[CR] เวียดนามกลาง (ดานัง ฮอยอัน) ไม่ขายฝัน 7,500 บาทก็ไปได้!!!!

เวียดนามเพลินๆไม่เกิน 7,500 บาท!!!! (รวมค่าตั๋วเครื่องบินแล้วจ้า) เมื่อพูดถึงประเทศเวียดนาม หลายๆคนอาจจะนึกถึง ซาปา-ฮานอย เมืองแห่งสายหมอก หรือ โฮจิมินห์-ดาลัด-มุยเน่ เมืองที่มีรีวิวให้เห็นอยู่บ่อยๆ แต่ครั้งนี้!!  เราจะพาทุกคนเดินทางสายกลางไปกันที่ “เวียดนามกลางงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง” ซึ่งเราจะขอแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับ 2 เมืองสุดตื่นตาตื่นใจไม่แพ้ที่ใดในโลกนั่นก็คือ ฮอยอันและดานัง เมืองท่องเที่ยวที่นอกจากจะมีบ้านเมืองสีสันจี๊ดจ๊าดสะดุดตาแล้ว ยังเป็นเมืองที่มีกลิ่นอายวัฒนธรรมและคุณค่าทางประวัติศาสตร์ สะกดใจให้พวกเราหลายๆคนยกกล้องขึ้นมารัวชัตเตอร์กันจนนิ้วล็อค และเพื่อเพิ่มอรรถรถในการอ่านรีวิวนี้ เราขอแนะนำให้ทุกคนหาหมวกงอบ (n. หมวกทรงสามเหลี่ยม) มาสวมใส่ไว้บนหัว แต่!! ถ้าทุกคนหาไม่ได้เราก็อนุโลมให้ทุกคนหยิบหมวกกันน็อคที่บ้านมาใส่กันก่อน5555555 แล้วมาสไลด์หน้าจอมือถือดูรูปเรื่องราวการเดินทางของเราตลอดระยะเวลา 5 วัน 4 คืนในเวียดนามกลางที่เรากำลังจะเล่าสู่กันฟัง

- การเดินทาง
ทริปนี้เราเดินทางกันทั้งหมด 8 คน พวกเราจองตั๋วเครื่องบินของสายการบิน AirAsia ซึ่งเป็นตั๋วช่วงโปรโมชั่นวันวาเลนไทน์ “เติมความฟิน บินไปกับคนรู้ใจ” เราจองตั๋วไป-กลับ ได้ในราคาประมาณคนละ 2,500 บาท!!!

วันแรกของการเดินทาง หลังจากเช็คอิน เดินผ่าน ตม. กันเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็เดินกันไปที่ Gate เพื่อเตรียมตัวขึ้นเครื่อง ซึ่งทริปนี้เราออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองด้วยไฟล์ท FD 634 ออกจากสนามบิน ดอนเมืองเวลา 07:25 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชั่วโมง30นาที และถึงสนามบินดานังเวลา 09:35 น.


เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินดานัง จากที่พวกเราหลายๆคนกำลังงัวเงียจากการที่เพิ่งตื่นนอนนั้น ก็ต้องตาโตทันที!! เพราะสิ่งแรกที่ทำให้เราสะดุดตาคือ “สนามบินดานัง” ซึ่งเป็นสนามบินที่ดูใหม่และสะอาดมากๆ คนไม่ค่อยพลุกพล่านมากเท่าไหร่ หรืออาจจะเพราะยังเช้าาาาาาาาาาาาตรู่


เพื่อที่จะอัพเดทชีวิตดี๊ดีย์ของเราในประเทศเวียดนามนั้น เราจึงจำเป็นที่จะต้องมีอินเทอร์เน็ตที่ เร็ว! แรง! ทะลุนรก! ซึ่งเราเลือกใช้เครือข่ายของ Vinaphone ที่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตและโทรภายในประเทศได้  7 วัน ในราคา 180.000 VND หลังจากที่เราเปลี่ยนซิมกันเรียบร้อยแล้ว เราก็จะมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองฮอยอัน ซึ่งการเดินทางเข้าเมืองฮอยอันนั้น เราได้ทำการจองรถให้มารับที่สนามบินดานังผ่านเว็บจอง www..klook.com สำหรับ 9 ที่นั่ง (จองจากประเทศไทย) ในราคา 721 บาท นั่งสบายๆกันไปเลยจ้า


--------------------------------------------------------- วันที่หนึ่ง : ฮอยอัน ปั่นยาวๆไปเลยจ่ะแม่ ---------------------------------------------------

