One free day พาเที่ยวเชียงใหม่
สำหรับใครที่มีวันหยุดในช่วงสั้นๆและต้องการไปพักผ่อนสักที่เราขอเสนอ เชียงใหม่
เมืองที่มีอาหราอร่อยราคาไม่แพง และเป็นเมืองที่มีธรรมชาติรายล้อมให้ได้ไปสูดอากาศบริสุทธิ์

ขอเริ่มต้นจากการเดินทางจากสนามบินเข้าในตัวเมืองหากใครที่ต้องการประหยัดงบเราขอแนะนำให้ขึ้นรถบัส
จุดที่ขึ้นให้เดินออกมาที่ลานจอดรถเดินตรงมาเรื่อยๆก็จะเห็นป้ายรถเมย์สามารถสังเกตได้ง่ายหาไม่ยาก
เราไปลงที่นิมมานราคาเบาๆเพียงแค่ 20 บาทเท่านั้นถือว่าถูกมากๆ

รถบัสคันนี้ก็จะผ่านสถานที่สำคัญๆหลายๆจุด

ที่พักของเรานั่นคือ The Lab Poshtel อยู่ที่ถนนศิริมังคลาจารย์ ระหว่างนิมมานซอย 7 และนิมมานซอย 9

การตกแต่งภายในที่พักก็จะเป็นสไตล์วินเทจ

ด้านหน้าของ The Lab Poshtel

หากใครชอบแนววินเทจแนะนำว่าไม่ควรพลาดที่นี่

ด้วยเฟอร์นิเจอร์วินเทจเท่ๆ ทำให้มีมุมถ่ายรูปเล่นค่อนข้างเยอะ

สำหรับใครที่ชอบดื่มกาแฟก็สามารถมานั่งพักผ่อนจิบกาแฟชิวๆได้

สำหรับอาหารเช้าที่นี่จะให้ Breakfast มาหนึ่งชุดก็จะมีไข่กระทะ, สลัด, แฮม

เค้าจัดจานมาน่ารักไม่ต้องทำอะไรเลยแค่วางแล้วถ่ายก็ได้รูปอาหารเช้าสวยๆ

สถานที่ต่อมาคือ THE BARISTRO เป็นร้านที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างไม่อึดอัด
มีทั้งโซน indoor และ outdoor ติดริมแม่น้ำบรรยากาศดีมากๆ
การตกแต่งภายในร้านจะมีความ minimal ผสมกับ industry
ซึ่งได้คงโครงสร้างเก่าของตึกไว้ได้อย่างมีสไตล์

ที่สำคัญเครื่องดื่มและของหวานร้านนี้อร่อยสมราคา รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

เป็นร้านที่มีคนมากินเยอะพอสมควร
มีคนเข้ามาเรื่อยๆ แต่ก็มีที่ให้นั่งตลอดเวลาเพราะร้านค่อนข้างใหญ่

ร้านใหญ่มากจนสามารถนอนเล่นได้เลยโดยที่ไม่โดนไล่

ตรงนี้ก็จะเป็นจุดไฮไลท์ในการถ่ายรูปของร้าน
ใครอยากได้รูปชิวๆนั่งจิบกาแฟริมแม่น้ำขอแนะนำให้ถ่ายจุดนี้เลย คนมาถ่ายตรงนี้เยอะมาก

สถานที่ต่อมาคือ Keep in touch
ร้านนี้หายากมากเนื่องจากร้านอยู่ในหมู่บ้านค่อนข้างลึกหลงไปหลายรอบกว่าจะเจอ

บรรยากาศดีตกแต่งแบบวินเทจผสมกับสวนที่มีต้นไม้ดอกไม้น่ารักๆ
ร้านใหญ่มีพื้นที่หลายโซนให้เลือกนั่งไม่ว่าจะเป็น indoor หรือ outdoor

ภายในร้าน Keep in touch

เครื่องดื่มและขนมรสชาติดี รู้สึกได้ถึงความใช้ของสดใหม่ในการทำ
การจัดจานอาหารก็ดูน่ากิน และที่สำคัญร้านนี้ให้บริการดีมากๆ
รูปนี้คือแพนเค้กผลไม้รวมรสชาติใช้เลย

น้ำอัญชันสีสันสวยงามน่ากิน

น้ำผึ้งมะนาวอร่อยมากที่ร้านใช้น้ำผึ้งจริงๆแถมยังมีเนื้อรังผึ้งใส่ให้ด้วย

ตอนเย็นเริ่มหิวเลยอยากลองของกินขึ้นซื่อในนิมมานก็เลยไปที่ร้าน คั่วไก่ นิมมาน
ซึ่งอร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ แนะนำว่าใครมาเชียงใหม่ต้องมาลองสักครั้ง

