[แชร์ประสบการณ์แต่งคอนโด] คอนโดมินิมัลของคนเรื่องเยอะ

สวัสดีค่ะ…

วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์การแต่งคอนโดของตัวเอง เพราะจริงๆแอบมาดูไอเดีย และความรู้จากห้องชายคาตลอดช่วงทำบ้าน แม้แต่ผู้รับเหมาก็ได้จากหลังไมค์ไปถามพี่ๆเพื่อนๆในห้องนี้ ก็เลยคิดว่าเป็นหน้าที่ ที่ตัวเองจะมาแชร์บ้าง เพื่อจะเป็นโยชน์… น้อยหรือมากไม่รู้ (ฮา) กับเพื่อนๆค่ะ

บ้าน จขกท เป็นคอนโดนะคะ พื้นที่ใช้สอยภายในประมาณ 36 ตรม ไม่รวมระเบียงที่กว้างเตะบอล ปิ้งบาร์บีคิว อีก 10 ตรม.

*อวดโฉมตอนเสร็จก่อนค่ะ 

แต่เนื่องจาก จขกท เป็นคนเยอะ เรื่องเยอะ เลือกเยอะ เลยไม่ชอบห้องที่แต่งสำเร็จของโครงการ มันทึบ ตัน แล้วก็วัสดุมันดูไม่มีชีวิตชีวา ตอนที่ตกลงซื้อก็เลยบอกว่าซื้อห้องเปล่า แต่ให้เก็บบิลท์อินห้องน้ำ กับครัวไว้ เพราะเค้าบอกว่าสองส่วนนี้ถึงไม่เอา ก็ลดไม่เยอะ ก็เลยไม่อยากเสียตังเพิ่ม

*ห้องที่ได้ก่อนแต่ง

หลังจากซื้อเรียบร้อยแล้ว ความเห่อก็ตามมาค่ะ คิดแปลน หาเรเฟอเรนซ์ หาของแต่งบ้าน หาพื้น หากระเบื้อง เอ้อออ... งานละเอียดค่ะบอกเลย แต่ทั้งหมดทั้งมวล สิ่งที่จำเป็นบอกสำหรับช่วงหาไอเดียสำหรับเรา มีตามนี้ค่ะ

โปรแกรม Sweet Home 3D
เป็นโปรแกรมช่วยวางแปลนบ้านที่ง่ายมาก ไม่เก่งคอมก็น่าจะทำกันได้ ทำให้เราแปลงภาพในหัวที่ฟุ้งๆออกมาให้คนอื่นเข้าใจ เห็นภาพเดียวกัน โทนสีห้องที่แมทช์ไว้มันจะรอดมั้ย เฟอร์วางหมุนซ้ายหมุนขวาดี ก็ลองทำดูในโปรแกรมนี้ค่ะ

Pinterest
อันนี้เป็นแพลทฟอร์มรวมไอเดียต่างๆ ซี่งเราก็ไว้หาแนวบ้านที่ชอบ เช่น โมเดิร์น คลาสสิค ลอฟท์ ส่วนของเราชอบแนวอพาร์ทเม้นท์ในปารีส คือชอบความคิ้ว ความบัว สีขาวดำตัดกันค่ะ แล้วก็ไว้ดูพวกไอเดียวิธีการดีไซน์บิลท์อิน เอาไว้ไปคุยกับช่าง

บ้านและสวน
เว็บไซท์ หรือรายการในยูทูบที่พาไปชมบ้านก็ให้ไอเดียได้เยอะค่ะ การแมทช์สี การแต่งของแต่ละบ้านที่เอามาออกก็สวยๆทั้งนั้น 

*ซ้าย - ภาพแปลนจากโครงการ l ขวา - ภาพที่ลองวางเองจาก Sweet Home 3D

หลังจากได้ไอเดียทำมู้ดบอร์ดทั้งหมดแล้ว ว่าชอบแบบไหน ก็หาช่าง หาของที่ตรงกับที่อยากได้ รวมๆแล้วมีช่างหลักๆที่ช่วยประกอบบ้านนี้ทั้งหมด 4 คนค่ะ
ช่างทำบิลท์อิน
คนสำคัญที่สุดค่ะ และไปวอแวเยอะสุด จริงๆมีหาไว้หลายเจ้า ทั้งมีคนแนะนำมาด้วย แต่เราไปเจอกระทู้แต่งคอนโดในพันทิปกระทู้นึง ที่ว่าสวยดี เลยหลังไมค์ไปขอคอนแทคมาค่ะ หลังจากนั้นเราก็ส่งตัวอย่างให้ดู ตีราคา แต่เจ้านี้ไม่ขึ้นภาพเปอร์ให้นะคะ แต่ดูงานเก่าๆเขาเราค่อนข้างชอบ และดูรับฟังดี ก็เลยตกลงค่ะ  

