หลังจากวันนี้ไปดูมา ในรอบเช้าที่สุดของวันก็สมใจอยากกันสักทีนะครับกับ Avengers Endgame หรือ อเวนเจอร์ส เผด็จศึก
เป็นหนังเรื่องสุดท้ายของ MCU Phase 3 และเป็นเรื่องสุดท้ายของมหากาพย์ Infinity Saga
ความรู้สึกส่วนตัวนะว่า 3 ชั่วโมงกว่าๆของหนังเรื่องนี้ ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกง่วงเลยเพราะว่ามันมีอะไรให้ลุ้นตลอด มีฉากซึ้งกินใจมากพอสมควร วางบทตัวละครก็สมเหตุสมผล(แต่ในส่วนของการวางบทนี่แหล่ะที่ทำให้มีข้อเสีย แต่ไม่ถึงกับมากๆ) เป็นหนึ่งในหนังยอดมนุษย์ที่ควรค่าแก่การดูมากๆเรื่องนึง และสมแล้วที่มีแฮชแท็กขึ้นมาว่า #อย่าตายจนกว่าจะได้ดูอเวนเจอร์สเผด็จศึก อะไรเทือกนั้น ถือว่าอิ่มมากๆ เรื่องนี้ และ บทสั่งลาของดาราผู้เป็นเสาหลักก็ถือว่าทราบซึ้งกินใจมากๆ และผิดคาดไปจากที่คิดมากเลยทีเดียว ส่วนคะแนนรีวิวจากผมนะครับ ถ้าเอาแบบรีวิวเหยียบล้านของ OS ผมให้เลย 1 ล้านถ้วน
เป็นภาพยนต์ที่คุณต้องดูให้ได้สักครั้งในชีวิต
จากตรงนี้ไปคือการสปอยเนื้อหานะครับ (เผื่อคนที่ยังไม่ดูเผลอกดเข้ามา)
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
----------------------------------------WARNING SPOILER ALERT-------------------------------------------
ตอนแรกคิดไว้แล้วว่าแต่ละคนต้องรอดกลับมาในช่วง Part แรกของหนัง โทนี่กับเนบิวล่ารอดมาได้เพราะกัปตันมาร์เวลผ่านมาพอดี พวกเขาพยายามจะไปดาวดวงนึงที่ธานอสอยู่ฆ๋าได้สำเร็จแต่หินพังหมดแล้วไม่สามารถดึงคนให้กลับมาได้และการข้ามเวลาทำไม่ได้เพราะยังสิ้นหวัง กัปตันมาร์เวลก็กำลังช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนอยู่ในทั้งจักรวาล แต่ความหวังก็มาเมื่อสกอต แลงก์ยังรอดชีวิตอยู่และมาหาที่ฐานทัพอเวนเจอร์ ก่อนมาก็ได้เจอแคสซี่ที่ลูกโตมากๆแล้วเป็นภาพที่อุ่นหัวใจมาก และแผนการเอา Infinity Stone จากในอดีตมาทำ Infinity Gauntlet มาใหม่นั้นก็เริ่มต้น ที่สกอต แลงก์ หรือ แอนท์แมน พูดเรื่องการข้ามเวลาที่แบบว่าปล่อยมุขเกือบฝืดมากๆ โทนี่แลจะไม่เห็นด้วยมากนักแต่สุดท้ายก็ทำจนเกิดขึ้นจนได้ และก็เริ่มด้วยไปรวบรวมคนที่ยังรอดอยู่ นาตาชา(จากนี้เรียกแนทนะ)ก็ไปตามคลินท์ บาร์ตัน หรือ ฮอว์คอาย(โรนิน) มาพิชิตอีกครั้ง ฮัลค์กับร็อกเกตก็ไปตามธอร์มาให้ช่วยซึ่งอยู่ในสภาพอ้วนฉุมากๆ(WTF !?!?) ซึ่งการเอา Infinity Stone นั้นจะต้องกลับไปยังปีที่ชัดเจนสมควร นิวยอร์ก 3 ก้อน (หินเวลาจากแอนเชียนท์วัน , หินจิตใจจากคทาของโลกิ , หินอวกาศจากโลกิ แต่พลาดรอบนึงจนได้ย้อนเวลาไปอีกทีคือปี 1970)
