๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ เจาะเวลาหาอดีต แบบหวยออกค่อยบอกเบอร์ สไตล์ lifelong investor

ว่ากันถึงเรื่องหวยจริงๆก่อน 

หยุดยาวช่วงนี้   ไม่มีราคาหุ้นเคลื่อนไหวให้นั่งดูเพลินๆ 

วันนี้ หยุดยาววันสุดท้าย  ใครยังว่างลองเจียดเวลาไปทำเรื่องที่เราไม่เคยทำมาก่อน

อยู่กรุงเทพมาตลอดชีวิต  แต่ยังไม่เคยไปซื้อล็อตเตอรี่ที่สี่แยกคอกวัว 

สองวันก่อน  เลยถือโอกาสที่รถว่าง  หาที่จอดรถริมถนนได้   ลงไปซื้อ แล้วให้ภรรยาถ่ายภาพกับแม่ค้าไว้เป็นพยาน  
เผื่อจะถูกรางวัลใหญ๋ 


เมื่อวาน เจอหุ้นเทิร์น อราวด์  เอ๊ยเจอศูนยการค้าที่กำลังจะเทิร์น อราวด์
เพราะผลพวงของสถานีรถไฟฟ้าภาษีเจริญ ที่กำลังจะมาจอดหน้าห้าง

ชั้น 4  ของซีคอนบางแค    ได้ปรับปรุงร้านอาหารที่หมดสัญญาเช่าบางส่วน
ให้เป็น ศูนย์อาหารสตรีทกูรเมต์  

สถานที่สะอาด สว่างโล่ง  วิวสวย  น่านั่งกินอาหารมาก 

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มาถึงเรื่องที่ตั้งใจจะโพสต์

เนื่องจากตอนนี้เพื่อนมีปัญหากับการให้เพื่อนอีกคนซื้อขายหุ้นให้ 
เพราะเงินทองมันไม่เข้าใครออกใคร   

เพื่อนมาพูดอยู่หลายรอบ  จะให้กลับไปซื้อขายให้อีก
ซึ่งผมได้ปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงว่า   จะไม่ซื้อขายหุ้นให้อีกแล้ว

พอมีเวลาหาข้อมูลหุ้นที่เคยซื้อขายให้ แล้วเก็บข้อมูลไว้ในฮาร์ดดิสก์

เอาข้อมูลที่เคยเซฟไว้มานั่งดู

จริงๆ   เลขที่ออก   มันก็มีที่มาที่ไป 

ภาพประกอบข้างใต้  เป็นข้อมูลกำไรขาดทุนของพอร์ตหุ้น ที่เคยซื้อขายให้เพื่อน โดยการเซนต์มอบอำนาจให้
ซึ่งไม่ได้ซื้อขายให้อีกเลย  มานานสี่ห้าปีแล้ว
ด้วยสาเหตุที่ ไม่อยากจะต้องมาเครียดเพราะนิสัยส่วนตัวของตัวเอง จนผิดใจกัน  กลายเป็นผีไม่เผา เงาไม่เหยียบในที่สุด

ดูภาพประกอบก่อน   ช่องท้ายของตาราง
คือส่วนแบ่งกำไร  ที่ต้องแบ่งให้กับเพื่อนอีกคน ที่เป็นคนตัดสินใจซื้อขายหุ้นสามตัวให้


หุ้นคงเหลือจากการขายรอบแรก 

ต่อมาก็ได้ขายทิ้งให้จนหมด ในรอบที่สอง

สาเหตุที่ขายทิ้งจดหมดพอร์ต    จะเฉลยในตอนท้าย


รอบที่สาม  ได้ซื้อขายให้อีกครั้ง  หลังจากเพื่อนรบเร้าให้ซื้อขายให้อยู่หลายรอบ


จากภาพประกอบแรก

หุ้นในกรอบเหลือง   
เป็นหุ้นที่เกือบจะเปลี่ยนชีวิตในทางที่ดีมากๆ
แต่ก็ทำไม่ได้    โดยเฉพาะ แจ็คเจีย jct กับเพรสซิเด้นท์เบเกอรี่  pb
(ต้องพิมพ์บอกเป็นชื่อหุ้นเต็ม  เพราะเพื่อนไม่รู้เรื่องหุ้น ไม่ว่าตัวไหน)

ส่วนประกันคุ้มภัย  ขายทิ้งไปบางส่วนก่อน  เพื่อลดความเครียดในการถือหุ้น

หุ้นในกรอบเขียว 
เป็นหุ้นประกันคุ้มภัย ส่วนที่เหลือจากการขายลดความเครียดในการถือหุ้นไปบางส่วน
ได้กลายเป็นหุ้นเปลี่ยนชีวิตพอร์ต  จากการขายเทนเดอร์ออฟเฟอร์เพื่อออกจากตลาดหุ้นที่ราคา 77 บาท

หุ้นในกรอบแดง

บางทีคนคำนวณ  ก็ไม่สู้ฟ้าลิขิต ช่วงนั้นยังคัทลอสไม่ค่อยเป็นเท่าไร

ราคาหุ้นมันดันโผล่ขึ้นมาอีกเฮือกสุดท้าย  ให้ได้ขายทิ้งพอดี

ซื้อมาหนึ่งแสนหุ้นที่ราคาหุ้นละหกบาท  ขายได้ที่ราคาประมาณ หกบาทแปดสิบสตางค์
ก่อนที่บริษัทจะโดนไล่ออกจากตลาด   หลังจากที่นายอีริกกล้ามใหญ่ หอบเงินที่โกงได้นับพันล้าน หนีออกนอกประเทศ

เลยรอดจากการที่เงินจริง จะหายไปหกแสนกว่าบาท

ดูภาพประกอบซ้ำอีกรอบ 


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จะว่าไปแล้ว  การซื้อขายหุ้นให้เพื่อน หรือซื้อขายให้ตัวเอง    เป็นไปตามที่โซรอสพูดจริงๆ  


ท้ายที่สุด   สาเหตุสำคัญที่ผมตัดสินใจเลิกซื้อขายหุ้นให้เพื่อนก็คือ

พิมพ์พอร์ตให้เพื่อนดูไปกี่ที   ก็มีแต่กำไรเงินมายาในพอร์ต  


นานๆเข้า  เพื่อนเริ่มทนไม่ไหว  ถามหาเงินกำไรจริงที่จะโผล่ในบัญชีเงินฝากเพิ่มเติมจากเดิม 

ก็เลยจัดการขายล้างพอร์ต     
ที่จำได้แม่นคือ  ขายแจ็คเจียไปที่  40 บาท สองหมื่นหุ้น
ส่วนตัวอื่น จำไม่ได้แล้ว  แต่มีกำไรไม่เป็นกอบเป็นกำเท่าไร 
 
และได้ขายเพรสซิเด้นท์ เบอเกอรี่ไปก่อนหน้า หลังจากเพื่อนถามหากำไรเงินจริงบ่อยครั้ง
ที่ราคา  70 บาท ตอนพาร์ 10 บาท !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ยอมรับตามตรงว่า  ในการซื้อขายหุ้น  ไม่ชอบให้ใครมาถามหรือมาบอกว่า  ทำไมไม่ซื้อตัวนี้ ทำไมไม่ขายตัวโน้น
จะว่าเป็นคนชอบซื้อขายหุ้นแบบเผด็จการ  ก็คงจะใช่