จากข่าวที่จะต้องเปิดเผยข้อมูล ทำให้สรรพากรเก็บภาษีเราจาก ภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก ซึ่งเมื่อก่อนคนส่วนมากก็จะเลือกที่จะปิดบัญชีแล้วเปิดใหม่ หรือไม่ก็ย้ายธนาคาร เมื่อกอกเบี้ยเงินฝากจะครบ 2 หมื่น
อย่างนี่ ถ้าคนที่มีฐานภาษี 0-10% ก็ควรมาทำเรื่อง ขอเครดิตภาษีเงินคืนกับสรรพากร ใช่เปล่าครับ เพราพเมื่อก่อนเลี้ยงได้ไม่แจ้งสรรพากรเลยไม่โดนภาษี แต่พอกฎหมายใหม่ออกมา คนที่ได้ดอกเบี้ยรวมทุกธนาคารมากกว่า 2 หมื่น ยังไงก็โดนเก็บภาษีอย่างเลี่ยงไม่ได้
ทางแก้ของคนที่มีเงินก้อน ควรหาทางแก้ยังไง ที่ผมพอนึกออก
1.ขอเครดิตภาษี โดยเอารายได้จากดอกเบี้ยเงินฝาก ไปคิดรวมรายได้ปกติ แล้วค่อยคิดฐานภาษีใหม่ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ฐานภาษี 0-10% ดีไม่ดีอาจโดนเพิ่มไม่มาก
2.TFFIF ปันผลไม่เสียภาษีเป็นเวลา 8 ปี(มั้งถ้าทำไม่ผิด)
3.ซื่อหุ้นเพื่อหวัง capital gain ซึ่งไม่เสียภาษี
4.ซื้อหน่วยลงทุนกับกองทุนต่างๆ
5.ปันผลจากหุ้น ยอมเสียภาษี 10% แทนที่จะโดนหัก 15% แต่อาจขาดทุนจาก capital gain อนาคจจะถูกเรียกเก็บอีกเปล่าก็ไม่รู้สำหรับตัว capital gain
ไปหาอ่านมาแต่ยังไม่ชัวร์ว่า
***ดอกเบี้ยเงินฝากที่ได้รับจาก สหกรณ์ ไม่ต้องเสียภาษี หรือครับ??*** เพราะถ้าจริงคงมีคนสนใจไปฝากแต่ก็ต้องรับความเสี่ยงกันเอาเอง
รบกวนผู้รู้ช่วยชีแนะด้วยครับ ขอบคุณครับ
จากข่าวเก็บภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก จะทำให้คนขอเครดิตภาษีคืนกันเยอะขึ้นใช่หรือเปล่า สำหรับคนฐานภาษี 5-10%
อย่างนี่ ถ้าคนที่มีฐานภาษี 0-10% ก็ควรมาทำเรื่อง ขอเครดิตภาษีเงินคืนกับสรรพากร ใช่เปล่าครับ เพราพเมื่อก่อนเลี้ยงได้ไม่แจ้งสรรพากรเลยไม่โดนภาษี แต่พอกฎหมายใหม่ออกมา คนที่ได้ดอกเบี้ยรวมทุกธนาคารมากกว่า 2 หมื่น ยังไงก็โดนเก็บภาษีอย่างเลี่ยงไม่ได้
ทางแก้ของคนที่มีเงินก้อน ควรหาทางแก้ยังไง ที่ผมพอนึกออก
1.ขอเครดิตภาษี โดยเอารายได้จากดอกเบี้ยเงินฝาก ไปคิดรวมรายได้ปกติ แล้วค่อยคิดฐานภาษีใหม่ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ฐานภาษี 0-10% ดีไม่ดีอาจโดนเพิ่มไม่มาก
2.TFFIF ปันผลไม่เสียภาษีเป็นเวลา 8 ปี(มั้งถ้าทำไม่ผิด)
3.ซื่อหุ้นเพื่อหวัง capital gain ซึ่งไม่เสียภาษี
4.ซื้อหน่วยลงทุนกับกองทุนต่างๆ
5.ปันผลจากหุ้น ยอมเสียภาษี 10% แทนที่จะโดนหัก 15% แต่อาจขาดทุนจาก capital gain อนาคจจะถูกเรียกเก็บอีกเปล่าก็ไม่รู้สำหรับตัว capital gain
ไปหาอ่านมาแต่ยังไม่ชัวร์ว่า
***ดอกเบี้ยเงินฝากที่ได้รับจาก สหกรณ์ ไม่ต้องเสียภาษี หรือครับ??*** เพราะถ้าจริงคงมีคนสนใจไปฝากแต่ก็ต้องรับความเสี่ยงกันเอาเอง
รบกวนผู้รู้ช่วยชีแนะด้วยครับ ขอบคุณครับ