คำเตือน : เป็นเพียงนิยาย เพื่อความบรรเทิงเท่านั้น
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บทที่ 1 ตายหล่ะ! งานเข้า!!!
นิญาดา
สาวสวยประจำสำนักงานซอยส้นสูงสีแดงสดก้าวฉับฉับ เข้ามาในออฟฟิศ ผมสลวยสีดำขลับสะบัดไปมาตามจังหวะก้าวเดิน ตากลมโตแต่งเติมด้วยอายแชโดว์เพิ่มความหวานซ่อนเปรี้ยวให้ดวงตาคู่งาม หญิงสาวเหลือบดูนาฬิกาที่แขวนบนผนังห้อง
08.30 น. เวลาตอกบัตรเข้างานพอดิบพอดี
ปากบางแต้มด้วยสีแดงกุหลาบกระตุกยิ้มพร้อมมองสบตาสาวใหญ่ที่มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า
“สวัสดีค่ะพี่ณี”
สาวสวยทักทายเสียงใสอย่างมีจริตจก้านพร้อมกับยกมือไหว้ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นหัวหน้า
หรือชื่อเต็ม คือ “กัลยาณี ต้องหทัยมั่น” ผู้ที่มักถูกลูกน้องในสังกัดให้ฉายาลับหลังว่า
“นางยกษ์” เหตุเพราะรูปร่างของสาวใหญ่ ทรวดทรงขนาดมหึมา แต่ไร้ส่วนเว้าส่วนโค้งของความเป็นผู้หญิง
แถมยังชอบทำหน้าบึ้งตึงราวกับโกรธคนทั้งโลกตลอดเวลา นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำให้สาวร่างยักษ์ขึ้นคานมาจนถึงทุกวันนี้
ดวงตาทะมึนทึงจ้องสาวน้อยที่ทักทายเพียงชั่วครู่ แล้วสะบัดหน้าบูดบึ้งนั้นหันไปสนใจกับงานตรงหน้าอีกครั้งหนึ่ง
สาวสวยยักไหล่ คิดในใจ....
“ก็ช่างปะไรต่างคนต่างอยู่”
ขายาวเรียวนวลเนียนภายใต้กระโปรงสีแดงแป๊ดรัดรูปอย่างสาวออฟฟิศสมัยใหม่ก้าวไปที่โต๊ะประจำตำแหน่งอย่างเคยชิน
แล้วตาคู่งามก็หลุบต่ำลงเมื่อเห็นหนังสือราชการที่ตนอุตส่าห์ตั้งใจทำเมื่อวานกว่า 20 ฉบับ ถูกขีดฆ่า แก้ไขด้วยปากกาสีแดงเป็นปื้น
เฮ่อ!
นิญาดาพ่นลมหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย แล้วทิ้งร่างอรชรบอบบางลงบนเก้าอี้
แม้จะถูกกลั่นแกล้งจนเคยชิน
แต่ก็ยังอดเหนื่อยใจไม่ได้
“เมื่อไหร่นะ นางยักษ์จะเลิกจิกกัดหล่อนสักที!”
เพียงแค่หล่อนเป็นเพื่อนสนิทกับลูกน้องคนเคยสนิทของนางยักษ์ก็เท่านั้นเอง!!!
ลูกน้องคนนั้นชื่อนุ้ย
นุ้ยเป็นเจ้าหน้าที่ในโครงการวิจัยของหัวหน้า
เรียกได้ว่าเป็นลูกน้องใต้บังคับบัญชาโดยตรงของหัวหน้า
ในช่วงแรกนุ้ยเป็นลูกน้องคนโปรด
เพราะทำงานเก่งและสามารถเบิกจ่ายเงินได้ตามที่หัวหน้าต้องการ
พักหลังๆ
นุ้ยเริ่มระบายความอึดอัดให้เพื่อนๆ ในกลุ่มฟังว่า นางยักษ์ชอบสั่งให้เบิกจ่ายเกินความเป็นจริงทีละหมื่นสองหมื่น
บางครั้งนุ้ยต้องจำใจขอสำเนาบัตรประชาชนผีจากชาวบ้านเพื่อมาเบิกจ่ายในกิจกรรมที่ไม่ได้ทำจริงๆ....
