สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3

บรรยงค์ เสนาลักษณ์ - เทิ่ง สติเฟื่อง คนนั่งขวามือ สวมเฮดการ์ด ชุดที่ถ่ายนี้เป็นชุดนักกีฬารักบี้ ในละครเรื่องหนึ่งของสถานีไทยโทรทัศน์ ช่อง 4 บางขุนพรหม
รายการแม่บ้านสมองไว ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น แม่บ้านชิงทอง จัดอยู่นานหลายปี ครั้งหนึ่ง นันทวัน เมฆใหญ่ - สุวรรณปิยะสิริ ภรรยาของ กำธร สุวรรณปิยะศิริ เป็นพิธีกรร่วมกับ เทิ่งสติเฟื่อง และ ท้วม ทรนง หรือ ชูชีพ ช่ำชองยุทธ (คนในภาพขวามือที่ยืนเท้าไหล่ของ เทิ่ง สติเฟื่อง)
คุณชายถนัดศรี หรือ หม่อมราชวงศ์ ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ เคยเล่าถึงตอนหนึ่งของรายการที่โด่งดังนี้ไว้อย่างครื้นเครงว่า
พิธีกร นันทวัน ถามปัญหาผู้ร่วมรายการซึ่งเป็นแม่บ้านว่า
"โซเดียมคลอไรด์ คืออะไร เป็นสารชนิดหนึ่งที่คุณแม่บ้านใช้ในชีวิตประจำวัน"
คำตอบที่ถูกต้องนั้นคือ เกลือแกง แต่ไม่มีแม่บ้านคนไหนตอบได้เลย เทิ่ง สติเฟื่อง จึงใบ้คำถามให้ว่า
"โซเดียมคลอไรด์ ก็ที่คุณแม่บ้านใช้โรยไข่ให้คุณพ่อบ้านตอนเช้าๆไงครับ"
ซึ่งเทิ่งหมายถึงไข่ลวก
แม่บ้านคนหนึ่งรีบยกมือแล้วตอบคำถามทันที
"อ๋อ แป้งเด็กตรางูค่ะ"
ทันใดนั้น พิธีกรหญิง นันทวัน ก็มุดหายลงไปใต้โพเดียม หัวเราะอย่างกลั้นไม่อยู่ หยุดไม่ได้ แม้แต่พิธีกรชายทั้งสองคนก็ถึงกับออกอาการ ไปไม่เป็น พิธีกรทั้งสามท่านนี้ ถือว่าเป็นมือระดับครู เจนเวทีชนิดหาตัวจับได้ยาก
แต่คำตอบของคำถามนั้น มันไม่ไหวจริงๆ
ปล. พิธีกร จากภาษาอังกฤษว่า Master of Ceremony - MC เป็นคำที่คิดโดย จำนงค์ รังสิกุล หัวหน้าฝ่ายจัดรายการคนแรกของสถานีโทรทัศน์ช่อง 4 บางขุนพรหม
-----
คนที่นั่งซ้ายมือในภาพคือ นินารถ ช่ำชองยุทธ น้องชายของ ชูชีพ ช่ำชองยุทธ หรือ ท้วม ทรนง ท่านที่เคยทันดูโฆษณาของทีวีช่อง 4 บางขุนพรหม อาจจะเคยเห็นลีลาการโฆษณาของ นินารถ ซึ่งเป็นการออกอากาศสด โฆษณาที่โด่งดังมากคือโฆษณานาฬิกายี่ห้อหนึ่ง ที่ใช้มุขในการโฆษณาว่าทนทาน ถึงขนาดนำลงไปผัดกับผักบุ้งไฟแดงให้ดูกันสดๆในห้องส่ง หลังจากผัดจนผักบุ้งกลายเป็นอาหารแล้ว ก็หยิบนาฬิกาขึ้นมาจากกะทะร้อนๆ แล้วโชว์ให้เห็นว่า มันยังเดินเป็นปกติดีอยู่
