



แวบเข้าไปดู น้ำซึมบ่อทรายจากเจ้ามือตัวจริง
สิ้นเดือนเมษายน น่าจะได้รับแล้ว ประมาณ 45 % ของเงินปันผลรับรวมในปีนี้

กิจกรรมไปร่วมประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีนี้ ก็เลยไปแบบสบายๆ ตามใจฉัน
ไม่ได้เน้นเอาของกิน ของแจก
ถ้าได้ก็ดี ไม่ได้ก็โนพลอมแพลม
คือจะเน้นไปที่ สถ่านที่ประชุมไหนไม่เคยไป
ถ้าขับรถไปเองได้ ก็ขับรถไปเอง
ขับรถไปเองไม่ไหว เพราะเวลาจวนเจียนหรือระยะทางไกล ก็ขึ้นรถไฟฟ้าไป
ความจริงประชุมบริษัทนี้มาตั้งแต่วันศุกร์ที่ 19 เมษายน
เอามาโพสต์วันนี้ รวมกับที่นั่งรถไป
1 ขับรถไปเอง
ตอนบ่ายวันนี้ก็จะขับรถไปประชุมอีกหนึ่งบริษัทแถวถนนสุขสวัสดิ์
ประชุมที่ชั้น 31 ของอาคารเอ็มเอสสยามทาวเวอร์ หัวมุมถนนวงแหวนอุตสาหกรรมกับถนนพระราม 3

เดี๋ยวนี้เกือบทุกบริษัทที่ผมไปร่วมประชุม จะแจกคูปองลักษณะนี้แนบมาให้กับบัตรลงคะแนน
เพื่อป้องกันการเวียนเทียน หยิบของไปหลายๆชิ้น
เ

LIT ถือเป็นบริษัท ที่ผู้ถือหุ้นถามแต่ละคำถาม
เอาแบบเน้นๆ ทำการบ้านมาอย่างดีแล้ว
ในที่ประชุม ได้เจอเพื่อนสมาชิกห้องสินธรที่มานั่งติดกัน
คุยกันได้ความว่า โดนยึดอมยิ้มเพราะวิจารณ์นกแอร์มากไปหน่อย
จากการพูดคุย คุณ... (ไม่ได้ถามว่าใช้อมยิ้มอะไร กลัวเสียมารยาท)
เป็นคนที่รู้เรื่องปัจจัยพื้นฐานของแต่ละบริษัทที่ลงทุนดีมากๆ
เป็นคนแนะนำบริษัทไปสองประเด็นเนื้อๆคือ
1 บริษัทควรฉีกตัวไปทำลิสซิ่งรูปแบบใหม่ๆ อย่างเช่นการปล่อยกู้ โดยให้เอาโฉนดที่ดินมาค้ำประกัน
2 หุ้นกู้ของบริษัท ควรยอมเสียค่าใช้จ่ายให้ TRIS จัดเรตติ้งให้
ถ้าได้เรตติ้งไม่ดี ก็เฉยๆไว้ ถ้าได้เรตติ้งดี มีเกรดน่าลงทุน ก็ค่อยบอก
ค่าใช้จ่ายในการจัดเรตติ้ง แค่ 7 แสน ถึง 1.2 ล้านบาทเท่านั้น
ผลตอบแทนที่จะได้จากเรตติ้งดี สูงกว่าค่าใช้จ่ายในการขอเรตติ้งมากๆ
จากต้องจ่ายดอกเบี้ย 6 % ก็อาจจะเหลือเพียง 4 % เพราะนักลงทุนสถาบันจะสามารถลงทุนได้
ทางกรรมการก็บอกว่า จะรับไว้พิจารณา
สำหรับผม ได้ถามไปสองข้อแบบคนที่ไม่ค่อยรู้ข้อมูลลึกๆอะไรคือ
1 คณะกรรมการมั่นใจหรือไม่ว่า ปีนี้ npl จะลดลง
คำตอบคือ บริษัทจะทำให้ดีที่สุด ปีที่แล้วเปอร์เซนต์ npl สูงขึ้น
เพราะคิดจากพอร์ตสินเชื่อที่ลด เพื่อลดความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ
ผมตีความได้ว่า ถึงไม่ลด npl ก็จะไม่เพิ่มมากขึ้น
2 สำนักงานใหญ่ที่ย้ายมาจากที่เดิม ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มปีละเท่าไร
คำตอบคือ เสียค่าตกแต่งสถานที่ไปประมาณ 10 ล้านบาท (ซึ่งน่าจะลงเป็นรายจ่ายของไตรมาส 1 )
ส่วนค่าเช่าสถานที่ แพงกว่าที่เดิมไม่มาก แต่ที่ได้อย่างเห็นๆคือ
ที่จอดรถ สะดวกสบายกว่าที่เดิมมากๆๆๆๆๆๆ
สรุปแล้ว คงถือต่อ แต่ไม่ซื้อเพิ่มครับ ยอมรับว่ากลัว npl เพิ่ม
2 นั่งรถไป
เป็นการตากอากาศกลางสนามรบตลาดหุ้น ภาคพิเศษ
ไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ถือหุ้นอยู่
โรงงานอยู่ที่อิสเทิร์นซีบอร์ด ระยอง
บริษัทนัดหมายเจอกันที่หน้าตึก um tower เพื่อขึ้นรถตอน 8.30 น. ที่นัดหมายอยู่ข้างสถานีแอร์พอร์ตลิงค์ รามคำแหง
เลยขึ้น bts ต่อ แอร์พอร์ตลิงค์
ทำให้ไปถึงก่อนเวลานัดหมายเกือบหนึ่งชั่วโมง
บริษัทจัดรถตู้ให้นั่งสามคัน
และอนุญาตให้พาคนติตตามที่ไม่ได้ถือหุ้นไปได้ 1 คน 
แทบจะไม่มีบริษัทไหนยอมให้พาคนอื่นไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น bcp ratch
ก่อนเยี่ยมชมตัวโรงงาน มีการบรรยายสรุปข้อมูลให้ฟังก่อน
ผู้เยี่ยมโรงงานที่ผมรู้จักดีคือ เสี่ยลุงขวด เซียนวีไอตัวจริง
ส่วนคุณ sai vi ที่ออกสื่อสิ่งพิมพ์และทีวีบ่อยๆ
ผมจำไม่ได้เพราะหน้าเด้งกว่าในโทรทัศน์มาก
จนใกล้เดินทางกลับ คุณซาอี ได้เข้ามาทักทาย ตอนนั้นยังงงๆว่า ใครเอ่ย
จนคุณซาอีเอาคลิ๊บเยี่ยมบริษัท มาลงในเวบทีวีไอ เลยจำได้
ต้องขอโทษด้วยครับ



