[CR] แนะนำที่พักและการเที่ยวที่ Fuji Kawaguchiko คืนแรกนอน 5 ดาว คืนที่สองนอน hostel แต่ก็ยังอยากให้ 5 ดาว

ปีที่แล้ว เรามีโอกาสไปญี่ปุ่น 3 ทริปด้วยกัน ทั้ง 3 ทริปให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันตั้งแต่เดินทางด้วยตัวเองกับสามี ไปกับทัวร์แบบหรูหรากินอาหารมิชลินหรือดีที่สุดของทุกเมืองเกือบทุกมื้อ และพาคุณแม่วัย 75 ปีผู้อยากลองเที่ยวแบบ backpacking ไปโตเกียวและชิบะด้วยกัน จริงๆ แล้วอยากมาเขียนเล่าพร้อมแชร์ประสบการณ์ของทุกทริปเพราะสนุกและเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับคนชอบเที่ยวเหมือนกัน แต่กระทู้นี้ ขอแนะนำโรงแรมและการเที่ยว fujikawakuchiko ซึ่งเราพาคุณแม่ไปดูใบไม้แดงและตัดสินใจค้างที่นี่ 3 วัน 2 คืน แทนที่จะไปแบบวันเดียวกลับเหมือนที่เคยไป

ช่วงที่เดินทางคือช่วงพฤศจิกายน ปี 60 ไปช่วงปลายเดือนซึ่งมีเทศกาล light up เพื่อดูใบไม้แดงยามค่ำคืนที่อุโมงค์ใบไม้แดง
เราเลือกออกเดินทางไปฟูจิด้วยรถไฟแบบวินเทจ Tozan Densha เป็นรถไฟขบวนสีแดง ภายในเป็นไม้ ขนมเซมเบ้ที่พนักงานประจำรถไฟขายอร่อยมากค่ะ สามารถซื้อตั๋วผ่านเว็บไซต์ได้ http://e.fujikyu-railway.jp/ ส่วนขากลับเลือกกลับโดยรถไฟ fujisan express 
คืนแรกเราเลือกพักที่ Sunnide Resort ห้องแบบ Grand Suite ซึ่งมี Open Air Bath ช่วงที่เราไป เป็นช่วงพีคสุดๆ ของใบไม้แดง ราคาห้องรวมอาหารเย็นและเช้า จึงแพงจากปกติขึ้นไปอีกประมาณเท่าตัว จุดที่พักใกล้กับอุโมงค์เมเปิ้ลแดงที่มีการเปิดไฟให้ชมตอนมืดเพียงป้ายรถเมล์เดียวและสามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิได้จากระเบียงห้องพักโดยไม่มีอะไรบัง พอไปถึงก็ไปที่ tourist information office แล้วแจ้งเขาเพื่อให้โทรเรียกรถโรงแรมมารับ ซึ่งจะเช็กอินได้ประมาณ 14:00 น. เราไปถึงก่อนเวลาก็แวะซื้อ 2-day pass ที่สถานีสำหรับใช้ใน 2 วันที่เหลือ ส่วนวันแรกที่จะนั่งรถบัส เราใช้บัตร suica แตะจ่ายค่าโดยสารไปอุโมงค์เมเปิ้ล และป้ายสุดท้ายของ Red Line bus เพื่อไปชมวิว สะดวกมากๆ ค่ะ

ในห้องพักสะดวกสบายและทันสมัย พร้อมระเบียงที่มีอ่างน้ำอุ่น พนักงานน่ารักมาก เห็นมากับคุณแม่อายุเยอะแล้วก็ไปนำบันไดสำหรับเดินลงอ่างอาบน้ำมาติดไว้ให้ ระเบียงใหญ่มากๆ ค่ะ เสียดายวันแรกที่เราไปถึง fuji san อาย ฟ้าปิดมิดเลย 
