
สรุปทริปการเดินทางไปเทรคกิ้งที่รินจานีเกาะลอมบอกอินโดนีเซีย
ทริปนี้มีสมาชิกร่วมเดินทางทั้งหมด4คน1.พี่ป้อง(พี่ชายเพื่อนสนิท)ทำหน้าที่ฝ่ายประสานงานต่างประเทศอีเมลล์ติดต่อกับบ. ทัวร์
2.เจ้Yaya(พี่สาวเพื่อนสนิท)ทำหน้าที่รีวิวสถานที่ต่างๆหาข้อมูลต่างๆในการเดินทางจองที่พักเลือกประกันการเดินทาง
3.พี่เก๋(เพื่อนเจ้Yaya) มาร่วมจอยทริปกันพี่เก๋กินง่ายไม่เผ็ดเน้นผักทุกมื้ออึดถึกทนไปด้วยกันได้สบายครับ
4.ตัวผมเองน้องเล็กสุดในทีมทำหน้าซัพพอร์ทพี่ๆทุกคนกับเป็นคนคอยบันทึกภาพเรื่องราวการเดินทาง
 
นิดนึงครับเรามีข้อแนะนำสำหรับคนที่ต้องการฉบับย่อๆแบบสั้นๆตามด่านล่างนี้ครับ
(ส่วนฉบับยาวแบบละเอียดมากๆติดตามนะครับจะทยอยลงครับครับ)
วันที่12 เมษาขึ้นรถไฟ21:30จากอุบลปลายทางสถานีรถไฟดอนเมืองรถไฟเสียเวลาจากกำหนดการเป็นชั่วโมง 
วันที่13 เมษารถไฟถึงดอนเมืองรอขึ้นเครื่องต่อไปที่กัวลาลัมเปอร์แล้วรอเปลี่ยนเครื่อง5ชั่วโมง(ดีเลย์)ไปเกาะลอมบอกถึงเกาะลอมบอก21:30ตามเวลาท้องถิ่นถึงที่พักหาดเซงกีกิเวลา22:30
วันที่14 เมษาช่วงเช้าเช่ามอเตอร์ไซด์ขับเที่ยวเกาะลอมบอก 
     16:00 นัดไกด์/เจ้าของบริษัท(คุณMaldi) มารับที่รร. เดินทางไปหมู่บ้านsenaru ระยะเวลาประมาณ2ชั่วโมงครึ่งพักที่rudy trekker hotel
วันที่15 เมษาMaldi นัด6:00 เตรียมตัวเดินเทรคเริ่มเดิน6:45 ใช้เวลาเดินประมาณ10ชั่วโมงพักค้างคืนที่crater rim ความสูงเกือบ2,700เมตร 
วันที่16 เมษาตื่นแต่เช้าชมวิวจุดชมวิวcraterrim เก็บของเตรียมเดินลงขาลงใช้เวลาประมาณ4ชั่วโมงกลับถึงrudy trekker hotel กินข้าวเที่ยงMaldiเตรียมรถส่งที่ท่าเรือข้ามไปยังเกาะGili Trawangan เข้าพักที่รร. Aston
วันที่17 เมษาข้ามจากเกาะGili กลับมายังเกาะลอมบอกนัดรถมารับส่งสนามบินลอมบอกขึ้นเครื่อง12:00มายังกัวลาลัมเปอร์รอเปลี่ยนเครื่องกลับไทย
ถึงดอนเมืองตรงเวลาขากลับไม่มีดีเลย์เดินข้ามฝั่งมายังสถานีรถไฟดอนเมืองขึ้นรถด่วนพิเศษกลับอุบล 
วันที่18 เมษาถึงอุบล 
หกโมงเช้านั่งแท๊กซี่เข้าบ้านอุบลแล้วขับรถยนต์กลับบ้านต่ออีก110ก. ม. 
/////ฉบับร่ายยาวทางนี้เลยครับ///// ตอนที่1
กาลครั้งหนึ่งไม่นานนักเมื่อพี่ป้องได้ปรึกษาว่ามีความสนใจจะไปเทรคกิ้งและอยากไปคนเดียวได้เริ่มซื้ออุปกรณ์เป้รองเท้าเทรคกิ้งโพลผมเลยเอ่อเยี่ยมน่าสนใจเราน่าจะไปด้วยกันนะ  ไปไหนกันดีพี่ตอนแรกได้ขอสรุปว่าเราจะไปคีนาบาลูกันสองคนโดยส่วนตัวผมอยากไปซ้อมเดินขึ้นเขาเก็บelavation gain เพื่อเตรียมตัวไปโป่งแยง100ปลายปีนี้ซึ่งก็น่าจะเข้าท่าดีเดียวแต่แล้วเมื่อเข้าไปดูข้อมูลรายละเอียดการจองทริปเพื่อไปคีนาบาลูช่วงเดือนเมษายนแล้วค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเราก็เลยวางแผนใหม่ซึ่งก็เลยได้มาเป็นรินจานีต่อมาเมื่อวันที่28 ม. ค. เจ้yaya ทักinbox