วังเวียง-เวียงจันทน์ 4 วัน 3 คืน งบ 4,000 บาท

วังเวียงเมืองชิคๆ !!
มีความเป็นชนบท ผสมความเป็นเมือง 
ถือเป็นหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ 
สำหรับคนที่อยากเที่ยวแบบงบน้อย และมีเวลาจำกัด
ไฮไลน์ของที่นี่มีหลายอย่างมาก เช่น พายเรือคายัค ล่องห่วงยางแม่น้ำซองพร้อมกับจิบเบียร์เย็นๆ
เล่น Zip line กระโดดน้ำที่ Blue Lagoon หรือจะเช่ามอไซด์ขับเล่นๆ ก็สนุกไปอีกแบบ

ฝาก like & share เพจ : เ ล่ า เ รื่ อ ง เ ที่ ย ว 
https://www.facebook.com/wanderonholidays/
#วังเวียง #เวียงจันทน์ #ลาว
#สิ่งที่ต้องเตรียมล่วงหน้า คือ

• ตั๋วอุดรฯ- วังเวียง (บ. 999 สีส้มๆ) สำหรับใครที่จะไปต้องวางแผนซื้อตั๋วตั้งแต่เนิ่นๆ ผ่านทางออนไลน์ หรือโทร 1490 การจองทุกครั้งต้องใช้เลข Passport ของทุกคนที่จะเดินทาง เมื่อจองเสร็จนำเลขการจองไปจ่ายเงินที่ 7-11 ภายในเวลาที่กำหนด เอาหมายเลขจองรถ มายื่นรับตั๋วที่ บขส. อุดร 
• ตั๋วกรุงเทพฯ-อุดรฯ (บ. สวัสดีอิสาน) ควรจองล่วงหน้า 1 อาทิตย์ จ่ายเงินไปและรับตั๋ว หรือจะไปซื้อที่หน้า Counter ได้เลย 
• ที่พักจำปาลาว สามารถจองผ่านเพจ Champalao bungalows ได้เลย สอบถามราคาห้อง จำนวนห้องพัก ขอเลขบัญชี-โอนเงิน และรอรับใบเสร็จ
#การเดินทาง
• 19.30 น. เราเดินทางออกจากหอพัก-หมอชิต โดยนัดเจอเพื่อน 2 คน ที่หมอชิต นัดอีก 1 คนที่อุดร และอีก 1 ที่วังเวียง

• 20.30 น. เมื่อถึงหมอชิต รอขึ้นรถ 21.00 น. เราใช้บริการรถทัวร์สวัสดีอีสาน เพราะใช้รถบริษัทฯ นี้เป็นประจำเวลาเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด บริการดี เบาะกว้าง มีผ้าห่ม ที่ชาจแบต ข้าวกล่อง ขนมและน้ำให้บริการ เราจองแค่ขาไป ราคา 454/เที่ยว (เนื่องจากขากลับยังไม่มีเวลาที่แน่นอน) 

• 21.00 น. รถออกจากกรุงเทพฯ (หมอชิต)-อุดรฯ จะมีพนักงานแจกอาหาร (วันนี้ได้กินผัดหน่อไม้+ไข่ต้ม) รสชาติอร่อย คุ้มราคามาก หลังจากนั้นก็นอนยาวๆ ไปเลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8-9 ชั่วโมง 

D A Y 1
• 06.00 น. ถึง หน้า บขส. อุดรฯ ตื่นมากับความงัวเงีย รีบเดินข้ามถนนเข้าไปใน บขส.ฯ ทันที และแยกย้าย ล้างหน้า แปรงฟัน (ค่าเข้าห้องน้ำ 3 บาท) หาข้าวกิน แต่เราไม่กินเพราะเช้าเกินไป ระหว่างรอขึ้นรถที่ชาญชลา 14 ได้โทรหาเพื่อนอีก 1 คน ที่นัดเจอกันที่อุดรฯ รอซักพักเพื่อนก็มา และเราก็ได้ตั๋วรถไปวังเวียงมา (เราไม่ได้จองเองนะ แต่เป็นการซื้อต่อจากกลุ่มอื่นอีกที ราคา 320 บาท/เที่ยว 

