เจ็บดีนะ...

กระทู้คำถาม
ต้องขอเอ่ยก่อนนะคะว่าเราเป็นคนที่ค่อนข้างมั่นใจในเรื่องความรู้สึกของตัวเอง...จนมาเจอผู้ชายคนหนึ่งในเฟสเมื่อประมาณปี 2016 หรือประมาณ 3 ปีที่แล้วผู้ชายคนนี้ได้แอดเฟสเรามาปกติเราจะไม่ค่อยชอบรับแอดเฟสมั่วถ้าไม่รู้จักกันแต่คนนี้เราเห็นว่ามีเพื่อนร่วมในเฟสแล้วรู้สึกถูกชะตาจึงตอบรับแอดเพื่อนไปแล้วในใจก็แค่รู้สึกว่าเดี๋ยวผู้ชายคนนี้ต้องทักมาหาเราแน่ๆ แล้วสักพักเขาก็ทักมาจริงๆ ตอนนั้นไม่รู้ว่าเราชอบแค่ที่เห็นหน้าโปรไฟล์ในเฟสบุ้คที่เขาคนนั้นตรงสเปคเราคือหน้าเข้มๆ เราถึงรู้สึกชอบมากแล้วอยากรู้จักมากขึ้น 5555 แล้วผู้ชายคนนั้นก็ได้ทักเรามาจริงๆ แต่ทักมาแค่เป็นสติ้กเกอร์ปกติ

เราก็ตอบกลับปกติโดยมารยาทแต่ในใจลึกๆก็อยากรู้จักนี้แหล่ะแต่ก็วางฟอร์มไว้ก่อน 5555 แต่ช่วงนั้นคือเราก็มีคนคุยอยู่ด้วยนะคะ ผู้ชายคนที่ทักมาหาเราเราก็แค่รู้สึกถูกชะตาเฉยๆ ไม่น่าจะมีอะไร แต่พอเริ่มได้คุยกันมากขึ้นถึงอาจจะนานๆทีเขาทำให้เรารู้สึกดีมากไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่คือผู้ชายคนนี้มีนิสัยที่ไม่เหมือนผู้ชายคนไหนเลยที่เราเคยคุยมา คือค่อนข้างที่จะนิ่งๆ เฉยๆ ดูไม่เจ้าชู้ ลืมบอกไปอายุเขาแก่กว่าเราแค่ปีเดียวแล้วพอคุยกันไปกันมา บังเอิญเรียนมหาวิทยาลัยเครือเดียวกันอีก เราเลยรู้สึกว่ามันเป็นโชคชะตาหรือเปล่า 5555 หรือเราคิดไปเอง จนระยะเวลาที่เราคุยกันไปกันมาโดยที่นิสัยผู้ชายคนนั้นก็คือนานๆจะตอบแชทเราทีหายไปเป็นอาทิตย์ เป็นเดือนบ้าง แต่คือถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นที่เรารู้จักในเฟสแล้วพิมพ์คุยปกติเราก็จะมีความรู้สึกว่าไม่อยากคุยแล้วนะถ้าจะมาๆหายๆแบบนี้ แต่ผิดกับคนนี้มากที่เรารอเขาตอบแชทรอคุยกับเขา ซึ่งในช่วงนั้นเราก็มีคบกับพี่คนหนึ่งแต่เราพูดกันไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าจะไม่ก้าวก่ายกันไม่ห้ามกันว่าจะห้ามคุยกับใครอะไรประมาณนี้นะคะ พูดง่ายๆว่าเหมือนเราไม่ได้รักพี่คนนี้ที่อยู่ด้วยกันเลยคะซึ่งเรารู้สึกมานานแล้วแต่ที่ยังไม่ได้เลิกยุ่งกันเพราะว่าอาจจะเป็นเรื่องของที่พี่เขานิสัยดี