ขอเล่าให้ฟังคร่าวๆนะครับ ตอนนี้ธุรกิจที่ทำอยู่มา (15ปี ++) เริ่มอยู่ตัว เศรษฐกิจไม่ดีมาหลายปีแล้ว
ถามว่าที่ทำอยู่พอมีกำไรไหม ก็พออยู่ได้ แต่ถ้าเทียบกับ แรงและเวลาที่ต้องมาดำเนินธุรกิจ เรารู้สึกว่ามันไม่คุ้มแล้ว
ถ้าเราเอาอาคารที่เราทำธุรกิจอยู่ปัจจุบันไปปล่อยให้คนอื่นเช่า รายได้อาจจะน้อยกว่าทำธุรกิจเองในช่วงนี้ นิดๆ
ถ้าเป็นแต่ก่อน เราจะไม่นึกถึงเรื่องนี้กันเลย แต่พักหลังๆมานี่ เริ่มรู้สึกว่าอยากจะพักผ่อน เอาเวลาไปเที่ยว เดินทางกับ ภรรยาบ้าง
หลังจากเหนื่อยจากการทำงานหาเงิน เลี้ยงลูกๆ กันมาเกือบๆ 20 ปี ส่วนเรื่องลูกๆ มี 2 คน ถือว่าโชคดีที่ ค่าใช้จ่ายไม่เยอะมาก
ตอนนี้ ลูกคนโต เข้า มหาลัยรัฐ แถวสามย่าน อยู่ ปี 1 ค่าใช้จ่ายไม่มาก ค่าเรียน เทอมละ 17,000 บาท
ค่ากินอยู่ก็ไม่มากเพราะบ้านอยู่ใกล้ มหาลัยฯ ไม่ต้องไปอยู่หอพัก เสียแค่ค่าเดินทาง นิดหน่อย
ลูกคนเล็กก็เรียน ม.ปลาย โรงเรียนรัฐบาล ปีหน้าน้องก็สอบเข้า มหาลัยฯ อีกคนแล้ว คาดว่าคงเข้า ม.เดียวกับพี่สาวได้ไม่ยากจนเกินไป
เพราะคะแนนลูกถือว่าอยู่ในเกณฑ์สูง ดังนั้น ค่าใช้จ่ายก็คงไม่หนีๆกันกับพี่สาว
นอกจากเรื่องค่าใช้จ่ายลูกๆ ก็แทบไม่มีภาระราบจ่ายอื่นๆแล้ว เลยทำให้เราคิดหนักมากๆๆเลยว่าจะเลิกทำธุรกิจแล้ว
เพราะเราไม่มีหนี้สิน มีทรัพย์สินให้เช่าอยู่แล้ว 1 ที่ (รายได้ราวๆ 3 หมื่น/เดือน) ส่วนถ้าเราปล่อยที่ปัจจุบันให้เช่า ก็จะมีรายได้เพิ่ม
เพื่อนๆสมาชิกฯ เคยคิดไหมครับว่าถ้าจะเกษียณ มีเงินสด และ ทรัพย์สิน ประมาณเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอแก่ก่ารใช้ชีวิต ?
ของเราเองเราเคยคิดเอาไว้ว่า เส้นแบ่งสากล ของผู้ที่มีจำกัดความว่ามี wealth สูง จะกำหนดยอดทรัพย์สินสุทธิที่ 1 ล้าน US $
คิดเป็นเงินไทยก็ราวๆ 32 ล้าน เราเลยเอาจำนวนนี้มาเป็นหลักว่าถ้าจะเกษียณแล้ว
ยอดเงินเท่านี้น่าจะเพียงพอที่จะทำให้เราดำรงชีวิตใน lifestyle ที่เราและภรรยาสามารถดำรงอยู่ได้โดยไม่ลำบากลูกๆในอนาคต......
ในส่วนของเราและภรรยา ถ้าคำนวนทรัพย์สินสุทธิคร่าวๆ ตอนนี้ก็มีเฉลี่ยต่อคนเกินจากยอดนั้นมาแล้ว
ตอนนี้ลูกๆ ก็โตๆกันหมดแล้ว ไม่รู้ว่าจะเหนื่อยแบบนี้อีกทำไม มันเหมือนจะหมด passion ในงานที่ทำไปแล้ว T T
จะเป็นห่วงก็ตรงที่ พนักงานเก่าแก่ที่ทำงานกับเรามา พวกเขายังมีภาระกันอยู่ ถ้าอยู่ๆเลิกกิจการกระทันหัน คงจะกระทบพวกเขาเป็นแน่
ตอนนี้เรากะว่าจะรอให้ลูกคนเล็กสอบเข้า มหาลัยฯ ให้เรียบร้อย ก็คงอีก 1 ปี ถึงตอนนั้นเราคงจะต้องตัดสินใจอะไรแล้ว ....
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณเพื่อนๆที่อ่านมาถึงตรงนี้ เหมือนมาฟังเราบ่นๆ ยังไงก็ไม่รู้ 555
แต่หาก เพื่อนๆ หรือ รุ่นพี่ ท่านอื่นๆมีความเห็นอะไรเพิ่มเติมก็ยินดีรับฟังนะครับ รับรองว่าจะมาตามอ่านทุกๆความเห็น
ขอบคุณครับ
รู้สึกเบื่อๆธุรกิจที่ทำอยู่....อยากเกษียณแล้ว เพื่อนๆคิดว่าถ้ามีทรัพย์สินครบถึงกี่ล้านจึงจะเกษียณกันครับ ?
