Under the Silver Lake (David Robert Mitchell, 2018) คะแนน B (8/10)

"หนังมีองค์ประกอบดีงามชวนลึกลับน่าติดตาม แต่ถ้าใครไม่เข้าใจวัฒนธรรมป็อปหลงยุคก็จะดูไม่ค่อยสนุก" Under the Silver Lake เป็นหนังที่เข้าฉายในประเทศเราแบบเงียบ ๆ และมีโรงให้ดูน้อยมาก ความน่าสนใจคือภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เข้าชิงรางวัลปาล์มทองคำเมื่อปีที่ผ่านมา และชื่อผู้กำกับ เดวิด โรเบิร์ต มิตเชลล์ ที่มีผลงานสร้างชื่อจาก It Follows (2014) หนังผีแหวกแนว รวมไปถึงการได้นักแสดงนำ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ มาแสดงบทบาทเหมือนคนเมายา เมากาว อยู่ตลอดเวลา ก็ทำให้เรื่องราวลึกลับใต้ทะเลสาบสีเงินดูน่าสงสัยใคร่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หนังเล่าเรื่องราวของ แซม (แอนดรูว์ การ์ฟิลด์) ที่ออกตามสืบการหายตัวไปของ ซาราห์ (ไรลีย์ คีโอ) หญิงสาวลึกลับที่พึ่งพบกันได้แค่วันเดียว ความน่าลึกลับคือตัวละครแซมจะพาเราไปร่วมไขปริศนาต่าง ๆ ในเมืองลอสแองเจลิส เพื่อเสาะหาเบาะแสของการหายตัวไปในครั้งนี้ และยิ่งไขปริศนาไปมากเท่าไหร่ก็ยิ่งนำพาแซมไปสู่ความดำดิ่งลึกลับ โดยมีนิยาย Under the Silver Lake ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของจุดเริ่มต้นในการไขคดีเป็นตัวนำร่อง

ส่วนที่ดีงามและทำให้หนังดูดีมีเสน่ห์ตลอดการรับชม 2 ชั่วโมง 19 นาที คือองค์ประกอบของภาพที่ถูกจัดวาง และเรียบเรียงให้เราซึมซับไม่ว่าจะเป็นงานศิลป์ สัญลักษณ์ หรือกระทั่งการหยิบภาพหนังสมัยเก่า ๆ มาล้อเลียน ล้อเล่นตลกร้าย ดนตรีประกอบที่สอดแทรกความเก่าผสมความทันสมัย นอกจากนี้ อารมณ์ของหนังหรือโทนของหนังยังมีหลากหลายมิติ ทั้งดราม่า ตลกร้าย โรแมนติก ลึกลับตื่นเต้น ลุ้นระทึก งุงงน ความโหด ๆ ดิบสลับกันไปมา ส่วนเนื้อหาสาระของหนังก็ต้องบอกว่ามีเค้าโครงและมีซับพล็อตอะไรเยอะมาก แต่ก็สามารถขมวดปมและหยิบมาร้อยเรียงกันได้ องค์ประกอบทั้งหมดของหนังจึงไม่ได้เป็นงานที่ดูยาก แต่ดูแล้วอาจจะงงจนรู้สึกว่าอะไรของมันเนี่ย ซึ่งความ WTF ของหนังนี่แหละที่ทำให้เรารู้สึกว่าหนังเป็นภาระให้เราต้องกลับมาสืบค้นข้อมูลว่าแท้จริงแล้วข้อความบริบทต่าง ๆ ที่หนังต้องการสื่อสารมาให้เรานั้นคืออะไร มากไปกว่านั้น หนังยังผสมความหลากหลายแนวและหยิบความเก่าผสมความใหม่ภายใต้วัฒนธรรมป็อบมาเล่าได้ไม่สุดในทางใดทางหนึ่ง

ท้ายสุด Under the Silver Lake เป็นภาพยนตร์ที่มีหลากหลายอารมณ์ให้ได้เสพกันตลอดช่วงเวลารับชม มีความแปลกประหลาดในวิธีเล่าเรื่อง และถ่ายทอดเรื่องราวได้น่าสนใจ บรรยากาศของหนังทำให้เราอยากตามติดตัวละครต่อไป จนไปถึงความงุนงงน่าสงสัยว่าทั้งหมดหมายความว่ายังไงกันแน่ ผนวกด้วยเสน่ห์ขององค์ประกอบศิลป์ที่จัดวางไว้อย่างสวยงาม ความเมากาวของตัวละครแซมที่สับสนและมึนไปกับวัฒนธรรมป็อปบ้าบอคอแตก ปรัชญาการใช้ชีวิตที่ไม่เข้าใจ ความมึนในบริบทสังคมที่เสียดสีทิ่มแทง ตลอดจนช่วงเวลาสืบเสาะหาความจริงและค้นพบความจริงจากบ้างสิ่งบ้างอย่าง ทั้งหมดจึงทำให้เราได้รับรสชาติแปลกใหม่ที่บอกไม่ถูกว่าเป็นรสอะไรกลับบ้านหลังดูจบ...

ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่างหนัง

ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page:
https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog:
http://moviesdelightclub.blogspot.com/
Review: Under the Silver Lake (David Robert Mitchell, 2018) รีวิวโดย Form Corleone
"หนังมีองค์ประกอบดีงามชวนลึกลับน่าติดตาม แต่ถ้าใครไม่เข้าใจวัฒนธรรมป็อปหลงยุคก็จะดูไม่ค่อยสนุก" Under the Silver Lake เป็นหนังที่เข้าฉายในประเทศเราแบบเงียบ ๆ และมีโรงให้ดูน้อยมาก ความน่าสนใจคือภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เข้าชิงรางวัลปาล์มทองคำเมื่อปีที่ผ่านมา และชื่อผู้กำกับ เดวิด โรเบิร์ต มิตเชลล์ ที่มีผลงานสร้างชื่อจาก It Follows (2014) หนังผีแหวกแนว รวมไปถึงการได้นักแสดงนำ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ มาแสดงบทบาทเหมือนคนเมายา เมากาว อยู่ตลอดเวลา ก็ทำให้เรื่องราวลึกลับใต้ทะเลสาบสีเงินดูน่าสงสัยใคร่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หนังเล่าเรื่องราวของ แซม (แอนดรูว์ การ์ฟิลด์) ที่ออกตามสืบการหายตัวไปของ ซาราห์ (ไรลีย์ คีโอ) หญิงสาวลึกลับที่พึ่งพบกันได้แค่วันเดียว ความน่าลึกลับคือตัวละครแซมจะพาเราไปร่วมไขปริศนาต่าง ๆ ในเมืองลอสแองเจลิส เพื่อเสาะหาเบาะแสของการหายตัวไปในครั้งนี้ และยิ่งไขปริศนาไปมากเท่าไหร่ก็ยิ่งนำพาแซมไปสู่ความดำดิ่งลึกลับ โดยมีนิยาย Under the Silver Lake ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของจุดเริ่มต้นในการไขคดีเป็นตัวนำร่อง
ส่วนที่ดีงามและทำให้หนังดูดีมีเสน่ห์ตลอดการรับชม 2 ชั่วโมง 19 นาที คือองค์ประกอบของภาพที่ถูกจัดวาง และเรียบเรียงให้เราซึมซับไม่ว่าจะเป็นงานศิลป์ สัญลักษณ์ หรือกระทั่งการหยิบภาพหนังสมัยเก่า ๆ มาล้อเลียน ล้อเล่นตลกร้าย ดนตรีประกอบที่สอดแทรกความเก่าผสมความทันสมัย นอกจากนี้ อารมณ์ของหนังหรือโทนของหนังยังมีหลากหลายมิติ ทั้งดราม่า ตลกร้าย โรแมนติก ลึกลับตื่นเต้น ลุ้นระทึก งุงงน ความโหด ๆ ดิบสลับกันไปมา ส่วนเนื้อหาสาระของหนังก็ต้องบอกว่ามีเค้าโครงและมีซับพล็อตอะไรเยอะมาก แต่ก็สามารถขมวดปมและหยิบมาร้อยเรียงกันได้ องค์ประกอบทั้งหมดของหนังจึงไม่ได้เป็นงานที่ดูยาก แต่ดูแล้วอาจจะงงจนรู้สึกว่าอะไรของมันเนี่ย ซึ่งความ WTF ของหนังนี่แหละที่ทำให้เรารู้สึกว่าหนังเป็นภาระให้เราต้องกลับมาสืบค้นข้อมูลว่าแท้จริงแล้วข้อความบริบทต่าง ๆ ที่หนังต้องการสื่อสารมาให้เรานั้นคืออะไร มากไปกว่านั้น หนังยังผสมความหลากหลายแนวและหยิบความเก่าผสมความใหม่ภายใต้วัฒนธรรมป็อบมาเล่าได้ไม่สุดในทางใดทางหนึ่ง
ท้ายสุด Under the Silver Lake เป็นภาพยนตร์ที่มีหลากหลายอารมณ์ให้ได้เสพกันตลอดช่วงเวลารับชม มีความแปลกประหลาดในวิธีเล่าเรื่อง และถ่ายทอดเรื่องราวได้น่าสนใจ บรรยากาศของหนังทำให้เราอยากตามติดตัวละครต่อไป จนไปถึงความงุนงงน่าสงสัยว่าทั้งหมดหมายความว่ายังไงกันแน่ ผนวกด้วยเสน่ห์ขององค์ประกอบศิลป์ที่จัดวางไว้อย่างสวยงาม ความเมากาวของตัวละครแซมที่สับสนและมึนไปกับวัฒนธรรมป็อปบ้าบอคอแตก ปรัชญาการใช้ชีวิตที่ไม่เข้าใจ ความมึนในบริบทสังคมที่เสียดสีทิ่มแทง ตลอดจนช่วงเวลาสืบเสาะหาความจริงและค้นพบความจริงจากบ้างสิ่งบ้างอย่าง ทั้งหมดจึงทำให้เราได้รับรสชาติแปลกใหม่ที่บอกไม่ถูกว่าเป็นรสอะไรกลับบ้านหลังดูจบ...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่างหนัง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/