พอเอาของเข้าที่พักเรียบร้อย เราก็ออกมาเดินถ่ายรูปเล่น และนั่งรถบัสจากฝั่งตรงข้ามโรงแรมไป Natural Living Center หรือป้ายสุดท้ายของ Red Line เพื่อไปดูวิว และเดินเล่นร้าน gift shop ซึ่งใหญ่และมีของให้เลือกมากมาย ได้ลาเวนเดอร์แห้งมาใส่ถุงแก้ววางไว้ที่หมอนหอมๆ ค่ะ 
ด้านหน้ารีสอร์ท ถ้าฟ้าเปิดจะได้วิวเมเปิ้ลแดงแล้วมีฟูจิซังอยู่ด้านหลังค่ะ
แต่แบบนี้ก็แอบมองเห็นเส้นของ fuji san เหมือนกันนะ รอลุ้นว่าวันต่อไปเราจะได้เห็นไหม
เห็นเงาของเส้นขอบ fuji san กันไหมเอ่ย
พุ่มม่วงชมพูนี้น่ารักมาก ไปยืนถ่ายรูปเล่นซะนานเลย สวยๆ
ฟ้ายังคงปิดต่อไป
ได้เวลาย้ายที่ไปดูอุโมงค์เมเปิ้ลแล้ว ขึ้นรถบัสสายสีแดง แตะบัตร suica (เป็นบัตรที่ควรมีไว้ และเติมเงินไว้ คือช่วยอำนวยความสะดวกมาหลายทีมาก)
ลงป้ายที่ 19 Itchiku Kubota Art Museum แล้วเดินนิดเดียวไป Maple Corredor  
เดินดูอุโมงค์ใบไม้แดงจนครบรอบ ไม่ได้เดินตลาดนัดบริเวณรอบ ก็กลับโรงแรม เพื่อเตรียมตัวให้ทันอาหารเย็นรอบที่เลือกไว้ 
กินเสร็จ อิ่มมาก มานั่งชงชาดื่มรออาหารย่อยซักชั่วโมงกว่า แล้วออกไปแช่ออนเซ็นของโรงแรม ซึ่งไม่ได้ใหญ่มาก แต่ outdoor ออนเซ็นเข้ากับอากาศเย็นๆ ได้ดีมาก
แม่มาปลุกตอนตีห้าครึ่งเพราะเห็นฟูจิ ฟ้าเปิดแต่เช้าเลย แช่น้ำร้อนในบ่อหน้าห้อง ดูวิวฟูจิแบบสงบสุข slow life มากๆ เราสามารถดึงประตูบานพับมาปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวได้ด้วย การเคลื่อนตัวของเมฆทำให้เราได้เห็นฟูจิแบบเต็มๆ โดยไม่ซ้ำกันเลย นั่งนิ่งๆ ในอ่างน้ำร้อนริมระเบียง ดูวิวได้ไม่มีเบื่อ  ได้เวลาอาหารเช้าแล้ว 
ทานข้าวเช้าเสร็จ ออกมาเดินเล่นหน้าโรงแรม ฟูจิซังเกิดอายหลบไปหลังเมฆซะแล้ว
นั่งรถ shuttle ของโรงแรมกลับมาลงที่สถานี kawaguchiko เอากระเป๋าไปฝากที่ hostel ที่อยากมานอนเพราะเห็นใน booking.com แล้วชอบมากๆ 
ต้องยอมรับว่าแม่เดินเก่งมาก เพราะระยะจากสถานีไป hostel ไม่ใกล้ ไว้คราวหน้ามาจะเช่ารถขับจะได้ประหยัดเวลาและไม่ต้องไปเบียดบน Retro bus ซึ่งแน่นมากๆ ในช่วงพีค http://kagelow.jp/en/
ฝากกระเป๋าเสร็จ ก็ไปตะลุยรอบทะเลสาบด้วย 2 day pass แบบขึ้นบัสสายสีอะไรก็ได้เลยจ้า
แวะ fujiyama cookie ก่อนไปขึ้น ropeway มาพบทีหลังว่าคุกกี้อร่อยด้วย ซื้อมาน้อยไปปปปป
