เราเป็นมะเร็งตั้งแต่อายุ 12!!!

กระทู้คำถาม
วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์จากหัวข้อเลยค่ะเราเป็นมะเร็งตั้งแต่อายุ 12 คือเราเป็นเมนส์ตั้งแต่อายุ10ขวบนะตอนนั้นก็ประมาณเดือนตุลา ปี2559 เราเป็นเมนส์แล้วปวดท้อง(ข้างซ้าย)มากช่วงนั้นครูประจำชั้นพาเพื่อนไปทำกิจกรรมที่ต่างจังหวัด เราก็เลยโทรบอกให้พ่อแม่มารับ คือโรงเรียนเรามันอยู่ตรงข้ามกับโรงพยาบาลแต่เป็นโรงพยาบาลขนาดเล็กแล้วตอนนั้นถึงเวลาพักกลางวันของหมอพอดีเราปวดท้องมากทนไม่ไหวพ่อกับแม่ก็เลยพาไปหาหมอที่คลีนิกกับจังหวัดที่อยู่ใกล้ๆเพราะแถวๆบ้านเราเป็นเขตติดต่อพอดีก็เลยใกล้ พอไปถึงคลีนิกถึงเวลาหมอเรียกเข้าห้องตรวจ(เราเข้าไปกับแม่นะ)หมอก็ถามอาการเสร็จแล้วก็ให้ขึ้นเตียงซาวด์ดูในท้อง หมอบอกเราว่าถุงน้ำในรังไขแตก พอซาวด์เสร็จหมอก็ให้มานั่งตรงโต๊ะถามอาการตอนแรก ตอนนั้นเราหน้ามืดเหมือนจะเป็นลมหมอก็บอกเราไม่ตรงเครียด พอหมอพูดจบเท่านั้นแหละเราเป็นลมเลยค่ะ หมอต้องเรียกรถพยาบาลมารับให้ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล พอถึงห้องฉุกเฉินหมอในห้องก็ให้ตรวจฉี่ ตรวจเสร็จก็ให้ทำเรื่องแอดมิดตอนนั้นเราไม่อยากนอนโรงพยาบาลเลยไม่เคยนอนโรงพยาบาลมาก่อน ไม่ค่อยได้เจ็บได้ป่วยด้วย แข็งแรงทุกอย่าง ทำเรื่องเสร็จก็มีบุรุษพยาบาลมาเข็นรถเข็นขึ้นไปตึก สูติ-นรีเวช ตึกนี้มีแต่คนไม่มีผมใส่หมวกไหมพรหมกัน ตอนนั้นคิดในใจเราคงไม่เป็นอย่างนั้นหรอกเราเป็นเด็กอยู่คงไม่ได้เป็นอะไรมากสรุปได้นอนโรงพยาบาลคืนหรือสองคืนนี่แหละแล้วหมอก็ให้กลับบ้านแล้วก็นัดมาอีกทีนึง(ตอนนั้นก็ประมาณปลายเดือนตุลา)หมอนัดมาอีกทีประมาณ20พฤศจิกา เราก็มาตามนัด สรุปเจอซีสที่รังไข่หมอบอกว่าต้องผ่าเพื่อมาตรวจว่าเป็นเนื้อร้ายหรือเปล่า(ตัดรังไข่ออกไปข้างนึงด้วย)หมอให้นอนโรงพยาบาลเลยแล้วถัดไปอีกสองวันก็ผ่าตัด ตัดมาวันผ่าตัดเลยแล้วกันตอนที่บุรุษพยาบาลมาเข็นรถเข็นไปห้องผ่าตัดตอนนั้นยังไม่ร้องไห้แสดงอาการ พอถึงตอนถึงหัองผ่าตัดรอหมอและพยาบาลเตรียมของตอนนั้นน้ำตาตกมาจากไหนไม่รู้ไหลเป็นสายเลย เราไม่ได้ร้องคนเดียวนะแม่เราร้องด้วยแล้วก็กอดเราเพราะหมอให้แม่เข้ามาอยู่เป็นเพื่อนก่อนเข้าห้อง ตอนเข้าห้องเราก็ให้แม่ไปส่งพอหมอเรียกเข้าห้องผ่าหมอให้ขึ้นเตียงแล้วโปะตาสลบไม่กี่วิเท่านั้นสลบเลย ตื่นมาอีกทีก็อยู่ห้องแล้ว(เรานอนห้องพิเศษนะพ่อเราทำงานราชการเบิกได้) ตอนนอนโรงบาลมีคนมาเยี่ยมมากมายมีคนให้กำลังใจเยอะมาก พอผ่าตัดเสร็จไม่กี่วันก็ออกโรงบาล แล้วหมอก็นัดให้มาดูผลที่ส่งไปตรวจว่าเป็นเนื้อร้ายหรือเปล่าเป็นอย่างไร สรุปว่าเราเป็นมะเร็งรังไข่หมอบอกต้องทำเคมีบำบัด(คีโม)ของเราทำ4ครั้งตอนนั้นไม่รู้ว่าคืออะไรพอหมอบอกว่าผมต้องร่วงร้องให้หนักมากเลยคือเราเป็นคนรักผมมากรักแบบมากๆ พอเพื่อนที่โรงเรียนรู้ก็ทักมาให้กำลังใจเยอะมากตอนนั้นใครก็ไม่สามารถกลับมาทำให้อารมณ์ขันได้ วันนั้นนอนร้องให้ทั้งคืน ตัดมาวันให้คีโมครั้งแรกคือกินอะไรไม่ได้เลยอ้วกอย่างเดียวให้ที5วันเป็นอาทิตย์ คือแม่เราก็ไปถามคนที่เป็นอยู่ว่ากินอะไรถึงจะดีขึ้นบ้างไม่อ้วกเขาบอกน้ำมะพร้าว แม่เราก็ไปหาซื้อให้เราก็ให้พ่อซื้อมาจากบ้านด้วย(พ่อกับแม่เราผลัดกันเฝ้านะเพราะลางานมาเฝ้าเอา)ตอนนอนให้คีโมก็มีคนถามเยอะมากว่าเป็นอะไรเราก็ตอบแล้วก็คุยกับเค้าเพราะเราก็ชวนคุยเก่ง เราเป็นคนอารมณ์ดี ทุกครั้งที่เข้าไปห้องทำคีโมเราจะมีเพื่อนเพิ่มทุกวันแม้จะไม่ใช่รุ่นเดียวกัน มีทั้งหมอ พยาบาล บุรุษพยาบาล ญาติคนไข้เค้าจำเราได้หมดเพราะมีเด็กผู้หญิงคนเดียวที่ทำคีโมอยู่ในขณะนั้น ตอน5วันตอนให้คีโมผมยังไม่ร่วงมาร่วงตอนอยู่ที่บ้าน เราตื่นมาคือผมเต็มหมอนนอนร้องให้ไม่อยากไปโรงเรียน(เราไม่ได้ดรอปเรียนนะเพราะจะจบแล้วตอนนั้นอยู่ป.6)แม่เราก็ไปหาซื้อวิกมาให้ใส่คือหมอแนะนำว่าตอนให้คีโมไม่อยากให้โดนแสงตอนไปโรงเรียนเราก็ต้องใส่เสื้อแขนยาว ใส่แมส
ใส่หมวก(จากเสื้อแขนยาว)เพื่อนชอบแซวเราว่าเหมือนโจรแต่เราด็ไม่ได้อะไรเข้าใจว่ามันแค่แซว เราห่อข้าวไปกินทุกวันนะที่โรงเรียนอะแม่ทำให้ ตอนก่อนสอบโอเน็ต2วันตอนนั้นเรากลับจากให้คีโมเพลียมาก อ้วก กินข้าวไม่ได้ต้องกลับไปให้น้ำเกลือที่โรงบาล1วัน เพราะไม่มีแรงตอนแรกหมอจะให้นอนอีกซักคืนแต่ต้องสอบโอเน็ต เอ้อลืมบอกตอนที่เราผ่าตัดใหม่ๆตอนไปโรงเรียนเพื่อนเรามาถือกระเป๋าขึ้นลงอาคารให้ทุกวันเพื่อนเราน่ารักมากๆเลย(เราเรียนชั้น3) จะบอกว่าตอนให้คีโมมันจะเหนื่อยมากๆทำอะไรไม่ได้เลยนอนอย่างเดียวลุกแทบไม่ขึ้น หน้ามืดบ่อยมาก หลังจากผ่านการให้คีโมมาได้ ตอนนั้นที่โรงเรียนมีงานปัจฉิมนิเทศเราไม่ได้ไปร่วมเพราะขี้เกียจช่วงนั้นเหนื่อยจากการให้คีโมด้วย พอจบป.6ก็ไปสมัครเรียนม.1ตอนเข้าไปเรียนช่วงแรกครูชอบถามทำไมไว้ผมยาวเพราะวิกมันประมาณบ่าๆโรงเรียนเราม.ตีนไว้ผมได้แค่มุมปาก เราก็บอกว่าเราใส่วิก แล้วครูก็ถามว่าเป็นอะไรทำไมต้องใส่เราก็บอกเราเป็นมะเร็งไปให้คีโมมาเราก็ต้องตอบแบบนี้กับทุกคนที่ถาม คือมันเป็นคำถามที่น่ารำคาญสำหรับเราแต่ก็ต้องตอบ คนชอบมองเคาแปลกๆช่วงแรกๆก็คิดแล้วร้องให้แต่หลังๆมาไม่สนโลกอะไรทั่งนั้น พอปิดเทอมใหญ่ม.1ขึ้นม.2เราถอดวิกเพราะตอนนั้นเผมเริ่มยาวแล้วแต่มันยังไม่เป็นทรงเราก็นั่งหนีบผมทุกวัน พอเปิดเทอมเพื่อนก็ถามว่าใช่เราจริงมั้ยเพื่อนบอกน่าไม่บานเท่าตอนใส่วิก อ้อตอนให้คีโมน้ำหนักลดแต่หลังจากให้เสร็จ4ครั้งเท่านั้นแหละไม่เคยลงเลยจ้าขึ้นอย่างเดียวหมอก็บอกให้ลดอยู่ จนตอนนี้เรากำลังจะขึ้นม.3แล้วผมยาวเหมือนปกติแล้วกินดีเหมือนเม่ีอก่อน เพื่อนเยอะ เรื่องโรคหมอก็นัดไปตรวจ 3เดือน 6เดือน 1ปี 1ครึ่งแล้วแต่ ก็ไม่มีอะไรจะเล่าให้ฟังแล้วแต่อยากให้กำลังใจทุกคนไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรผ่านมันไปให้ได้ เราเป็นกำลังใจให้นะเพราะที่เราผ่านมาได้ก็เพราะกำลังใจของทุกคน บางคนบอกให้กำลังใจอะไรไม่สำคัญไม่ทำให้โรคมันหายหรอแต่เชื่อเราสิกำลังใจนี่แหละสำคัญที่สุดสำหรับคนป่วยหรือคนที่มีปัญหาสู้ๆนะทุกคนอย่าท้อ✌🏻✌🏻
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่