-----------
เด๊ดสะมอเร่ - เป็นคำแผลงที่มาจากเพลงแปลง รักรวนเร ซึ่งแต่งโดย นคร มงคลายน จากเพลงสากลของ Dean Martin ชื่อ That's Amore เทิ่งนำคำนี้มาใช้เล่นในรายการจนภายหลังมีท่านที่ไม่เคยได้ยินเพลง รักรวนเร นี้ คิดว่าเป็นศัพท์ที่เทิ่งคิดขึ้นเอง

เริ่ดสะแมนแตน เชื่อกันว่าแผลงมาจากคำว่า เลิศมันเตา (เลิด - สะ - มัน - เตา) อันเป็นชื่อเดิมของ พระยาภักดีนรเศรษฐ (เลิศ เศรษฐบุตร) เจ้าของรถเมล์ขาวและปาร์คนายเลิศอันโด่งดัง เทิ่งนำคำนี้มาแผลงให้สอดคล้องกับ เด๊ดสะมอเร่ จนกลายเป็น ซิกเนเจอร์ ของตัวเขาเองมาจนตลอดชีวิต

บรรยงค์ เสนาลักษณ์ - เทิ่ง สติเฟื่อง คนนั่งขวามือ สวมเฮดการ์ด ชุดที่ถ่ายนี้เป็นชุดนักกีฬารักบี้ ในละครเรื่องหนึ่งของสถานีไทยโทรทัศน์ ช่อง 4 บางขุนพรหม
รายการแม่บ้านสมองไว ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น แม่บ้านชิงทอง จัดอยู่นานหลายปี ครั้งหนึ่ง นันทวัน เมฆใหญ่ - สุวรรณปิยะสิริ ภรรยาของ กำธร สุวรรณปิยะศิริ เป็นพิธีกรร่วมกับ เทิ่งสติเฟื่อง และ ท้วม ทรนง หรือ ชูชีพ ช่ำชองยุทธ (คนในภาพขวามือที่ยืนเท้าไหล่ของ เทิ่ง สติเฟื่อง)
คุณชายถนัดศรี หรือ หม่อมราชวงศ์ ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ เคยเล่าถึงตอนหนึ่งของรายการที่โด่งดังนี้ไว้อย่างครื้นเครงว่า
พิธีกร นันทวัน ถามปัญหาผู้ร่วมรายการซึ่งเป็นแม่บ้านว่า
"โซเดียมคลอไรด์ คืออะไร เป็นสารชนิดหนึ่งที่คุณแม่บ้านใช้ในชีวิตประจำวัน"
คำตอบที่ถูกต้องนั้นคือ เกลือแกง แต่ไม่มีแม่บ้านคนไหนตอบได้เลย เทิ่ง สติเฟื่อง จึงใบ้คำถามให้ว่า
"โซเดียมคลอไรด์ ก็ที่คุณแม่บ้านใช้โรยไข่ให้คุณพ่อบ้านตอนเช้าๆไงครับ"
ซึ่งเทิ่งหมายถึงไข่ลวก
แม่บ้านคนหนึ่งรีบยกมือแล้วตอบคำถามทันที
"อ๋อ แป้งเด็กตรางูค่ะ"
ทันใดนั้น พิธีกรหญิง นันทวัน ก็มุดหายลงไปใต้โพเดียม หัวเราะอย่างกลั้นไม่อยู่ หยุดไม่ได้ แม้แต่พิธีกรชายทั้งสองคนก็ถึงกับออกอาการ ไปไม่เป็น พิธีกรทั้งสามท่านนี้ ถือว่าเป็นมือระดับครู เจนเวทีชนิดหาตัวจับได้ยาก
แต่คำตอบของคำถามนั้น มันไม่ไหวจริงๆ
ปล. พิธีกร จากภาษาอังกฤษว่า Master of Ceremony - MC เป็นคำที่คิดโดย จำนงค์ รังสิกุล หัวหน้าฝ่ายจัดรายการคนแรกของสถานีโทรทัศน์ช่อง 4 บางขุนพรหม
-----
คนที่นั่งซ้ายมือในภาพคือ นินารถ ช่ำชองยุทธ น้องชายของ ชูชีพ ช่ำชองยุทธ หรือ ท้วม ทรนง ท่านที่เคยทันดูโฆษณาของทีวีช่อง 4 บางขุนพรหม อาจจะเคยเห็นลีลาการโฆษณาของ นินารถ ซึ่งเป็นการออกอากาศสด โฆษณาที่โด่งดังมากคือโฆษณานาฬิกายี่ห้อหนึ่ง ที่ใช้มุขในการโฆษณาว่าทนทาน ถึงขนาดนำลงไปผัดกับผักบุ้งไฟแดงให้ดูกันสดๆในห้องส่ง หลังจากผัดจนผักบุ้งกลายเป็นอาหารแล้ว ก็หยิบนาฬิกาขึ้นมาจากกะทะร้อนๆ แล้วโชว์ให้เห็นว่า มันยังเดินเป็นปกติดีอยู่
-----------
เด๊ดสะมอเร่ - เป็นคำแผลงที่มาจากเพลงแปลง รักรวนเร ซึ่งแต่งโดย นคร มงคลายน จากเพลงสากลของ Dean Martin ชื่อ That's Amore เทิ่งนำคำนี้มาใช้เล่นในรายการจนภายหลังมีท่านที่ไม่เคยได้ยินเพลง รักรวนเร นี้ คิดว่าเป็นศัพท์ที่เทิ่งคิดขึ้นเอง

เริ่ดสะแมนแตน เชื่อกันว่าแผลงมาจากคำว่า เลิศมันเตา (เลิด - สะ - มัน - เตา) อันเป็นชื่อเดิมของ พระยาภักดีนรเศรษฐ (เลิศ เศรษฐบุตร) เจ้าของรถเมล์ขาวและปาร์คนายเลิศอันโด่งดัง เทิ่งนำคำนี้มาแผลงให้สอดคล้องกับ เด๊ดสะมอเร่ จนกลายเป็น ซิกเนเจอร์ ของตัวเขาเองมาจนตลอดชีวิต
แสดงความคิดเห็น
‘เทิ่ง สติเฟื่อง’ เจ้าของวลีฮิต “ส.บ.ม.ย.ห.” “เริ่ดสะแมนแตน”
Posted On 16 April 2019 Chanan Yodhong
สำหรับหลายคนอาจจะไม่รู้จักหรือลืม ‘เทิ่ง สติเฟื่อง’ ไปนานแล้ว อันเป็นชื่อในวงการของ บรรยงค์ เสนาลักษณ์ เขาเกิดเมื่อ 18 มิถุนายน 2476 ที่เป่ผิว กรุงปักกิ่ง เนื่องจากพ่อของเขาไปเรียนที่ญี่ปุ่นแล้วได้พบรักแต่งงานกับสาวชาวญี่ปุ่น เมื่อได้ทุนจากญี่ปุ่นไปเรียนต่อที่จีน คุณพ่อจึงได้พาคุณแม่ไปอยู่จีนด้วย แล้วกลับมาอยู่บ้านแม่เมื่ออายุได้ 4 ขวบจึงได้สัญชาติญี่ปุ่น จากนั้นครอบครัวก็ย้ายมาอยู่ไทยบ้านพ่อ ได้เรียนอนุบาลโรงเรียนสวนสุนันทาสมัยยังรับเด็กนักเรียนชาย