คนไหนในภาพคือเสี่ยลุงขวด ลองทายกันดูครับ
ตัวจริงยังฟิต เฟิรม ฟัน สนุกกับการดูปัจจัยพื้นฐานบริษัทต่างๆ

ก่อนเยี่ยมชมโรงงาน บริษัทได้จัดเลี้ยงอาหารฮาลาล ปรุงโดยแม่ครัวของบริษัทเอง

อุปกรณ์ที่ต้องใส่เพื่อความปลอดภัยก่อนเข้าเยี่ยมชมโรงงาน

ผมเดินชมไปแค่สองโรง จากสามโรง ก็สู้อากาศร้อนไม่ไหว ต้องออกมานั่งพัก
แล้วรอบรรยายสรุปอีกรอบในห้องแอร์เย็นๆ หลังจากเดินชมโรงงานเสร็จ
สรุปได้ว่า ถือต่อหรือไม่ก็ ซื้อเพิ่ม ถ้าราคาลดลงมาอีก
ก่อนกลับ บริษัทได้แจกร่มให้ผู้เยี่ยมชมบริษัทคนละ 1 คัน
ผมตีราคาตามเงินมายาที่หายไปจากพอร์ต
ร่มนี้มีราคาคันละ 100,000 บาท (ไม่นับเงินจริงที่ได้คืนจากเงินปันผล)
หลายบริษัท ของกินของแจกในที่ประชุม
คุ๊กกี้ชิ้นละล้าน ชากาแฟแก้วละแสนก็มีหลายสิบบริษัท
ยังไงก็ขอขอบคุณบริษัท ที่จัดเยี่ยมชมโรงงานได้ดีมากครับ แม้ราคาหุ้นจะไม่ดี


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไปประชุมฯบริษัทนี้มาเมื่อตอนบ่ายวันนี้ พฤหัสที่ 25 เมษายน
ปีนี้มาแปลก ไม่แจกสินค้าเหลือจากการผลิตขายเหมือนทุกปีที่ผ่านมา
ของแจกปีนี้น่าสนใจมาก ขนาดใกล้จะเลิกประชุมแล้ว
ยังมีผู้ถือหุ้นมาขอลงชื่อเพื่อขอของชำร่วย เข้าใจว่าคงมีส่งไลน์บอกต่อกัน ในกลุ่มคนเดินสายประชุมผู้ถือหุ้น
กลายเป็นว่า ผมโชคดีที่ช่วงเช้าไม่ว่างไปประชุม epco synex
ช่วงบ่ายเลยมานั่งแอร์เย็นๆ ที่ศรีไทยแทน