แต่เราไม่เคยมีความรู้สึกห่วงหรือหึงเขาคนนี้เลยคนที่คบกันอยู่ปัจจุบัน เรายอมรับว่าเราเห็นแก่ตัวหรืออาจจะโง่ก็ได้แต่พูดจริงระยะเวลาที่ผ่านมาคือแค่รู้สึกอยากรู้จักกับผู้ชายคนที่ถูกชะตามาก ขอสมมุติชื่อตัวละครนะคะ คือคนที่ชื่อแบงค์ ที่แอดเฟสเรามา คนที่คบก็คือชื่อ หนึ่ง จนสุดท้ายขอรวบรัดเรื่องราวเลยนะคะ เราก็บอกพี่คนที่ชื่อหนึ่งไปว่าเราไม่ได้รักเขาเราอยากรอผู้ชายคนที่ชือแบงค์ ซึ่งตอนนั้นพี่คนที่ชื่อหนึ่งดีกับเรามากช่วยเราทุกเรื่องไม่ว่าจะเรื่องเรียน มีเวลาให้เราพาไปเที่ยว สนใจเราซึ่ง ช่วงนั้นเรากำลังเรียนมหาวิทยาลัยปี 2 จนถีง ปี 4 เขาก็ช่วยเหลือเรามาตลอดแต่เราไม่อยากฝืนความรู้สึกตัวเองจนต้องจบความสัมพันธ์กับพี่หนึ่งไป แล้วมารอกับคนที่ชื่อแบงค์ ซึ่งแบงค์อย่างที่บอกแต่แรกเป็นผุ้ชายที่นานๆจะตอบแชทเรานานๆจะได้คุยกับเดือนเกือบเดือนแต่เราก็ยังอยากจะรอ แล้วในช่วงนั้นแบงค์ก็เรียนอยู่ปี 3 คุยกันมาคร่าวๆก็คือพอจะรู้ว่าแบงค์เป็นคนต่างจังหวัดอยุ่กทม.กับพวกเพื่อนๆแบงค์ดูเป็นคนมีความคิดที่จะเป็นผู้นำ เคยมีแฟนก็คนเดียวอันนี้เท่าที่แบงค์เล่านะคะเราก็เชื่อนะเหมือนเชื่อใจว่าเขาไม่โกหกเราเขาก็เล่าให้เราฟังว่าแฟนคนแรกที่เขาคบก่อนจะเข้ามาเรียนมหาลัยปี 1 ก็คือทางบ้านผู้หญิงจะให้แต่งงานแต่แบงค์บอกว่าขอเรียนจบก่อนได้ไหม แล้วค่อยแต่ง แต่สุดท้ายผู้หญิงคนนั้นก็ไปมีคนใหม่ เพราะแบงค์เล่าว่าพอเข้ามหาลัยก็คือแถบไม่ได้ติดต่อกับแฟนแบงค์เลย จนวันนึงรุ่นพี่แบงค์ถามแบงค์ว่ายังคบกับแฟนแบงค์อยู่หรือเปล่าแบงค์ก็พูดนะว่าคบอยุ่แต่แค่ไม่ค่อยได้คุยกัน จนแบงค์มารุ้ที่หลังคือแฟนแบงค์ไปคบกับรุ่นพี่แบงค์แล้วหลังจากนั้นแบงค์ก็ไม่มีแฟนอีกเลยมาปีกว่าอยู่แต่กับเพื่อนแล้วก็หมาของแบงค์ซึ่งแบงค์ก็รักหมามาก แล้วเราก็ดันกลัวหมามากคือง่ายๆเราไม่ค่อยชอบสัตย์เพราะเรามีปมตอนเด็กคือโดนหมาวิ่งไล่โดนแมวกัดเราเลยกลัวๆ เราคุยกันแบบมาๆหายๆเกือบปีกว่าๆ จนมานัดเจอกันครั้งแรก ...

