เคยได้ยินมาว่าการชนะใจตัวเองนั้นมันยาก อยากให้เพื่อนๆแชร์ประสบการณ์การเดินออกมาจากชีวิตคนที่มีเจ้าของแล้ว
ในช่วงเวลา6-7 เดือนที่ได้รู้จักคนๆนึงเราได้เจอเค้าตอนแรกก็ไม่ได้สนใจอะไรแต่เค้าก็ทักมาคุยกับเราเรื่อยๆ
จนวันเกิดเค้าก็นัดเราทานข้าวและก็ให้นาฬิกาของ Corum เราก็ไม่ได้คิดอะไรหลังจากนั้นก็คุยกันมาตลอด
หลังจากช่วงปีใหม่เราจะเดินทางไปญี่ปุ่นกับครอบครัวเค้าก็นัดเราไปทานข้าวและก็ให้เงินค่าช็อปปิ้งเราไป
ตอนนั้นเราก็เริ่มรู้สึกแล้วว่าไม่ได้เป็นอะไรกันทำไมต้องให้ขนาดนี้แต่เราก็ไม่ได้สงสัยหรือถามเค้านะอารมณ์เหมือน
นางจีบและทุ่มเทอะไรประมาณนี้ หลังจากกลับจากญี่ปุ่นด้วยเหตุการณ์ต่างๆ ทำให้ไม่ได้เจอกันเดือนกว่าแต่ก็คุยกันตลอด
พอมาเจออีกทีนางก็เริ่มอยากให้เราติดต่อติวเตอร์ภาษาอังกฤษ เริ่มทำอะไรให้ชีวิตเราดีขึ้น
คือต้องบอกก่อนนะคะ จขกท.กำลังเรียนอยู่เค้าวางแผนอยากให้เราไปฝึกงานกับ บ.เพื่อนเค้า
เหมือนจะปูทางให้เราจบมามีงานดีๆทำหลังจากคุยได้สักพักก็มีเซอไพร์สบ้าง
เช่นกระเป๋า MCM 2 ใบ และ rolax อีก1
ซึ่งต้องบอกก่อนนะคะว่าอย่างมากแค่จับมือ ยังไม่เคยแม้แต่หอมแก้มเลยด้วยซ้ำ
เราก็เลยเริ่มรู้สึกดีๆ เพราะเออเค้าไม่เคยมาทำอะไรเรานะ เค้าดีกับเราเสมอมา จนเดือนที่แล้ว
เราเริ่มอยากไปเที่ยวกับเค้า เลยจองตั๋วไปโตเกียว จองที่พักตั้งแพลนไว้หมดแล้ว
จนอาทิตย์หน้ากำลังจะไป เราเริ่มรู้สึกอยากถอยออกมา เพราะเรากลัว
(แต่จริงๆก็ตกลงกันแล้วว่าจะไม่มีอะไรกัน)
เค้าก็แฟร์นะคะเค้าก็ตกลง แต่พอมาวันนี้ เรากลับกลัวแม้มันจะไม่มีอะไรก็ตาม
เรากลัวว่าวันนึงถ้าเรามีสามีแล้วสามีเราไปชอบคนอื่นแบบนี้เราก็คงเสียใจน่าดู
เมื่อวานเราจึงบอกตัดความสัมพันธ์กับเค้า เค้าก็ไม่รั้งนะคะ ตกลงจบกันด้วยดี
เค้าก็เข้าใจว่าเรารู้สึกยังไง เราก็เสียใจนะ แต่เราไม่กล้าไปลึกกว่านี้แล้ว
นึกแล้วก็ตลกตัวเอง เจอคนดี แต่มันเป็นไปไม่ได้
ปล. เราไม่ได้รักเพราะเค้าเปย์อะไรนะคะ เรารู้สึกว่าอยู่กับเค้าเราไม่ต้องมานั่งแอ๊บ แต่ภรรยาเค้าไม่ได้ทำอะไรผิดเราก็ต้องทำสิ่งที่ถูกต้องจริงไหมคะ
เราไม่ได้ตั้งกระทู้อวดนะคะ เราแค่อึดอัดใจ เสียใจแหละค่ะ อยากฟังประสบการณ์คนอื่นบ้าง ว่าก่อนออกมาต้องใจเด็ดแค่ไหน
