม่งั่นคงแย่

หลังจาก..ที่พวกเราดันกันขึ้นมาได้ จนราวบ่าย3 ตอนนี้พวกเราขึ้นมาอยู่ที่ ความสูงราว1,000ม. เพื่อนๆแต่ละคนเริ่มถามพี่ป้อนคนนำทางแล้ว ว่า “แคมป์อีกไกลไหม?”  พี่ป้อน บอกว่า “อีกราวชั่วโมง”





เพื่อนๆหลายคนเริ่มเหนื่อย และ ขาเริ่มล้า แม้แต่ตัวผมเองก็มีอาการขาล้าเช่นกัน  เนื่องจากทริปนี้ต้องยกขาสูง แต่ก่อนจะถึงก็เจอทางลงนิดหนึ่ง ไปเจอห้วย แต่ยังไม่ไช่จุดที่จะพักแคมป์  เพราะจากจุดนี้ ต้องเดินขึ้นไปอีก  

ระหว่างทางก็เจอ กลุ่มพี่เอกกรุงชิง กับ มะเดียว ซึ่งกำลังเดินลงมาจาก #ห้วยน้ำเย็น ตรงความสูงราว1,200ม.  เราจึงดันขึ้นกันต่อไป แต่สำหรับตัวผมเอง ก็ต้องคอยระวังอาการแกร่งที่ขาด้วย เพราะ อาจตะคริวกินได้ เรียกว่าช่วงกิโลเมตรสุดท้ายนี้ เลยต้องค่อยๆเดิน แบบประคองตัวกันไปเลยทีเดียว
:
:
ในที่สุด พวกเราก็ถึง #ห้วยน้ำเย็น ที่จุดพักแคมป์ ซึ่งใช้เวลาเดินกันไป  7ชม.20นาที  กับระยะทางราว10km.  มาถึงกันตอน16:20  ที่นี้ความสูงราว 1,307ม. ซึ่งวัดจากนาฬิกาsuuto ที่ผมใช้

จากที่แรก พี่น้อย (หัวหน้าทริป) ตั้งเป้าไว้ว่า  จะถึงแคมป์พักกันราวบ่าย3  หรือ ใช้เวลาราว6ชั่วโมง ซึ่งพลาดเป้ากันไปพอสมควร  




ที่นี้จะมีพื้นที่ราบทำแคมป์กว้างขวางพอสมควร ชนิดว่าสามารถเอาเต๊นท์มากางยังได้ มีต้นไม้ให้ผูกเปลหลายจุด มีห้วยน้ำพอให้ได้ใช้สอยกันแบบสบายๆเหลือๆ น้ำที่นี้เย็นมาก สมชื่อ #ห้วยน้ำเย็น จริงๆ แต่ข้อดีของบริเวณแคมป์ คือ ไม่มีทากมาคอยกวนใจ

โดยรวมวันนี้ ถือว่าเดินยาวพอสมควร เพราะ เดินยาวกัน 7-8ชั่วโมง กับระยะทางราว10km. ซึ่งความลำบากของเส้นนี้ จะอยู่ช่วง2-3km. สุดท้าย  เนื่องจากเป็นทางชันยาวแบบต่อเนื่อง









หลังจากทำแคมป์พักกันเสร็จ บางคนก็ลงอาบน้ำ ช่วงระหว่างก่อนมื้อเย็น พี่น้อยก็จัดเนื้อทอดมากินแก้เซ็ง ส่วนจอนนี่ ก็เอามะม่วงที่แบกขึ้นมาตั้งหลายลูก มาทำยำมะม่วงกินเป็นกับแกล้ม ก่อนที่จะกินจริงมื้อเย็น

ส่วนปมเลยไปถ่ายภาพเก็บบรรยากาศโดยรอบแคมป์










โดยมื้อเย็นนี้มี ต้มไก่บ้าน แกงส้มกุ้ง เนื้อทอด กับ ไข่เจียว เรียกว่าอร่อยสมชื่อ #โสโครกโภชนา


คืนนี้ที่นี้อากาศเย็นราว15องศา (วัดช่วงตอน2ทุ่ม) โชคดีที่ไม่มีลม ไม่งั่นคงหนาวกว่านี้แน่ๆ

#######
#######
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่