เกลียด?....

คุณเคยถามตัวเองไหมว่าเกลียดอะไรมากที่สุด...สำหรับเรา​ เราเกลียดอยู่สองอย่าง​ เราเลือกที่จะเกลียดโลกใบนี้​ โลกที่มีแต่ความโหดร้ายในสายตาเรา​ โลกที่เราจินตาการมันขึ้นมาเอง​ โลกที่ใครๆก็ต้องมีความรู้สึกมากมายบนโลกใบนี้​ รัก​ เศร้าเสียใจ​ มีหวังผิดหวัง​ แค้นอาฆาต​ ต่างๆมากมาย​ ซึ่งเราไม้เคยมีความรู้สึกนี้จริงๆเลยเราโกหกและหลอกตัวเองมาโดนตลอดเรารู่อยู่แก่ใจแล้วว่าเราหลอกตัวเองอยู่​ แต่เราก็ยังไม่ยอมรับความจริงและหลอกตัวเองมาเรื่อยๆ​ เราเกลียดโลกนี้เพราะมันจำเป็นมากไปแบบมากๆมากที่สุดที่ชีวิตคนคนธรรมดาคนนึงต้องมีเลยแหละ​ เกลียดโลกใบนี้ที่ทุกๆคนคอยใส่หน้ากากหากัน​ แต่ก็ช่วยไม่ได้นี่เนอะเพราะอะไรๆในตอนนี้มันน่ากลัวไปหมด​ ขนาดเกลียดแล้วตัวเองก็ยังทำมัน​ ยังต้องคอยคุยยิ้มแย้มรับกันภายใต้หน้ากากที่ถ้าฆ่าแล้วไม่ผิดกฎหมาย​ถ้า​แค่จ้องตาแล้วตายได้.....โลกนี้คงลดหายไปทีละคนสองคนจนหมด​ และก็มีอีกอย่างที่เกลียดมากที่สุดด้วยพอกับโลกเลยด้วย.........ตัวเอง​ ตัวเองที่ไม่ยอมรับและพร้อมรับปํญหาทุกอย่างมาใส่ตัวเองแล้วถาถมไปเรื่อยๆจนกว่าเราจะรู้สึก..แต่ยิ้มก็เป็นความรู้สึก​ที่เราคิดไว้และรู้สึกออกมาตามมัน  เราได้แต่คิดว่าทำไมครอบครัวเราถึงเฉยชาขนาดนี้​ ความคิดนี้มันเกิดขึ้นตอนที่พ่อแม่เราแยกทางกัน​ เรารู้ว่าบางคนก็เป็นแบบเรา​ แต่คงไม่เหมือนเราจนหมดเพราะเราไม่เหลือใครจริงๆเลยทั้งนั้น​ คนรอบตัวที่เหมือนจะทำดีกับเราสุดท้ายก็แค่หวังผลประโยชน์​จากแม่เรา​ เราอยู่กับใครคนนั้นมักจากเราไปตลอดจนเราเริ่มเก็บมานั่งคิดนั่ง​ร้องไห้คนเดียว​ ถ้าใครๆถามบุคลิก​เราจากคนสนิทไม่สนิทเขาก็คงตอบเหมือนกันว่าเราเป็นคนร่าเริง​ พูดเยอะ​ แต่พอเราอยู่ตัวคนเดียวแล้วเหมือนหลุดมาอีกฝั่งเราเครียดทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเรา​ เราทำตัวเเบบนี้มาหลายปีเเล้วจนเริ่มกลัวว่าตัวเองจะเป็นคนสองบุคลิก.. แต่คงไม่มีใครสนใจเราก็ไม่ใส่ใจอะไรแล้วทนมาต่อไปเรื่อยๆ​


เราอาศัย​อยู่กับทางแม่แต่แม่เราทำงานหนักมากจนไม่มีเวลาสนใจเรา​ และแถมยังมีคุณลุงใจดีและมีน้องที่กำลังจะเกิดคุณ​ลุงใจดีกับแม่เราและครอบครัวเรามาก​  แต่เรากลับไม่ชอบเขาเลยขอแม่ไปอยู่กับพ่อซึ่งแม่ก็ไม่ห้ามอะไรเราเลย  พอเรามาถึงบ้านพ่อก็พึ่งรู้ว่าเรากำลังจะมาเป็นส่วนเกินของทั้งสองฝ่ายเราเลยเลือกจะไปอยู่กับน้าเรา​ น้าเราที่เอาแต่บ้างานไม่สนใจเราครอบครัวแม้แต่ลูกแท้ๆตัวเองก็ไม่เคย​ เรานี่ยอมรับเลยว่าไปอยู่ที่ไหนก็กายเป็นส่วนเกินที่นั่นจริงๆ​ แม้กระทั่งเรามีงานประชุมที่รร.เราขอให้แม่ไปแม่ก็อยู่ไกลเกินกว่าจะมาหาเราได้​ พ่อเราก็ติดงานของตจว.​ และน้าเราก็บ้างานเอาแบบมากๆทำให้วันนั้นไม่มีใครไป​ วันนั้นเราจำได้ดีเลยแหละว่าครูและผู้ปกครอง​และนักเรียนคุยกันสนุกเฮฮามากแค่ไหนในห้องนั้นเราเลยเลือกที่จะปลีกตัวออกมาคนเดียวเพราะเรารู้สึก​เหมือนเป็นแกะดำในนั้นไม่มีผิด​ ตอนนั้นในช่วงเวลานั้นเราเหมือนไม่มีตัวตนเลย​ ต้องฝืนต้องทนอีกแค่ไหนนะ​ เราก็ได้แต่ถามตัวเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่