กินคั่วไก่เสร็จเดินต่อมาอีกนิดก็เจอ iberry สาขาที่พี่โน๊ต อุดม เป็นเจ้าของ
ร้านก็จะมีความอาร์ตน่ารักกวนๆตามสไตลพี่โน๊ต อุดม
ขอจบวันนั้นด้วยการนั่งกินของหวานชิวๆไปพร้อมกับดูงานศิลปะ

เริ่มต้มวันใหม่ด้วยอากาศบริสุทธิ์ที่หมู่บ้านแม่กำปอง
ค่อนข้างไกลจากตัวเมืองใช้เวลาเดินทางประมาณไม่เกินหนึ่งชั่วโมงครึ่ง
รู้สึกคุ้มที่ได้มาอากาศเย็นสบายเย็นกว่าในตัวเมือง
อยู่ไปนานๆจะเริ่มรู้สึกหนาวเพราะมีลมเย็นพัดมาตลอดเวลา
ช่วงที่เรามาคือปลายเดือนมกราคมก็ยังได้สัมผัสอากาศหนาวอยู่

เนื่องจากนั่งรถมาไกลและอากาศค่อนข้างเย็นเลยนั่งพักที่คาเฟ่ ระเบียงวิว
หาอะไรร้อนๆกิน เวลาหนาวๆถ้าได้กินอะไรอุ่นๆจะรู้สึกฟินมาก
ที่หมู่บ้านแม่กำปองค่อนข้างมีร้านอาหารและเครื่องดื่มเยอะราคาไม่แพง
สามารถเป็นจุดแวะพักทานอาหารมื้อใหญ่ได้เลย

นอกจากร้านอาหารแล้วยังมีร้านขายของฝากให้ได้เลือกซื้อกันอีกด้วย
ส่วนใหญ่ก็จะเป็นของพื้นบ้านที่ชาวบ้านทำเอง
กำแพงร้านนี้เป็นที่ยอดฮิตที่คนมาถ่ายรูปกันเยอะมาก
ต้องรอจังหว่ะดีๆถึงจะได้รูปที่ไม่ติดคน

ขับรถขึ้นไปคาแฟ่ที่อยู่บนต้นไม้ใหญ่ซึ่งก็คือ The Giant
รู้สึกว่าเหมือนจะมีห้องพักให้ค้างคืนด้วยหากใครต้องการเสพอากาศดีๆบนดอยแบบเต็มอิ่ม
คุ้มกับการเดินทางขึ้นมามากๆ ค่อนข้างประทับใจ อากาศดี ต้นไม้ร่มรื่น
และยังสามารถนั่งพักผ่อนพร้อมชมวิวสวยๆจากธรรมชาติ

ถ้าโชคดีมาถูกจังหว่ะก็จะได้โต๊ะริมระเบียงที่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติและสามารถมองเห็นวิวที่สวยงามได้อย่างชัดเจน
ถ้ามีโอกาศมาอีกจะลองค้างคืนที่ The Giant สักครั้ง

ตกเย็นก็แวะไปกินของหวานที่ร้าน กูโรตี ในย่านนิมมาน
เมนูที่ต้องลองโรตีฝอยทองเมนูเด็ดของร้าน ร้านนี้รับประกันความอร่อยดูได้จากร้านมักจะเต็มอยู่ตลอดเวลา

เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการไปกินร้านข้าวซอยนิมมาน อยู่ที่นิมมานซอย 7
แค่ซื่อร้านก็รู้แล้วว่าเมนูเด็ดคืออะไร ยังไงก็ต้องสั่งข้าวซอย
เป็นร้านที่ชาวต่างชาติเข้ามากินเยอะพอคมควร
รสชาติอร่อยลงตัวทั้งน้ำซุบและเส้น ราคากลางๆไม่แพงมาก

วันนี้เราไปที่ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
เป็นสถานทีที่ใหญ่มากมีทั้งโซน indoor และ outdoor มีสวนและเรือนกระจกให้ชม
ที่เรือนกระจกก็จะเป็นจุดที่คนนิยมมาถ่ายรูปกัน โดยเฉพาะโซนต้นกระบองเพชร