เมื่อเข้าเรียนธรรมศาสตร์ ด้วยลักษณะตัวผอมสูง เดินเร็วๆ หอบหนังสือไปมา ศีรษะขึ้นๆ ลงๆ เพื่อนจึงตั้งฉายาว่า ‘เทิ่ง’ เรียกแทนชื่อบรรยงค์
เพื่อนๆ นักศึกษาหลายคนรู้จักเทิ่งก็เพราะงานแสดงของเขาในมหา’ลัย ที่ได้สร้างความแปลกใหม่น่าจดจำ จากนั้นเขาก็เริ่มแสดงความปราดเปรื่องอารมณ์ขันในวงการบันเทิง ที่มีเพียงสิ่งเดียวในช่วงเวลานั้นคือวิทยุ อย่างวิทยุไทยโทรทัศน์ (ท.ท.ท.) สี่แยกคอกวัว ซึ่งเปิดสถานีวิทยุสำหรับฝึกหัดคนทำงานทีวี เพื่อเตรียมพร้อมกับการรับส่งสัญญาณ
เทิ่งตื่นเต้นสนใจการผลิตแพร่ภาพทีวีอย่างมากตั้งแต่ตอนเรียนหนังสือ ในรายการวิทยุตอบปัญหาของ ท.ท.ท.ที่จะให้ผู้ชมในห้องส่งเป็นผู้ตอบออกอากาศ เทิ่งเป็นหนึ่งในนั้น เขาตอบคำถามไปพร้อมกับปล่อยมุกตลกเรียกเสียงฮา จนกลายเป็นที่สนใจของผู้จัดผู้ผลิตไม่เพียงถูกเชิญขึ้นเวทีให้ผู้ชมได้เห็นตัว จากนั้นทุกๆ สัปดาห์เขาก็ได้เป็นผู้ช่วยพิธีกรในรายการ เขาเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยที่ ท.ท.ท. ได้เป็นผู้จัดรายการวิทยุ ทายปัญหาเพลง ซึ่งส่วนมากก็เป็นเพลงสุนทราภรณ์
ทีวียุคบุกเบิกนั้น ไม่เพียงเป็นรายการสด ไม่ได้บันทึกเทป ซึ่งจะผิดคิวไม่ได้ แถมยังต้องผลิตกันเองเล่นกันเอง ขายโฆษณากันเอง เพราะยังไม่มีภาพยนตร์โฆษณา ระหว่างปี 2498-2504 รายการทีวีพัฒนาเครื่องไม้เครื่องมือขึ้นเรื่อยๆ โปรดักชั่นใหญ่ขึ้น จากละครเล็กๆ มีผู้แสดงอยู่ 5-6 คนก็หันมาทำละครใหญ่เพื่อให้ได้มาตรฐาน มีนักแสดงมากขึ้นถึง 20 คน ค่าโฆษณาจึงแพงขึ้น ซึ่งผู้หาโฆษณาในขณะนั้นก็คือผู้แสดงเองและเป็นผู้โฆษณาสินค้าเองด้วย เทิ่งจึงต้องแสวงหาลูกเล่นในการโฆษณาสินค้า ซึ่ง อารีย์ นักดนตรี เพื่อนสนิทของเทิ่งที่ร่วมงานด้วยกันเล่าว่า
ด้วยความหัวไว ปากไว ปัญญาดี บุคลิกรื่นรมย์ สนุกสนานครึกครื้น มีอารมณ์ขันแหวกแนวอยู่เป็นนิตย์ มีคำพูดแปลกๆ มาจี้เส้นเรียกอารมณ์ขัน เทิ่งจึงได้ชื่อในวงการว่า ‘เทิ่ง กระหม่อมทอง’ ก่อนจะเป็นเทิ่ง สติเฟื่อง