มาเพื่อปล่อยบิบฟูลงานบุรีรัมย์จากนั้นก็คุยไปถึงเรื่องการซ้อมต่างๆนาๆจนสุดท้ายผมได้บอกไปว่าจะไปซ้อมที่รินจานีเจ้ตอบกลับมาว่า“จองอะไรไปแล้วบ้างอยากไปนำแทะฮ่วยๆๆ” และแล้วเราก็ได้สมาชิกมาเพิ่มเป็นคนที่“สาม” แล้วเราก็เริ่มตั้งกลุ่มฉก. รินจ๋ารินจานีเพื่อพูดคุยส่งการบ้านในการฝึกซ้อมกันแทบทุกวันเราซ้อมวิ่งเป็นหลักส่วนคนที่ผมเป็นห่วงที่สุดคือ“พี่ป้อง” เนื่องจากพี่ผ่านการวิ่งมาน้อยกว่าเพื่อนๆไม่เคยจบฟูลมาก่อรแต่พี่ป้องก็มีความพยายามสูงมากซ้อมวิ่งส่งการบ้านสม่ำเสมอจริงๆจนเวลาผ่านมาถึง17 มี.ค. เราก็ได้สมาชิกเพิ่มอีกหนึ่งคนคือ“พี่เก๋” พี่เก๋อึกถึกทนกว่าที่ผมคิดไว้เยอะมากจริงๆพี่เก๋เคยจบฟูลมาแล้วนะไม่ธรรมดาจริงๆหลังจากพี่เก๋เข้าร่วมทีมได้ไม่นานพี่ป้องสายข่าวต่างประเทศก็รายงานว่าเกิดแผ่นดินไหวที่เกาะลอมบอกศูนย์กลางอยู่ที่รินจานีด้วยเจ้Yayaก็รายงานพร้อมกับทำสถิติ(เจ้เก่งStatมากตามดูในyoutubeได้นะ)การเกิดแผ่นดินไหวส่งมาให้ดูบอกตามตรงผมหวั่นไหวสุดๆแต่พยายามนิ่งเอาไว้ทุกคนในทีมต่างเฝ้ารอเวลาติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดเพราะใกล้ช่วงเดินทางแล้วแต่เรายังคงซ้อมกันต่อไปไม่หยุดจนเข้าสู่เดือนเม. ย. ซึ่งจะเป็นช่วงเปิดให้ขึ้นเทรคกิ้งของทุกปีหน้าเพจของอุทยานยังไร้วี่แววแต่ทางไกด์ของเราเมลล์ยืนยันให้ขึ้นได้แต่ต้องปรับแผนจาก3วัน2คืนเป็น2วัน1คืนและไม่ได้ขึ้นยอดรับรองเป็นเส้นทางที่มีความปลอดภัยเป็นเส้นทางที่ไม่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว 
ทุกคนในทีมร่วมกันปรับแผนกันตลอดจนได้มีแผน1,2,3,4 สุดท้ายเราเลือกแผน4ก่อนการเดินทางประมาณ3วันเราได้แจ้งแผน4ไปยัง  “Maldi” เค้าเป็นเจ้าของบริษัททัวร์ท้องถิ่นที่เราเลือกจากการรีวิวมาหลายคนว่าดีเยี่ยมรับปากจะมารับเราที่สนามบินจะนำเราเดินขึ้นเองและจะดูแลเราตลอดการเทรคครั้งนี้อย่างน้อยก็ทำให้พวกเราอุ่นใจก่อนการเดินทาง
และแล้วเมื่อถึงเวลาการเดินทางก็เริ่มขึ้น
สำหรับการเดินทางเนื่องจากสมาชิกส่วนใหญบ้านอยู่อุบลจะขอเริ่มเล่าจากอุบลก็แล้วกันครับ
ขอเกริ่นก่อนครับจริงๆแล้วทริปนี้เราไม่ได้อยากเริ่มต้นกันที่รถไฟเลยแต่เพราะช่วงที่เราเดินทางเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ตั๋วเครื่องบินค่อนข้างแพงมากประมาณ4,000จึงทำให้เราเลือกเดินทางด้วยรถไฟไหนๆก็ไหนๆแล้วไม่ได้นั่งรถไฟมานานมากกว่า10ปีแล้วถือซะว่าเปลี่ยนบรรยากาศการเดินทางดูบ้าง 
วันที่12 เมษาเราขึ้นรถไฟเป็นขบวนรถเร็วตู้นอนปรับอากาศออกเวลา21:30จากอุบลปลายทางสถานีรถไฟดอนเมืองรถไฟเสียเวลาจากกำหนดการประมาณ1ชั่วโมงเศษ