มีต้นไม้พืชพันธุ์ต่างๆมากมายเดินเล่นเพลินๆไม่เบื่อเลย

ในเรือนกระจกก็จะมีการจำลองสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติในแบบต่างๆ เช่น จุดนี้ก็จะเป็นแนวป่าดิบชื้น

นั่งรถมาอีกหน่อยก็จะเจอ Canopy walkway
ก็เป็นทางเดินให้เราเข้าไปชมวิวสวยๆจากมุมสูงและได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น
คนเดินค่อยข้างเยอะถ้าจะถ่ายรูปให้ไม่ติดคนดูจังหว่ะดีๆ

ตรงนี้ก็จะเป็นจุดสิ้นสุดทางเดินก็จะสามารถมองดูวิวได้แบบมุมกว้างมากๆ

หลังจากเดินชมสวนจนเหนื่อยเลยลงมาพักผ่อนที่ The Ironwood
เป็นร้านที่มีพื้นที่กว้างมากๆ ตกแต่งตามจุดต่างได้สวยงาม
และยังมีการจัดสวนเล็กบวกกับที่เรือนกระจกน่ารักๆให้ได้ถ่ายรูปเล่นกันอย่างเพลิดเพลิน

The Ironwood

เริ่มวันใหม่สายบุญด้วยการไปที่วัดอุโมงค์

จุดนี้ก็จะเป็นปากทางเข้าของวัดอุโมงค์

บรรยากาศภายในวัดอุโมงค์ก็จะมีความเงียบสงบ ภายในอากาศเย็นไม่ร้อน
เพราะเค้าออกแบบให้มีช่องลมที่สามารถทำให้มีลมผ่านเข้ามาด้านในได้ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด

มานั่งพักเหนื่อยที่ No.39 Café เป็นอีกร้านที่มีพื้นที่กว้าง
มีหลายๆมุมให้นั่งพักผ่อนตามความชอบ มีทั้งโซน indoor และ outdoor
มีคนเข้ามาเรื่อยๆส่วนใหญ่มุมดีๆก็จะมีคนจับจองไปหมดแล้ว

เครื่องดื่มและของหวานรสชาติดีใช้ของคุณภาพดีราคากลางๆ

ไฮไลท์ของที่นี่คือบ้านไม้หลังนี้เลย
เป็นจุดที่มีคนต่อถ่ายรูปกันเยอะมาก และต้องขึ้นไปนั่งถ่ายด้านบนแบบนี้

เดินต่อมาอีกหน่อยก็จะเจอกับบ้านข้างวัด
ก็จะเป็นแหล่งรวมของแฮนด์เมด และร้านอาหารต่างๆ

ร้านขายของดูมีความบ้านๆน่ารักมากเลย

ค่อนข้างได้บรรยากาศวิถีวิชิตพื้นบ้านมากๆ เราชอบมากๆเลย

หากใครสนใจและอยากลองทำงานแฮนด์เมด
ภายในนี้ก็ยังมีพื้นที่ workshop ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสและลองทำของแฮนด์เมดอีกด้วย

หากใครหิวก็มีร้านอาหารที่ดูอบอุ่นคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอยุ่เสมอ

หรือใครที่ไม่หิวมากก็ยังมีคาแฟ่ให้เข้าไปนั่งพักผ่อนได้เช่นกัน

ก่อนนั่งเครื่องกลับเราก็แวะไปกินที่ชีวิตชีวา ในย่านนิมมานอยู่ที่ ศิริมังคลาจารย์ ซอย 7
เป็นร้านดังอีกนึงร้านมีลูกค้าเยอะตลอด
เครื่องดื่มและของหวานอร่อย ตกแต่งเครื่องดื่มและของหวานได้อย่างน่ารักมากๆ
เป็นอีกหนึ่งร้านที่แนะนำให้มาลองหากมีโอกาสได้มาในย่านนิมมาน

