▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
นักท่องเที่ยว
Backpack
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
ออโรรา (Aurora)
[CR] ผจญภัยแสงเหนือรัสเซีย แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร ตอน 2
นี่คือสภาพลากเลื่อนที่พวกเราทั้ง 24 คนต้องนั่งไป สุดยอดมากๆใช่ไหมคะ
เมื่อไกด์ตรวจตรา เตรียมความพร้อมเรียบร้อย อุณหภูมิก็ลดฮวบลงอีกเหลือ -30 และแล้วก็ถึงเวลาเดินทางอันน่าตื่นเต้นซักที
เกาะให้แน่นจร้า
เค้ากระตุกลากเลื่อนยังไงก็ไม่สามารถเอาเลื่อนออกจากหล่มได้หมด ในที่สุด ตาลุงซามิก็สามารถกู้ลากเลื่อนได้เพียงตัวเดียวจาก 3 เค้าชี้โบ้ชี้เบ้ให้พวกเราทั้งหมดวิ่งขึ้นลากเลื่อน ในตอนนั้น เคทพยายามตั้งสติอย่างเต็มที่ และดูเหมือนว่าผู้ร่วมทริปทุกคนก็เช่นกัน จากเลื่อน 3 ตัวพวกเราเริ่มวิ่งขึ้นเลื่อนที่เคลื่อนตัวทีละคน ทีละคน จนนั่งครบ คือจากตอนมาครั้งแรกนั่งแค่ 3 คนบนเลื่อน 1 อัน เป็น 6 คน และพวกเราก็นั่งกันไปจนถึงที่พักได้ในที่สุด
สิ่งที่เคทดีใจ และประทับใจเป็นที่สุดก็คือ เคทได้เรียนรู้ว่าตัวเคทเองมีจิตใจกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว และมีความเป็นผู้นำอย่างแท้จริง เพราะเคทช่วยให้ทุกคนวิ่งลงเลื่อนลากทีละคน ทีละคน จนตัวเองวิ่งขึ้นไปเป็นคนสุดท้าย รู้สึกภูมิใจกับทุกคนและตนเองมากๆที่ไม่มีใครเห็นแก่ตัวกันเลย มีน้ำใจช่วยเหลือกันยามคับขันอย่างแท้จริง รักและประทับใจทุกคนจริงๆค่ะ
พอขบวนของพวกเราเข้าไปที่บ้านพักอันแสนอบอุ่นได้ ก็ดีใจมากๆ แต่แล้วก็มารู้ว่าที่ทุกคนเข้ามายังมีอีก 3 ท่าน ไม่รวมไกด์และคนขับรถที่ยังยืนรอให้สโนว์โมบิลที่ขนคนกลับมาได้ไม่หมด กลับไปรับ
ใจเคทตอนนั้นเหมือนอยู่ในกองไฟ มองหน้าพี่สาว และครอบครัวของคุณหมอที่รอคุณพ่อ รอสามีกลับมาแล้วเคทใจตกลงไปถึงตาตุ่ม ถือว่าการเฝ้ารอตรงนั้นมันช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้าและยาวนานเป็นที่สุด เคทเดินไปเดินมา ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ตัดสินใจแล้วว่ายังงัยสภาพการเดินทางอันตรายขนาดนี้แต่ละคนคงไม่มีกระใจที่จะทำอะไรแน่นอน
และแล้วการรอคอยอันแสนทรมานก็สิ้นสุดลง เมื่อวีรบุรุษ 3 ท่านได้มาถึงที่พัก ยังจำภาพและบรรยากาศตอนนั้นได้ดีว่าทุกคนดีใจขนาดไหน ครอบครัวเข้าไปกอดพ่อ สามีตัวเองกัน เคทเองน้ำตาซึมเลยล่ะค่ะ แต่ก็ต้องฝืนพยายามทำตัวเข้มแข็ง ไม่ให้ผู้ร่วมทางใจเสียไปกับเคทด้วยนั่นเอง
สิ่งที่ได้และเรียนรู้ คือ ความกล้าหาญ เสียสละ และความเอื้อเฟื้อที่พวกเรามีให้กัน เคทหัวใจพองโตมากๆ ทุกๆคนมาบอกเคทว่าไม่เป็นไร ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เหนือการควบคุม และพวกเค้าโอเคมากๆกับการเดินทางสุดแสนพิเศษครั้งนี้
คืนนั้นพวกเรานั่งดื่มกินคุยกันดึกดื่นเลยล่ะค่ะ รวมถึงไกด์ ดีม่าและอังเดร คนขับ ความสัมพันธ์ก่อเกิดจากเรื่องราวและสิ่งต่างๆที่พบเจอมาด้วยกันอย่างแท้จริงนะคะ นี่แหล่ะค่ะเสน่ห์ของการเดินทาง ไม่ใช่แค่เพียงสถานที่ แต่เป็นผู้คนดีๆที่เคทได้พบ ได้เจอ เรียกว่าหลุดออกจากกล่องแคบๆในชีวิตปกติของเคทเลยทีเดียว เกิดมาชาตินี้เคทว่าใช้ชีวิตคุ้มค่ามากๆ เกินกว่าที่ฝันไว้แล้วล่ะค่ะ
เริ่มเข้าช่วงเวลา 3 ทุ่ม ไกด์ก็บอกพวกเราว่า ออโรล่ามาแล้วให้เราเดินออกไปดุที่ทะเลสาบ .
ภาพที่เห็นแม้ว่าแสงจะมีไม่มาก แต่ด้วยบรรยากาศทะเลสาบอันสวยงามราวกับอยู่ในเทพนิยาย ทำให้พวกเราอยู่ตรงนั้นกันเกือบ 3 ชั่วโมงเก็บภาพแบบ exclusive มากๆ แสงเหนือเปลี่ยนรูปไปมามันช่างสวยงามตระการตาซะจริงๆ
เสียดายมากๆที่เคทถ่ายภาพไม่เก่งเลย ได้ภาพมาแค่นี้ จริงๆอยากบอกว่าถ้าช่างภาพเก่งๆไปคงได้ภาพสวยกว่านี้อีกหลายเท่าเลยค่ะ
วิวแบบนี้เคทบอกเลยว่าไม่เคยเห็นภาพในเนตจากที่ไหนเลย เคทได้รับการบอกเล่าว่าเราเป็นชาวไทยกรุ๊ปแรกที่มาเยือนที่แห่งนี้ น่าภูมิใจมากๆเลยนะคะ
แต่ยังงัยงานเลี้ยงนี้จำเป็นต้องเลิกลาเร็วกว่ากำหนด เพราะเคทไม่อยากเสี่ยงอีกแล้ว ด้วยช่วงเวลาที่ไปเป็นช่วงโพล่าไนท์ คือเป็นช่วงที่บรรยกาศจะมืดไว และแทบจะไม่มีแสงสว่างเลยทั้งวันทั้งคืน เคทจึงหารือกับคณะที่เดินทางด้วยกันว่าพวกเราจะออกไวกว่าแผน คือ ออกตี 5 ครึ่ง หรือไม่เกิน 6 โมงเช้า เพื่อเดินทางออกจากทะเลสาบกลับไปยังมูร์มันส์กให้เร็วที่สุด กลัวน้ำแข็งละลาย กลัวว่าเลื่อนติดหล่มอีก ช่วงเช้าๆยังหนาวเย็นน่าจะไม่เกิดเหตุการณ์นั้น ทุกคนตกลงพวกเราจึงต้องยอมเหนื่อยกันอีกหน่อย แล้วกลับไปนอนในเมืองแทน
บรรยากาศเช้ามืดในช่วงโพล่าไนท์ที่เราจะต้องออกเดินทางกัน มันก็น่ากลัวเหมือนกันนะ แต่ใจตอนนี้ไม่อยากรอแล้วจร้า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น