นอกโลก 2 ก้อน(หินพลังดาวมอร์แรกและหินวิญญาณวอร์เมีย) แอสการ์ด 1 ก้อน (หินภาวะเป็นจริงจากแฟนเก่าของธอร์)
จะเล่าช่วงหาหินเป็นเฟสๆไปนะครับ
ช่วงที่ไปเอาหิน 3 ก้อนในช่วงเวลานึงของอเมริกา โดยทีสตีฟ โทนี่ สกอต ฮัลค์ โดยฮัลค์ได้หินเวลามาจากแอนเชียนท์วันที่รู้ว่าอนาคตสเตรนจ์จะมีทักษะมากกว่าตน มีช่วงนึงที่พลาดคือหินอวกาศที่ฮัคล์ในปี 2012 มาทำให้เฟลโดยบังเอิญ แต่โทนี่ก็แก้ไขทัน จึงเอาหินจิตใจให้กับสกอตแลงก์วาร์ปกลับไปปัจจุบัน และทั้งสองคนนี้ก็ไปต่อด้วยการย้อนไปในปี 1970 ที่ฐานทัพของสหรัฐในนิวเจอร์ซีย์ ทำให้โทนี่ กับ สตีฟ ได้พบกับ บุคคลอันเป็นที่รักของเขาโดย โทนี่ ได้เจอกับพ่อของตัวเองอย่างฮาเวิร์ด สตาร์ก ทั้งสองคนได้คุยกันหลายอย่างมาก ส่วนสตีฟก็บังเอิญซ่อนตัวแล้วห้องที่ซ่อนดันเป็นห้องของ เพกกี้ พอดีมากๆ เขาได้เห็นคนรักของเขาต่อหน้าว่า เธอยังมีชีวิตอยู่ในปี 1970 และแล้ว 2 คนนี้ก็ทำสำเร็จ โทนี่ได้จากลาพ่อของตนด้วยการกอดด้วยความคิดถึงมากๆ (เพราะพ่อแม่ของโทนี่ตายตั้งแต่ยังเด็ก)
บนดาวแอสการ์ดที่จะไปเอา หินภาวะเป็นจริง (ในสภาพอีเธอร์จาก เจน ฟอสเตอร์) ร็อกเกตต้องไปดูอีเธอร์ด้วยตัวคนเดียวเพราะธอร์ไม่พร้อมเลย อยู่ในสภาพจมปลักจนได้เจอแม่ของตนอีกครั้ง แต่แม่ของตนก็รู้ว่านี่คือธอร์ที่มาจากอนาคต ธอร์ได้บอกทุกอย่างที่เกิดขึ้นในอนาคตให้ฟังว่าเป็นความผิดของตนบ้างอะไรแบบนี้ คนเป็นแม่ย่อมเข้าใจลูกเสมอนั่นแหล่ะนะ และแล้วร็อกเกตก็ดูดอีเธอร์มาจนได้กระทั่งก็ยังมีมุขนี้มาจนได้ มุขเรียกค้อนของตนให้เข้ามาหา (ยังเอามาเล่นได้เนาะ =_=า ) และก็จบลงด้วยความสำเร็จ
คราวนี้เป็นทีมของ เนบิวลี่ โรดี้ แนท และคลินท์ พวกเขาแบ่งทีมกันไป โดยเนบิวล่า กับ โรดี้ อยู่ด้วยกันบนโดวมอร์แร็กเพื่อเอาหินพลัง ส่วนแนทกับคลินท์ก็เดินทางไปที่วอร์เมียเพื่อเอาหินวิญญาณ และในช่วงที่อยู่ดาวมอร์แรก แน่นอนครับสตาร์ลอร์ด กำลังเต้นอยู่ดีๆ โดนแพ่นกบาลไปแล้วก็เอาอุปกรณ์เพื่อเปิดประตู และแล้วก็เอาหินพลังมาได้โดย โรดี้กลับไปยังปัจจุบันได้ซึ่งนำกลับไปได้สำเร็จ แต่เนบิวล่ากลับไม่ได้ เพราะว่าตัวตนของเธอในเวลานี้ยังอยู่ มีความทรงจำทับซ้อนพอดี ซวยเลยทีนี้เนบิวล่าก็พยายามจะบอกอีก 2 คนที่เหลือเพื่อจะเตือน แต่ก็ไม่ทันเนบิวล่าโดนดูดจนได้ และธานอสก็รู้ทันพอดี