ถามว่าที่ทำอยู่พอมีกำไรไหม ก็พออยู่ได้ แต่ถ้าเทียบกับ แรงและเวลาที่ต้องมาดำเนินธุรกิจ เรารู้สึกว่ามันไม่คุ้มแล้ว
ถ้าเราเอาอาคารที่เราทำธุรกิจอยู่ปัจจุบันไปปล่อยให้คนอื่นเช่า รายได้อาจจะน้อยกว่าทำธุรกิจเองในช่วงนี้ นิดๆ
ถ้าเป็นแต่ก่อน เราจะไม่นึกถึงเรื่องนี้กันเลย แต่พักหลังๆมานี่ เริ่มรู้สึกว่าอยากจะพักผ่อน เอาเวลาไปเที่ยว เดินทางกับ ภรรยาบ้าง
หลังจากเหนื่อยจากการทำงานหาเงิน เลี้ยงลูกๆ กันมาเกือบๆ 20 ปี ส่วนเรื่องลูกๆ มี 2 คน ถือว่าโชคดีที่ ค่าใช้จ่ายไม่เยอะมาก
ตอนนี้ ลูกคนโต เข้า มหาลัยรัฐ แถวสามย่าน อยู่ ปี 1 ค่าใช้จ่ายไม่มาก ค่าเรียน เทอมละ 17,000 บาท
ค่ากินอยู่ก็ไม่มากเพราะบ้านอยู่ใกล้ มหาลัยฯ ไม่ต้องไปอยู่หอพัก เสียแค่ค่าเดินทาง นิดหน่อย
ลูกคนเล็กก็เรียน ม.ปลาย โรงเรียนรัฐบาล ปีหน้าน้องก็สอบเข้า มหาลัยฯ อีกคนแล้ว คาดว่าคงเข้า ม.เดียวกับพี่สาวได้ไม่ยากจนเกินไป
เพราะคะแนนลูกถือว่าอยู่ในเกณฑ์สูง ดังนั้น ค่าใช้จ่ายก็คงไม่หนีๆกันกับพี่สาว
นอกจากเรื่องค่าใช้จ่ายลูกๆ ก็แทบไม่มีภาระราบจ่ายอื่นๆแล้ว เลยทำให้เราคิดหนักมากๆๆเลยว่าจะเลิกทำธุรกิจแล้ว
เพราะเราไม่มีหนี้สิน มีทรัพย์สินให้เช่าอยู่แล้ว 1 ที่ (รายได้ราวๆ 3 หมื่น/เดือน) ส่วนถ้าเราปล่อยที่ปัจจุบันให้เช่า ก็จะมีรายได้เพิ่ม
เพื่อนๆสมาชิกฯ เคยคิดไหมครับว่าถ้าจะเกษียณ มีเงินสด และ ทรัพย์สิน ประมาณเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอแก่ก่ารใช้ชีวิต ?
ของเราเองเราเคยคิดเอาไว้ว่า เส้นแบ่งสากล ของผู้ที่มีจำกัดความว่ามี wealth สูง จะกำหนดยอดทรัพย์สินสุทธิที่ 1 ล้าน US $
คิดเป็นเงินไทยก็ราวๆ 32 ล้าน เราเลยเอาจำนวนนี้มาเป็นหลักว่าถ้าจะเกษียณแล้ว
ยอดเงินเท่านี้น่าจะเพียงพอที่จะทำให้เราดำรงชีวิตใน lifestyle ที่เราและภรรยาสามารถดำรงอยู่ได้โดยไม่ลำบากลูกๆในอนาคต......
ในส่วนของเราและภรรยา ถ้าคำนวนทรัพย์สินสุทธิคร่าวๆ ตอนนี้ก็มีเฉลี่ยต่อคนเกินจากยอดนั้นมาแล้ว
ตอนนี้ลูกๆ ก็โตๆกันหมดแล้ว ไม่รู้ว่าจะเหนื่อยแบบนี้อีกทำไม มันเหมือนจะหมด passion ในงานที่ทำไปแล้ว T T
จะเป็นห่วงก็ตรงที่ พนักงานเก่าแก่ที่ทำงานกับเรามา พวกเขายังมีภาระกันอยู่ ถ้าอยู่ๆเลิกกิจการกระทันหัน คงจะกระทบพวกเขาเป็นแน่
ตอนนี้เรากะว่าจะรอให้ลูกคนเล็กสอบเข้า มหาลัยฯ ให้เรียบร้อย ก็คงอีก 1 ปี ถึงตอนนั้นเราคงจะต้องตัดสินใจอะไรแล้ว ....
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณเพื่อนๆที่อ่านมาถึงตรงนี้ เหมือนมาฟังเราบ่นๆ ยังไงก็ไม่รู้ 555
แต่หาก เพื่อนๆ หรือ รุ่นพี่ ท่านอื่นๆมีความเห็นอะไรเพิ่มเติมก็ยินดีรับฟังนะครับ รับรองว่าจะมาตามอ่านทุกๆความเห็น
ขอบคุณครับ