ของมีค่าทางจิตใจที่บริษัทแจกให้ผู้เข้าร่วมประชุม

อาหารว่างที่แจก ก็น่ากินมาก กลายเป็นว่า ปีนี้คนมาร่วมประชุมน้อย แต่ของแจกของกินดีมาก

ในวาระรับทราบผลประกอบการ ผมได้ถามไปว่า ทำไมเปอร์เซนต์กำไรขั้นต้นลดลง
แต่จำนวนเงินกำไรสุทธิกลับเพิ่มขึ้น
คำตอบก็คือ บริษัทลดค่าใช้จ่ายลงได้ ที่เห็นๆคือค่าเช่าสำนักงาน s natur ที่รัชดาภิเษก ปีละ 20 กว่าล้าน
ซึ่งบริษัทได้ยกเลิกการเช่าไปแล้ว
ส่วนในวาระอื่นๆ ได้ถามว่า
กระแสการลดใช้พลาสติก ในความเห็นของกรรมการ
ถือว่าเป็นผลดีหรือผลเสีย เสี่ยสนั่น ประธานกรรมการตอบว่า
บริษัทมองในแง่ดี เพราะผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นพลาสติกแบบใช้งานนาน และสามารถรีไซเคิลได้
ก็จะถือที่เหลือจากการขายเปลี่ยนไปถือหุ้น msc เพื่อกินปันผลต่อไป
เพราะยังมีอีกสินทรัพย์ซ่อนเร้นที่บริษัทยังไม่เคยประเมินราคาใหม่ก็คือ
พื้นที่โรงงานผลิตสินค้าทุกแห่งในประเทศไทย เป็นที่ดินซื้อขาด
* ลืมโพสต์บอก
ในวาระผลตอบแทนคณะกรรมการ
เดิมบริษัทจะขอเพิ่มอีกปีละ 800,000 บาท จากที่ไม่เคยเพิ่มเลยมาหกปี
ลงท้าย กรรมการเห็นว่า บริษัทยังอยู่ในภาวะ ต้องพยายามลดค่าใช้จ่ายลงแบบรอบด้าน
ก็เลยยกเลิกมติ เพิ่มค่าตอบแทนคณะกรรมการ ยอมรับค่าตอบแทนเดิมไปก่อน

๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ ขับรถไป นั่งรถไปตากอากาศกลางสนามรบตลาดหุ้น สไตล์ lifelong investor
แวบเข้าไปดู น้ำซึมบ่อทรายจากเจ้ามือตัวจริง
สิ้นเดือนเมษายน น่าจะได้รับแล้ว ประมาณ 45 % ของเงินปันผลรับรวมในปีนี้
กิจกรรมไปร่วมประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีนี้ ก็เลยไปแบบสบายๆ ตามใจฉัน
ไม่ได้เน้นเอาของกิน ของแจก
ถ้าได้ก็ดี ไม่ได้ก็โนพลอมแพลม
คือจะเน้นไปที่ สถ่านที่ประชุมไหนไม่เคยไป
ถ้าขับรถไปเองได้ ก็ขับรถไปเอง
ขับรถไปเองไม่ไหว เพราะเวลาจวนเจียนหรือระยะทางไกล ก็ขึ้นรถไฟฟ้าไป
ความจริงประชุมบริษัทนี้มาตั้งแต่วันศุกร์ที่ 19 เมษายน
เอามาโพสต์วันนี้ รวมกับที่นั่งรถไป
เดี๋ยวนี้เกือบทุกบริษัทที่ผมไปร่วมประชุม จะแจกคูปองลักษณะนี้แนบมาให้กับบัตรลงคะแนน
เพื่อป้องกันการเวียนเทียน หยิบของไปหลายๆชิ้น
เ
LIT ถือเป็นบริษัท ที่ผู้ถือหุ้นถามแต่ละคำถาม
เอาแบบเน้นๆ ทำการบ้านมาอย่างดีแล้ว
ในที่ประชุม ได้เจอเพื่อนสมาชิกห้องสินธรที่มานั่งติดกัน
คุยกันได้ความว่า โดนยึดอมยิ้มเพราะวิจารณ์นกแอร์มากไปหน่อย
จากการพูดคุย คุณ... (ไม่ได้ถามว่าใช้อมยิ้มอะไร กลัวเสียมารยาท)
เป็นคนที่รู้เรื่องปัจจัยพื้นฐานของแต่ละบริษัทที่ลงทุนดีมากๆ
เป็นคนแนะนำบริษัทไปสองประเด็นเนื้อๆคือ
1 บริษัทควรฉีกตัวไปทำลิสซิ่งรูปแบบใหม่ๆ อย่างเช่นการปล่อยกู้ โดยให้เอาโฉนดที่ดินมาค้ำประกัน
2 หุ้นกู้ของบริษัท ควรยอมเสียค่าใช้จ่ายให้ TRIS จัดเรตติ้งให้
ถ้าได้เรตติ้งไม่ดี ก็เฉยๆไว้ ถ้าได้เรตติ้งดี มีเกรดน่าลงทุน ก็ค่อยบอก
ค่าใช้จ่ายในการจัดเรตติ้ง แค่ 7 แสน ถึง 1.2 ล้านบาทเท่านั้น
ผลตอบแทนที่จะได้จากเรตติ้งดี สูงกว่าค่าใช้จ่ายในการขอเรตติ้งมากๆ
จากต้องจ่ายดอกเบี้ย 6 % ก็อาจจะเหลือเพียง 4 % เพราะนักลงทุนสถาบันจะสามารถลงทุนได้
ทางกรรมการก็บอกว่า จะรับไว้พิจารณา
สำหรับผม ได้ถามไปสองข้อแบบคนที่ไม่ค่อยรู้ข้อมูลลึกๆอะไรคือ
1 คณะกรรมการมั่นใจหรือไม่ว่า ปีนี้ npl จะลดลง
คำตอบคือ บริษัทจะทำให้ดีที่สุด ปีที่แล้วเปอร์เซนต์ npl สูงขึ้น
เพราะคิดจากพอร์ตสินเชื่อที่ลด เพื่อลดความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ
ผมตีความได้ว่า ถึงไม่ลด npl ก็จะไม่เพิ่มมากขึ้น
2 สำนักงานใหญ่ที่ย้ายมาจากที่เดิม ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มปีละเท่าไร
คำตอบคือ เสียค่าตกแต่งสถานที่ไปประมาณ 10 ล้านบาท (ซึ่งน่าจะลงเป็นรายจ่ายของไตรมาส 1 )
ส่วนค่าเช่าสถานที่ แพงกว่าที่เดิมไม่มาก แต่ที่ได้อย่างเห็นๆคือ
ที่จอดรถ สะดวกสบายกว่าที่เดิมมากๆๆๆๆๆๆ
ไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ถือหุ้นอยู่
โรงงานอยู่ที่อิสเทิร์นซีบอร์ด ระยอง
บริษัทนัดหมายเจอกันที่หน้าตึก um tower เพื่อขึ้นรถตอน 8.30 น. ที่นัดหมายอยู่ข้างสถานีแอร์พอร์ตลิงค์ รามคำแหง
เลยขึ้น bts ต่อ แอร์พอร์ตลิงค์
ทำให้ไปถึงก่อนเวลานัดหมายเกือบหนึ่งชั่วโมง
บริษัทจัดรถตู้ให้นั่งสามคัน และอนุญาตให้พาคนติตตามที่ไม่ได้ถือหุ้นไปได้ 1 คน