แน่นอนต้องมีคนไม่เห็นด้วย เราพร้อมรับฟังทุกความเห็นนะ
เดินออกจากชีวิตคนมีเจ้าของแล้ว
ในช่วงเวลา6-7 เดือนที่ได้รู้จักคนๆนึงเราได้เจอเค้าตอนแรกก็ไม่ได้สนใจอะไรแต่เค้าก็ทักมาคุยกับเราเรื่อยๆ
จนวันเกิดเค้าก็นัดเราทานข้าวและก็ให้นาฬิกาของ Corum เราก็ไม่ได้คิดอะไรหลังจากนั้นก็คุยกันมาตลอด
หลังจากช่วงปีใหม่เราจะเดินทางไปญี่ปุ่นกับครอบครัวเค้าก็นัดเราไปทานข้าวและก็ให้เงินค่าช็อปปิ้งเราไป
ตอนนั้นเราก็เริ่มรู้สึกแล้วว่าไม่ได้เป็นอะไรกันทำไมต้องให้ขนาดนี้แต่เราก็ไม่ได้สงสัยหรือถามเค้านะอารมณ์เหมือน
นางจีบและทุ่มเทอะไรประมาณนี้ หลังจากกลับจากญี่ปุ่นด้วยเหตุการณ์ต่างๆ ทำให้ไม่ได้เจอกันเดือนกว่าแต่ก็คุยกันตลอด
พอมาเจออีกทีนางก็เริ่มอยากให้เราติดต่อติวเตอร์ภาษาอังกฤษ เริ่มทำอะไรให้ชีวิตเราดีขึ้น
คือต้องบอกก่อนนะคะ จขกท.กำลังเรียนอยู่เค้าวางแผนอยากให้เราไปฝึกงานกับ บ.เพื่อนเค้า
เหมือนจะปูทางให้เราจบมามีงานดีๆทำหลังจากคุยได้สักพักก็มีเซอไพร์สบ้าง
เช่นกระเป๋า MCM 2 ใบ และ rolax อีก1
ซึ่งต้องบอกก่อนนะคะว่าอย่างมากแค่จับมือ ยังไม่เคยแม้แต่หอมแก้มเลยด้วยซ้ำ
เราก็เลยเริ่มรู้สึกดีๆ เพราะเออเค้าไม่เคยมาทำอะไรเรานะ เค้าดีกับเราเสมอมา จนเดือนที่แล้ว
เราเริ่มอยากไปเที่ยวกับเค้า เลยจองตั๋วไปโตเกียว จองที่พักตั้งแพลนไว้หมดแล้ว
จนอาทิตย์หน้ากำลังจะไป เราเริ่มรู้สึกอยากถอยออกมา เพราะเรากลัว
(แต่จริงๆก็ตกลงกันแล้วว่าจะไม่มีอะไรกัน)
เค้าก็แฟร์นะคะเค้าก็ตกลง แต่พอมาวันนี้ เรากลับกลัวแม้มันจะไม่มีอะไรก็ตาม
เรากลัวว่าวันนึงถ้าเรามีสามีแล้วสามีเราไปชอบคนอื่นแบบนี้เราก็คงเสียใจน่าดู
เมื่อวานเราจึงบอกตัดความสัมพันธ์กับเค้า เค้าก็ไม่รั้งนะคะ ตกลงจบกันด้วยดี
เค้าก็เข้าใจว่าเรารู้สึกยังไง เราก็เสียใจนะ แต่เราไม่กล้าไปลึกกว่านี้แล้ว
นึกแล้วก็ตลกตัวเอง เจอคนดี แต่มันเป็นไปไม่ได้
ปล. เราไม่ได้รักเพราะเค้าเปย์อะไรนะคะ เรารู้สึกว่าอยู่กับเค้าเราไม่ต้องมานั่งแอ๊บ แต่ภรรยาเค้าไม่ได้ทำอะไรผิดเราก็ต้องทำสิ่งที่ถูกต้องจริงไหมคะ
เราไม่ได้ตั้งกระทู้อวดนะคะ เราแค่อึดอัดใจ เสียใจแหละค่ะ อยากฟังประสบการณ์คนอื่นบ้าง ว่าก่อนออกมาต้องใจเด็ดแค่ไหน
แน่นอนต้องมีคนไม่เห็นด้วย เราพร้อมรับฟังทุกความเห็นนะ