• 08.30 น. รถทัวร์มาถึงเราก็ไม่รอช้า เอาเป้ฝากใต้ท้องรถทันที (วันนี้มีรถเสริมด้วยนะ เพราะเป็นช่วงหยุดยาว) รถทัวร์ออกจาก บขส อุดร มุ่งหน้าสู่ประเทศลาว ใช้เวลาเดินทาง 7-8 ชั่วโมง นั่งได้ซักพักเจ้าหน้าที่บนรถจะแจกเอกสารผ่านด่านให้กรอก และบอกว่าไม่ต้องแลกเงินและซิมที่ ตม. เดี๋ยวจะพาไปซื้อที่พักรถระหว่างทางในลาว ซึ่งเราก็สงสัยว่าอาจจะมีซัมติง เลยคิดว่าจะไปแลกที่ ตม. ลาว (เรทราคาอาจจะไม่เหมือนกัน)

• 09.00 น. ถึง ตม. หนองคาย เจ้าหน้าที่ตรวจ Passport และเดินทางต่อไปที่ ตม. ลาว

• 9.20 น. ลงไปต่อคิว ซึ่งวันที่ไปคิวยาวและคนเยอะพอสมควร เจ้าหน้าที่ตรวจเอกสาร ปั๊มตรา และถ่ายรูปเสร็จ เราแวะแลกเงินด้านซ้ายมือตรวจ Passport เราแลกไป 4,000 บาท ตีเป็นเงินลาวก็ประมาณ 1,098,080 กีบ (1 บาท = 275 กีบ) โอ้วว ได้จับเงินล้านครั้งแรก เราเดินตอไปด้านหลังไปซื้อตั๋ว Pay Pass ถ้าวันธรรมดาจะ 5 บาท (1,000 กีบ) สวนวันเสาร์-อาทิตย์ 50 บาท (10,000 กีบ) หลังจากนั้น เราเดินไปซื้อซิมแต่คนเยอะ เลยตัดสินใจจะไปซื้อที่จุดพักรถที่ลาว
• 09.50 น. รถทัวร์ออกจาก ตม. ลาว มุ่งสู่วังเวียง ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 4 ชั่วโมง ระหว่างทางเป็นทางคดเคี้ยว หลุมเยอะมาก และฝุ่นฟุ้งกันเลยทีเดียว

• 14.00 น. ถึงจุดพักรถ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้เวลาพักประมาณ 30 นาที ไม่รอช้าเราดิ่งลงไปซื้อซิมทันที ปรากฏว่าซิมที่ขายเมื่อเทียบกับที่ ตม. ลาว ราคาและเนตต่างกัน ถือว่าพลาดไป (แนะนำให้แลกเงินและซื้อซิมที่ ตม. ลาว จะดีที่สุดราคาถูกกว่าและเนตเยอะกว่า) เราซื้อซิม 3G ราคา 30,000 กีบ ใช้ได้ 5 วัน ได้เนต 6 GB (จะมีพนักงานช่วยเปลี่ยนซิมและเปิดใช้เบอร์ให้) ไม่นานความหิวที่สะสมมาตลอดการเดินทางหลายชั่วโมง เราเลยสั่งข้าวผัด ราคา 18,000 กีบ (ในเมนูจะแถมไข่ดาวให้) รสชาติอาหารถือว่าอร่อยหรือว่าเพราะหิวไม่รู้สิ 

• 14.50 น. ขึ้นรถพร้อมกับความอิ่ม พร้อมนอนต่อ หลังจากรถออกไม่นานเจ้าหน้าที่บอกว่าขอเก็บค่าล่วงเวลาคนละ 5 บาท!! เอิ่มม! มีงี้ด้วยหรอ การเดินทางต่อไปถึงวังเวียงใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง!!

• 17.20 น. ในที่สุดก็ถึงวังเวียง และเจอเพื่อนอีกคนเป็นอันครบสำหรับทริปคนแปลกหน้า พอมาถึงตรงนี้แล้วเราไม่รู้ว่าจะต้องต่อรถหรือเดินไปทางไหน ก็ยืนงงๆ กันซักพักและทุกคนก็ดูเหนื่อย เราเลยเปิด GPS จาก บขส. วังเวียงถึงที่พักจำปาลาวระยะทาง 1.5 กิโลเมตร พวกเราตัดสินใจเดินเพราะไหนๆ ก็ถึงแล้ว เดินไปเรื่อยๆ ตามเส้นทาง map จนมาถึงที่พัก#จำปาลาวบังกะโล เรา Check in และเดินไปดูบรรยากาศข้างหลัง โอ้วว บรรยากาศดีมาก ทีนี้รีบถ่ายรูปรัวๆ กันใหญ่ ความเหนื่อยที่สะสมมาหายไปไหนไม่รู้ แต่ที่รู้ๆคือได้วิวดีมาก จากนั้นก็ขึ้นไปเก็บของ เราได้ห้องเตียงเดี่ยว สภาพห้องก็ประมาณนี้ ทำการจัดข้าวของ อาบน้ำ และนอนพัก ก่อนจะชวนกันไปหาอะไรกิน

• 19.00 น. เป็นอาหารมื้อแรกและมื้อที่พวกเราที่เราได้ทำความรู้จักกัน จัดแจงสั่งลาบ ส้มตำ ต้มแซ๊บ และหมูย่าง (รอประมาณ 1 ชั่วโมง น๊านนาน) สิ่งที่แปลกมากในมื้อนี้คือลาบใส่ถั่วงอก (รสชาติที่หาคำตอบไม่ได้ 55 แปลกใหม่ไปอีก) หลังจากอิ่มก็เชคบิล มื้อนี้หมดไป 185,000 กีบ คนบ้าอะไรกินข้าวหมดเงินเป็นแสน ซักพักความฮาเริ่มมาละ ทุกคนต่างเอาเงินออกมานับ แต่นับยังไงก็ไม่ถูกเพราะเงินลาวตัวเลขเยอะ มันก็จะงงๆ กัน (มือใหม่หัดนับเงินกีบ)

• 20.30 น. เดินหาซื้อ one day trip ราคา 210,000 กีบ (รวมถ้ำช้าง, ถ้ำน้ำ, พายเรือคายัค, Zip line, Blue Lagoon 1) อาหารเที่ยงฟรี มีรถมารับถึงที่พัก

• 21.30 น. มาถึงจุดที่ไม่ควรพลาดของค่ำคืนนี้เป็นที่ไหนไปไม่ได้ที่คนพูดถึงเยอะ นั่นก็คือ ซากุระบา (Sakura Bar) ที่นี่ปิด 00.00 น บอกเลยว่าไม่มาที่นี่ถือว่าพลาด เพราะผู้เกาหลีและฝรั่งดีต่อใจมาก แต่ที่พลาดคือเรามาถึงฟรีดริ้งก็หมดซะแล้ว (ฟรีดริ้ง 20.00-21.00 น.) เพื่อนเลยสั่งเหล้าถังมา ราคาประมาณ 50,000 กีบ และกินเบียร์ต่อ เบียร์ลาวราคาขวดเล็ก/ใหญ่ ก็ราคา 20,000 กีบ คืนนี้เราหมดไป 40,000 กีบ

Day 2 
• 6.00 น. เช้านี้ตื่นมารับอากาศเย็นๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ และดูบอลลูนชิลๆ เราไม่พลาดที่จะเก็บรูปภาพบรรยากาศนี้ไว้ หลังจากนั้นทุกคนก็พร้อมที่จะไปลุยของกินที่ตลาดเช้า
ตลาดเช้าวังเวียงอยู่ไม่ไกลจากที่พัก พวกเราเดินชมวิถีชาวบ้าน ขายผัก ของป่า อาหาร บลาๆ และก็ไปหยุดที่ร้านข้าวต้ม ที่มีข้าวต้ม ข้าวเปียก ปลาท่องโก๋ โอวันตินและกาแฟ เราเลือกกินแค่ข้าวต้มราคา 10,000 กีบ อิ่มกันถ้วนหน้าก็กลับที่พักเตรียมตัวไป One day trip
พร้อมแล้ว ลุย !!

