ชื่อหนัง Avengers : Endgame
เรทภาพยนต์ของต่างประเทศ สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ เพราะมีส่วนประกอบของความรุนแรงและคำพูดที่ควรระวัง
ประเภทหนังแอ็คชั่นดราม่าวิทยาศาสตร์แฟนตาซี
กำกับโดย แอนโทนี่ รุซโซ และโจ รุสโซ
เขียนบทโดย คริสตอฟ มาร์คัส และสตีเฟ่น แม็คฟีรีย์
จากบริษัท มาร์เวล สตูดิโอ
(ข้อมูลจาก Rottentomatoes : https://www.rottentomatoes.com/m/avengers_endgame)
- อันว่าด้วยเนื้อหาภาคนี้ ดราม่าน้ำตาไหล อย่าพาเด็กเล็กไปเลยนะครับ เพราะเนื้อหาไม่เด็ก ความรู้สึกเหมือนหนังดราม่านึกว่าดูหนังของผู้กำกับ Clint Eastwood ในแบบแอคช่น แฟนตาซี
- หนังมีความยาว 181 นาที หรือประมาณ 3 ชม. หรือประมาณครึ่งวัน หรือสอบประมาณหนึ่งวิชาเสร็จ นานโพ้ด
- ใครไม่ได้ภาคก่อนหรือหนังของมาร์เวล อาจจะงงๆ เพราะตัวละครเยอะมาก
- เป็นหนังที่ดูได้เรื่อยๆถึงแม้จะดราม่า และบทพูดเยอะมาก และส่งท้ายด้วยบทแอ็คชั่นไปตอนท้ายไม่ถึงครึ่งชม.
- รู้สึกมาร์เวลอยากดันกัปตันมาร์เวล โดยปูทางให้มีบทเด่นถึงแม้จะไม่ค่อยเข้ากลุ่มเท่าไหร่ แต่เขาก็ปูเนื้อเรื่องให้มาอยู่ด้วยกันจนได้
- โทนี่ สตาร์คยังเป็นเป็นพระเอกเสมอ และตลอดไป ซึ้งกินใจจริงๆ ภาคนี้ส่งท้ายด้วยความรักและความผูกพันของตัวละคร คิดว่ากลับมาดูอีกสิบปีก็ยังจะอินเพราะม้นดูคลาสสิค ไม่ว่าจะเพลง ทุกคนที่แสดงก็แสดงได้เป็นตัวของตัวละครมาก มีหลายเพลงที่ชอบ ไม่เหมือนดูภาคก่อนๆเลย
- ความรู้สึกหลังดูคือ เขียนบทดี แอ็คชั่นไม่เยอะแต่ก็โอเค คงกลัวแฟนๆแอ็คชั่นผิดหวัง (จริงๆใครตั้งใจไปดูแอ็คชั่นก็คงผิดหวัง เพราะมีน้อย) ดราม่าไม่ผิดหวัง ถึงแม้ไม่จบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง แต่ว่าก็เป็นหนังที่รวมเอาบทสรุปได้เป็นอย่างดี
ขอบคุณที่อ่าน
ดูแล้วมาคุยกัน Avengers : Endgame หนังพลิกความรู้สึก
เรทภาพยนต์ของต่างประเทศ สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ เพราะมีส่วนประกอบของความรุนแรงและคำพูดที่ควรระวัง
ประเภทหนังแอ็คชั่นดราม่าวิทยาศาสตร์แฟนตาซี
กำกับโดย แอนโทนี่ รุซโซ และโจ รุสโซ
เขียนบทโดย คริสตอฟ มาร์คัส และสตีเฟ่น แม็คฟีรีย์
จากบริษัท มาร์เวล สตูดิโอ
(ข้อมูลจาก Rottentomatoes : https://www.rottentomatoes.com/m/avengers_endgame)
- อันว่าด้วยเนื้อหาภาคนี้ ดราม่าน้ำตาไหล อย่าพาเด็กเล็กไปเลยนะครับ เพราะเนื้อหาไม่เด็ก ความรู้สึกเหมือนหนังดราม่านึกว่าดูหนังของผู้กำกับ Clint Eastwood ในแบบแอคช่น แฟนตาซี
- หนังมีความยาว 181 นาที หรือประมาณ 3 ชม. หรือประมาณครึ่งวัน หรือสอบประมาณหนึ่งวิชาเสร็จ นานโพ้ด
- ใครไม่ได้ภาคก่อนหรือหนังของมาร์เวล อาจจะงงๆ เพราะตัวละครเยอะมาก
- เป็นหนังที่ดูได้เรื่อยๆถึงแม้จะดราม่า และบทพูดเยอะมาก และส่งท้ายด้วยบทแอ็คชั่นไปตอนท้ายไม่ถึงครึ่งชม.
- รู้สึกมาร์เวลอยากดันกัปตันมาร์เวล โดยปูทางให้มีบทเด่นถึงแม้จะไม่ค่อยเข้ากลุ่มเท่าไหร่ แต่เขาก็ปูเนื้อเรื่องให้มาอยู่ด้วยกันจนได้
- โทนี่ สตาร์คยังเป็นเป็นพระเอกเสมอ และตลอดไป ซึ้งกินใจจริงๆ ภาคนี้ส่งท้ายด้วยความรักและความผูกพันของตัวละคร คิดว่ากลับมาดูอีกสิบปีก็ยังจะอินเพราะม้นดูคลาสสิค ไม่ว่าจะเพลง ทุกคนที่แสดงก็แสดงได้เป็นตัวของตัวละครมาก มีหลายเพลงที่ชอบ ไม่เหมือนดูภาคก่อนๆเลย
- ความรู้สึกหลังดูคือ เขียนบทดี แอ็คชั่นไม่เยอะแต่ก็โอเค คงกลัวแฟนๆแอ็คชั่นผิดหวัง (จริงๆใครตั้งใจไปดูแอ็คชั่นก็คงผิดหวัง เพราะมีน้อย) ดราม่าไม่ผิดหวัง ถึงแม้ไม่จบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง แต่ว่าก็เป็นหนังที่รวมเอาบทสรุปได้เป็นอย่างดี
ขอบคุณที่อ่าน