จนกระทั้งวันหนึ่งนุ้ยทะเลาะกันกับหัวหน้าอย่างรุนแรง แล้วถูกไล่ออกอย่างกะทันหัน
เพื่อนที่เหลือในกลุ่มต่างก็ตกใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
และเริ่มระแคะระคายว่าสิ่งที่นุ้ยบอกน่าจะเป็นความจริง
ทั้งนี้ นิญาดาก็คิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างหัวหน้ากับลูกน้อง
ซึ่งเรื่องมีนอกมีในแบบนี้ หากใครเข้าไปยุ่งด้วยก็มีแต่เสียกับเสีย
หล่อนจึงพยายามที่จะนิ่งเฉยเสีย
แต่นางยักษ์ดูเหมือนจะไม่ปล่อยให้มันเป็นอย่างนั้น
งานแรกของวันนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นการแก้ไขเอกสาร
ใบหน้างามสูดอากาศยามเช้าเข้าเต็มปอดลึกๆ
เพื่อสลัดความหงุดหงิดเล็กๆ น้อยๆ ออกไปจากใจ ไม่นานนักมือเรียวก็บรรเลงไปบนแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์อย่างชำนาญ….
ในเวลาไม่ถึงชั่วโมงเอกสารเกือบ 20 ฉบับถูกแก้ไขเรียบร้อยพร้อมนำเข้าแฟ้มเตรียมเสนอหัวหน้าอีกครั้ง
นิญาดายักไหล่
“เรื่องแค่นี้จิ๊บๆ”
นักศึกษาเกียรตินิยมเหรียญทองของมหาวิทยาลัยอันดับ
1 ของประเทศ
รับมือกับสถานการณ์เท่านี้ได้สบาย
ความจริงสาขาการบัญชีที่หล่อนอุตส่าห์ร่ำเรียนมาถึง
4 ปี
หากทำงานในกรุงเทพมหานคร จะสามารถทำรายได้ได้อย่างมหาศาล หากแต่ว่า
เธอเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของ ตระกูลไพรีพิจิตร
“นิญาดา ไพรีพิจิตร” คือชื่อเต็มของหล่อน
หล่อนจำต้องยอมรับทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่มาตรฐานงานวิจัยในมหาลัยเล็กๆแห่งหนึ่ง
ที่บ้านเกิดของเธอเอง เพื่อที่จะได้ดูแลพ่อแม่ ซึ่งตอนนี้ท่านทั้งคู่เกษียณราชการแล้ว และกำลังเริ่มต้นทำสวนเล็กๆ น้อยๆ
เป็นความสุขในปั้นปลายชีวิต...................
ส่วนเธอ... ชีวิตการทำงานที่เพิ่งจะเริ่มต้น
“นิญาดา”
เสียงเรียกต่ำๆ ดึงหล่อนให้หลุดจากความคิด
“คะ?”
คนที่ตกอยู่ในห้วงความคิดกระพริบตา
มองหญิงรูปร่างใหญ่... ผมถูกตัดให้เข้าทรงมากกว่าการจัดตกแต่ง...
เสื้อผ้าเรียบ...
แต่ดูหรูด้วยแบรนด์ต่างประเทศการันตี แม้ว่าจะอยู่ในวัยใกล้เกษียณ
แต่ใบหน้ายังคงมีสง่าของผู้มีบารมี
เมื่อมองเห็นผู้ส่งเสียงเรียกเมื่อครู่ชัดๆ หล่อนก็รีบกระพุ่มมือไหว้ทันที
“สวัสดีค่ะท่านรอง”
รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดพยักหน้าตอบรับ
“โครงการพัฒนาทักษะนักวิจัย
ถึงไหนแล้ว รีบทำนะจะสิ้นปีงบประมาณแล้ว ถ้าเสร็จไม่ทันเวลาเขาให้คืนเงินทั้งหมดนะ”
“กำลังดำเนินการค่ะ”
ท่านรองฯ เพียงแค่พยักหน้ารับรู้ แล้วเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวที่อยู่ด้านในสุดของออฟฟิศ
แต่คนถูกถามกำลังกุมขมับ เมื่อวานหล่อนเพิ่งจะได้รับอีเมลล์
(E-mail) จากทีมวิทยากรที่ติดต่อไว้
“เนื่องด้วย ติดภารกิจกะทันหัน
จึงขอยกเลิกการเป็นวิทยากร”
.....เมื่อทีมวิทยากรเดิม. ตอบปฏิเสธ...
มันเหมือนทุกอย่างพังทลายลงมา...
แล้วต้องเริ่มนับ 1 ใหม่ทั้งหมด... ภายในระยะเวลาที่จำกัด!!
หากจัดไม่ทันภายใน
1 เดือน พนักงานดีเด่นประจำสำนักงานอย่างหล่อนก็จะต้องถูกตราหน้าว่า
“ไม่มีปัญญาบริหารจัดการโครงการให้สำเร็จ!!! และงบประมาณในปีถัดไป
หล่อนก็อย่าหวังว่าจะได้!!!
.... ม่ายยยย
นะ!!!.....
นิญาดาคร่ำครวญในใจ
............................จบตอน.......................................................
