วันนี้เดินผ่านบูทก็มีเด็กเอาโบว์ชัวร์มายื่นให้เป็นโบว์ชัวร์เกี่ยวกับคอร์สทำหน้าแล้วก็เชิญชวนต่าง ๆ นานา
เราก็ไม่ได้สนใจ แต่น้องเขาก็พูดจาดี ขอให้เราช่วยเขียนชื่อให้หน่อย
เราก็เลยเขียนให้ (เพราะคิดว่าข้อมูลอย่างมากคงเอาไปให้นายดูว่าวันนี้เขาได้พยายามเชิญชวนคนแล้วนะ กี่คนก็ว่ากันไป) ก็เลยช่วยลงให้น้องเขา
แล้วเขาก็เลยให้ไปลองตรวจเช็คผิวหน้า จังหวะนั้นน้องก็พูดหว่านล่อม แล้วเขาก็สุภาพดี
เราก็เลยเช็ค ๆ ไปหน่อยละกัน แล้วน้องก็อธิบายเกี่ยวกับผิวหน้าเรา หน้ามัน ขาดคอลลาเจนนะครับ บลาๆๆๆ
แล้วเขาก็พยายามขายคอร์สทำหน้าให้เรา แต่ไม่สำเร็จ และคงไม่สำเร็จในช่วงนี้ง่ายๆ (เพราะมันนอกเหนือจากความสนใจของเรา ก็จะไม่อ่อนไหวนะจ๊ะ)
สุดท้ายเรามาตกม้าตายเพราะคอร์สนวดตัว นวดไทย นวดฝ่าเท้า เพราะปกติเป็นคนชอบนวดอยู่แล้ว
ไปนวดมาหลายร้านกว่าจะเจอที่ถูกใจ บางทีถูกใจแล้ว พอไปบ่อยๆ เข้าแล้วมาตรฐานเปลี่ยนเราก็มองหาร้านใหม่ ๆ อยู่เรื่อย ๆ
น้องเขาก็ขายให้เรา 3 ชม. ค่อยเอาไปใช้วันไหนก็ได้ เราก็ซื้อแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะราคาเท่าๆกับร้านเดิมที่เราชอบไปอยู่แล้ว แถมที่นี้ก็ใกล้บ้านดี (เป็นห้างเล็ก ๆ แถวบ้าน เดินมาได้เลย)
แล้วเราก็ลองใช้สิทธินวด ณ วันนี้เลย
ตอนนวด ก็เป็นคุณป้าคนนึงนวดให้ ป้าก็อัธยาศัยดีน่ารัก ไม่ได้ชวนคุยอะไรตลอดเวลา
โดยรวมป้าก็นวดดี แต่เราชอบแรงๆ ก็เลยยังไม่ค่อยฟินเท่าไหร่ บวกกับได้ยินป้าบ่นกับอีกห้องนึงว่าวันนี้รับลูกค้าไม่ได้หยุดเลย เลยเข้าใจและเห็นใจป้า
เราก็รู้สึกโอเคกับร้านนี้นะ ถึงจะยังไม่มาก แต่เดี๋ยวมาใช้บริการใหม่อีก 2 ชม. เพราะซื้อไว้ 3 ชม.