และแล้วเราก็เดินทางมาถึงเมืองฮอยอันนนนนนน ซึ่งระหว่างทางเราก็ได้เห็นบ้านเมืองที่มีสีสันต่างๆกันไป และสถาปัตยกรรมที่สวยบ้างแปลกบ้างให้ได้ตื่นตาตื่นใจกันพอประมาณ รถมาจอดส่งเราถึงหน้าที่พักซึ่งที่พักที่เราเข้าพักกันในคืนแรกคือ Nguyen's House - Homestay Hội An อยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยว และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของฮอยอัน ถ้าพูดถึงที่พักสำหรับคืนแรกนี้จะเป็นเหมือนบ้านพักที่เปิดเป็นโฮมสเตย์ เจ้าของบ้านก็ใจดีและเป็นกันเอง ซึ่งห้องนอนเป็นเตียง 2 ชั้น มีห้องน้ำรวม โดยรวมแล้วถือว่าดีค่ะ อบอุ่นเหมือนอยู่บ้านกับราคาที่คุณจับต้องได้!


หลังจากที่พวกเราเข้าห้องพักเก็บของ แอบเอนกายลงเตียงได้ 2 วินาทีเท่านั้น! เราก็ต้องรีบลุกออกมา Say Hi! เมืองฮอยอัน โดยพวกเราเลือกใช้จักรยาน เป็นยานพาหนะในการรับลมชมเมือง เสพบรรยากาศกลิ่นอายเมืองแห่งวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ซึ่งที่แรกที่เรามุ่งหน้าไปคือร้านอาหาร ใช่ค่ะ!! กองทัพต้องเดินด้วยท้อง และร้านอาหารมื้อแรกที่เวียดนามของเราแนะนำโดย พี่เจ้าของโรมแรม ชื่อร้านว่า “ Không Cầm Quán ” บรรยากาศของร้านโดยรวมถือว่าดี แต่ในส่วนของอาหารไม่แนะนำสำหรับคนที่ต้องการกินอาหารพื้นเมือง เพราะในเมนูมีแต่อาหารทั่วๆไป พูดง่ายๆว่าบ้านเราก็มี5555555555


หลังจากที่หนังท้องตึงหนังตาเราก็หย่อน…… ผ่ามมม!!!! เราออกเดินทางชมเมืองกันต่อโดยสถานที่แรกที่เราจะมุ่งหน้าไปคือ เมืองโบราณฮอยอัน เรามาทำความรู้จักกับเมืองฮอยอันกันซะหน่อย! ฮอยอันเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมคล้ายๆกับอยุธยาบ้านเรา เมืองเก่าฮอยอันเป็นเมืองการค้าศูนย์กลางในอดีตและด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม เดิมทีเมืองฮอยอันเป็นเมืองที่มีชาวต่างชาติมาตั้งถิ่นฐานและค้าขายเป็นจำนวนมากทั้งจีน ญี่ปุ่น ดัตช์ และอินเดีย

บรรยากาศรอบๆ เมืองเก่าฮอยอัน


เราจอดจักรยานแล้วเดินกันต่อมาที่แม่น้ำทูโบน ซึ่งถ้ามาฮอยอันแล้วไม่มาเยี่ยมชมแม่น้ำทูโบนจะถือว่ามาไม่ถึง!! เพราะเป็นแม่น้ำที่มีความสำคัญมาตั้งแต่สมัยก่อนมีชาวต่างชาติมากมายล่องเรือมาทำการค้าขายที่เมืองแห่งนี้ ซึ่งทำให้ฮอยอันเปรียบเสมือนศูนย์กลางของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกกับตะวันตก และในปัจจุบันถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีการค้าขายแล้วแต่ก็ยังมีความสำคัญต่อชาวเมืองฮอยอันในการดำเนินชีวิต ซึ่งเห็นได้จากชาวบ้านที่ยังออกหาปลาในแม่น้ำ และยังสัญจรไปมาหาสู่กันระหว่างสองฟาก


สะพานญี่ปุ่น ตัวสะพานสร้างโดยชาวญี่ปุ่นเมื่อ 400 กว่าปีที่แล้ว มีลักษณะสถาปัตยกรรมเฉพาะตัว พอข้ามสะพานมาอีกฝากหนึ่งจะพบบ้านเรือนสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ เลย