หมายเหตุ
ท่านรองฯ =
รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย
บทเรียนรัก สาวเวอร์จิ้น (หนุ่มฮอตวิศวะ NC 18+)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บทที่ 1 ตายหล่ะ! งานเข้า!!!
นิญาดา
สาวสวยประจำสำนักงานซอยส้นสูงสีแดงสดก้าวฉับฉับ เข้ามาในออฟฟิศ ผมสลวยสีดำขลับสะบัดไปมาตามจังหวะก้าวเดิน ตากลมโตแต่งเติมด้วยอายแชโดว์เพิ่มความหวานซ่อนเปรี้ยวให้ดวงตาคู่งาม หญิงสาวเหลือบดูนาฬิกาที่แขวนบนผนังห้อง
08.30 น. เวลาตอกบัตรเข้างานพอดิบพอดี
ปากบางแต้มด้วยสีแดงกุหลาบกระตุกยิ้มพร้อมมองสบตาสาวใหญ่ที่มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า
“สวัสดีค่ะพี่ณี”
สาวสวยทักทายเสียงใสอย่างมีจริตจก้านพร้อมกับยกมือไหว้ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นหัวหน้า
หรือชื่อเต็ม คือ “กัลยาณี ต้องหทัยมั่น” ผู้ที่มักถูกลูกน้องในสังกัดให้ฉายาลับหลังว่า
“นางยกษ์” เหตุเพราะรูปร่างของสาวใหญ่ ทรวดทรงขนาดมหึมา แต่ไร้ส่วนเว้าส่วนโค้งของความเป็นผู้หญิง
แถมยังชอบทำหน้าบึ้งตึงราวกับโกรธคนทั้งโลกตลอดเวลา นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำให้สาวร่างยักษ์ขึ้นคานมาจนถึงทุกวันนี้
ดวงตาทะมึนทึงจ้องสาวน้อยที่ทักทายเพียงชั่วครู่ แล้วสะบัดหน้าบูดบึ้งนั้นหันไปสนใจกับงานตรงหน้าอีกครั้งหนึ่ง
สาวสวยยักไหล่ คิดในใจ....
“ก็ช่างปะไรต่างคนต่างอยู่”
ขายาวเรียวนวลเนียนภายใต้กระโปรงสีแดงแป๊ดรัดรูปอย่างสาวออฟฟิศสมัยใหม่ก้าวไปที่โต๊ะประจำตำแหน่งอย่างเคยชิน
แล้วตาคู่งามก็หลุบต่ำลงเมื่อเห็นหนังสือราชการที่ตนอุตส่าห์ตั้งใจทำเมื่อวานกว่า 20 ฉบับ ถูกขีดฆ่า แก้ไขด้วยปากกาสีแดงเป็นปื้น
เฮ่อ!
นิญาดาพ่นลมหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย แล้วทิ้งร่างอรชรบอบบางลงบนเก้าอี้
แม้จะถูกกลั่นแกล้งจนเคยชิน
แต่ก็ยังอดเหนื่อยใจไม่ได้
“เมื่อไหร่นะ นางยักษ์จะเลิกจิกกัดหล่อนสักที!”
เพียงแค่หล่อนเป็นเพื่อนสนิทกับลูกน้องคนเคยสนิทของนางยักษ์ก็เท่านั้นเอง!!!
ลูกน้องคนนั้นชื่อนุ้ย
นุ้ยเป็นเจ้าหน้าที่ในโครงการวิจัยของหัวหน้า
เรียกได้ว่าเป็นลูกน้องใต้บังคับบัญชาโดยตรงของหัวหน้า
ในช่วงแรกนุ้ยเป็นลูกน้องคนโปรด
เพราะทำงานเก่งและสามารถเบิกจ่ายเงินได้ตามที่หัวหน้าต้องการ
พักหลังๆ
นุ้ยเริ่มระบายความอึดอัดให้เพื่อนๆ ในกลุ่มฟังว่า นางยักษ์ชอบสั่งให้เบิกจ่ายเกินความเป็นจริงทีละหมื่นสองหมื่น
บางครั้งนุ้ยต้องจำใจขอสำเนาบัตรประชาชนผีจากชาวบ้านเพื่อมาเบิกจ่ายในกิจกรรมที่ไม่ได้ทำจริงๆ....