ขอจบทริปเชียงใหม่ไว้เพียงเท่านี้
หากใครที่ชื่นชอบและอยากติดตามรีวิวของเราครั้งต่อไป
สามารถติดตามที่ช่องทางเลห่านี้ได้เลย
ฝากกดไลค์เพจเป็นกำลังใจให้เราทำรีวิวต่อๆไปด้วยนะครับ ^_^
EP ต่อไปเราจะมารีวิวทริปไต้ เตรียมรอติดตามได้เลยครับ
Facebook
One free day : เพจท่องเที่ยว
https://www.facebook.com/onefreedaytravel/
IG
tae_thanit
https://www.instagram.com/tae_thanit/
[CR] One free day พาเที่ยวเชียงใหม่
สำหรับใครที่มีวันหยุดในช่วงสั้นๆและต้องการไปพักผ่อนสักที่เราขอเสนอ เชียงใหม่
เมืองที่มีอาหราอร่อยราคาไม่แพง และเป็นเมืองที่มีธรรมชาติรายล้อมให้ได้ไปสูดอากาศบริสุทธิ์
ขอเริ่มต้นจากการเดินทางจากสนามบินเข้าในตัวเมืองหากใครที่ต้องการประหยัดงบเราขอแนะนำให้ขึ้นรถบัส
จุดที่ขึ้นให้เดินออกมาที่ลานจอดรถเดินตรงมาเรื่อยๆก็จะเห็นป้ายรถเมย์สามารถสังเกตได้ง่ายหาไม่ยาก
เราไปลงที่นิมมานราคาเบาๆเพียงแค่ 20 บาทเท่านั้นถือว่าถูกมากๆ
รถบัสคันนี้ก็จะผ่านสถานที่สำคัญๆหลายๆจุด
ที่พักของเรานั่นคือ The Lab Poshtel อยู่ที่ถนนศิริมังคลาจารย์ ระหว่างนิมมานซอย 7 และนิมมานซอย 9
การตกแต่งภายในที่พักก็จะเป็นสไตล์วินเทจ
ด้านหน้าของ The Lab Poshtel
หากใครชอบแนววินเทจแนะนำว่าไม่ควรพลาดที่นี่
ด้วยเฟอร์นิเจอร์วินเทจเท่ๆ ทำให้มีมุมถ่ายรูปเล่นค่อนข้างเยอะ
สำหรับใครที่ชอบดื่มกาแฟก็สามารถมานั่งพักผ่อนจิบกาแฟชิวๆได้
สำหรับอาหารเช้าที่นี่จะให้ Breakfast มาหนึ่งชุดก็จะมีไข่กระทะ, สลัด, แฮม
เค้าจัดจานมาน่ารักไม่ต้องทำอะไรเลยแค่วางแล้วถ่ายก็ได้รูปอาหารเช้าสวยๆ
สถานที่ต่อมาคือ THE BARISTRO เป็นร้านที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างไม่อึดอัด
มีทั้งโซน indoor และ outdoor ติดริมแม่น้ำบรรยากาศดีมากๆ
การตกแต่งภายในร้านจะมีความ minimal ผสมกับ industry
ซึ่งได้คงโครงสร้างเก่าของตึกไว้ได้อย่างมีสไตล์
ที่สำคัญเครื่องดื่มและของหวานร้านนี้อร่อยสมราคา รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
เป็นร้านที่มีคนมากินเยอะพอสมควร
มีคนเข้ามาเรื่อยๆ แต่ก็มีที่ให้นั่งตลอดเวลาเพราะร้านค่อนข้างใหญ่
ร้านใหญ่มากจนสามารถนอนเล่นได้เลยโดยที่ไม่โดนไล่
ตรงนี้ก็จะเป็นจุดไฮไลท์ในการถ่ายรูปของร้าน
ใครอยากได้รูปชิวๆนั่งจิบกาแฟริมแม่น้ำขอแนะนำให้ถ่ายจุดนี้เลย คนมาถ่ายตรงนี้เยอะมาก
สถานที่ต่อมาคือ Keep in touch
ร้านนี้หายากมากเนื่องจากร้านอยู่ในหมู่บ้านค่อนข้างลึกหลงไปหลายรอบกว่าจะเจอ
บรรยากาศดีตกแต่งแบบวินเทจผสมกับสวนที่มีต้นไม้ดอกไม้น่ารักๆ
ร้านใหญ่มีพื้นที่หลายโซนให้เลือกนั่งไม่ว่าจะเป็น indoor หรือ outdoor
ภายในร้าน Keep in touch
เครื่องดื่มและขนมรสชาติดี รู้สึกได้ถึงความใช้ของสดใหม่ในการทำ
การจัดจานอาหารก็ดูน่ากิน และที่สำคัญร้านนี้ให้บริการดีมากๆ
