[CR] ☁︎ FLORES indonesia : หาดดำ ทรายชมพู ถึงภูเขาไฟ

เพราะเชื่อว่าประเทศที่มีภูเขาไฟเยอะๆ มักจะมีธรรมชาติสวยๆแปลกๆ
เลยลองค้นอินโดนีเซียดูอีกครั้ง ถ้าไม่ใช่ บาหลี โบรโม่ จะไปไหนดี
สุดท้ายได้ออกมาเป็น หาดดำ ทรายชมพู และภูเขาไฟ รวมๆ 8 สถานที่
สวยแบบลืมทุกอุปสรรคในทริปไปเลยค่ะ แม้ตัวจะไหม้แดดจนตอนนี้ก็ยังลอกเป็นแผ่นน่าขนลุก แต่เห็นวิวแล้วก็ไม่เสียใจเลย
สิ่งที่น่าดีใจสำหรับทริปนี้ คือเป็นทริปฉุกละหุก แต่มันก็รอด รู้แค่มีนาอยากเดินทาง แต่ค้นหาอยู่นานก็ไม่เจอที่หมายถูกใจ จนใกล้จะหมดเดือนอยู่แล้วก็คิดไม่ออก เลยลองไปชวนปาล์มเล่นๆ ปาล์มเป็นเพื่อนที่ชีวิตนี้เคยเจอหน้ากันไม่ถึง 5 วัน บ้านของปาล์มอยู่ติดทะเล แต่ก็ยังจะกล้าชวนคนทะเลไปเที่ยวทะเลอีก เหมือนชวนไว้ประกันตัวเองเฉยๆ ตัวเราเองจะได้ไม่เบี้ยว จนอีกอาทิตย์นึงจะเดินทาง ปาล์มก็ยังงงๆอยู่ว่าทริปนี้จะมีจริงมั้ย ตั๋วก็ยังไม่ซื้อ ที่เที่ยวแบบละเอียดๆก็ไม่ยอมบอก บอกแค่ตามชื่อปกเลยค่ะ มีหาดดำ มีทรายชมพู มีภูเขาไฟ มีตัวเงินตัวทองที่ใหญ่มากกินคนได้ นอกนั้นสิ่งที่บอกคือ ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเราเลือกที่เที่ยวที่ดีที่สุดให้เอง ไม่ต้องทำอะไรด้วย ขอเลือกเอง จองเอง แค่อยู่เฉยๆและโอนเงินมาพอ แล้วปาล์มก็ตกลง ยังแอบคิดอยู่เลยว่ามันบ้ารึเปล่า เป็นพริมมีคนมาชวนแค่นี้พริมไม่ไปนะ 5555
olympus mzuiko 12-200mm f3.5-6.3
ทริปนี้พริมมีโอกาสได้ลองเอาเลนส์ใหม่ที่ยืมมาจากทางโอลิมปัสไปใช้ด้วยค่ะ
เป็นเลนส์ที่พริมว่าเหมาะกับคนชอบเที่ยว ชอบถ่ายวิว และชอบความคล่องตัว พกตัวเดียวสบาย
ตามดูเรื่องเลนส์ได้ท้ายรีวิวนะคะ

ส่วนต่อไปนี้จะเป็นบันทึกและข้อมูลการเดินทางค่ะ

พิกัด
🔸komodo Island, labuan bajo, flores
🔹ende, flores

ที่เที่ยว
🔸kelor ปีนขึ้นเกาะเขียวอ่อนกับน้ำใสๆ
🔸sarai สวยมากกก หาดสีชมพูเข้มที่นักท่องเที่ยวไม่รู้
🔸pink beach หาดสีชมพูอ่อนที่นักท่องเที่ยวรู้ และมาเยอะด้วย
🔸komodo village หมู่บ้านริมทะเลที่ห่างไกล
🔸padar island เทรคขึ้นเขาดูวิวเกาะที่มี 3 อ่าว 3 สี
🔹blue pebbles beach หาดหินสีฟ้าบนทรายดำ
🔹ende black beach หาดทรายสีดำ ติดภูเขา วิวสวยแบบฮาวาย จูราสสิคๆ
🔹kelimutu ทะเลสาบ 3 สีบนปากปล่องภูเขาไฟ