.... เดี่ยวเรามาพิมพ์เล่าต่อนะคะว่าเจอครั้งแรกเป็นไงจากระยะเวลาคุยกันมาปีกว่าๆ แต่คือปีกว่าๆคุยแบบ อาทิตย์สองอาทิตย์ตอบทีนะคะ 5555

 มาถึงวันที่เรานัดเจอกันครั้งแรก ตอนแรกเรานัดกันไว้ประมาณ บ่ายๆ 3 คะเราก็มารอก่อนที่ห้าง ครั้งแรกที่เจอคือเขาปล่อยให้เรารอเกือบๆ 3 ชั่วโมง 55555 แต่เราก็รอนะคะเหตุผลที่เขาบอกมาช้าคือไปทำธุระข้างนอกแล้วก็ต้องกลับไปให้อาหารหมาที่บ้านก่อนแล้วถึงจะย้อนมาหาเราได้ ซึ่งแค่ครั้งแรกความรู้สึกเราก็นอยแล้วกับการที่เขาปล่อยให้เรารอรอ ตั้ง 3 ชั่วโมงได้แค่กินข้าวแปปๆเล่นเกมส์ ในห้างกัน ไม่ถึง 1 ชม.ก็ต้องแยกย้ายเขาก็ขับรถมาส่งเรา เรารู้สึกเกรงใจเขาด้วยที่นิสัยเขาเป็นคนค่อนข้างๆเงียบๆไม่ได้พูดเก่ง แต่เราพูดเก่งนะคะพยายามชวนคุยตลอด แต่หลังจากที่เจอกันก็อย่างที่เราบอกคุยกันในแชทแบบมาๆหายๆ เราก็ยอมนะคะเพราะช่วงนั้นเราก็ไม่ได้คุยกับแบงค์คนเดียวเราก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรคะ ตอบมาเมื่อไหร่ก็ค่อยคุยก็คิดว่าไม่นานก็น่าจะเบื่อเพราะว่านิสัยของแบงค์เป็นแบบนี้ แต่เรื่องมันไม่เป็นแบบนี้ เมื่อยิ่งเวลาผ่านไปเรายิ่งอยากรู้จักผู้ชายคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เราเหมือนเป็นห่วงเขาที่เขาเหมือนอยู่ตัวคนเดียว คือเขามาเช่าบ้านอยู่กับเพื่อนที่โรงเรียนเขานานๆ จะกลับไปบ้านที่ต่างจังหวัด เรามีโอกาสที่ได้คุยกันมากขึ้นได้รู้อะไรมากขึ้น แต่แบงค์ไม่เคยรู้ว่าเรามีคนคุยมีนอกกายบ้างแต่ไม่ได้นอกใจนะคะ เราก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ดี แต่คือเหมือนว่าแบงค์ไม่ได้ใส่ใจอะไรเรามาก ไม่เคยทำตัวเหมือนแฟนเรา เราก็เลยคิดว่าเราไม่ผิดเพราะแบงค์ก็เหมือนยังติดนิสัยกับการอยู่คนเดียว มีแต่เราที่คอยโทรหาเขาทักหาเขาทุกวันนะคะ ย้ำว่าทุกวัน หลังจากที่ได้เจอกันครั้งแรก ก็มี นัดเจอกันกินข้าวแปปๆ ก็กลับ โอกาสจะได้เจอกันประมาณ ครึ่งปี 1 ครั้ง 555555 จนเราเริ่มไปเล่าให้เพื่อนฟังเรื่องแบงค์ เพื่อนก็เหมือนมีเป่าหูเราว่ามันมีเมียแล้วเปล่าไรงี้ แต่เราไม่เคยคิดนะคะคิดแค่ว่าถ้าเขามีแฟนแล้วจริงๆก็ดีเราจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเขาหวังว่าถ้าเขามีแฟนเขาจะได้มีปัญหาอะไรจะได้มีคนรับฟัง เราไม่เคยกลัวเรื่องนั้น เราก็ทำตามความรู้สึกเราเรื่อยๆคือ รู้สึกอยากทัก อยากโทรก็ทำ ถึงเขาจะไม่อ่านไม่ตอบเลยก็กว่าจะตอบ ก็นานๆที เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆจนเริ่มเข้าปีที่ 2 ที่เราคุยกันถึงจะเจอกันไม่กี่ครั้งแต่เรากับแบงค์ก็คือคุยกันแบบมาๆหายๆ จนวันนึงแบงค์ไปมหาลัยเพราะที่มหาลัยมีคอนเสิร์ตแล้วมหาลัยแบงค์อยุ่ไม่ไกลจากบ้านเรานักเราเลยบอกไว้ว่าถ้าเมามากอย่าขับรถกลับบ้านแบงค์นะเพราะบ้านแบงค์ไกล เลยเอ่ยๆไปว่าถ้ากลับไม่ไหวให้มานอนห้องบี 5555555 มีความอ่อยแต่ใจเราจริงๆไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลยนะคะ  สาบ้านนเล้ยยย 55555 เป็นห่วงจริ้งๆๆ แล้ววันนั้นแบงค์ก็มานอนห้องเราจริงๆคะ วันนั้นมีความสุขมากเขิลด้วยนะคะ เดี่ยวมาเล่าต่อว่าคืนนั้นเป็นยังไง จะได้หลับกันแบบดีๆไหม 5555555 ♡
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่