ไปทางด้านแนทกับคลินท์ ในการเอาหินวิญญาณนั้น ก็ต้องทำแบบเดียวกันกับที่ธานอสทำก็คือใน Infinity War ธานอสสละกาโมร่าเพื่อให้หินวิญญาณ แต่กับคู่นี้ต่างฝ่ายต่างอยากจะเสียสละตนเอง ท้ายที่สุดแล้วนำไปสู่กันห้ำหั่นกันเองซะงั้น และแล้วแนท เลือกที่จะสละตนเองเพื่อให้ได้หินวิญญาณมา (RIP Black Widow) คลินท์รับไม่ได้พอสมควร แต่คลินท์จะไม่ให้การตายของแนทต้องสูญเปล่า
เมื่อรวมครบแล้วก็เริ่มทำการสร้างถุงมือที่สามารถใส่หินทั้ง 6 ได้ขึ้นมา แต่จะใส่ได้จะต้องมีพลังมหาศาลและมันจะกัดกินผู้ใส่ถุงมือซึ่งเป็นรังสีแกมม่า การดีดนิ้วก็ทำสำเร็จแล้วทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิมคนที่ถูกล้างไปครึ่งจักรวาลก็กลับมาหมด แต่เนบิวล่าไม่ได้อยู่ด้วยเพราะเนบิวล่าที่อยู่ในปี 2014 สลับตัวมาแทนและทำการเอายานของธานอสมายังปัจจุบัน และก็เป็นฉากสุดท้ายของหนังแล้ว
ในช่วงที่ ธอร์ สตีฟ และ โทนี่สู้กับธานอสเป็นอะไรที่เท่ระเบิดเอามากๆ สตีฟได้ใช้ค้อนของธอร์ได้แล้ว แล้วธอร์เคยคิดไว้ใน Age of Ultron ว่ากัปตันน่าจะถือค้อนได้ และมา Endgame เขาก็ใช้ได้จริงซึ่งค้อนเห็นแล้วว่าสตีฟนั้นคู่ควรก็สู้กันอย่างดุเดือดมากๆ จนกระทั่งธานอสส่งกองทัพลงมาเกือบทั้งหมด แต่ถึงแม้จะสิ้นหวัง ก็ยังมีกำลังเสริมมาก็คือเหล่าฮีโร่ที่โดนล้างครึ่งจักรวาลไปกลับมา ทุกคนเลยและถือได้ว่ามันคือฉากรวมตัวฮีโร่ของ MCU ครั้งแรกที่อีปิกมากๆเลยทีเดียวเพราะมาหมดทุกคนเลย และรวมถึงเจ๊เปเปอร์ พอตในชุด Rescue suit การต่อสู้เป็นไปอย่างดี ธานอสก็พยายามจะแย่ง ถุงมือที่มีหินทั้ง 6 มาให้ได้ ตอนแรกก็ตกใจเหมือนกันว่าเห้ย แย่งมาได้แล้วซวยแน่ๆ ทว่า โทนี่ เลือกที่จะดีดนิ้วล้างพวกธานอสเอง และก็เป็นการปิดฉากของ Infinity Saga ลงในที่สุด บทส่งท้ายของโทนี่(ดาวนีย์จูเนียร์) ถึงแม้จะเป็นความตายแต่เขายอมสละชีพตนเองเพื่อคนหมู่มาก(RIP Ironman) และทุกคนก็มางานศพของโทนี่ที่บ้านของเขาในป่า ส่วนสตีฟก็ยังทำหน้าที่ในการเอาหินทั้ง 6 กลับไปคืนที่ไทม์ไลน์เดิมและเขาไม่กลับมาปัจจุบันแต่กลับมาอีกทีเขาก็แก่มากแล้ว เพราะเขาเลือกที่จะอยู่กับคนที่เขารักที่สุดอย่างเพ้กกี้ แต่สตีฟยังส่งท้ายด้วยการมอบโล่ห์ของเขาให้แซม(ฟอลค่อน) ว่าเขาจะต้องทำหน้าที่แทนกัปตันอเมริกา และมาฉากสุดท้ายคือฉากที่สตีฟย้อนอดีตกลับไปและใช้ชีวิตกับเพกกี้คนรักของเขา ซึ่งเป็นภาพที่ซึ้งใช้ได้เลยทีเดียว เป็นบทสั่งลาที่วิเศษมากสำหรับสตีฟ(คริส อีแวน) ทั้งหมดนี้ก็คือบทสรุปมหาพากย์ Infinity Saga อย่าง Avengers : Endgame
จบแล้วครับ หากผมเลือกใช้คำผิดประการใดก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
(รีวีว + มีการสปอยเนื้อหายังไม่ดูอย่าเพิ่งเข้ามาอ่านนะ)Avengers : Endgame
เป็นหนังเรื่องสุดท้ายของ MCU Phase 3 และเป็นเรื่องสุดท้ายของมหากาพย์ Infinity Saga
ความรู้สึกส่วนตัวนะว่า 3 ชั่วโมงกว่าๆของหนังเรื่องนี้ ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกง่วงเลยเพราะว่ามันมีอะไรให้ลุ้นตลอด มีฉากซึ้งกินใจมากพอสมควร วางบทตัวละครก็สมเหตุสมผล(แต่ในส่วนของการวางบทนี่แหล่ะที่ทำให้มีข้อเสีย แต่ไม่ถึงกับมากๆ) เป็นหนึ่งในหนังยอดมนุษย์ที่ควรค่าแก่การดูมากๆเรื่องนึง และสมแล้วที่มีแฮชแท็กขึ้นมาว่า #อย่าตายจนกว่าจะได้ดูอเวนเจอร์สเผด็จศึก อะไรเทือกนั้น ถือว่าอิ่มมากๆ เรื่องนี้ และ บทสั่งลาของดาราผู้เป็นเสาหลักก็ถือว่าทราบซึ้งกินใจมากๆ และผิดคาดไปจากที่คิดมากเลยทีเดียว ส่วนคะแนนรีวิวจากผมนะครับ ถ้าเอาแบบรีวิวเหยียบล้านของ OS ผมให้เลย 1 ล้านถ้วน
เป็นภาพยนต์ที่คุณต้องดูให้ได้สักครั้งในชีวิต
จากตรงนี้ไปคือการสปอยเนื้อหานะครับ (เผื่อคนที่ยังไม่ดูเผลอกดเข้ามา)
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
*
----------------------------------------WARNING SPOILER ALERT-------------------------------------------
ตอนแรกคิดไว้แล้วว่าแต่ละคนต้องรอดกลับมาในช่วง Part แรกของหนัง โทนี่กับเนบิวล่ารอดมาได้เพราะกัปตันมาร์เวลผ่านมาพอดี พวกเขาพยายามจะไปดาวดวงนึงที่ธานอสอยู่ฆ๋าได้สำเร็จแต่หินพังหมดแล้วไม่สามารถดึงคนให้กลับมาได้และการข้ามเวลาทำไม่ได้เพราะยังสิ้นหวัง กัปตันมาร์เวลก็กำลังช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนอยู่ในทั้งจักรวาล แต่ความหวังก็มาเมื่อสกอต แลงก์ยังรอดชีวิตอยู่และมาหาที่ฐานทัพอเวนเจอร์ ก่อนมาก็ได้เจอแคสซี่ที่ลูกโตมากๆแล้วเป็นภาพที่อุ่นหัวใจมาก และแผนการเอา Infinity Stone จากในอดีตมาทำ Infinity Gauntlet มาใหม่นั้นก็เริ่มต้น ที่สกอต แลงก์ หรือ แอนท์แมน พูดเรื่องการข้ามเวลาที่แบบว่าปล่อยมุขเกือบฝืดมากๆ โทนี่แลจะไม่เห็นด้วยมากนักแต่สุดท้ายก็ทำจนเกิดขึ้นจนได้ และก็เริ่มด้วยไปรวบรวมคนที่ยังรอดอยู่ นาตาชา(จากนี้เรียกแนทนะ)ก็ไปตามคลินท์ บาร์ตัน หรือ ฮอว์คอาย(โรนิน) มาพิชิตอีกครั้ง ฮัลค์กับร็อกเกตก็ไปตามธอร์มาให้ช่วยซึ่งอยู่ในสภาพอ้วนฉุมากๆ(WTF !?!?) ซึ่งการเอา Infinity Stone นั้นจะต้องกลับไปยังปีที่ชัดเจนสมควร นิวยอร์ก 3 ก้อน (หินเวลาจากแอนเชียนท์วัน , หินจิตใจจากคทาของโลกิ , หินอวกาศจากโลกิ แต่พลาดรอบนึงจนได้ย้อนเวลาไปอีกทีคือปี 1970)