“ทีแรกหัวหน้าตั้งให้ว่า ‘กระหม่อมทอง’ พอออกอากาศไปครั้งเดียวก็มีโทรศัพท์มาจาก ร.อ. ขุนแผน กระหม่อมทอง ท้วงว่าเป็นนามสกุลของเขา หัวหน้าจำนง (จำนง รังสิกุล) บอกให้คุณอาจินต์ (อาจินต์ ปัญจพรรค์) ตั้งให้ใหม่ คุณอาจินต์ก็ดูเอาจากสติปัญญา ที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็คิดแต่เรื่องเฟื่องๆ ฟูๆ ผิดมนุษย์คนอื่น จะออกหัวคิดทำอะไรก็ถูกอกถูกใจคนดูไปหมด เลยตั้งนามสกุลให้ว่า ‘สติเฟื่อง’”[2]
ชีวิตคนเราย่อมมีลองถูกลองพลาด มีขึ้นแล้วลง ลงแล้วก็ขึ้น เขาลองทำหนังภาพยนตร์ดูในปี 2516 แต่ด้วยหนังเรื่อง ‘ดาร์บี้’ ล้ำสมัยเกินไปจนคนไม่ดู ประกอบกับเหตุบ้านการณ์เมืองของตุลามหาวิปโยค หนังของเขาจึงไม่เป็นที่สนใจของประชาชน จนบางรอบต้องคืนเงินให้ผู้ชม งดฉายเพราะมีคนดูน้อยเกิน เทิ่งเป็นหนี้เป็นสินท่วมตัวและไม่กลับไปทำหนังอีกเลย เทิ่งเลียแผลใจตัวเองหันมาทำละครเล็กๆ ตลกๆ จบในตอนชื่อ ‘หัวร่อก่อนนอน’ แต่ก็ไม่ค่อยประสบผลสำเร็จจึงเลิกไปแล้วหันมาทำรายการแม่บ้านแทนอย่าง ‘แม่บ้านวันนี้’ ‘ที่นี่มีทอง’ ‘แม่บ้านชิงทอง’ ทางช่อง 5 การที่เขาเป็นพิธีกร ‘แม่บ้านชิงทอง’ ทำให้เขายังคงปรากฏตัวบนหน้าจอทีวี และผู้คนยังคงจดจำความตลกความสนุกสนานของเขาได้ ท่ามกลางพัฒนาการของวงการทีวี
เทิ่ง สติเฟื่องอยู่กับโรคตับอักเสบ ไวรัสบี เรื้อรังมานานนับ 10 ปี ก่อนจะเสียชีวิตด้วยอาการตับวายเมื่ออายุ 69 ปี ในวันที่ 19 เมษายนปี 2545 ร่างกายของเขาอุทิศเป็นอาจารย์ใหญ่ให้นักเรียนแพทย์ได้ศึกษาอย่างที่เขากำหนดไว้
อ้างอิงข้อมูลจาก
ชีวิตที่รื่นรมย์ เทิ่ง สติเฟื่อง. ม.ป.ท. : ม.ป.พ.,2546.
อาจินต์ ปัญจพรรค์. ยักษ์ปากเหลี่ยม. กรุงเทพฯ : หมึกจีน, 2533.
อารีย์ นักดนตรี. เทิ่ง สติเฟื่อง…คู่หู-คู่ฮาของท้วม ทรนง. กุลสตรี 28,672 (ปักษ์แรก ม.ค. 2542), 164-167.
อารีย์ นักดนตรี. โลกมายาของอารีย์. กรุงเทพฯ : กายมารุต, 2546.
อารีย์ นักดนตรี. อารีย์และที.วี.ดารา. กรุงเทพฯ : บำรุงสาส์น, 2530.
[1] อารีย์ นักดนตรี. โลกมายาของอารีย์. กรุงเทพฯ : กายมารุต, 2546, น. 193-194.
[2] อารีย์ นักดนตรี. โลกมายาของอารีย์. กรุงเทพฯ : กายมารุต, 2546, น. 190-192.
[3] อารีย์ นักดนตรี. อารีย์และที.วี.ดารา. กรุงเทพฯ : บำรุงสาส์น, 2530, น. 27.
Illustration by Sutanya Phattanasitubon