หลังจากนวดเสร็จก็ออกไปนั่งใส่รองเท้า น้องคนเดิมก็เดินมาหาแล้วก็ขอมาแนะนำคอร์สให้ฟังหน่อย
เราก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก น้องเขาก็เอาก็เอาคอร์สนวดมานำเสนอให้ราคาคุ้มนะ แต่ซื้อทีนึง 20 ชม.พร้อมของถามบลาๆๆ เรามองว่ามากไปหน่อย ก็ไม่สนใจ เขาก็ลดลงมาเหลือ 10 ชม. พร้อมของครึ่งนึงของเมื่อกี้ ลึกๆเราก็สนใจแหละ แต่โดยรวมแล้วเราถูกจริตกับร้านเดิมมากกว่าในราคาเท่ากัน
ถึงแม้ของน้องเขาที่เสนอมานั้นจะถูกกว่าร้านเดิมเรา แต่เราถูกจริตกับร้านนั้นมากกว่า เราก็หนักแน่นว่าไม่สนใจ
ทีนี้เลยมีพี่ผู้หญิงมาช่วยน้องพูดให้ทั้งคอร์สนวดแบบ 10 ชม. ราคาเท่านี้ ได้ของแถมเท่าโน้น 6 ชม. ราคาเท่านี้ ได้ของแถมเท่านี้
มีการ Custom ให้เราอย่างหลากหลาย มีแบบของแถมให้ลองทำหน้า ในราคา 3000 บลาๆๆ (อยากจะบอกว่าที่นำเสนอมามันคุ้มค่านะ แต่วิธีการนำเสนอฮาร์ดเซลหนักมาก) เราก็เริ่มตั้งกำแพงละ เพราะของพวกนี้มันจะต้องซื้อเลย แต่เราชอบมีเวลาคิดก่อนแล้วก็กำลังประมวลผลระหว่างความคุ้มค่ากับของเดิม ร้านเดิมที่ถูกจริตอยู่แล้ว เราก็เลยรู้สึกว่าไม่เอาละกันเดี๋ยวกลับไปร้านเดิมที่ถูกจริตอยู่แล้วดีกว่า เขาก็ถามเราว่าเราติดปัญหาไรหรือเปล่า ทำไมไม่เอา เราก็ยังไม่สนใจ นั้นนู้นนี้ เขาก็ถามมันมากไปหรอ บลาๆๆ หรือจ่ายเยอะไปหรือยังไง บลาๆๆๆ เราก็เลยตอบไปตรงๆว่าเราเองมีร้านที่อยู่ในใจอยู่แล้วในราคาเท่าๆกัน เรายังไม่เอาดีกว่า แล้วด้วยไลฟ์สไตล์เราเองไม่ได้ชอบจ่ายเงินก้อน (ในใจคือวันนี้เพิ่งลงคอร์สเรียนเปย์น้องชายไปก้อนนึงเลยไม่อยากใช้ อันนี้ไม่ได้บอกเขานะ)
จังหวะนั้นเองก็มีอีกคนเข้ามาช่วยขาย เป็นผู้หญิงสวย ผิวดี แต่งตัวดี เดาเอาเองว่าเป็นเจ้าของร้านเพราะทั้งสองคนก่อนหน้าดูเคารพเขาแล้วเขาก็ดูมีอำนาจในการตัดสินใจ แล้วทั้งสองคนก็เล่าให้ฟังว่าขายคอร์สอะไรให้ไปแล้วบ้าง
เอางี้นะ พี่ให้เราอย่างนี้บลาๆๆ เราก็ยืนยันคำเดิมว่าเรามีร้านที่อยู่ในใจอยู่แล้วที่พี่ให้มามันคุ้มนะแต่ยังดีกว่า เขาเลยดูว่าวันนี้ใครนวดให้เราแล้วก็หันหน้ามองกัน (ในใจคืออย่าไปว่าป้าเขาเลยค่าา เข้าใจเขาได้ยินเขาคุยกันอยู่) แล้วผู้หญิงคนนี้ก็นำเสนอคอร์สต่าง ๆ ใส่เรารัว ๆ เราก็ยืนยันว่าไม่สนใน
เขาก็แบบติดปัญหาอะไร กับคอร์สนั้นนู้นนี้ เรื่องเงินแหละดูทรงแล้ว น่าจะมากไป (ในใจคือมันได้มากไปหรอกมันก็อยู่ในราคาที่จ่ายได้ แต่การขายของทุกคนที่รัวๆใส่เรา กำแพงเรามันสูงไปถึงดาวอังคารแล้วค่า) แล้วเราเลยบอกว่าราคาหรืออะไรเราก็จ่ายได้แต่เราไม่เอาเพราะเรามีร้านที่ถูกใจอยู่แล้ว
เขาก็เลยเอางี้นะ งั้นทำหน้าไหม คราวนี้ไม่เกี่ยวกับการนวดแล้วนะ พร้อมหันไปพูดกับสองคนนั้นว่าเรามีร้านที่อยู่ในใจอยู่แล้วก็ปล่อยเขาไป