นอกโลก 2 ก้อน(หินพลังดาวมอร์แรกและหินวิญญาณวอร์เมีย) แอสการ์ด 1 ก้อน (หินภาวะเป็นจริงจากแฟนเก่าของธอร์)
จะเล่าช่วงหาหินเป็นเฟสๆไปนะครับ
ช่วงที่ไปเอาหิน 3 ก้อนในช่วงเวลานึงของอเมริกา โดยทีสตีฟ โทนี่ สกอต ฮัลค์ โดยฮัลค์ได้หินเวลามาจากแอนเชียนท์วันที่รู้ว่าอนาคตสเตรนจ์จะมีทักษะมากกว่าตน มีช่วงนึงที่พลาดคือหินอวกาศที่ฮัคล์ในปี 2012 มาทำให้เฟลโดยบังเอิญ แต่โทนี่ก็แก้ไขทัน จึงเอาหินจิตใจให้กับสกอตแลงก์วาร์ปกลับไปปัจจุบัน และทั้งสองคนนี้ก็ไปต่อด้วยการย้อนไปในปี 1970 ที่ฐานทัพของสหรัฐในนิวเจอร์ซีย์ ทำให้โทนี่ กับ สตีฟ ได้พบกับ บุคคลอันเป็นที่รักของเขาโดย โทนี่ ได้เจอกับพ่อของตัวเองอย่างฮาเวิร์ด สตาร์ก ทั้งสองคนได้คุยกันหลายอย่างมาก ส่วนสตีฟก็บังเอิญซ่อนตัวแล้วห้องที่ซ่อนดันเป็นห้องของ เพกกี้ พอดีมากๆ เขาได้เห็นคนรักของเขาต่อหน้าว่า เธอยังมีชีวิตอยู่ในปี 1970 และแล้ว 2 คนนี้ก็ทำสำเร็จ โทนี่ได้จากลาพ่อของตนด้วยการกอดด้วยความคิดถึงมากๆ (เพราะพ่อแม่ของโทนี่ตายตั้งแต่ยังเด็ก)
บนดาวแอสการ์ดที่จะไปเอา หินภาวะเป็นจริง (ในสภาพอีเธอร์จาก เจน ฟอสเตอร์) ร็อกเกตต้องไปดูอีเธอร์ด้วยตัวคนเดียวเพราะธอร์ไม่พร้อมเลย อยู่ในสภาพจมปลักจนได้เจอแม่ของตนอีกครั้ง แต่แม่ของตนก็รู้ว่านี่คือธอร์ที่มาจากอนาคต ธอร์ได้บอกทุกอย่างที่เกิดขึ้นในอนาคตให้ฟังว่าเป็นความผิดของตนบ้างอะไรแบบนี้ คนเป็นแม่ย่อมเข้าใจลูกเสมอนั่นแหล่ะนะ และแล้วร็อกเกตก็ดูดอีเธอร์มาจนได้กระทั่งก็ยังมีมุขนี้มาจนได้ มุขเรียกค้อนของตนให้เข้ามาหา (ยังเอามาเล่นได้เนาะ =_=า ) และก็จบลงด้วยความสำเร็จ
คราวนี้เป็นทีมของ เนบิวลี่ โรดี้ แนท และคลินท์ พวกเขาแบ่งทีมกันไป โดยเนบิวล่า กับ โรดี้ อยู่ด้วยกันบนโดวมอร์แร็กเพื่อเอาหินพลัง ส่วนแนทกับคลินท์ก็เดินทางไปที่วอร์เมียเพื่อเอาหินวิญญาณ และในช่วงที่อยู่ดาวมอร์แรก แน่นอนครับสตาร์ลอร์ด กำลังเต้นอยู่ดีๆ โดนแพ่นกบาลไปแล้วก็เอาอุปกรณ์เพื่อเปิดประตู และแล้วก็เอาหินพลังมาได้โดย โรดี้กลับไปยังปัจจุบันได้ซึ่งนำกลับไปได้สำเร็จ แต่เนบิวล่ากลับไม่ได้ เพราะว่าตัวตนของเธอในเวลานี้ยังอยู่ มีความทรงจำทับซ้อนพอดี ซวยเลยทีนี้เนบิวล่าก็พยายามจะบอกอีก 2 คนที่เหลือเพื่อจะเตือน แต่ก็ไม่ทันเนบิวล่าโดนดูดจนได้ และธานอสก็รู้ทันพอดี