รูปนี้คือแพนเค้กผลไม้รวมรสชาติใช้เลย
น้ำอัญชันสีสันสวยงามน่ากิน
น้ำผึ้งมะนาวอร่อยมากที่ร้านใช้น้ำผึ้งจริงๆแถมยังมีเนื้อรังผึ้งใส่ให้ด้วย
ตอนเย็นเริ่มหิวเลยอยากลองของกินขึ้นซื่อในนิมมานก็เลยไปที่ร้าน คั่วไก่ นิมมาน
ซึ่งอร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ แนะนำว่าใครมาเชียงใหม่ต้องมาลองสักครั้ง
กินคั่วไก่เสร็จเดินต่อมาอีกนิดก็เจอ iberry สาขาที่พี่โน๊ต อุดม เป็นเจ้าของ
ร้านก็จะมีความอาร์ตน่ารักกวนๆตามสไตลพี่โน๊ต อุดม
ขอจบวันนั้นด้วยการนั่งกินของหวานชิวๆไปพร้อมกับดูงานศิลปะ
เริ่มต้มวันใหม่ด้วยอากาศบริสุทธิ์ที่หมู่บ้านแม่กำปอง
ค่อนข้างไกลจากตัวเมืองใช้เวลาเดินทางประมาณไม่เกินหนึ่งชั่วโมงครึ่ง
รู้สึกคุ้มที่ได้มาอากาศเย็นสบายเย็นกว่าในตัวเมือง
อยู่ไปนานๆจะเริ่มรู้สึกหนาวเพราะมีลมเย็นพัดมาตลอดเวลา
ช่วงที่เรามาคือปลายเดือนมกราคมก็ยังได้สัมผัสอากาศหนาวอยู่
เนื่องจากนั่งรถมาไกลและอากาศค่อนข้างเย็นเลยนั่งพักที่คาเฟ่ ระเบียงวิว
หาอะไรร้อนๆกิน เวลาหนาวๆถ้าได้กินอะไรอุ่นๆจะรู้สึกฟินมาก
ที่หมู่บ้านแม่กำปองค่อนข้างมีร้านอาหารและเครื่องดื่มเยอะราคาไม่แพง
สามารถเป็นจุดแวะพักทานอาหารมื้อใหญ่ได้เลย
นอกจากร้านอาหารแล้วยังมีร้านขายของฝากให้ได้เลือกซื้อกันอีกด้วย
ส่วนใหญ่ก็จะเป็นของพื้นบ้านที่ชาวบ้านทำเอง
กำแพงร้านนี้เป็นที่ยอดฮิตที่คนมาถ่ายรูปกันเยอะมาก
ต้องรอจังหว่ะดีๆถึงจะได้รูปที่ไม่ติดคน
ขับรถขึ้นไปคาแฟ่ที่อยู่บนต้นไม้ใหญ่ซึ่งก็คือ The Giant
รู้สึกว่าเหมือนจะมีห้องพักให้ค้างคืนด้วยหากใครต้องการเสพอากาศดีๆบนดอยแบบเต็มอิ่ม
คุ้มกับการเดินทางขึ้นมามากๆ ค่อนข้างประทับใจ อากาศดี ต้นไม้ร่มรื่น
และยังสามารถนั่งพักผ่อนพร้อมชมวิวสวยๆจากธรรมชาติ
ถ้าโชคดีมาถูกจังหว่ะก็จะได้โต๊ะริมระเบียงที่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติและสามารถมองเห็นวิวที่สวยงามได้อย่างชัดเจน
ถ้ามีโอกาศมาอีกจะลองค้างคืนที่ The Giant สักครั้ง
ตกเย็นก็แวะไปกินของหวานที่ร้าน กูโรตี ในย่านนิมมาน
เมนูที่ต้องลองโรตีฝอยทองเมนูเด็ดของร้าน ร้านนี้รับประกันความอร่อยดูได้จากร้านมักจะเต็มอยู่ตลอดเวลา
เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการไปกินร้านข้าวซอยนิมมาน อยู่ที่นิมมานซอย 7
แค่ซื่อร้านก็รู้แล้วว่าเมนูเด็ดคืออะไร ยังไงก็ต้องสั่งข้าวซอย
เป็นร้านที่ชาวต่างชาติเข้ามากินเยอะพอคมควร
รสชาติอร่อยลงตัวทั้งน้ำซุบและเส้น ราคากลางๆไม่แพงมาก
วันนี้เราไปที่ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
เป็นสถานทีที่ใหญ่มากมีทั้งโซน indoor และ outdoor มีสวนและเรือนกระจกให้ชม
ที่เรือนกระจกก็จะเป็นจุดที่คนนิยมมาถ่ายรูปกัน โดยเฉพาะโซนต้นกระบองเพชร
มีต้นไม้พืชพันธุ์ต่างๆมากมายเดินเล่นเพลินๆไม่เบื่อเลย