แล้วหันมาพูดกับเราต่อ ดูก็รู้เลยถึงเราจะไม่ค่อยเป็นสิวนะแต่หน้าเราแบคทีเรียเยอะชัวร์ แล้วก็พวกคอลลาเจนไรพวกนี้ นวัตกรรมนี้นะมันดีอย่างโน้นดีอย่างนี้ เราก็ยืนยันว่าไม่เอา (ยิ่งทำหน้าคือไม่เคยทำ ถ้าปกติอะไรที่ไม่เคยทำก็จะเป็นคนที่ขอหาข้อมูลก่อน พร้อมกับสิ่งนี้คือไม่เคยอยู่ใน List ที่เราสนใจอยู่แล้วย) เราก็เลยบอกไปตรงๆว่าไม่ได้สนใจการทำหน้ามันอยู่หนอกเหนือจากสิ่งที่เราสนใจ เขาก็เลยพูดกลับมาว่าน่าจะติดเรื่องเงินแหละ นั้นนู้นนี้ เราก็ได้แต่พยายามหาวิธีออกมาจากตรงนั้นโดยการปฏิเสธทุกอย่างแล้วก็รีบหนีอย่างเร็วที่สุด
ที่พิมพ์มาทั้งหมด อยากจะฝากบอกร้านต่าง ๆ หรือคนที่ชอบทำแบบนี้ ให้สังเกตพฤติกรรม รับฟังความคิดเห็นเขาด้วยไม่ใช่จะยัดเยียดอย่างเดียวแล้วยังพูดไม่ดีใส่ คือที่เขาซื้อครั้งแรกแล้วนั้นก็คือเขาเปิดใจให้นะ ถ้าคุณภาพดี ราคาโอเค บริการดี เขาก็คงจะอยากใช้ต่อเรื่อย ๆ ถ้าเกิดว่าลูกค้าไม่กลับมาใช้ต่อเรื่อย ๆ ก็ลองดูไหมว่าผิดพลาดตรงไหน รับฟังฟีดแบ็กแล้วเอามาปรับปรุง ไม่ใช่จะมายัดเหยียดอย่างเดียวโดยไม่สนใจความรู้สึกลูกค้า
ลองทำการขายแบบอื่นดูบ้างนอกจากการฮาร์ดเซลรัว ๆ หาวิธีรักษาลูกค้าที่เปิดใจมาแล้ว สร้าง first impression ที่ดี สร้างประสบการณ์ที่ดี ให้ลูกค้าบอกปากต่อปาก ของดีก็อยากแนะนำต่อ
ส่วนที่ยังเหลืออีก 2 ชม. คิดว่าจะช่างมันเพราะไม่อยากกลับไปเจออะไรแบบนี้ แล้วก็เป็นบทเรียนว่าต่อไปนี้จะไม่ใจอ่อนช่วยใครลงชื่อให้เพราะอยากช่วยพนักงานขายอีกละ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ ใครมีประสบการณ์คล้าย ๆ กันมาแชร์กันได้นะคะ
ครั้งแรกที่ซื้อคอร์สตามห้าง โดยได้ของแถมเป็นเสียความรู้สึก
เราก็ไม่ได้สนใจ แต่น้องเขาก็พูดจาดี ขอให้เราช่วยเขียนชื่อให้หน่อย
เราก็เลยเขียนให้ (เพราะคิดว่าข้อมูลอย่างมากคงเอาไปให้นายดูว่าวันนี้เขาได้พยายามเชิญชวนคนแล้วนะ กี่คนก็ว่ากันไป) ก็เลยช่วยลงให้น้องเขา
แล้วเขาก็เลยให้ไปลองตรวจเช็คผิวหน้า จังหวะนั้นน้องก็พูดหว่านล่อม แล้วเขาก็สุภาพดี
เราก็เลยเช็ค ๆ ไปหน่อยละกัน แล้วน้องก็อธิบายเกี่ยวกับผิวหน้าเรา หน้ามัน ขาดคอลลาเจนนะครับ บลาๆๆๆ
แล้วเขาก็พยายามขายคอร์สทำหน้าให้เรา แต่ไม่สำเร็จ และคงไม่สำเร็จในช่วงนี้ง่ายๆ (เพราะมันนอกเหนือจากความสนใจของเรา ก็จะไม่อ่อนไหวนะจ๊ะ)
สุดท้ายเรามาตกม้าตายเพราะคอร์สนวดตัว นวดไทย นวดฝ่าเท้า เพราะปกติเป็นคนชอบนวดอยู่แล้ว
ไปนวดมาหลายร้านกว่าจะเจอที่ถูกใจ บางทีถูกใจแล้ว พอไปบ่อยๆ เข้าแล้วมาตรฐานเปลี่ยนเราก็มองหาร้านใหม่ ๆ อยู่เรื่อย ๆ
น้องเขาก็ขายให้เรา 3 ชม. ค่อยเอาไปใช้วันไหนก็ได้ เราก็ซื้อแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะราคาเท่าๆกับร้านเดิมที่เราชอบไปอยู่แล้ว แถมที่นี้ก็ใกล้บ้านดี (เป็นห้างเล็ก ๆ แถวบ้าน เดินมาได้เลย)
แล้วเราก็ลองใช้สิทธินวด ณ วันนี้เลย
ตอนนวด ก็เป็นคุณป้าคนนึงนวดให้ ป้าก็อัธยาศัยดีน่ารัก ไม่ได้ชวนคุยอะไรตลอดเวลา
โดยรวมป้าก็นวดดี แต่เราชอบแรงๆ ก็เลยยังไม่ค่อยฟินเท่าไหร่ บวกกับได้ยินป้าบ่นกับอีกห้องนึงว่าวันนี้รับลูกค้าไม่ได้หยุดเลย เลยเข้าใจและเห็นใจป้า
เราก็รู้สึกโอเคกับร้านนี้นะ ถึงจะยังไม่มาก แต่เดี๋ยวมาใช้บริการใหม่อีก 2 ชม. เพราะซื้อไว้ 3 ชม.
หลังจากนวดเสร็จก็ออกไปนั่งใส่รองเท้า น้องคนเดิมก็เดินมาหาแล้วก็ขอมาแนะนำคอร์สให้ฟังหน่อย
เราก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก น้องเขาก็เอาก็เอาคอร์สนวดมานำเสนอให้ราคาคุ้มนะ แต่ซื้อทีนึง 20 ชม.พร้อมของถามบลาๆๆ เรามองว่ามากไปหน่อย ก็ไม่สนใจ เขาก็ลดลงมาเหลือ 10 ชม. พร้อมของครึ่งนึงของเมื่อกี้ ลึกๆเราก็สนใจแหละ แต่โดยรวมแล้วเราถูกจริตกับร้านเดิมมากกว่าในราคาเท่ากัน
ถึงแม้ของน้องเขาที่เสนอมานั้นจะถูกกว่าร้านเดิมเรา แต่เราถูกจริตกับร้านนั้นมากกว่า เราก็หนักแน่นว่าไม่สนใจ
ทีนี้เลยมีพี่ผู้หญิงมาช่วยน้องพูดให้ทั้งคอร์สนวดแบบ 10 ชม. ราคาเท่านี้ ได้ของแถมเท่าโน้น 6 ชม. ราคาเท่านี้ ได้ของแถมเท่านี้
มีการ Custom ให้เราอย่างหลากหลาย มีแบบของแถมให้ลองทำหน้า ในราคา 3000 บลาๆๆ (อยากจะบอกว่าที่นำเสนอมามันคุ้มค่านะ แต่วิธีการนำเสนอฮาร์ดเซลหนักมาก) เราก็เริ่มตั้งกำแพงละ เพราะของพวกนี้มันจะต้องซื้อเลย แต่เราชอบมีเวลาคิดก่อนแล้วก็กำลังประมวลผลระหว่างความคุ้มค่ากับของเดิม ร้านเดิมที่ถูกจริตอยู่แล้ว เราก็เลยรู้สึกว่าไม่เอาละกันเดี๋ยวกลับไปร้านเดิมที่ถูกจริตอยู่แล้วดีกว่า เขาก็ถามเราว่าเราติดปัญหาไรหรือเปล่า ทำไมไม่เอา เราก็ยังไม่สนใจ นั้นนู้นนี้ เขาก็ถามมันมากไปหรอ บลาๆๆ หรือจ่ายเยอะไปหรือยังไง บลาๆๆๆ เราก็เลยตอบไปตรงๆว่าเราเองมีร้านที่อยู่ในใจอยู่แล้วในราคาเท่าๆกัน เรายังไม่เอาดีกว่า แล้วด้วยไลฟ์สไตล์เราเองไม่ได้ชอบจ่ายเงินก้อน (ในใจคือวันนี้เพิ่งลงคอร์สเรียนเปย์น้องชายไปก้อนนึงเลยไม่อยากใช้ อันนี้ไม่ได้บอกเขานะ)
จังหวะนั้นเองก็มีอีกคนเข้ามาช่วยขาย เป็นผู้หญิงสวย ผิวดี แต่งตัวดี เดาเอาเองว่าเป็นเจ้าของร้านเพราะทั้งสองคนก่อนหน้าดูเคารพเขาแล้วเขาก็ดูมีอำนาจในการตัดสินใจ แล้วทั้งสองคนก็เล่าให้ฟังว่าขายคอร์สอะไรให้ไปแล้วบ้าง
เอางี้นะ พี่ให้เราอย่างนี้บลาๆๆ เราก็ยืนยันคำเดิมว่าเรามีร้านที่อยู่ในใจอยู่แล้วที่พี่ให้มามันคุ้มนะแต่ยังดีกว่า เขาเลยดูว่าวันนี้ใครนวดให้เราแล้วก็หันหน้ามองกัน (ในใจคืออย่าไปว่าป้าเขาเลยค่าา เข้าใจเขาได้ยินเขาคุยกันอยู่) แล้วผู้หญิงคนนี้ก็นำเสนอคอร์สต่าง ๆ ใส่เรารัว ๆ เราก็ยืนยันว่าไม่สนใน
เขาก็แบบติดปัญหาอะไร กับคอร์สนั้นนู้นนี้ เรื่องเงินแหละดูทรงแล้ว น่าจะมากไป (ในใจคือมันได้มากไปหรอกมันก็อยู่ในราคาที่จ่ายได้ แต่การขายของทุกคนที่รัวๆใส่เรา กำแพงเรามันสูงไปถึงดาวอังคารแล้วค่า) แล้วเราเลยบอกว่าราคาหรืออะไรเราก็จ่ายได้แต่เราไม่เอาเพราะเรามีร้านที่ถูกใจอยู่แล้ว
เขาก็เลยเอางี้นะ งั้นทำหน้าไหม คราวนี้ไม่เกี่ยวกับการนวดแล้วนะ พร้อมหันไปพูดกับสองคนนั้นว่าเรามีร้านที่อยู่ในใจอยู่แล้วก็ปล่อยเขาไป
แล้วหันมาพูดกับเราต่อ ดูก็รู้เลยถึงเราจะไม่ค่อยเป็นสิวนะแต่หน้าเราแบคทีเรียเยอะชัวร์ แล้วก็พวกคอลลาเจนไรพวกนี้ นวัตกรรมนี้นะมันดีอย่างโน้นดีอย่างนี้ เราก็ยืนยันว่าไม่เอา (ยิ่งทำหน้าคือไม่เคยทำ ถ้าปกติอะไรที่ไม่เคยทำก็จะเป็นคนที่ขอหาข้อมูลก่อน พร้อมกับสิ่งนี้คือไม่เคยอยู่ใน List ที่เราสนใจอยู่แล้วย) เราก็เลยบอกไปตรงๆว่าไม่ได้สนใจการทำหน้ามันอยู่หนอกเหนือจากสิ่งที่เราสนใจ เขาก็เลยพูดกลับมาว่าน่าจะติดเรื่องเงินแหละ นั้นนู้นนี้ เราก็ได้แต่พยายามหาวิธีออกมาจากตรงนั้นโดยการปฏิเสธทุกอย่างแล้วก็รีบหนีอย่างเร็วที่สุด
ที่พิมพ์มาทั้งหมด อยากจะฝากบอกร้านต่าง ๆ หรือคนที่ชอบทำแบบนี้ ให้สังเกตพฤติกรรม รับฟังความคิดเห็นเขาด้วยไม่ใช่จะยัดเยียดอย่างเดียวแล้วยังพูดไม่ดีใส่ คือที่เขาซื้อครั้งแรกแล้วนั้นก็คือเขาเปิดใจให้นะ ถ้าคุณภาพดี ราคาโอเค บริการดี เขาก็คงจะอยากใช้ต่อเรื่อย ๆ ถ้าเกิดว่าลูกค้าไม่กลับมาใช้ต่อเรื่อย ๆ ก็ลองดูไหมว่าผิดพลาดตรงไหน รับฟังฟีดแบ็กแล้วเอามาปรับปรุง ไม่ใช่จะมายัดเหยียดอย่างเดียวโดยไม่สนใจความรู้สึกลูกค้า
ลองทำการขายแบบอื่นดูบ้างนอกจากการฮาร์ดเซลรัว ๆ หาวิธีรักษาลูกค้าที่เปิดใจมาแล้ว สร้าง first impression ที่ดี สร้างประสบการณ์ที่ดี ให้ลูกค้าบอกปากต่อปาก ของดีก็อยากแนะนำต่อ
ส่วนที่ยังเหลืออีก 2 ชม. คิดว่าจะช่างมันเพราะไม่อยากกลับไปเจออะไรแบบนี้ แล้วก็เป็นบทเรียนว่าต่อไปนี้จะไม่ใจอ่อนช่วยใครลงชื่อให้เพราะอยากช่วยพนักงานขายอีกละ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ ใครมีประสบการณ์คล้าย ๆ กันมาแชร์กันได้นะคะ