วัดฟุกเกี๊ยน เป็นสมาคมชาวจีนที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่แห่งเมืองฮอยอัน จะพบปะคนที่มีนามสกุลเดียวกัน จุดเด่นคือมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม มีงานไม้แกะสลักลวดลายต่างๆ และยังเป็นสถานที่ที่สร้างเพื่ออุทิศให้กับพระนางเทียนเห่า ซึ่งเป็นเทพธิดาแห่งท้องทะเลฟุกเกี๊ยน ซึ่งโชคไม่เข้าข้าง….วันที่เรามาภายในวัดปิดไม่ให้เข้าชมหลายพื้นที่ เราจึงไม่ได้เข้าไปชมภายในT^T


เราได้ไปซื้อบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ซึ่งบัตรที่เราซื้อมาราคาใบละ 120.000 VND สามารถเข้าชมสถานที่ภายในเมืองเก่าฮอยอันได้ 5 ที่เลยจ้า


บ้านเลขที่ 101 เป็นบ้านไม้เก่าแก่ของชาวจีนที่ถูกตกทอดมากกว่า 5 รุ่น ภายในบ้านยังคงสภาพดี มีความคลาสสิค มีข้าวของ เครื่องใช้เก่าแก่ไว้เป็นอย่างดี เป็นบ้านสไตล์ชาวจีน มีบ่อน้ำอยู่ตรงกลางบ้าน เนื่องจากตัวบ้านใกล้อยู่แม่น้ำทูโบนจึงสามารถเกิดน้ำท่วมได้ ซึ่งเราสามารถดูระดับน้ำได้จากการบันทึกระดับน้ำบนฝาผนังบ้านได้


พิพิธภณัฑเ์ซรามิค เป็นบ้านไม้เก่าแก่ที่ถูกดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ซึ่งจะแสดงโบราณวัตถุเอาไว้ เช่น ถ้วยชามสมัยโบราณ ของเก่าต่างๆที่แสดงให้เห็นถึงอดีต ความเป็นมาของเมืองฮอยอัน และจัดแสดงวิถีชีวิตของคนในอดีต


หลังจากที่เราปั่นๆ เดินๆ วิ่งๆ กันมาซักพักก็เริ่มกระหายน้ำ เนื่องจากแดดค่อนข้างร้อนเลยทีเดียว เราจึงแวะหาน้ำดื่มชื่อร้านว่า Mót Hội An จึงสั่งน้ำดอกบัวมาดื่มกันคนละแก้ว รสชาติเหมือนชามะนาวบ้านเราแต่มีกลิ่นของดอกบัวหอมๆ อร่อยชื่นใจ เหมาะกับอากาศร้อนๆตอนบ่ายๆมากจ้า


หลังจากที่เรานั่งเมาท์มอยกับสิ่งที่ตื่นตาตื่นใจ อัพเดทชีวิตดีๆลงโซเชียลกันแล้ว เวลาก็ผ่านมาจนเริ่มเย็นคนเริ่มเยอะเรียกว่าเยอะมากๆ เยอะกว่าตอนกลางวันที่เราเดินกัน เนื่องจากที่เมืองเก่าฮอยอันเวลาเย็นจะมีกิจกรรมมากมายบริเวณแม่น้ำทูโบน เช่น ลอยกระทงกระดาษ ลอยโคม ล่องเรือ ชมการประดับโคมไฟที่สวยงามและยังมีร้านอาหาร ร้านค้าขายของที่ระลึกมากมายริมฝั่งแม่น้ำเรียกได้ว่าครึกครื้นและน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับพวกเราเป็นอย่างมาก

บรรยากาศบริเวณตลาดกลางคืนเมืองเก่าฮอยอัน

 
มื้อเย็นของเรา!! เราเลือกกินเป็นอาหารพื้นเมือง เช่น แหนมเนือง เฝอ แล้วก็อะไรอีกอย่างหนึ่งที่คล้ายๆก๋วยเตี๋ยว ซึ่งเมนูเฝอเนี่ย เราได้สั่งเป็นเฝอไก่ กับเฝอเนื้อ(หมา!!!!) ตอนแรกที่ได้ชิมเนื้อของที่นี่ก็รู้สึกกว่าเนื้อที่นี่ไม่มีกลิ่นเลย อร่อยนุ่มลิ้นมากกกก แล้วในตอนสุดท้ายเพื่อนก็มาเฉลยว่าเป็นเนื้อน้องหมาไม่ใช่เนื้อวัว อร่อยยั่วๆไปเลยจ้าาาา


เราไม่พลาดที่จะร่วมลอยกระทงหลงทาง55555555 ราคาใบละ20.000 VND


ร่ำลาวันแรกไปด้วยรูปความประทับใจจ้าาา


วันที่ 2 เดี๋ยวมาอัพต่อจ้า รอติดตามกันได้เลยจ้า