จากไทยไปเที่ยวเกาะฟลอเรสต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่บาหลีก่อนค่ะ แล้วบินต่ออีกไม่ถึงชั่วโมง
ใครสนใจบาหลีอยู่แล้ว สามารถแวะเที่ยวได้เลย พริมแวะทั้งหัวทริปท้ายทริปเลยค่ะ แต่ก็ยังไม่ค่อยชอบอยู่ดี วุ่นวาย คนเยอะ รถติด





วันแรกที่มาถึงต้องทรานสิทบาหลี ไหนๆมาแล้วเลยแวะเที่ยวดู แต่รู้สึกไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ วุ่นวาย คนเยอะ รถติด ที่เที่ยวแทบทุกแห่งต้องต่อคิว ราคานักท่องเที่ยวเต็มไปหมด สิ่งเดียวที่ชอบคือระหว่างทางเขียวดี แล้วที่พักก็ถูกแบบเหลือเชื่อ ณ ตอนนี้ จะไม่แนะนำบาหลีให้ใคร

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

จริงๆ พริมคุยกับบริษัททัวร์หลายเจ้ามาล่วงหน้า แต่พอมาถึงเมืองลาบวนบาโจจริงๆ มีหลายเจ้าเปิดร้านอยู่เยอะมาก เรียกว่าสลับกับร้านอาหารไปตลอด 2 ข้างทาง โชคดีที่ข้างโฮสเทลเป็นศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว เลยแวะเข้าไปคุยก่อน แต่ศูนย์นักท่องเที่ยวพูดอังกฤษไม่ได้ เค้าเลยไปตามคนจากร้านข้างๆมาช่วยคุยแทน พริมแวะเวียนเข้าออกที่นี่ 3-4 รอบ ยังไงข้อมูลในเนทที่หามาก็สู้ข้อมูลจากคนที่นี่ไม่ได้หรอก หมู่เกาะโคโมโดมีที่เที่ยวเป็นสิบๆ พริมเลือกออกมาแค่ที่ชอบจริงๆไม่กี่ที่ ให้เที่ยววันเดียวก็หมดแล้ว แต่เพราะอยากเห็นแต่ละที่ในช่วงวันที่สวยที่สุด เค้าเลยแนะนำว่างั้นแบ่งเที่ยว 2 วันดีกว่า ฝนที่นี่จะตกแค่ช่วงบ่าย เช้าๆแดดแรงวิวสวยแน่นอน

หลังได้ข้อมูลและราคากลางมาแล้ว ก็ออกลุยเดินคุยไปทีละเจ้า สอบถามราคา ต่อราคาไปตามเรื่อง จริงๆนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เค้าจะไปเป็นทัวร์ มีเรือทัวร์ออกทุกวัน เลือกได้เลยจะไปทัวร์แบบกี่วัน แต่เนื่องจากที่เที่ยวที่พริมอยากไปไม่ตรงกับเจ้าไหนเลย เพราะไม่ดำน้ำ ไม่ไปดูมังกรโคโมโด จึงตัดสินใจแบบป๋าๆเหมาเรือเที่ยวเลยละกัน ความไม่ชอบร้อนทำให้เลือกเรือแอร์เท่านั้นด้วย