จนกระทั้งวันหนึ่งนุ้ยทะเลาะกันกับหัวหน้าอย่างรุนแรง แล้วถูกไล่ออกอย่างกะทันหัน
เพื่อนที่เหลือในกลุ่มต่างก็ตกใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
และเริ่มระแคะระคายว่าสิ่งที่นุ้ยบอกน่าจะเป็นความจริง
ทั้งนี้ นิญาดาก็คิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างหัวหน้ากับลูกน้อง
ซึ่งเรื่องมีนอกมีในแบบนี้ หากใครเข้าไปยุ่งด้วยก็มีแต่เสียกับเสีย
หล่อนจึงพยายามที่จะนิ่งเฉยเสีย
แต่นางยักษ์ดูเหมือนจะไม่ปล่อยให้มันเป็นอย่างนั้น
งานแรกของวันนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นการแก้ไขเอกสาร
ใบหน้างามสูดอากาศยามเช้าเข้าเต็มปอดลึกๆ
เพื่อสลัดความหงุดหงิดเล็กๆ น้อยๆ ออกไปจากใจ ไม่นานนักมือเรียวก็บรรเลงไปบนแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์อย่างชำนาญ….
ในเวลาไม่ถึงชั่วโมงเอกสารเกือบ 20 ฉบับถูกแก้ไขเรียบร้อยพร้อมนำเข้าแฟ้มเตรียมเสนอหัวหน้าอีกครั้ง
นิญาดายักไหล่
“เรื่องแค่นี้จิ๊บๆ”
นักศึกษาเกียรตินิยมเหรียญทองของมหาวิทยาลัยอันดับ
1 ของประเทศ
รับมือกับสถานการณ์เท่านี้ได้สบาย
ความจริงสาขาการบัญชีที่หล่อนอุตส่าห์ร่ำเรียนมาถึง
4 ปี
หากทำงานในกรุงเทพมหานคร จะสามารถทำรายได้ได้อย่างมหาศาล หากแต่ว่า
เธอเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของ ตระกูลไพรีพิจิตร
“นิญาดา ไพรีพิจิตร” คือชื่อเต็มของหล่อน
หล่อนจำต้องยอมรับทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่มาตรฐานงานวิจัยในมหาลัยเล็กๆแห่งหนึ่ง
ที่บ้านเกิดของเธอเอง เพื่อที่จะได้ดูแลพ่อแม่ ซึ่งตอนนี้ท่านทั้งคู่เกษียณราชการแล้ว และกำลังเริ่มต้นทำสวนเล็กๆ น้อยๆ
เป็นความสุขในปั้นปลายชีวิต...................
ส่วนเธอ... ชีวิตการทำงานที่เพิ่งจะเริ่มต้น
“นิญาดา”
เสียงเรียกต่ำๆ ดึงหล่อนให้หลุดจากความคิด
“คะ?”
คนที่ตกอยู่ในห้วงความคิดกระพริบตา
มองหญิงรูปร่างใหญ่... ผมถูกตัดให้เข้าทรงมากกว่าการจัดตกแต่ง...
เสื้อผ้าเรียบ...
แต่ดูหรูด้วยแบรนด์ต่างประเทศการันตี แม้ว่าจะอยู่ในวัยใกล้เกษียณ
แต่ใบหน้ายังคงมีสง่าของผู้มีบารมี
เมื่อมองเห็นผู้ส่งเสียงเรียกเมื่อครู่ชัดๆ หล่อนก็รีบกระพุ่มมือไหว้ทันที
“สวัสดีค่ะท่านรอง”
รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดพยักหน้าตอบรับ
“โครงการพัฒนาทักษะนักวิจัย
ถึงไหนแล้ว รีบทำนะจะสิ้นปีงบประมาณแล้ว ถ้าเสร็จไม่ทันเวลาเขาให้คืนเงินทั้งหมดนะ”
“กำลังดำเนินการค่ะ”
ท่านรองฯ เพียงแค่พยักหน้ารับรู้ แล้วเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวที่อยู่ด้านในสุดของออฟฟิศ
แต่คนถูกถามกำลังกุมขมับ เมื่อวานหล่อนเพิ่งจะได้รับอีเมลล์
(E-mail) จากทีมวิทยากรที่ติดต่อไว้
“เนื่องด้วย ติดภารกิจกะทันหัน
จึงขอยกเลิกการเป็นวิทยากร”
.....เมื่อทีมวิทยากรเดิม. ตอบปฏิเสธ...
มันเหมือนทุกอย่างพังทลายลงมา...
แล้วต้องเริ่มนับ 1 ใหม่ทั้งหมด... ภายในระยะเวลาที่จำกัด!!
หากจัดไม่ทันภายใน
1 เดือน พนักงานดีเด่นประจำสำนักงานอย่างหล่อนก็จะต้องถูกตราหน้าว่า
“ไม่มีปัญญาบริหารจัดการโครงการให้สำเร็จ!!! และงบประมาณในปีถัดไป
หล่อนก็อย่าหวังว่าจะได้!!!
.... ม่ายยยย
นะ!!!.....
นิญาดาคร่ำครวญในใจ
............................จบตอน.......................................................
หมายเหตุ
ท่านรองฯ =
รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย