หลังจากที่ชีวิตเจอเหตุการณ์ที่ต้องเข้าโรงพยาบาลหลายๆครั้งติดต่อกัน จากคนที่นานๆจะเข้าโรงพยาบาล เพราะไม่ค่อยป่วย กลายเป็นคนที่ร่างกายมีความไม่ปกติเกิดขึ้น ที่ต้องหาสาเหตุและทำให้เกิดความทุกข์ในจิตใจ เลยทำให้เข้าใจถึงความรู้สึกของคนที่ป่วย และเห็นการทำงานของพยาบาลและหมอ ที่อยากแชร์เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆน้อยๆก็ยังดีค่ะ...เราได้ใช้บริการทั้งโรงพยาบาลรัฐบาล และเอกชน ในที่นี้ขอเน้นที่โรงพยาบาลรัฐบาลนะคะ เราได้พูดคุยกับพยาบาล ก็พอทราบว่าเวลาการทำงานของพยาบาลและหมอ ค่อนข้างหนักหน่วง มันน่าสงสารตรงที่เวลาหมอและพยาบาลแนะนำว่าเราควรนอนตั้งแต่สี่ทุ่ม (เพื่อให้ร่างกายได้รับ Growth hormone) แต่หมอและพยาบาลกลับทำงานตลอดทั้งคืนแล้วถึงได้กลับบ้านไปนอนตอนสายๆ แถมยังต้องทำงานเป็นกะๆ สลับกันไป กะกลางวันสลับกลางคืน เราก็ไม่รู้ว่าพยาบาลจะมีเวลาออกกำลังกายบ้างหรือเปล่า สำหรับเรา อาชีพพยาบาลเป็นอาชีพที่เสียสละและใจบุญที่สุด เพราะต้องเสียสละเวลาและร่างกาย และรายได้ก็ไม่ได้มากมายถ้าเทียบกับอาชีพอื่นในโรงพยาบาล (อันนี้คือที่เราถามพยาบาลมา เราไม่ได้ไปหาข้อมูลตัวเลขรายได้ที่แท้จริงจากหน่วยงานราชการ)
เมื่อพูดถึงคนป่วย เมื่อป่วยกาย และก็อาจจะป่วยใจด้วย เพราะไม่มีค่ารักษาที่เพียงพอ ถึงแม้ว่าจะได้ใช้สิทธิ์บัตรทอง แต่ก็อาจจะไม่ได้ครอบคลุมทุกอย่าง เรามีโอกาสได้คุยกับพี่ที่ทำงานในหน่วยงานของโรงพยาบาล เลยได้รู้ว่า เงินช่วยเหลือผู้ป่วยที่ยากจน ส่วนใหญ่ก็มาจากเงินบริจาค อุปกรณ์การแพทย์ดีๆ ก็มีราคาสูง ซึ่งงบประมาณอาจจะไม่เพียงพอ ก็ต้องอาศัยเงินบริจาคมาช่วย...เหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้เราหันมามองชีวิตในอีกมุม เห็นคุณค่าในการบริจาคเงินให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ เพราะมันคือการช่วยทุกๆคนในสังคม รวมถึงช่วยตัวเราเองด้วย ที่จะได้รับการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะมีฐานะแบบไหนก็ตาม เรามองว่าชีวิตทุกชีวิตมีค่าเท่าเทียมกัน...ถ้าเราสามารถช่วยอะไรสังคมได้บ้าง เล็กๆน้อยๆก็ยังดี เราก็อยากให้คนที่ได้อ่านกระทู้ของเรา เปิดมุมมองใหม่ นอกจากการทำบุญตามวัดแล้ว การบริจาคเงินให้โรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศ ก็เป็นการทำบุญที่ได้ช่วยเหลือคนในสังคมได้มากมาย
เพิ่มเติมจากความเห็นส่วนตัวนะคะ...สังคมทุกวันนี้ ผู้คนมีความเท่าเทียมกันมากขึ้น ไม่ว่าจะทางเพศ ทางอายุ ที่หลายคนมองว่า มันไม่ได้แตกต่าง แต่ในความไม่แตกต่างมันก็ยังมีความแตกต่างอยู่ดี สิ่งที่เราอยากให้มันกลับมาในสังคมแห่งความเท่าเทียม คือ น้ำใจ...เมื่อมีน้ำใจ คิดช่วยเหลือกัน เราก็ไม่ได้คิดหรอกว่า นี่เราเท่าเทียม หรือ เราแตกต่าง เพราะเราคิดแค่ว่า เราอยากช่วยเพราะเราช่วยได้ ก็แค่นั้นเอง...
เป็นกำลังใจให้คุณพยาบาล คุณหมอ และผู้ป่วยทุกท่าน
เมื่อพูดถึงคนป่วย เมื่อป่วยกาย และก็อาจจะป่วยใจด้วย เพราะไม่มีค่ารักษาที่เพียงพอ ถึงแม้ว่าจะได้ใช้สิทธิ์บัตรทอง แต่ก็อาจจะไม่ได้ครอบคลุมทุกอย่าง เรามีโอกาสได้คุยกับพี่ที่ทำงานในหน่วยงานของโรงพยาบาล เลยได้รู้ว่า เงินช่วยเหลือผู้ป่วยที่ยากจน ส่วนใหญ่ก็มาจากเงินบริจาค อุปกรณ์การแพทย์ดีๆ ก็มีราคาสูง ซึ่งงบประมาณอาจจะไม่เพียงพอ ก็ต้องอาศัยเงินบริจาคมาช่วย...เหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้เราหันมามองชีวิตในอีกมุม เห็นคุณค่าในการบริจาคเงินให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ เพราะมันคือการช่วยทุกๆคนในสังคม รวมถึงช่วยตัวเราเองด้วย ที่จะได้รับการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะมีฐานะแบบไหนก็ตาม เรามองว่าชีวิตทุกชีวิตมีค่าเท่าเทียมกัน...ถ้าเราสามารถช่วยอะไรสังคมได้บ้าง เล็กๆน้อยๆก็ยังดี เราก็อยากให้คนที่ได้อ่านกระทู้ของเรา เปิดมุมมองใหม่ นอกจากการทำบุญตามวัดแล้ว การบริจาคเงินให้โรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศ ก็เป็นการทำบุญที่ได้ช่วยเหลือคนในสังคมได้มากมาย
เพิ่มเติมจากความเห็นส่วนตัวนะคะ...สังคมทุกวันนี้ ผู้คนมีความเท่าเทียมกันมากขึ้น ไม่ว่าจะทางเพศ ทางอายุ ที่หลายคนมองว่า มันไม่ได้แตกต่าง แต่ในความไม่แตกต่างมันก็ยังมีความแตกต่างอยู่ดี สิ่งที่เราอยากให้มันกลับมาในสังคมแห่งความเท่าเทียม คือ น้ำใจ...เมื่อมีน้ำใจ คิดช่วยเหลือกัน เราก็ไม่ได้คิดหรอกว่า นี่เราเท่าเทียม หรือ เราแตกต่าง เพราะเราคิดแค่ว่า เราอยากช่วยเพราะเราช่วยได้ ก็แค่นั้นเอง...