จนในที่สุดเดินผ่านเจ้านึงที่พนักงานเชิญชวนเข้าไปนั่งคุย ภายในเก่าๆ มืดๆ และเหม็นอับ แต่เป็นร้านที่พนักงานตัวเล็กๆเยอะมาก มารู้ทีหลังว่าทั้งหมดเป็นเด็กมัธยมมาฝึกงานค่ะ เด็กๆเรียนสาขา english tourism ดีจัง บ้านตัวเองมีที่เที่ยวสวยๆ ก็มีการเรียนด้านนี้กันตั้งแต่มัธยม กลับมาที่ร้านทึมๆกันต่อ พริมเอาแผนเที่ยวและราคา 6 ล้านที่ตั้งไว้ในใจมาบอกเค้าเลย คุยจนลุงยอมลดให้จาก 7.5 ล้าน เทคนิคคือทำเมินๆพร้อมไปตลอดเวลา ชั้นมีร้านในใจแล้ว แค่อยากมาดูๆว่ามีร้านไหนดีกว่ามั้ย ลุงคงรู้สึกยอมไม่ได้ ขอตัดหน้าร้านในใจเธอหน่อย พอตกลงกันได้ก็วางมัดจำด้วยเงินสดทั้งหมดที่มีในกระเป๋า ล้านกว่าๆ รวยไปอีก พอรู้ว่าบนเรือมีลูกเรือชายล้วนถึง 3 คน เลยหันไปชวนเด็กผู้หญิงในร้านลุงให้ไปด้วยกันทันที
ระหว่างนั่งกินหมี่โกเร็ง เลยว่าจะหาข้อมูลบริษัททัวร์ที่ของไว้ซะหน่อย ---- มือถือแทบล่วง!
ภาพลุงยิ้มแย้มที่เจอวันนี้ ในเนทกลายร่างเป็นลุงที่ง้างอิฐเตรียมขว้างลูกค้า และมีรูปหน้าตาถทึงอีกเต็มไปหมด เรตติ้งก็ได้ไป 1.7 จากคนรีวิวกว่าสิบคนในกูเกิ้ล ส่วนใน tripadvisor ก็ 2 ดาว ต่ำอะไรขนาดนั้น จองอะไรไปเนี่ย

พริมเดินกลับไปร้านลุงใหม่ ขอดูรูปเรือให้สบายใจหน่อย ปรากฏลุงปิดร้านกลับไปแล้ว น้องคนที่เราชวนไปด้วยกันพรุ่งนี้ก็กำลังจะกลับ คุยไปคุยมา น้องบอกวันมะรืนเจอกัน แย่ละ ไปพรุ่งนี้ค่ะน้อง น้องก็ยังยืนยันว่าลุงบอสไม่ได้พูดถึงพรุ่งนี้เลย ปาล์มบอกทิ้งมัดจำเปลี่ยนเจ้าเถอะ แต่พริมแอบเชื่อความรู้สึกตัวเองนะ ลุงเป็นร้านเดียวที่ยิ้มแย้มและหยุดฟังทุกครั้งที่พริมพูด ไม่พูดแทรกไม่ค้านแผนเที่ยวเราเลย เลยพยายามบอกปาล์มว่าพวกเราอาจเป็นคนแรกก็ได้ที่ให้ลุง 5 ดาว โลกสวยขนาดไม่เชื่อรีวิวจาก 20 คนในเนท 555 ดีว่าเราตกลงกันตั้งแต่ก่อนออกเดินทางแล้วว่าปาล์มจะยกการตัดสินใจทุกอย่างในทริปให้พริมจัดการ
สรุปทริปเดินเรือครั้งนี้ จะแวะ : Kelor - Sarai - Pink Beach - Komodo Village - Padar
จริงๆมี Gili Lawa ที่อยากไป แต่มันเพิ่งเจอไฟป่าเผาไป แถมคลื่นลมในช่วงปลายมรสุมยังทำให้เรือทุกลำไม่สามารถพาไปเที่ยวได้
ส่วนตัวมังกรโคโดโมที่เล่าให้ฟัง จะสำรองไว้เผื่อมีเวลา