“พี่ป้อง” ขอไปรอขึ้นที่สถานีจังหวัดศรีสะเกษการเดินทางเพิ่งเริ่มต้นความฮาก็บังเกิดเสียแล้วเมื่อ”พี่ป้อง”ตกรถไฟงานเข้าซิครับได้ขับตามไปดักรอที่สถานีต่อไปแต่ก็ไม่ทันอีก“พี่ป้อง”เปลี่ยนแผนทันทีการติดต่อประสานงานกันในทีมก็เริ่มขึ้นตั้งแต่ออกตัวกันเลยทีเดียวสุดท้าย”พี่ป้อง”ได้ตั๋วเครื่องบินไฟล์ทเช้าบินตามมาในราคา1,100บาท(ห๊ะอะไรนะตอนเราจะจอง4,000 ทำให้ต้องมานั่งรถไฟกันหลายชั่วโมง555) สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วย่อมดีเสมอ....ได้แต่นั่งๆนอนๆหลับๆตื่นๆบนรถไฟจนถึงสถานีรถไฟดอนเมืองพร้อมกับรถไฟเสียเวลาถึงช้ากว่ากำหนดถึงพร้อมๆกันกับ”พี่ป้อง” เลยฮากันไป
วันที่13 เมษา8:00รถไฟถึงดอนเมืองแวะกินข้าวขาหมูแล้วเดินข้ามไปสนามบินดอนเมืองเมื่อสมาชิกทุกคนมาครบและพร้อมกันที่counter airasia (พี่เก๋บ้านใกล้มาถึงก่อนทุกคน)
เราก็พร้อมไปลุยกันเลยดอนเมืองไปกัวลาลัมเปอร์พอถึงกัวลาลัมเปอร์(สนามบินที่ดีต้องฟรีwifi) อีเมลล์เด้งดึ๋งๆๆไฟล์ทดีเลย์จ้าความฮารอบสองหลังจากก่อนหน้านี้แจ้งดีเลย์มาแล้วรอบนึงที่ทำให้เราต้องปรับแผนกันเป็นแผน4 ไหนๆก็ไหนๆแล้วพวกเรานั่งเล่นหาอะไรกินกันไปจนถึงเวลาบินต่อไปลอมบอกเมื่อเราเดินกันไปยังประตูตามที่แจ้งบนจอว่าจะไปลอมบอกเมื่อถึงgate L6 ทุกคนมองหน้ากันเอ๊ะ  ทำไมเหมือนบขส. สายต่างจังหวัดคนที่นั่งรอเป็นคนเกาะลอมบอกผู้ชายล้วนๆหันมามองพวกเราหมดทุกคนพวกเราดูแตกต่างจากคนอื่นๆที่จะไปเกาะลอมบอกเราพยายามมองหาต่างชาติที่จะไปลอมบอกมีอยู่น้อยแต่ก็พอได้ใจชื้นขึ้นมาหน่อยว่าเราขึ้นถูกไฟล์ทไม่พอถึงเวลาเครื่องออกประตูเปิดเราให้คนลอมบอกเข้าไปก่อนยืนรอสักพักอ้าวเดินกันกรูออกมามีการย้ายgate อีกฮากันไป 
เมื่อขึ้นเครื่องเจ้Yaya ก็นั่งตกอยู่ในวงล้อมของหนุ่มชาวเกาะลอมบอกพวกเราจึงไปคุยกับแอร์ขอให้มานั่งด้วยกันแอร์ใจดีมากเค้าให้ย้ายมานั่งด้วยกันได้เนื่องจากมีที่ว่างอยู่พอดีเจ้บอกพวกแกเจ้กำลังฟินนน...
พอเครื่องลงจอดถึงเกาะลอมบอก21:00ตามเวลาท้องถิ่น(เร็วกว่าบ้านเรา1ชั่วโมง)รันเวย์เต็มไปด้วยน้ำฝนที่ตกลงมาก่อนหน้านี้แล้ว
และกว่าจะรอกระเป๋าผ่านตม. ก็21:30แล้ว 
พูดถึงตม. ที่ลอมบอกน่ารักมากมายพวกเรามาเป็นกลุ่มเค้าก็เรียกให้เข้าไปทั้งกลุ่มเลยไม่ต้องรอให้เสียเวลาทีละคนพวกเราผ่านตม. สบายๆต่อมาเราก็ไปแลกตังค์เราได้เงินอินโดรูปีมาห้าล้านกว่าๆดูเป็นเสี่ยกันพริบตาเลยทีเดียว.งง
แล้วเราออกกองกลางกันคนละ100usd(ขอบอกก่อนเลยทั้งทริปใช้กันแค่คนละ100usd)
จากนั้นเราก็เดินออกจากสนามบินมารอรถ  ซึ่งแจ้งล่วงหน้านัดกันไว้กับทางรร. ที่เราพักติดต่อเรื่องรถมารับแต่เมื่อไฟล์ทดีเลย์ที่เราเพิ่งรู้ตอนอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์  แล้วได้แจ้งเวลาใหม่ไปทางรร. ไม่มีการตอบกลับมาเราก็เลยไม่หวังว่าเค้าจะมารับขณะที่เรากำลังยืนต่อราคาแท๊กซี่อยู่นั้นเราได้มองเห็นไปเห็นป้ายชื่อYAYA ซึ่งเค้ากันให้คนที่มารอรับยืนอยู่ไกลมากประมาณร้อยเมตรไม่ให้เข้ามาในเขตตัวอาคารผู้โดยสารซึ่งคนที่ยืนรอเยอะมากๆตอนแรกเราคิดว่าเค้ามาชุมนุมอะไรสักอย่างหรือมารอต้อนรับนักร้องรึเปล่า
พอเราเห็นป้ายYAYA ทำให้พวกเราดีใจมากๆที่รร. ส่งรถมารับพวกเรา  เย้...