ในเรือนกระจกก็จะมีการจำลองสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติในแบบต่างๆ เช่น จุดนี้ก็จะเป็นแนวป่าดิบชื้น
นั่งรถมาอีกหน่อยก็จะเจอ Canopy walkway
ก็เป็นทางเดินให้เราเข้าไปชมวิวสวยๆจากมุมสูงและได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น
คนเดินค่อยข้างเยอะถ้าจะถ่ายรูปให้ไม่ติดคนดูจังหว่ะดีๆ
ตรงนี้ก็จะเป็นจุดสิ้นสุดทางเดินก็จะสามารถมองดูวิวได้แบบมุมกว้างมากๆ
หลังจากเดินชมสวนจนเหนื่อยเลยลงมาพักผ่อนที่ The Ironwood
เป็นร้านที่มีพื้นที่กว้างมากๆ ตกแต่งตามจุดต่างได้สวยงาม
และยังมีการจัดสวนเล็กบวกกับที่เรือนกระจกน่ารักๆให้ได้ถ่ายรูปเล่นกันอย่างเพลิดเพลิน
The Ironwood
เริ่มวันใหม่สายบุญด้วยการไปที่วัดอุโมงค์
จุดนี้ก็จะเป็นปากทางเข้าของวัดอุโมงค์
บรรยากาศภายในวัดอุโมงค์ก็จะมีความเงียบสงบ ภายในอากาศเย็นไม่ร้อน
เพราะเค้าออกแบบให้มีช่องลมที่สามารถทำให้มีลมผ่านเข้ามาด้านในได้ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด
มานั่งพักเหนื่อยที่ No.39 Café เป็นอีกร้านที่มีพื้นที่กว้าง
มีหลายๆมุมให้นั่งพักผ่อนตามความชอบ มีทั้งโซน indoor และ outdoor
มีคนเข้ามาเรื่อยๆส่วนใหญ่มุมดีๆก็จะมีคนจับจองไปหมดแล้ว
เครื่องดื่มและของหวานรสชาติดีใช้ของคุณภาพดีราคากลางๆ
ไฮไลท์ของที่นี่คือบ้านไม้หลังนี้เลย
เป็นจุดที่มีคนต่อถ่ายรูปกันเยอะมาก และต้องขึ้นไปนั่งถ่ายด้านบนแบบนี้
เดินต่อมาอีกหน่อยก็จะเจอกับบ้านข้างวัด
ก็จะเป็นแหล่งรวมของแฮนด์เมด และร้านอาหารต่างๆ
ร้านขายของดูมีความบ้านๆน่ารักมากเลย
ค่อนข้างได้บรรยากาศวิถีวิชิตพื้นบ้านมากๆ เราชอบมากๆเลย
หากใครสนใจและอยากลองทำงานแฮนด์เมด
ภายในนี้ก็ยังมีพื้นที่ workshop ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสและลองทำของแฮนด์เมดอีกด้วย
หากใครหิวก็มีร้านอาหารที่ดูอบอุ่นคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอยุ่เสมอ
หรือใครที่ไม่หิวมากก็ยังมีคาแฟ่ให้เข้าไปนั่งพักผ่อนได้เช่นกัน
ก่อนนั่งเครื่องกลับเราก็แวะไปกินที่ชีวิตชีวา ในย่านนิมมานอยู่ที่ ศิริมังคลาจารย์ ซอย 7
เป็นร้านดังอีกนึงร้านมีลูกค้าเยอะตลอด
เครื่องดื่มและของหวานอร่อย ตกแต่งเครื่องดื่มและของหวานได้อย่างน่ารักมากๆ
เป็นอีกหนึ่งร้านที่แนะนำให้มาลองหากมีโอกาสได้มาในย่านนิมมาน
ขอจบทริปเชียงใหม่ไว้เพียงเท่านี้
หากใครที่ชื่นชอบและอยากติดตามรีวิวของเราครั้งต่อไป
สามารถติดตามที่ช่องทางเลห่านี้ได้เลย
ฝากกดไลค์เพจเป็นกำลังใจให้เราทำรีวิวต่อๆไปด้วยนะครับ ^_^
EP ต่อไปเราจะมารีวิวทริปไต้ เตรียมรอติดตามได้เลยครับ
Facebook
One free day : เพจท่องเที่ยว
https://www.facebook.com/onefreedaytravel/
IG
tae_thanit
https://www.instagram.com/tae_thanit/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้