ธนาธร จีงรุ่งเรืองกิจ "ฮีโร่" คนรุ่นใหม่ที่รักความเป็นธรรม!

"ธนาธร" เปิดตัวในสนามเลือกตั้งครั้งแรกท่ามกลางฝ่ายประชาธิปไตยที่โดนกระทำจากผู้นิยมฝ่ายขวามาโดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา จนทำให้ไม่มีคนรุ่นใหม่คนไหนที่กล้าเปิดตัวในนามฝ่ายประชาธิปไตยอีกเลย ธนาธรจีงเป็นความหวังที่จะนำ"ชัยชนะ"มาสู่ฝ่ายชื่นชอบความยุติธรรม
ก่อนการเลือกตั้งได้เกิดกระแส "พ่อของฟ้า" ทำให้ธนาธรโดดเด่นในหมู่คนหนุ่มสาวที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งได้มีโอกาศเลือกตั้งครั้งแรก และด้วยคะแนนเสียงจากกลุ่มคนเหล่านี้และกลุ่มคนที่หาทางเลือกที่ใหม่กว่า ทำให้ธนาธรสามารถนำพรรค "อนาตคใหม่"เก็บชัยชนะในการเลือกตั้งเป็นพรรคลำดับที่สามทั้งๆที่สมาชิกพรรคที่ลงเลือกตั้งเป็นคนหนุ่มสาวทั้งสิ้น
"จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย" .เป็นคำพูดที่ถูกแนะนำผู้คนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยเสมอ และแน่นอน"ธนาธร"ก็หนีไม่พ้นเช่นกันท่ามกลางมรสุมที่เขากำลังประสพปัญหาในการลงเลือกตั้งครั้งนี้ ถึงแม้น"ธนาธร"จะพ่ายแพ้เหมือนหลายๆคนที่ยืนฝั่งประชาธิปไตย แต่เขาก็ได้ "ปลุก" ความถูกต้องในหมู่คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่สนใจการเมืองหรือกลุ่มคนที่ยังสงสัยในเรื่องการเมืองในอดีตให้ฉุนคิดได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น?
"ประชาธิปไตย" ไม่มีวันตาย ถ้าเปรียบประชาธิปไตยเป็นคลื่นทะเลที่ต้องพัดเข้าหาฝั่งตลอด เราก็จะเห็นคลื่นประชาธิปไตยลูกแล้วลูกเล่าที่พัดเข้ามาคลื่นเล็กบ้างใหญ่บ้างไม่มีวันหมด!! เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกต่างจากอีกฝากฝั่งที่นับวันจะโรยลาและจากไปและที่สำคัญ "ไม่ทันโลก"
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
หลายคนเข้าใจประชาธิปไตยผิด คำว่า"ประชาธิปไตย(Democracy)"นั้น มาจากคำว่า ประชา+อธิปไตย = อำนาจเป็นของประชาชน หรือ กล่าวคือประชาชนมีอำนาจเป็นใหญ่ในการตัดสินใจกำหนดทิศทางของประเทศ หาใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือ คนใดคนหนึ่งมีอำนาจเหนือคนหมู่มากไม่

แต่อำนาจนั้นมาพร้อมกับความรับผิดชอบและหน้าที่ของตนที่จะต้องไม่ละเมิดกันและกัน เรียกว่า "สิทธิมนุษย์ชน(Human Rights) ซึ่งประเทศของเรานั้นได้ยึดถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษย์ 30 ข้อ ที่จะต้องเขียนลงในกฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของรัฐ หรือ เรียกกันสั้นๆว่ากฎหมายแม่ ตามลิ้งค์นี้ https://www.lexilogos.com/declaration/thai.htm

ดังนั้นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยจะต้องยึดถือสิทธิมนุษยชนมากที่สุด ทุกคนคงจะได้ข่าวเกี่ยวกับ สส.คนหนึ่งออสเตรเลียเหยียดผิว แล้วโดนประชาชนปาไข่ใส่ นั่นก็เพราะเขาไม่ได้ยึดในหลักสิทธิมนุษยชน ทางประเทศที่พัฒนาแล้วจะถือเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก(ถ้าต้องการให้ประเทศก้าวทันโลก เราก็จะต้องเข้าใจสิทธิมนุษยชนให้ถ่องแท้)

ส่วนเรื่องการโกหกและทุจริตนั้น สังคมจะเป็นตัวลงโทษเอง เช่น ถ้ารัฐบาล A ชนะจากการเลือกตั้งเพราะนโยบายที่โฆษณา แต่ทว่าพอมาเป็นกลับไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ คำตอบคือประชาชนจะลงโทษพวกเขานั้นด้วยระบบประชาธิปไตย ทุกอย่างก็จบง่ายๆ(พูดง่ายกรรมตามสนอง แล้วประชาชนได้แสดงอำนาจของประชาชนเป็นที่ประจักษ์ในการลงโทษพวกเขาคือไม่ยอมกาเลือกคนของพรรคนั้นเข้าสภา)

ประชาธิปไตยอาจจะไม่ได้ดีที่สุด แต่ในกรณีที่แย่ที่สุดประชาธิปไตยนั้นส่งผลเสียน้อยที่สุด เพราะ ถ้ารัฐบาลนี้มันทำตัวแหลกเหลว ทำไม่ดีและโกหกประชาชน พอครบ 4 ปี ประชาชนเขาจะลงโทษด้วยการไปเลือกพรรคอื่นแทน(ง่ายๆแค่นี่เอง อย่าไปคิดอะไรซับซ้อน)

แต่เผด็จการนั้น อำนาจอยู่ที่คนๆเดียวแล้วสืบทอดผ่านลูกหลานของตน(คล้ายระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์) ต่อให้ปัจจุบันเขาดีเลิศแค่ไหน ผมถามกลับว่ารุ่นลูก รุ่นหลานเขาจะดีเหมือนพ่อเขามั้ย? มีหลักประกันอะไรว่าเขาจะดีเท่าหรือดีกว่าพ่อ? ในเมื่อประชาชนไม่มีสิทธิเลือก ผมว่าถ้าทุกคนไม่ได้หลอกตัวเอง ผมว่าประวัติศาสตร์มันสอนเรานะครับ เรื่องแอฟริกา Blood Diamond ผมว่าบางคนที่อายุมากกว่าผมน่าจะคุ้นหูเรื่องนี้ ที่เกิดสงครามแย่งทรัพยากรของฝ่ายรัฐบาลและผู้ต่อต้านทั้งทวีป

สาเหตุหลักก็คือระบบเผด็จการไม่ใช่คำตอบสุดท้ายที่ดีที่สุดในการจัดสรรทรัพยากรให้เสมอภาคและทั่วถึง หรือเรียกสั้นๆว่า รวยกระจุกจนกระจาย เพราะคนเบื้องบนนั้นฟังแต่คนของเขาที่เป็นฐานอำนาจของเขา และไม่ได้ฟังเสียงประชาชน ต่อให้คุณร้องเรียนเท่าไหร่ เขาไม่จำเป็นต้องสนใจคุณ เพราะคุณนั้นไม่ได้ทำประโยชน์ให้กับเขาและพวกพ้องของเขา

สุดท้ายนี้ผมขอให้ทุกคนคิดและวิเคราะห์อย่างมีสติตามหลักคำสอนกาลามสูตร 10 อย่าเชื่อใครเพราะคนๆนั้นบอก แต่จงศึกษาข้อมูลเอง ไม่จำเป็นต้องเชื่อผมทุกคำที่เขียน แต่ลองเอาสิ่งที่ผมเขียนไปหาข้อมูล วิเคราะห์และกลั่นกรองออกมา เพื่อพิสูจน์หาข้อเท็จจริง อย่าได้เชื่อใครง่ายๆครับ ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่