แล้วพวกเราก็มาถึงที่พักหาดเซงกีกิ(เป็นชายหาดขึ้นชื่อของทีนี่) ถึงราวๆเวลาเกือบห้าทุ่มรร. ที่เราพักชื่อlina cottage sengigi ราคาถูกมากๆติดหาดพร้อมอาหารเช้าราคา500บาทด้านข้างติดร้านสะดวกซื้อติดkfc ติดร้านอาหารมีดนตรีสดตรงข้ามเป็นผับเปิดถึงตีสามคนหลั่งไหลกันมายิ่งดึกยิ่งเยอะแน่นอนมากจริงๆเสียงมีดังมาบ้าง
 พอถึงที่พักวางกระเป๋าได้ก็รีบหาข้าวกินเป็นร้านริมถนนฝั่งตรงข้ามรร. ราคาไม่แพงแถมอร่อยมากเมนูชื่อนาซิโกเรงกับหมี่โกเรงร้านนี้อร่อยมากๆและสองเมนูนี้นั้นจะอยู่กับเราตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย555 
กลับเข้าห้องได้เวลาอาบน้ำแล้วนับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดหลังจากไม่ได้อาบน้ำมามากกว่า24 ชั่วโมงตั้งแต่ออกจากอุบลหลับสบายเลยครับ
วันที่14 เมษาวันนี้พวกเราเลือกเป็นวันสบายๆไม่รีบเนื่องจากเมื่อคืนถึงที่พักกันดึกและเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางไกลตื่นสายได้ไม่รับร้อนพอทำธุระส่วนตัวเส็จออกมากินอาหารเช้ารร. ที่เราพักติดหาดมีอาหารเช้าให้เลือกเป็นset กับราคานี้คุ้มค่ามากๆครับถึงขั้นต้องแนะนำบอกต่อกันเลยครับระหว่างกินข้าวเช้ามีคนเข้ามาทักมาคุยด้วยขอเรียกชื่อว่า”พี่ดำ”สอบถามว่าจะไปไหนมาไหนเราแจ้งไปว่าเราต้องการเรือไปกลับเกาะกิลีและต้องการรถไปส่งที่สนามบินวันกลับเค้าเสนอราคามาพร้อมผมกับพี่ป้องกดเครื่องคิดเลข
ราคาโอเคเลยตกลงกันโอเค”พี่ดำ”ตกลงจะมารอเราพาเราข้ามเรือไปเกาะกิลีและจะมารอรับวันกลับแล้วส่งขึ้นรถเพื่อไปสนามบินเราจ่ายเงินตอนจ่ายเงินเราก็ย้ำกับเค้าว่าเราจะเชื่อใจได้อย่างไรเค้าก็บอกเดี๋ยวให้เราจ่ายเงินกับเจ้าของบริษัทสักครู่พี่คนที่ขับรถไปรับเราที่สนามบินเมื่อคืนก็มารับเงินเขียนใบเสร็จออกให้พร้อมเบอร์โทรแล้วนัดวันเวลากัน
ช่วงสายประมาณ10โมงเราไปเช่ารถมอเตอร์ไซด์ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่ให้บริการรถยนต์รับส่งเราซึ่งราคาก็เช่ามอไซด์ก็ถูกมากๆประมาณ200บาทไม่มีมัดจำไม่มีเก็บpassportเหมือนบ้านเราเพื่อขี่เที่ยวใกล้ๆในเกาะลอมบอกที่ร้านเช่ามอเตอร์ไซด์เราได้รู้จัก”เอ๊ดดี้” เค้าให้คำแนะนำต่างๆเวลาเจอตำรวจตรวจเอกสารส่วนรถก็ใหม่มากๆเพิ่งวิ่งได้500ก. ม. และเอ๊ดดี้เองจะเป็นคนขับรถไปรอรับที่ท่าเรือเพื่อไปส่งเราที่สนามบินในวันกลับ
วันนี้พวกเราขอเป็นสายแว๊นเที่ยวเกาะกันเลยตั้งใจหาร้านกาแฟชิคๆชิลๆนั่งรอเวลา16:00 ที่นัดMaldiไว้เพื่อมารับไปsenaru
ต้องบอกก่อนว่าที่นี้เป็นชายหาดยาวถนนรอบเกาะสวยถนนดีมากเมื่อเทียบกับบ้านเราแต่ไม่มีร้านกาแฟเลยซึ่งในทางกลับกันนั้นถ้าเป็นบ้านเราคงไม่ต้องบอกว่าจะเยอะขนาดไหน
เราได้ขี่รถผ่านหลายหาดจนเกือบเที่ยงเลยแวะเข้าหาดหนึ่งระหว่างทางมีคนเล่นน้ำเยอะดีเป็นคนท้องถิ่นไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเลยที่นี่บรรยากาศดีแสงแดดกับน้ำทะเลใสๆสวยมากๆส่วนร้านอาหารก็เหมือนร้านอาหารหาดคูเดื่อที่อุบลแต่ผิดกันตรงที่อยากจอดร้านไหนอยากนั่งร้านไหนอยากสั่งอะไรไม่มีคนมาคอยเรียกเข้าร้านเลยตามสบายจ้าจะนั่งร้านนี้นั่งนานไม่สั่งอาหารก็ไม่มีคนเดินถือเมนูมาถามให้สั่งนั่งชมวิวเพลินๆได้เลยซึ่งถ้าเป็นบ้านเรานั้น...55คงไม่ต้องบอกก็รู้ 
ซึ่งพวกเราก็สั่งอาหารไปนั่งรอพอสมควรได้บรรยากาศคนท้องถิ่นพาครอบครัวมาเล่นน้ำสนุกสนานกันไปและแล้วก็จบมื้อเที่ยงไปราคาสบายกระเป๋า
แต่เราคนไทยยังไงก็ต้องหาร้านกาแฟให้ได้ด้วยความเชื่อมั่นของพวกเราว่ามัน..ต้องมี(เสียงสูง) เปิดGoogle map ซิจ๊ะนำทางไปลูกพี่. หลายร้านที่ขึ้นมาจากที่search เมื่อไปถึงปิดกันหมดแล้ว...แว๊นกันไปกันมาจนมาถึงท่าเรือเลยเกือบ30ก. ม. จากรร. 