คนรอขึ้นมหาศาล แต่ระบบการจัดคิวดีมาก
มาขึ้นเป็นครั้งที่สอง ก็ดวงดีเจอฟ้าปิด ไม่ได้เห็นฟูจิซังอีกแล้ว
กลับไปป้ายสุดท้ายของรถบัสสายสีแดง กินไอติมปลอบใจ 
เข้าที่พักหลังจากแวะกินเทมปุระร้านถัดจากสถานีมาหน่อย เป็นทางผ่านพอดี
ที่นอนหนานุ่ม ในห้องส่วนตัว นอนได้สูงสุดน่าจะสี่คน แต่เรามาสองคน ก็จ่ายคืนละ 2500 ถ้าจำไม่ผิด ห้องน้ำรวมด้านบนมีสองห้อง 
ห้องอาบน้ำอยู่ขั้นล่าง คนไม่พลุกพล่าน มี bar ให้เรานั่งจิบสาเกได้ 
มีถั่วแถมมากับสาเกด้วย นั่งข้างนอกอากาศเย็นดีมาก
ตื่นเช้ามา ฟูจิซังไม่ขี้อายจ้าวันนี้ เห็นจากหน้าต่างห้องนอนและห้องที่นั่งกินข้าวเต็มๆ
อาหารเช้าอร่อยมาก ขนมปังดีงามสุดๆ สลัดก็สดอร่อย อิ่มแล้วก็ออกเดินทางไปฝากกระเป๋าที่สถานีพร้อมเที่ยววันนี้ก่อนนั่งรถไฟไปชิบะได้เลยจ้า
นั่งรถบัสสายสีเขียว วนรอบทะเลสาบไซโกะ ไปหมู่บ้านโบราณ ไซโกะอิยาชิโนะซาโตเน็มบะ
https://www.yamanashi-kankou.jp/foreign/thai/spot/p2_2803.html
วิวสองข้างทางสวยมากๆ และเห็น fuji san ไปตลอดทาง เต็มตาสุดๆ แดดดี เราออกมาเช้า นักท่องเที่ยวเลยยังไม่พลุกพล่าน มีโอกาสถ่ายรูป แบบชิลๆ ขอแนะนำโซบะโบราณที่บ้านหลังสุดท้าย บอกเลย อร่อยสุดๆๆๆๆๆ ห้ามพลาดจ้า
ของจริงสวยสุดๆ โชคดีมากที่มาแต่เช้า นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะ เลยได้วิวสวยๆ ตลอดทาง ซักสิบโมงกว่า ทัวร์จีนมาเต็ม
เป็นภูเขาที่มองทางไหนก็สวย
rotate รูปตอนโพสต์ไม่เป็น วิวจากร้านโซบะโบราณ ที่อร่อยสุดๆ
เรากับแม่เหมือนกันคือขอนั่งโต๊ะริม แม้แดดจะร้อนเราไม่หวั่น เพราะวิวสวย
กินโซบะเสร็จก็มาขึ้นบัสไปนั่งชมวิวป้ายต่อๆ ไป นั่งวนไปจนกลับไปสถานีเพราะไม่มีเวลาแวะลง
มีเวลาเหลือก่อนรถไฟที่จองกลับโตเกียวจะออกซักชั่วโมงครึ่งเลยพาแม่นั่งบัสสายสีแดงซึ่งแน่นมากกก
และวันนี้รถติดมากๆ เพราะนักท่องเที่ยวเยอะ เลยไปได้แค่หน้าโรงแรมอีกแห่งที่อยากมาพัก แวะถ่ายรูป
แล้วรอขึ้นรถบัสกลับมาสถานีแบบใจตุ้มต่อม วิ่งไปเอาเป้ แล้ววิ่งไปที่รถไฟ เหลือ 1 นาทีจะออกพอดี
บ๊ายบาย fuji san ไว้มีเวลาจะมาแชร์ทริปใบไม้แดงที่ aomori จ้า สวยมากๆ
ชื่อสินค้า:   Sunnide Resort และ Kagelow Hostel
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่