แทบจะไม่มีบริษัทไหนยอมให้พาคนอื่นไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น bcp ratch
ก่อนเยี่ยมชมตัวโรงงาน มีการบรรยายสรุปข้อมูลให้ฟังก่อน
ผู้เยี่ยมโรงงานที่ผมรู้จักดีคือ เสี่ยลุงขวด เซียนวีไอตัวจริง
ส่วนคุณ sai vi ที่ออกสื่อสิ่งพิมพ์และทีวีบ่อยๆ
ผมจำไม่ได้เพราะหน้าเด้งกว่าในโทรทัศน์มาก
จนใกล้เดินทางกลับ คุณซาอี ได้เข้ามาทักทาย ตอนนั้นยังงงๆว่า ใครเอ่ย
จนคุณซาอีเอาคลิ๊บเยี่ยมบริษัท มาลงในเวบทีวีไอ เลยจำได้
ต้องขอโทษด้วยครับ
คนไหนในภาพคือเสี่ยลุงขวด ลองทายกันดูครับ
ตัวจริงยังฟิต เฟิรม ฟัน สนุกกับการดูปัจจัยพื้นฐานบริษัทต่างๆ
ก่อนเยี่ยมชมโรงงาน บริษัทได้จัดเลี้ยงอาหารฮาลาล ปรุงโดยแม่ครัวของบริษัทเอง
ผมเดินชมไปแค่สองโรง จากสามโรง ก็สู้อากาศร้อนไม่ไหว ต้องออกมานั่งพัก
แล้วรอบรรยายสรุปอีกรอบในห้องแอร์เย็นๆ หลังจากเดินชมโรงงานเสร็จ
สรุปได้ว่า ถือต่อหรือไม่ก็ ซื้อเพิ่ม ถ้าราคาลดลงมาอีก
ก่อนกลับ บริษัทได้แจกร่มให้ผู้เยี่ยมชมบริษัทคนละ 1 คัน
ผมตีราคาตามเงินมายาที่หายไปจากพอร์ต
ร่มนี้มีราคาคันละ 100,000 บาท (ไม่นับเงินจริงที่ได้คืนจากเงินปันผล)
หลายบริษัท ของกินของแจกในที่ประชุม
คุ๊กกี้ชิ้นละล้าน ชากาแฟแก้วละแสนก็มีหลายสิบบริษัท
ยังไงก็ขอขอบคุณบริษัท ที่จัดเยี่ยมชมโรงงานได้ดีมากครับ แม้ราคาหุ้นจะไม่ดี
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไปประชุมฯบริษัทนี้มาเมื่อตอนบ่ายวันนี้ พฤหัสที่ 25 เมษายน
ปีนี้มาแปลก ไม่แจกสินค้าเหลือจากการผลิตขายเหมือนทุกปีที่ผ่านมา
ของแจกปีนี้น่าสนใจมาก ขนาดใกล้จะเลิกประชุมแล้ว
ยังมีผู้ถือหุ้นมาขอลงชื่อเพื่อขอของชำร่วย เข้าใจว่าคงมีส่งไลน์บอกต่อกัน ในกลุ่มคนเดินสายประชุมผู้ถือหุ้น
กลายเป็นว่า ผมโชคดีที่ช่วงเช้าไม่ว่างไปประชุม epco synex
ช่วงบ่ายเลยมานั่งแอร์เย็นๆ ที่ศรีไทยแทน
ของมีค่าทางจิตใจที่บริษัทแจกให้ผู้เข้าร่วมประชุม
อาหารว่างที่แจก ก็น่ากินมาก กลายเป็นว่า ปีนี้คนมาร่วมประชุมน้อย แต่ของแจกของกินดีมาก
ในวาระรับทราบผลประกอบการ ผมได้ถามไปว่า ทำไมเปอร์เซนต์กำไรขั้นต้นลดลง
แต่จำนวนเงินกำไรสุทธิกลับเพิ่มขึ้น
คำตอบก็คือ บริษัทลดค่าใช้จ่ายลงได้ ที่เห็นๆคือค่าเช่าสำนักงาน s natur ที่รัชดาภิเษก ปีละ 20 กว่าล้าน
ซึ่งบริษัทได้ยกเลิกการเช่าไปแล้ว
ส่วนในวาระอื่นๆ ได้ถามว่า
กระแสการลดใช้พลาสติก ในความเห็นของกรรมการ
ถือว่าเป็นผลดีหรือผลเสีย เสี่ยสนั่น ประธานกรรมการตอบว่า
บริษัทมองในแง่ดี เพราะผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นพลาสติกแบบใช้งานนาน และสามารถรีไซเคิลได้
ก็จะถือที่เหลือจากการขายเปลี่ยนไปถือหุ้น msc เพื่อกินปันผลต่อไป
เพราะยังมีอีกสินทรัพย์ซ่อนเร้นที่บริษัทยังไม่เคยประเมินราคาใหม่ก็คือ
พื้นที่โรงงานผลิตสินค้าทุกแห่งในประเทศไทย เป็นที่ดินซื้อขาด
* ลืมโพสต์บอก
ในวาระผลตอบแทนคณะกรรมการ
เดิมบริษัทจะขอเพิ่มอีกปีละ 800,000 บาท จากที่ไม่เคยเพิ่มเลยมาหกปี
ลงท้าย กรรมการเห็นว่า บริษัทยังอยู่ในภาวะ ต้องพยายามลดค่าใช้จ่ายลงแบบรอบด้าน
ก็เลยยกเลิกมติ เพิ่มค่าตอบแทนคณะกรรมการ ยอมรับค่าตอบแทนเดิมไปก่อน