KELOR

เช้านี้ฝนตก พยายามปลอบตัวเองว่าเดี๋ยวแดดก็มา แต่ก็ยังตกซ้ำๆ พวกเราลากกระเป๋าไปหาลุงตามเวลานัด ลุงก็เพิ่งมาเหมือนกัน โดยที่ไม่มีน้องผู้หญิงที่พริมจองตัวไว้ ลุงบอกจ่ายที่เหลือมาได้เลย จ่ายเสร็จเดี๋ยวจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปตามน้องให้ถึงบ้านเอง โห มีต่อรอง 
ลุงคว้าเงินเข้ากระเป๋าแล้วขี่มอเตอร์ไซต์ออกไปทันที ปล่อยให้พริมนั่งเฝ้าร้านแทนเฉยเลย ผ่านไปนานจนคุยกับปาล์มว่านี่โดนชิ่งใช่มั้ยเนี่ย แต่แล้วน้องก็มา หน้าเพิ่งตื่นสุดๆ 5 ดาวที่พริมเตรียมไว้เริ่มเลือนๆ
กว่าจะเดินไปถึงท่าเรือก็สายมากแล้ว ฝนหยุดตกแต่ฟ้าก็ยังไม่ใส มีเรือจอดอยู่เป็นร้อยลำ แต่เรือของเราโดดเด่นที่สุดด้วยสีเขียวมิ้นเหมือนเพิ่งทาสดๆเมื่อวาน มีลูกเรือ 2 คนและกัปตันมารอพร้อม แต่ละคนอายุไม่น่าถึง 20 เด็กๆกันทั้งนั้น คล่องแคล่วว่องไวดี ขนาดถอนสมอเรือไม่ออก ลูกเรือก็โดดน้ำลงไปแก้ไขอย่างรวดเร็ว หันมายิ้มให้กล้องด้วย รู้งาน
นั่งเรือมาชั่วโมงกว่าก็ถึงจุดหมายแรก เกาะเคลอร์ Kelor เรือจอดได้แค่ห่างๆ ถ้าเข้าไปเทียบหาดจะทำให้ปะการังใต้น้ำเสียหาย เลยต้องเปลี่ยนเป็นเรือเล็กท้องแบนเข้าไปเทียบแทน คนส่วนใหญ่แวะเกาะนี้เพื่อดำน้ำ แต่บอกแล้วทริปนี้มาเพื่อเก็บวิวสวยๆและถ่ายรูป เลยจะขึ้นภูเขาลูกไม่สูงมากตรงหน้าไปถ่ายวิวจากข้างบน เห็นลูกแค่นี้ กว่าจะขึ้นได้ก็หอบนะคะ ทางค่อนข้างชัน ต้องใช้มือช่วยปีน ดินที่เหยียบก็ค่อนข้างร่วน บางทีสไลด์ลงมา
ความแปลกตาของวิวที่นี่คือเกาะจะเป็นสีเขียวอ่อน ผิดกับบ้านเราที่จะเป็นสีเขียวเข้ม เพราะเกาะที่นี่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยหญ้า มีนาคมเป็นช่วงปลายฝน ทุกเกาะเลยเป็นสีเขียวอ่อนๆ ยอดหญ้าพลิ้วตามลมสวยดี ถ้ามาหน้าร้อนหญ้าจะแห้งเป็นสีน้ำตาลไปทั่วทั้งทะเล
ถ่ายวิวเกาะฝั่งตรงข้ามในช่วงเช้าแบบนี้จะย้อนแสง ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้มาบ่ายดีกว่าค่ะ เย็นๆพระอาทิตย์ตกก็น่าจะสวยอยู่ 
รูปบนถ่ายที่ 12mm รูปล่างลองซูมสุดเลนส์ที่ 200mm ส่วนตัวชอบทั้ง 2 แบบเลยคิดว่าเลนส์โอลิมปัสตัวนี้เหมาะกับพกไปเที่ยวมาก
ใครบอกถ่ายรูปวิวต้องเลนส์ไวด์ ไม่จริงเลยค่ะ เปลี่ยนระยะดูก็ได้รูปสวยๆเพิ่มขึ้น
พอกลับขึ้นเรือ ลูกเรือหนุ่มทั้งคู่ช่วยกันทำอาหารเที่ยงจานใหญ่รอไว้เต็มโต๊ะ เยอะจนคิดว่าลูกเรือและกัปตันคงมากินด้วย แต่เปล่าเลย แค่พริมกับเพื่อนเท่านั้น มีทั้งผัดผักบุ้ง มันฝรั่งชุบแป้งทอด ปลาทอดผัดเปรี้ยวหวาน เต้าหู้ผัดเปรี้ยวหวาน แตงโม และข้าวเป็นกระติก เยอะกว่าที่คิดไว้ถึง 4 เท่า
ชื่อสินค้า:   อินโดนีเซีย, เลนส์โอลิมปัส mzuiko 12-200 mm
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

    ข้อมูลเพิ่มเติม

  • เนื่องจากเลือกได้อย่างเดียว ขอตั้งหัวกระทู้เป็น CR ตามเนื้อหาหลักของรีวิวนะคะ เพราะ 90% เป็นเรื่องเที่ยวที่ไปเอง ส่วนเลนส์ 12-200 ที่ทางโอลิมปัสให้ยืมมาลองและได้คืนกลับไปแล้ว จะรีวิวไว้ท้ายเรื่องเที่ยว และเป็น SR ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่