• 09.00 น. รถมารับถึงหน้าที่พัก และไปรอรับคนอื่นๆ ตามจุดนัดหมาย และเราก็ได้เจอเพื่อนใหม่อีกคน เป็นหญิงต่างชาติมาจาก Holland นางพูดไทยได้เพราะเคยมาเป็นครูที่ชลบุรี และที่พิเศษคือนางร้องเพลงไทยได้ ระหว่างทางเหมือมีคอนเสิร์ตเล็กๆ รวมตัวกันของศิลปินต่างพื้นที่ ร้องเพลงอะไรได้ก็ร้องกันไป ส่วนรถวิ่งไปตามถนนออกไปไกลจากที่พักหลายกิโล และถนนที่นี่บอกเลยว่าเกินคำว่าสามพันโบกแน่นอน ตับอาจจะแตกได้ งานฝุ่นฟุ้งๆ ก็มา ซักพักก็ถึงจุดแรกของกิจกรรมของพวกเรา
ภาพนี้คือสมาชิกในทริปของเรา เพิ่งรู้จักกันเมื่อวาน แต่คุยกันเหมือนรู้จักกันมาเป็นสิบๆ ปี 
ถึงตรงนี้เป็นจุดแรกที่ต้องเดินทางไปทำกิจกรรมที่ถ้ำช้างและถ้ำน้ำ
กิจกรรม มีดังนี้
จุดที่ 1
- ถ้ำช้าง สิ่งแรกที่ไม่พลาดคือการขอพรและเสี่ยงเซียมซี หลังจากนั้นก็เดินลัดเลาะหมู่บ้านและทุ่งนาไปทำกิจกรรมลอยห่วงยางลอดถ้ำน้ำ
จุดที่ 2 
- ลอยห่วงยางเข้าถ้ำน้ำ น้ำเย็นมาก ข้างในเป็นหินงอก หินย้อย และทำกิจกรรมเรียงหินในถ้ำ ระหว่างชมถ้ำเพื่อนต่างชาติก็เปิดคอนเสิร์ตอีกครั้ง ระหว่างทางในถ้ำไม่เหงาเลย ยังเฮฮากันได้ตลอด
หลังจากออกจากถ้ำ ก็ได้เวลาพักเที่ยง ด้วยเมนู บาบีคิว ข้าวผัดห่อใบตอง และขนมปัง รสชาติถูกปาก แต่เจ้าขนมปังนี้สิ แข็งเป็กเลย 55
(ไม่ได้ถ่ายรูปอาหารรวมๆ มา)
จุดที่ 3 
- พายเรือคายัคที่แม่น้ำซอง ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร พอถึงก็ถ่ายรูปรัวๆ ระหว่างทางมี Bar ริมน้ำให้เลือกนั่ง บางคนก็ล่องห่วงยางจิบเบียร์เย็นๆ ชิลไปอีก
จุดที่ 4
- เล่น Zip line ระหว่างทาง ซึ่งจุดนี้เป็น Zip line ที่ใหญ่ที่สุด (คนขายบอกมานะ) จะมีทั้งหมด 9 จุด แต่ละจุดก็มีความสูง และความหวาดเสียวต่างกัน เราใช้เวลาประมาณ 40 นาที ในจุดนี้ หลังจากเล่นเสร็จก็ไปพายเรือต่อไปยังสุดท้าย
จุดที่ 5 
- กระโดดน้ำที่ Blue Lagoon 1 คนต่อคิวกระโดดน้ำกันยาวมาก ใครมาแล้วไม่ลองกระโดดถือว่าพลาดมาก เรากระโดดไป 1 ครั้ง ถึงกับติดใจเลยล่ะ แต่ไม่ไหวจะเล่นต่อเพราะน้ำเย็นมาก
จบ One day trip!!!

ยังไม่จบน๊า เดี๋ยวมาลงต่อนะคะ 

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่