ช่างปูพื้นไม้
ตอนแรกคนรอบตัวบอกว่าให้ใช้พื้นกระเบื้องลายไม้ เพราะรักษาง่ายสุด แต่ด้วยความรั้น และชอบความอุ่นๆของพื้น เราเลือกเอ็นจิเนียร์วู้ด ก็ดั้นดั้นกูเกิ้ลแล้วไปเจอร้านนึงอยู่แถวราม เจ้าของแนะนำดีค่ะ ก็เลยได้ไม้อเมริกันวอลนัท ไว้ปูห้องนอน กับห้องนั่งเล่นค่ะ ชอบมาก แต่ แต่ แต่ มันเลอะง่ายเหลือเกิน เคยน้ำหยดจากตัวที่ทาบอดี้ออยล์ไว้ เป็นรอยดวงๆเลย ช้ำใจมาก… เจ็บแล้วถึงรู้ ก็เลยกะว่าถ้ามันเลอะเยอะๆจะทาสีดำเข้มไปเลย

ช่างปูกระเบื้อง
ปูกระเบื้องผนังครัว กับทำที่วางเครื่องซักผ้านอกระเบียง กระเบื้องกับยาแนวเราซื้อมาให้ค่ะ ช่างปูอย่างเดียว ตอนนี้เสียดายตรงที่วางเครื่องซักผ้านิดหน่อย น่าจะทำฐาน กับเคาน์เตอร์ด้านบนให้สูงกว่านี้หน่อย ฝนจะได้ไม่สาด และทำความสะอาดง่าย

ช่างม่าน/ช่างมุ้ง
ร้านม่านมีพี่ที่เป็นอินทีเรียร์แนะนำมาอีกที คิดว่าม่านเค้าสวยดีนะคะ ใครอยากรู้หลังไมค์มาได้
ส่วนช่างมุ้งตอนแรกเจอร้านที่เป็นมุ้งจีบถอดเอามาล้างได้ แต่ราคา… คุณพระมาก สู้ไม่ไหว ก็เลยกูเกิ้ลเอา เจอร้านที่ดูรีวิวดี ราคารับได้ ก็เอาร้านนั้นเลย ที่ใช้มาก็ไม่มีปัญหาอะไรนะคะ

*ตัวอย่างบรีฟคุยกับช่างบิลท์อิน ยิ่งละเอียดยิ่งดีค่ะ

*ระหว่างการบิลท์ ช่างแต่ละส่วนก็ทำส่วนตัวเองไป

*ผ่านไปสามเดือน ทุกอย่างก็เรียบร้อย

และหลังจากอยู่ไป 1 ปี
.
.
.
.
.
*ตรงฝั่งตู้ด้านซ้ายของคอนโซลทีวี เป็นตู้หลอกนะคะ เปิดได้ด้านข้างไว้เก็บรองเท้า
.
.
.
.
สรุปบทเรียน ทำบ้านครั้งแรก
1. คุยกับช่างเรื่องการเก็บดีเฟ็คท์ และเซอร์วิสหลังทำเสร็จให้เรียบร้อย เพราะบ้างทีตรวจหน้างานมันโอเค แต่พออยู่จริงแล้วมีปัญหาตามมา เค้าก็ควรจะแก้ให้ อย่างเราประตูเก็บของบ้านนึงมีมอดไม้ เค้าก็เอาไปแก้มาให้ หรือที่ฝังแอร์ผิดไปกับบิลท์อินก็แก้ให้ ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

2. ใครที่จะบิลท์อินตรงที่มีแอร์ติดตั้งแล้ว ให้เช็คกับช่างให้ดีนะคะ ว่าตัวแอร์ต้องไม่ฝังไปกับตัวบิลท์อิน ไม่งั้นจะล้างแอร์ไม่ได้

3. ให้ซื้อที่ชอบจริงๆ อย่าซื้อมาใช้ไปก่อน เพราะสุดท้ายมันจะเป็นการเสียเงินซ้ำซ้อนอยู่ดี
(ตอนนี้เราก็ยังเหลืออีก 5% ที่ยังแต่งไม่ครบนะคะ ขาดโต๊ะหน้าโซฟา กระถางต้นไม้ แต่ยังไม่เจอที่ชอบ ก็ทนอยู่แบบไม่มีต่อไป T-T)

4. ถ้ามีแพลนแต่งบ้าน ให้เดินหาของก่อน ชอบเจ้าไหน ให้ตามเฟซบุ๊คเขาไว้ เผื่อช่วงไหนเขาเซลล์เราจะได้ซื้อเก็บไว้ก่อน เซฟได้ก็เซฟ เพราะการแต่งบ้านมีแสนหมดแสนค่ะ
.
.
.
แนะนำที่ซื้อของ
ร้านกระเบื้อง
เราซื้อที่ร้าน Ceramique ที่รัชดา (ข้างๆบุญถาวร) กับ WDC ที่ CDC เราว่ากระเบื้องแผ่นใหญ่เค้าสวยดี และมีหลายแบบที่บุญถาวรไม่มี

ร้านเฟอร์นิเจอร์
นอกจากพวกงานแฟร์ต่างๆแล้ว เราว่า Chic Republic เป็นอีกตัวเลือกที่น่าไปลองดู ของไม่แพงนะคะ อย่างฐานเตียงนอนควีนไซส์ เราได้มา 8,000 นิดๆ

ร้านโคมไฟ
มีร้าน Y Factory ตรงเลียบด่วนรามอินทราที่ของสวย แล้วก็ร้านตรงปากซอย Big C เอกมัยค่ะ ของโอเค ราคาไม่แรง ไฟย้อยในห้องน้ำได้มาอันละประมาณ 300 (ตัวโชว์)
.
.
.
ไอเท็มที่ซื้อแล้วชอบ ถ้าพังก็จะซื้อซ้ำ
แผ่นหินซับน้ำ
เป็นเทคโนโลยีที่ดีมากแม่! ไว้ซับเท้า หลังจากอาบน้ำเสร็จ แห้งไว ไม่สกปรก ไม่ต้องซักแบบพรม แล้วเดี๋ยวนี้มีหลายสีหลายลายให้เลือกค่ะ ตอนเราซื้อเหมือนเพิ่งทำตลาด แบบน้อย เลยได้สีชมพูที่ไม่เข้ากับอะไรซักอย่างในห้องน้ำมา

ที่กันแมลงหน้าประตู
แมลงสาป จิ้งจก ไม่มีมากวนเลย ตั้งแต่อยู่มา เราซื้อที่โฮมโปร เป็นสีครีมๆ ดูไม่โดดออกไปจากห้อง

เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย
มันดีทั้งในแง่ของความสะดวก ถือไปดูดห้องนู้นห้องนี้ มีหัวแปรงให้เปลี่ยนตามพื้นที่ๆควรใช้ เราใช้ทั้งกับพื้น โซฟา ม่าน ที่นอน ตัวกั้นห้องนอน/ห้องนั่งเล่นที่ซี่พี่เยอะเหลือเกิน และก็ดีในแง่ของความสะอาดค่ะ  ทั้งฝุ่น เศษผมปกติ และไรฝุ่นบนที่นอนก็ดูดออกมาได้
.
.
.
สุดท้ายก็มาถึงค่าใช้จ่าย เบ็ดเสร็จรวมๆ…. ก็กระเป๋าตังค์โล่งไปเยอะเลยค่าาา
บิลท์อิน 290K
กระเบื้องทั้งหมด 30K
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ 60k
เฟอร์นิเจอร์/เครื่องใช้ไฟฟ้า 150K
ทั้งหมดทั้งสิ้น = 530K ---------- อ้าว แพงงง (ฮา)

จบแล้วนะคะสำหรับกระทู้นี้  หวังว่าจะมีประโยชน์นะคะ
ส่วนใครอยากถามเรื่องเฟอร์ เรื่องของแต่งบ้านว่าซื้อที่ไหน ถามได้นะคะ ยินดีตอบค่า
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่