▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
เที่ยวภูเขา
เที่ยวต่างประเทศ
เดินป่า
ภูเขาไฟเคลิมูตู Kelimutu 1,690m. เที่ยวอินโดนีเซีย
ภูเขาไฟ Kelimutu เคลิมูตู 1,690ม. เที่ยวอินโด
เป็นทริปการเดินทางเที่ยวอินโดนีเซีย
สามารถไปดูรีวิว ลาบวนบาโจ ได้ที่ลิงค์นี้
https://pantip.com/topic/38759329
##########
#คลิปvdo เคลิมูตู Kelimutu อินโดนีเซีย
https://youtu.be/L6K2eEbgYUk
สนามบินKomodo ไปยัง Ende
#เช้าวันที่ห้า เราออกจากที่พักที่ #ลาบวนบาโจ เพื่อจะไปยังเมือง #Ende ด้วยเครื่องบินภายใน ใช้เวลาเดินทางอีก ราว1ชั่วโมง แล้วต่อรถTaxi ที่สนามบิน เพื่อเดินทางเข้าไปยังเมือง #Moni ซึ่งอยู่ใกล้กับ อุทยานแห่งชาติ Kelimutu ค่าTaxi ราว500,000 รูเปียส์/คัน (1,250บ.)ใช้เวลาเดินทางราว1.30ชั่วโมง
จุดชมวิว ซึ่งรถTaxi จอดแวะให้เราถ่ายรูป
เรามาถึงที่พักเมืองโมนิ #Moni ตอนบ่าย3โมงกว่า ที่นี้ส่วนใหญ่จะเป็นที่พักแบบธรรมดาบ้านๆ ไม่ได้มีโรงแรมหรูๆเหมือนบางสถานที่ท่องเที่ยว
หลังจากหาที่พักได้ เราจึงเอาของเก็บเข้าที่พักก่อน เพื่อจะไปดูแสงเย็นที่ #Kelimutu เพราะไหนๆก็มาแล้ว
โดยเราได้ติดต่อเหมาTaxi คันเดิม ซึ่งTaxi คิดค่ารถที่ 300,000 รูเปียส์ (750บ.) ใช้เวลานั่งรถขึ้นไปอีกราว40นาที ช่วงที่มาเป็นช่วงที่กำลังทำถนน
พอรถยิ่งขับขึ้นมา สูงขึ้นเรื่อยๆ หมอกก็เริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆตาม ทั้งๆที่ก่อนขึ้นมาด้านล่างกับข้างบน อากาศคนละเรื่องเลย
พอมาถึงจุดจ่ายเงิน ตรงทางเข้าอุทยาน เจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าขึ้นไปตอนนี้ ก็ไม่น่าจะเห็นอะไร เพราะ ตอนนี้หมอกด้านบนหนามาก เราจะเสียเงินค่าเข้าอุทยาน 150,000 รูเปียส์ (380บ.) ไปเปล่าๆ พวกเราจึงตัดสินใจเดินทางกลับมาที่พัก
แล้วหาอะไรกิน ซึ่งที่นี้อาหารราคาไม่แพง ตกเฉลี่ยจานหนึ่ง ราว2-40,000รูเปียส์ (ราว50-100บ.) ส่วนถ้าBakso ก็ราว10,000 รูเปียส์ (25บ.)
แถวนี้จะมีหมู่บ้านโบราณด้วย
คืนนี้เรานอนกันแต่หัวค่ำ เพราะ พรุ่งนี้เราต้องออก ราวตี4:30 เพื่อจะไปดูแสงเช้า จุดที่เราพักความสูงราว660ม. แต่คืนนี้อุณหภูมิ ราว17องศา วัดจากในห้องพัก ส่วนด้านนอก บนท้องฟ้า ก็เห็นดาวชัดมากๆ
##########
#เช้าวันที่หก เราออกจากที่พักตี4:30 แล้วนั่งรถTaxiคันเดิม พวกเราถึงจุดเริ่มเดินที่อุทยาน ราวตี5 แล้วต้องเดินต่อไปอีกจากจุดที่รถจอด ระยะทางเดินราว1km. ใช้เวลาเดินอีกราวครึ่งชั่วโมง
*ควรพกไฟฉายมาด้วย
ทางเดินจะเป็นบันได เดินขึ้นสะดวก ระหว่างทางก็จะมีจุดชมวิว แต่ละตำแหน่งของปากปล่องภูเขาไฟ แต่เราเลือกที่จะเดินไปจุดไฮไลท์ก่อน แล้วค่อยเดินย้อนมาถ่ายรูป ช่วงขากลับ
อากาศช่วงเช้าจะเย็นๆหน่อย ราว13องศา กว่าจะได้ภาพแต่ละมุม ก็ต้องหาเหลี่ยมหลบคน555 ที่แรกตอนอยู่แถวที่พัก ไม่คิดว่าจะมีคนมาเยอะขนาดนี้555
ด้านบนจะมีจำหน่าย ทั้งกาแฟร้อน น้ำร้อน บะหมี่สำเร็จรูป ขนม ไว้บริการด้วย
#เคลิมูตู #Kelimutu มีความสูงราว1,690ม. มีทะเลสาป3สี ที่ปากปล่องภูเขาไฟ แต่ละปล่องจะมีสีต่างกัน ต้องมองจากภาพถ่ายดาวเทียมถึงจะเห็นชัด
จุดชมวิวปล่องภูเขาไฟตรงนี้ จะสามารถมองเห็น 2ทะเลสาปติดกันได้อย่างชัดเจน
หลังจากเก็บภาพกันเรียบร้อย เราก็เดินทางกลับลงมา กินมื้อเช้าตรงที่พัก แล้วรีบออกเดินทางมุ่งหน้าสู่สนามบินที่ #Kupang ที่ ติมอร์ ใช้เวลาเดินทางราว2ชั่วโมงกว่า เพื่อมาต่อเครื่องจากที่นี้ เพื่อกลับไป #Bali
ตอนนั้นสาเหตุที่เราไม่ได้กลับไป สนามบินที่ #Ende เพราะ ไฟลท์บินที่นี้ มีรอบ11โมง ทำให้เราไม่มีทางกลับมาเช็คอิน เพื่อขึ้นเครื่องทันแน่นอน จึงเลือกที่จะมาขึ้นเครื่องที่ สนามบิน #Kupang แทน แล้วต่อเครื่องที่ #Maumere เพื่อบินกลับไป #Bali เพราะที่นี้ จะมีเที่ยวบินไฟลท์ ช่วงบ่ายโมง สนามบิน Maumere ที่นี้อยู่อีกฝากฝั่งของอินโดนีเซียเลย อยู่ในเขตติมอร์
เพลนทริปเที่ยวต่อไปของเรา คือ ไปลงที่ Bali บาหลี เพื่อที่จะไปเที่ยวต่อที่ เกาะปนีดา นั้นเอง
สามารถดูรีวิว เกาะปนีดา ได้ที่ลิงค์นี้
/////////
สามารถติดตามเรื่องราวการเดินทางของเราได้ที่
https://m.facebook.com/storytripper.hd
########