ไปทางด้านแนทกับคลินท์ ในการเอาหินวิญญาณนั้น ก็ต้องทำแบบเดียวกันกับที่ธานอสทำก็คือใน Infinity War ธานอสสละกาโมร่าเพื่อให้หินวิญญาณ แต่กับคู่นี้ต่างฝ่ายต่างอยากจะเสียสละตนเอง ท้ายที่สุดแล้วนำไปสู่กันห้ำหั่นกันเองซะงั้น และแล้วแนท เลือกที่จะสละตนเองเพื่อให้ได้หินวิญญาณมา (RIP Black Widow) คลินท์รับไม่ได้พอสมควร แต่คลินท์จะไม่ให้การตายของแนทต้องสูญเปล่า
เมื่อรวมครบแล้วก็เริ่มทำการสร้างถุงมือที่สามารถใส่หินทั้ง 6 ได้ขึ้นมา แต่จะใส่ได้จะต้องมีพลังมหาศาลและมันจะกัดกินผู้ใส่ถุงมือซึ่งเป็นรังสีแกมม่า การดีดนิ้วก็ทำสำเร็จแล้วทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิมคนที่ถูกล้างไปครึ่งจักรวาลก็กลับมาหมด แต่เนบิวล่าไม่ได้อยู่ด้วยเพราะเนบิวล่าที่อยู่ในปี 2014 สลับตัวมาแทนและทำการเอายานของธานอสมายังปัจจุบัน และก็เป็นฉากสุดท้ายของหนังแล้ว
ในช่วงที่ ธอร์ สตีฟ และ โทนี่สู้กับธานอสเป็นอะไรที่เท่ระเบิดเอามากๆ สตีฟได้ใช้ค้อนของธอร์ได้แล้ว แล้วธอร์เคยคิดไว้ใน Age of Ultron ว่ากัปตันน่าจะถือค้อนได้ และมา Endgame เขาก็ใช้ได้จริงซึ่งค้อนเห็นแล้วว่าสตีฟนั้นคู่ควรก็สู้กันอย่างดุเดือดมากๆ จนกระทั่งธานอสส่งกองทัพลงมาเกือบทั้งหมด แต่ถึงแม้จะสิ้นหวัง ก็ยังมีกำลังเสริมมาก็คือเหล่าฮีโร่ที่โดนล้างครึ่งจักรวาลไปกลับมา ทุกคนเลยและถือได้ว่ามันคือฉากรวมตัวฮีโร่ของ MCU ครั้งแรกที่อีปิกมากๆเลยทีเดียวเพราะมาหมดทุกคนเลย และรวมถึงเจ๊เปเปอร์ พอตในชุด Rescue suit การต่อสู้เป็นไปอย่างดี ธานอสก็พยายามจะแย่ง ถุงมือที่มีหินทั้ง 6 มาให้ได้ ตอนแรกก็ตกใจเหมือนกันว่าเห้ย แย่งมาได้แล้วซวยแน่ๆ ทว่า โทนี่ เลือกที่จะดีดนิ้วล้างพวกธานอสเอง และก็เป็นการปิดฉากของ Infinity Saga ลงในที่สุด บทส่งท้ายของโทนี่(ดาวนีย์จูเนียร์) ถึงแม้จะเป็นความตายแต่เขายอมสละชีพตนเองเพื่อคนหมู่มาก(RIP Ironman) และทุกคนก็มางานศพของโทนี่ที่บ้านของเขาในป่า ส่วนสตีฟก็ยังทำหน้าที่ในการเอาหินทั้ง 6 กลับไปคืนที่ไทม์ไลน์เดิมและเขาไม่กลับมาปัจจุบันแต่กลับมาอีกทีเขาก็แก่มากแล้ว เพราะเขาเลือกที่จะอยู่กับคนที่เขารักที่สุดอย่างเพ้กกี้ แต่สตีฟยังส่งท้ายด้วยการมอบโล่ห์ของเขาให้แซม(ฟอลค่อน) ว่าเขาจะต้องทำหน้าที่แทนกัปตันอเมริกา และมาฉากสุดท้ายคือฉากที่สตีฟย้อนอดีตกลับไปและใช้ชีวิตกับเพกกี้คนรักของเขา ซึ่งเป็นภาพที่ซึ้งใช้ได้เลยทีเดียว เป็นบทสั่งลาที่วิเศษมากสำหรับสตีฟ(คริส อีแวน) ทั้งหมดนี้ก็คือบทสรุปมหาพากย์ Infinity Saga อย่าง Avengers : Endgame
จบแล้วครับ หากผมเลือกใช้คำผิดประการใดก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะครับ