รีวิว งานจับมือครั้งแรกของผม

กระทู้สนทนา
ว่าจะเขียนนานแล้ว แต่มันติดนั่นติดนี่ อีกอย่างงานจับมือรอบ เมษาถือว่าเป็นการเปิดโลกของผมก็ว่าได้

1.เดินทางจากเชียงใหม่ ไป กทม ด้วยบัตรจับมือ 2ใบ (สำหรับวันอาทิตย์) ไปหาเอาหน้างานอีก5ใบ (วันเสาร์2 อาทิตย์อีก3)

2.ที่ไปวันเสาร์ทั้งที่ไม่อยู่ในแผนเพราะว่าไปถึง กทม แล้วไม่มีอะไรทำ

3.กว่าจะหาบัตรวันเสาร์เจอก็ปาไปจะรอบพิเศษแล้ว ซึ่งจากการตัดสินใจฉับพลันระหว่า คามิ(จน.) กับโอชิ(ปป.) เลยตัดสินใจ เลือก โอชิ เพราะแถวสั้นกว่า (เพราะถ้าไปต่อ แถวคมิตัวเองกลัวโดนตัดบัตร เลยเสียดายเพราะไปครั้งแรก)

4.เลยใช้บัตร2ใบไปจับมือโอชิตัวเองด้วยคำเมือง แต่ก็เป็นการตัดสินใจที่ผิด เพราะคุยภาษาเมืองกับเป้ แล้วไม่รู้สึกถึงความเป็นไอดอลเลย เหมือนคุยกับเด็กสาวแถวบ้านมากกว่า

5.วันอาทิตย์ ไปจับมือกับเป้เป็นคนแรก คราวนี้พูดไทยกับเป้ ค่อยรู้สึกเป็นไอดอลหน่อย แต่ ด้วยความกวนของเป้ (เป้ดึงเวลาคิด กวนดี แต่ไม่ได้ไม่ชอบนะ แต่ถ้ามีบัตรมจับวนหลายๆไป คิดว่าน่าจะสนุกกว่านี้) เลยจับเป้แค่นี้เพราะบัตรไม่พอ ไว้คราวหน้า มีหลายๆใบจะมาจับวนคุย เพราะได้ข้อมูลมาว่า เป้คุยสนุก แต่เป้เป็นประเภทที่แบบมีศิลปะในการดึงเวลา ถ้ามีบัตรหลายๆใบวนจับจะสนุกมาก คือ เลนเป้คนไม่เยอะ บุนึงสามารถวนได้หลายรอบ ถ้ามีหลายๆใบคุยกับเป้จะสนุกมาก (และเปลืองมาก) เท่าที่สังเกตแม้คนไม่เยอะ แต่คนวนเยอะมาก

6.จากนั้นก็ไปจับโอชิอีกคน คือรินะ สมคำร่ำลือ รินะตัวจริง หน้ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เทียบกับ รูปถ่าย หรือดูจากการที่ไปออกรายการต่างๆ คือ รินะไม่ขึ้นกล้องอย่างแรง การไปจับมือรินะ คือดีมาก พอหมดเวลาก็ไม่ยอมปล่อยมือ จนเกรงใจพี่การืด ไปจับรินะ2ครั้ง ได้ความรู้สึกดีทั้ง2ครั้ง (ไม่ได้วน แต่ไปจับ2บุ บุละรอบ) ถ้าให้เปรียบ การจับมือรินะ เหมือนเล่น RO เซิร์ฟเถื่อน ที่ไปคุยกับnpc นอกจากได้ฮีลแล้ว บัฟ ต่างๆมาเต็ม คือมันดีแบบนั้นจริง

7.จากนั้นก้ไปจับมือคามิโอชิตัว นั่นคือ เจนนิษฐ์ คนเยอะมาก วนได้บุละรอบ รอบแรกในการจับมือ อึ้งไป5วิ กับการจับมือแล้วมองหน้าอยู่อย่างนั้น จนลูกพี่ทักมาว่าสวัสดีแล้วก็บอกว่ารักษาสุขภาพด้วย แค่นั้นยังไม่พอวนมาอีกรอบ ลูกพี่จำได้ คราวนี้บอกว่ามาจากเชียงใหม่ ลูกพี่ก็บอกว่ารักาาสุขภาพด้วฝุ่นเยอะ แม้ฟังดูจะเหมือนตอบเป็น แพทเทิร์น เหมือน npc เกมส์ RPG แต่ด้วยการที่เป็นลูกน้องที่ดี เข้าใจว่างานจับมือ เป็น อีเวนท์ที่เหนื่อยที่สุดของลูกพี่ เราก็เข้าใจ และความรู้สึกส่วนตัว ไม่ต้องคุยอะไรกัน การได้จับมือ มองหน้าลูกพี่แม้ไม่ได้คุยอะไร มันก็ฟินสุดแล้ว

8. จับมือครั้งต่อไปก็ บีกินเนอร์เลย ซื้อบัตรมากกว่านี้ คงจะไปจับรุ่น2ด้วย (แบมบู วิว อาจจะมีมินมินด้วย) แต่สิ่งที่เปิดโลกผม ที่ว่าคือ ผู้คนครับ เมมแต่ละคนอาจจะมีคนที่มาจับมือมาก น้อย ต่างกัน แต่ที่มีเหมือนกัน คือ ความรักที่มีต่อเมมเบอร์ คนแต่ละบ้านมาอำนวยความสะดวกให้นอกจากสตาร์ฟ บางคนฮาร์ดเซลล์สุดๆ (น้องผู้หยิงน่ารักๆที่ใส่ชุดไทยเลนน้องวิว) เมมเบอร์ที่ความนิยมน้อย เลนโล่ง แต่คนจากบ้านของน้องก็ยังไม่ไปไหน ผมว่ามันสวยงามครับ

ตอนแรก คิดว่าไอดอล คงมีออร่าเปล่งประกายออกมา แต่ไม่ใช่เลย ไอดอล ก็เหมือนเรานี่แหละ ผมว่าไอดอลไม่เหมือนดารา หรือนักร้องคนอื่นๆ ไอดอล หัวเราะก็คือหัวเราะ เหนื่อยก็คือเหนื่อย สดใสก็คือสดใส เศร้าก็คือเศร้า เพราะแบบนั้น ไอดอลก็คือไอดอล อย่างคามิผม แม้เหมือนจะเกลือแต่ผมก็รู้สึกดีนะ อยากถามว่าเหนื่อยมั้ย เราก็รู้ว่าเค้าเหนื่อย อยากจะเป็นกำลังใจให้เหมือนกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่