เจอร้านกาแฟอยู่1ร้านรีบจอดกันไปเลยได้ชิคๆชิลๆกันไปเมนูขนมที่นี่คือกล้วยชุบแป้งทอดราดด้วยช็อคโกแลตอร่อยดีค																															
 
						
รินจ๋า รินจานี2019
สรุปทริปการเดินทางไปเทรคกิ้งที่รินจานีเกาะลอมบอกอินโดนีเซีย
ทริปนี้มีสมาชิกร่วมเดินทางทั้งหมด4คน1.พี่ป้อง(พี่ชายเพื่อนสนิท)ทำหน้าที่ฝ่ายประสานงานต่างประเทศอีเมลล์ติดต่อกับบ. ทัวร์
2.เจ้Yaya(พี่สาวเพื่อนสนิท)ทำหน้าที่รีวิวสถานที่ต่างๆหาข้อมูลต่างๆในการเดินทางจองที่พักเลือกประกันการเดินทาง
3.พี่เก๋(เพื่อนเจ้Yaya) มาร่วมจอยทริปกันพี่เก๋กินง่ายไม่เผ็ดเน้นผักทุกมื้ออึดถึกทนไปด้วยกันได้สบายครับ
4.ตัวผมเองน้องเล็กสุดในทีมทำหน้าซัพพอร์ทพี่ๆทุกคนกับเป็นคนคอยบันทึกภาพเรื่องราวการเดินทาง
นิดนึงครับเรามีข้อแนะนำสำหรับคนที่ต้องการฉบับย่อๆแบบสั้นๆตามด่านล่างนี้ครับ
(ส่วนฉบับยาวแบบละเอียดมากๆติดตามนะครับจะทยอยลงครับครับ)
วันที่12 เมษาขึ้นรถไฟ21:30จากอุบลปลายทางสถานีรถไฟดอนเมืองรถไฟเสียเวลาจากกำหนดการเป็นชั่วโมง
วันที่13 เมษารถไฟถึงดอนเมืองรอขึ้นเครื่องต่อไปที่กัวลาลัมเปอร์แล้วรอเปลี่ยนเครื่อง5ชั่วโมง(ดีเลย์)ไปเกาะลอมบอกถึงเกาะลอมบอก21:30ตามเวลาท้องถิ่นถึงที่พักหาดเซงกีกิเวลา22:30
วันที่14 เมษาช่วงเช้าเช่ามอเตอร์ไซด์ขับเที่ยวเกาะลอมบอก
16:00 นัดไกด์/เจ้าของบริษัท(คุณMaldi) มารับที่รร. เดินทางไปหมู่บ้านsenaru ระยะเวลาประมาณ2ชั่วโมงครึ่งพักที่rudy trekker hotel
วันที่15 เมษาMaldi นัด6:00 เตรียมตัวเดินเทรคเริ่มเดิน6:45 ใช้เวลาเดินประมาณ10ชั่วโมงพักค้างคืนที่crater rim ความสูงเกือบ2,700เมตร
วันที่16 เมษาตื่นแต่เช้าชมวิวจุดชมวิวcraterrim เก็บของเตรียมเดินลงขาลงใช้เวลาประมาณ4ชั่วโมงกลับถึงrudy trekker hotel กินข้าวเที่ยงMaldiเตรียมรถส่งที่ท่าเรือข้ามไปยังเกาะGili Trawangan เข้าพักที่รร. Aston
วันที่17 เมษาข้ามจากเกาะGili กลับมายังเกาะลอมบอกนัดรถมารับส่งสนามบินลอมบอกขึ้นเครื่อง12:00มายังกัวลาลัมเปอร์รอเปลี่ยนเครื่องกลับไทย
ถึงดอนเมืองตรงเวลาขากลับไม่มีดีเลย์เดินข้ามฝั่งมายังสถานีรถไฟดอนเมืองขึ้นรถด่วนพิเศษกลับอุบล
วันที่18 เมษาถึงอุบล
หกโมงเช้านั่งแท๊กซี่เข้าบ้านอุบลแล้วขับรถยนต์กลับบ้านต่ออีก110ก. ม.
/////ฉบับร่ายยาวทางนี้เลยครับ///// ตอนที่1
กาลครั้งหนึ่งไม่นานนักเมื่อพี่ป้องได้ปรึกษาว่ามีความสนใจจะไปเทรคกิ้งและอยากไปคนเดียวได้เริ่มซื้ออุปกรณ์เป้รองเท้าเทรคกิ้งโพลผมเลยเอ่อเยี่ยมน่าสนใจเราน่าจะไปด้วยกันนะ ไปไหนกันดีพี่ตอนแรกได้ขอสรุปว่าเราจะไปคีนาบาลูกันสองคนโดยส่วนตัวผมอยากไปซ้อมเดินขึ้นเขาเก็บelavation gain เพื่อเตรียมตัวไปโป่งแยง100ปลายปีนี้ซึ่งก็น่าจะเข้าท่าดีเดียวแต่แล้วเมื่อเข้าไปดูข้อมูลรายละเอียดการจองทริปเพื่อไปคีนาบาลูช่วงเดือนเมษายนแล้วค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเราก็เลยวางแผนใหม่ซึ่งก็เลยได้มาเป็นรินจานีต่อมาเมื่อวันที่28 ม. ค. เจ้yaya ทักinbox มาเพื่อปล่อยบิบฟูลงานบุรีรัมย์จากนั้นก็คุยไปถึงเรื่องการซ้อมต่างๆนาๆจนสุดท้ายผมได้บอกไปว่าจะไปซ้อมที่รินจานีเจ้ตอบกลับมาว่า“จองอะไรไปแล้วบ้างอยากไปนำแทะฮ่วยๆๆ” และแล้วเราก็ได้สมาชิกมาเพิ่มเป็นคนที่“สาม” แล้วเราก็เริ่มตั้งกลุ่มฉก. รินจ๋ารินจานีเพื่อพูดคุยส่งการบ้านในการฝึกซ้อมกันแทบทุกวันเราซ้อมวิ่งเป็นหลักส่วนคนที่ผมเป็นห่วงที่สุดคือ“พี่ป้อง” เนื่องจากพี่ผ่านการวิ่งมาน้อยกว่าเพื่อนๆไม่เคยจบฟูลมาก่อรแต่พี่ป้องก็มีความพยายามสูงมากซ้อมวิ่งส่งการบ้านสม่ำเสมอจริงๆจนเวลาผ่านมาถึง17 มี.ค. เราก็ได้สมาชิกเพิ่มอีกหนึ่งคนคือ“พี่เก๋” พี่เก๋อึกถึกทนกว่าที่ผมคิดไว้เยอะมากจริงๆพี่เก๋เคยจบฟูลมาแล้วนะไม่ธรรมดาจริงๆหลังจากพี่เก๋เข้าร่วมทีมได้ไม่นานพี่ป้องสายข่าวต่างประเทศก็รายงานว่าเกิดแผ่นดินไหวที่เกาะลอมบอกศูนย์กลางอยู่ที่รินจานีด้วยเจ้Yayaก็รายงานพร้อมกับทำสถิติ(เจ้เก่งStatมากตามดูในyoutubeได้นะ)การเกิดแผ่นดินไหวส่งมาให้ดูบอกตามตรงผมหวั่นไหวสุดๆแต่พยายามนิ่งเอาไว้ทุกคนในทีมต่างเฝ้ารอเวลาติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดเพราะใกล้ช่วงเดินทางแล้วแต่เรายังคงซ้อมกันต่อไปไม่หยุดจนเข้าสู่เดือนเม. ย. ซึ่งจะเป็นช่วงเปิดให้ขึ้นเทรคกิ้งของทุกปีหน้าเพจของอุทยานยังไร้วี่แววแต่ทางไกด์ของเราเมลล์ยืนยันให้ขึ้นได้แต่ต้องปรับแผนจาก3วัน2คืนเป็น2วัน1คืนและไม่ได้ขึ้นยอดรับรองเป็นเส้นทางที่มีความปลอดภัยเป็นเส้นทางที่ไม่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว
ทุกคนในทีมร่วมกันปรับแผนกันตลอดจนได้มีแผน1,2,3,4 สุดท้ายเราเลือกแผน4ก่อนการเดินทางประมาณ3วันเราได้แจ้งแผน4ไปยัง “Maldi” เค้าเป็นเจ้าของบริษัททัวร์ท้องถิ่นที่เราเลือกจากการรีวิวมาหลายคนว่าดีเยี่ยมรับปากจะมารับเราที่สนามบินจะนำเราเดินขึ้นเองและจะดูแลเราตลอดการเทรคครั้งนี้อย่างน้อยก็ทำให้พวกเราอุ่นใจก่อนการเดินทาง
และแล้วเมื่อถึงเวลาการเดินทางก็เริ่มขึ้น
สำหรับการเดินทางเนื่องจากสมาชิกส่วนใหญบ้านอยู่อุบลจะขอเริ่มเล่าจากอุบลก็แล้วกันครับ
ขอเกริ่นก่อนครับจริงๆแล้วทริปนี้เราไม่ได้อยากเริ่มต้นกันที่รถไฟเลยแต่เพราะช่วงที่เราเดินทางเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ตั๋วเครื่องบินค่อนข้างแพงมากประมาณ4,000จึงทำให้เราเลือกเดินทางด้วยรถไฟไหนๆก็ไหนๆแล้วไม่ได้นั่งรถไฟมานานมากกว่า10ปีแล้วถือซะว่าเปลี่ยนบรรยากาศการเดินทางดูบ้าง
วันที่12 เมษาเราขึ้นรถไฟเป็นขบวนรถเร็วตู้นอนปรับอากาศออกเวลา21:30จากอุบลปลายทางสถานีรถไฟดอนเมืองรถไฟเสียเวลาจากกำหนดการประมาณ1ชั่วโมงเศษ
“พี่ป้อง” ขอไปรอขึ้นที่สถานีจังหวัดศรีสะเกษการเดินทางเพิ่งเริ่มต้นความฮาก็บังเกิดเสียแล้วเมื่อ”พี่ป้อง”ตกรถไฟงานเข้าซิครับได้ขับตามไปดักรอที่สถานีต่อไปแต่ก็ไม่ทันอีก“พี่ป้อง”เปลี่ยนแผนทันทีการติดต่อประสานงานกันในทีมก็เริ่มขึ้นตั้งแต่ออกตัวกันเลยทีเดียวสุดท้าย”พี่ป้อง”ได้ตั๋วเครื่องบินไฟล์ทเช้าบินตามมาในราคา1,100บาท(ห๊ะอะไรนะตอนเราจะจอง4,000 ทำให้ต้องมานั่งรถไฟกันหลายชั่วโมง555) สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วย่อมดีเสมอ....ได้แต่นั่งๆนอนๆหลับๆตื่นๆบนรถไฟจนถึงสถานีรถไฟดอนเมืองพร้อมกับรถไฟเสียเวลาถึงช้ากว่ากำหนดถึงพร้อมๆกันกับ”พี่ป้อง” เลยฮากันไป
วันที่13 เมษา8:00รถไฟถึงดอนเมืองแวะกินข้าวขาหมูแล้วเดินข้ามไปสนามบินดอนเมืองเมื่อสมาชิกทุกคนมาครบและพร้อมกันที่counter airasia (พี่เก๋บ้านใกล้มาถึงก่อนทุกคน)
เราก็พร้อมไปลุยกันเลยดอนเมืองไปกัวลาลัมเปอร์พอถึงกัวลาลัมเปอร์(สนามบินที่ดีต้องฟรีwifi) อีเมลล์เด้งดึ๋งๆๆไฟล์ทดีเลย์จ้าความฮารอบสองหลังจากก่อนหน้านี้แจ้งดีเลย์มาแล้วรอบนึงที่ทำให้เราต้องปรับแผนกันเป็นแผน4 ไหนๆก็ไหนๆแล้วพวกเรานั่งเล่นหาอะไรกินกันไปจนถึงเวลาบินต่อไปลอมบอกเมื่อเราเดินกันไปยังประตูตามที่แจ้งบนจอว่าจะไปลอมบอกเมื่อถึงgate L6 ทุกคนมองหน้ากันเอ๊ะ ทำไมเหมือนบขส. สายต่างจังหวัดคนที่นั่งรอเป็นคนเกาะลอมบอกผู้ชายล้วนๆหันมามองพวกเราหมดทุกคนพวกเราดูแตกต่างจากคนอื่นๆที่จะไปเกาะลอมบอกเราพยายามมองหาต่างชาติที่จะไปลอมบอกมีอยู่น้อยแต่ก็พอได้ใจชื้นขึ้นมาหน่อยว่าเราขึ้นถูกไฟล์ทไม่พอถึงเวลาเครื่องออกประตูเปิดเราให้คนลอมบอกเข้าไปก่อนยืนรอสักพักอ้าวเดินกันกรูออกมามีการย้ายgate อีกฮากันไป
เมื่อขึ้นเครื่องเจ้Yaya ก็นั่งตกอยู่ในวงล้อมของหนุ่มชาวเกาะลอมบอกพวกเราจึงไปคุยกับแอร์ขอให้มานั่งด้วยกันแอร์ใจดีมากเค้าให้ย้ายมานั่งด้วยกันได้เนื่องจากมีที่ว่างอยู่พอดีเจ้บอกพวกแกเจ้กำลังฟินนน...
พอเครื่องลงจอดถึงเกาะลอมบอก21:00ตามเวลาท้องถิ่น(เร็วกว่าบ้านเรา1ชั่วโมง)รันเวย์เต็มไปด้วยน้ำฝนที่ตกลงมาก่อนหน้านี้แล้ว
และกว่าจะรอกระเป๋าผ่านตม. ก็21:30แล้ว
พูดถึงตม. ที่ลอมบอกน่ารักมากมายพวกเรามาเป็นกลุ่มเค้าก็เรียกให้เข้าไปทั้งกลุ่มเลยไม่ต้องรอให้เสียเวลาทีละคนพวกเราผ่านตม. สบายๆต่อมาเราก็ไปแลกตังค์เราได้เงินอินโดรูปีมาห้าล้านกว่าๆดูเป็นเสี่ยกันพริบตาเลยทีเดียว.งง
แล้วเราออกกองกลางกันคนละ100usd(ขอบอกก่อนเลยทั้งทริปใช้กันแค่คนละ100usd)
จากนั้นเราก็เดินออกจากสนามบินมารอรถ ซึ่งแจ้งล่วงหน้านัดกันไว้กับทางรร. ที่เราพักติดต่อเรื่องรถมารับแต่เมื่อไฟล์ทดีเลย์ที่เราเพิ่งรู้ตอนอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์ แล้วได้แจ้งเวลาใหม่ไปทางรร. ไม่มีการตอบกลับมาเราก็เลยไม่หวังว่าเค้าจะมารับขณะที่เรากำลังยืนต่อราคาแท๊กซี่อยู่นั้นเราได้มองเห็นไปเห็นป้ายชื่อYAYA ซึ่งเค้ากันให้คนที่มารอรับยืนอยู่ไกลมากประมาณร้อยเมตรไม่ให้เข้ามาในเขตตัวอาคารผู้โดยสารซึ่งคนที่ยืนรอเยอะมากๆตอนแรกเราคิดว่าเค้ามาชุมนุมอะไรสักอย่างหรือมารอต้อนรับนักร้องรึเปล่า
พอเราเห็นป้ายYAYA ทำให้พวกเราดีใจมากๆที่รร. ส่งรถมารับพวกเรา เย้...
แล้วพวกเราก็มาถึงที่พักหาดเซงกีกิ(เป็นชายหาดขึ้นชื่อของทีนี่) ถึงราวๆเวลาเกือบห้าทุ่มรร. ที่เราพักชื่อlina cottage sengigi ราคาถูกมากๆติดหาดพร้อมอาหารเช้าราคา500บาทด้านข้างติดร้านสะดวกซื้อติดkfc ติดร้านอาหารมีดนตรีสดตรงข้ามเป็นผับเปิดถึงตีสามคนหลั่งไหลกันมายิ่งดึกยิ่งเยอะแน่นอนมากจริงๆเสียงมีดังมาบ้าง
พอถึงที่พักวางกระเป๋าได้ก็รีบหาข้าวกินเป็นร้านริมถนนฝั่งตรงข้ามรร. ราคาไม่แพงแถมอร่อยมากเมนูชื่อนาซิโกเรงกับหมี่โกเรงร้านนี้อร่อยมากๆและสองเมนูนี้นั้นจะอยู่กับเราตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย555
กลับเข้าห้องได้เวลาอาบน้ำแล้วนับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดหลังจากไม่ได้อาบน้ำมามากกว่า24 ชั่วโมงตั้งแต่ออกจากอุบลหลับสบายเลยครับ
วันที่14 เมษาวันนี้พวกเราเลือกเป็นวันสบายๆไม่รีบเนื่องจากเมื่อคืนถึงที่พักกันดึกและเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางไกลตื่นสายได้ไม่รับร้อนพอทำธุระส่วนตัวเส็จออกมากินอาหารเช้ารร. ที่เราพักติดหาดมีอาหารเช้าให้เลือกเป็นset กับราคานี้คุ้มค่ามากๆครับถึงขั้นต้องแนะนำบอกต่อกันเลยครับระหว่างกินข้าวเช้ามีคนเข้ามาทักมาคุยด้วยขอเรียกชื่อว่า”พี่ดำ”สอบถามว่าจะไปไหนมาไหนเราแจ้งไปว่าเราต้องการเรือไปกลับเกาะกิลีและต้องการรถไปส่งที่สนามบินวันกลับเค้าเสนอราคามาพร้อมผมกับพี่ป้องกดเครื่องคิดเลข
ราคาโอเคเลยตกลงกันโอเค”พี่ดำ”ตกลงจะมารอเราพาเราข้ามเรือไปเกาะกิลีและจะมารอรับวันกลับแล้วส่งขึ้นรถเพื่อไปสนามบินเราจ่ายเงินตอนจ่ายเงินเราก็ย้ำกับเค้าว่าเราจะเชื่อใจได้อย่างไรเค้าก็บอกเดี๋ยวให้เราจ่ายเงินกับเจ้าของบริษัทสักครู่พี่คนที่ขับรถไปรับเราที่สนามบินเมื่อคืนก็มารับเงินเขียนใบเสร็จออกให้พร้อมเบอร์โทรแล้วนัดวันเวลากัน
ช่วงสายประมาณ10โมงเราไปเช่ารถมอเตอร์ไซด์ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่ให้บริการรถยนต์รับส่งเราซึ่งราคาก็เช่ามอไซด์ก็ถูกมากๆประมาณ200บาทไม่มีมัดจำไม่มีเก็บpassportเหมือนบ้านเราเพื่อขี่เที่ยวใกล้ๆในเกาะลอมบอกที่ร้านเช่ามอเตอร์ไซด์เราได้รู้จัก”เอ๊ดดี้” เค้าให้คำแนะนำต่างๆเวลาเจอตำรวจตรวจเอกสารส่วนรถก็ใหม่มากๆเพิ่งวิ่งได้500ก. ม. และเอ๊ดดี้เองจะเป็นคนขับรถไปรอรับที่ท่าเรือเพื่อไปส่งเราที่สนามบินในวันกลับ
วันนี้พวกเราขอเป็นสายแว๊นเที่ยวเกาะกันเลยตั้งใจหาร้านกาแฟชิคๆชิลๆนั่งรอเวลา16:00 ที่นัดMaldiไว้เพื่อมารับไปsenaru
ต้องบอกก่อนว่าที่นี้เป็นชายหาดยาวถนนรอบเกาะสวยถนนดีมากเมื่อเทียบกับบ้านเราแต่ไม่มีร้านกาแฟเลยซึ่งในทางกลับกันนั้นถ้าเป็นบ้านเราคงไม่ต้องบอกว่าจะเยอะขนาดไหน
เราได้ขี่รถผ่านหลายหาดจนเกือบเที่ยงเลยแวะเข้าหาดหนึ่งระหว่างทางมีคนเล่นน้ำเยอะดีเป็นคนท้องถิ่นไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเลยที่นี่บรรยากาศดีแสงแดดกับน้ำทะเลใสๆสวยมากๆส่วนร้านอาหารก็เหมือนร้านอาหารหาดคูเดื่อที่อุบลแต่ผิดกันตรงที่อยากจอดร้านไหนอยากนั่งร้านไหนอยากสั่งอะไรไม่มีคนมาคอยเรียกเข้าร้านเลยตามสบายจ้าจะนั่งร้านนี้นั่งนานไม่สั่งอาหารก็ไม่มีคนเดินถือเมนูมาถามให้สั่งนั่งชมวิวเพลินๆได้เลยซึ่งถ้าเป็นบ้านเรานั้น...55คงไม่ต้องบอกก็รู้
ซึ่งพวกเราก็สั่งอาหารไปนั่งรอพอสมควรได้บรรยากาศคนท้องถิ่นพาครอบครัวมาเล่นน้ำสนุกสนานกันไปและแล้วก็จบมื้อเที่ยงไปราคาสบายกระเป๋า
แต่เราคนไทยยังไงก็ต้องหาร้านกาแฟให้ได้ด้วยความเชื่อมั่นของพวกเราว่ามัน..ต้องมี(เสียงสูง) เปิดGoogle map ซิจ๊ะนำทางไปลูกพี่. หลายร้านที่ขึ้นมาจากที่search เมื่อไปถึงปิดกันหมดแล้ว...แว๊นกันไปกันมาจนมาถึงท่าเรือเลยเกือบ30ก. ม. จากรร.
เจอร้านกาแฟอยู่1ร้านรีบจอดกันไปเลยได้ชิคๆชิลๆกันไปเมนูขนมที่นี่คือกล้วยชุบแป้งทอดราดด้วยช็อคโกแลตอร่อยดีค