ขอคำปรึกษา กรณีพ่อกับแม่แยกทางกันและพ่อต้องการสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูก

สวัสดีค่ะ เราต้องการคำปรึกษา รบกวนผู้รู้/ผู้ที่มีประสบการณ์ ด้วยค่ะ (ยาวหน่อยนะ แต่ช่วยด้วยค่ะ)
กรณีที่กำลังจะเล่า เป็น หลานชาย(ลูกพี่ชาย) ของเราเอง อายุประมาณ 1.X ขวบ

ดาวประเด็นที่ 1 : เกี่ยวกับตัวพ่อและแม่เด็ก
-พ่อแม่ ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน 
-พ่อ ไม่มีการจดรับรองบุตร (แต่ตอนเด็กเกิด ในใบสูติบัตรเป็นชื่อพี่ชายเรานะ)
-พ่อทำงาน แม่ไไม่ทำงาน (พี่ชายจะให้เงินทุกวัน วางไว้บนโต๊ะ เงินค่าขนมเล็กๆน้อยๆ) 
**เท่ากับพ่อเด็ก ไม่ใช่เป็นพ่อทางกฎหมาย (เข้าใจถูกมั้ยเอ่ย)**

ดาวประเด็นที่ 2 : แม่เด็กมีปัญหาทางจิต
-แสดงออกทางคำพูด การกระทำ (หลายครั้ง หลายหน จนแอบเอาไปปรึกษากับสายด่วนสุขภาพจิตเอง ว่าแนวๆนี้ เป็นผู้ป่วยทางจิตมั้ย ทางสายด่วนตอบมาว่า ใช่
-ไม่มีใบรับรองแพทย์ว่าเป็นผู้ป่วยทางจิต เนื่องจากยังไม่ได้รับการตรวจ เพราะ ตัวแม่เองไม่ยอมไปหาหมอ (รอให้คุณหมอมาตรวจที่บ้าน)
-ตอนจะจดทะเบียนสมรส ทางคุณตาก็ทำสัญญาสิ้นคิดขึ้นมาให้พี่เราเซ็น บอกว่าเป็นเหมือนสัญญาใจ ไม่จริงจัง...ว่าถ้าหาหมอแล้วลูกเขาป่วยทางจิตจริง การดูแลเด็กจะขึ้นอยู่กับยาย คุณตาพูดว่า...ทำสัญญาไว้เพื่อให้แน่ใจว่า พี่เราจะไม่ทิ้งแม่เด็ก แล้วเอาแต่เด็กไป (คำพูดก็คือคำพูด จะมาหมายความว่าอะไรนอกรอบเราไม่รู้ แต่ที่รู้ๆในเนื้อหากระดาษที่ต้องการให้เซ็น มันอีกความหมาย) **สรุป ไม่ได้จด**

ดาวประเด็นที่ 3 : จะขอเล่าเรื่องราวคร่าวๆที่เกิดขึ้น เพื่อให้ช่วยกันแสดงความคิดเห็นและขอคำปรึกษา 
-ตัวแม่เคยทำงานอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่ง และได้ลาออกมา (ลาออกเพราะระแวงและชอบคิดว่าเพื่อนร่วมงานชอบแอบนินทาตน) ปัจจุบันไม่ทำงาน
-ระหว่างที่ย้ายเข้ามาบ้านเราใหม่ๆ ก็ระแวงคนในบ้าน พอมีคนพูดอะไรนิดหน่อย ก็คิดว่ากำลังแอบด่าตัวเค้าอยู่ หรือคิดไปว่า มีคนทำคุณไสยใส่(บางทีพูดเรื่องหนูในบ้าน ก็คิดว่าแอบด่า)

-เหตุการณ์เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นตอนมีลูกแล้ว ครั้งที่ 1
มีอยู่วันหนึ่งลูกร้องไห้ แม่เด็กคิดว่าลูกผีเข้า เอาพระมาให้ลูกถือ เด็กงอแง(ไม่ง่วง ก็หิว หรือปวดท้อง)เลยไม่ยอมถือพระ แม่เด็กเลยบอกว่า
นี่ไม่ใช่ลูกเค้า ลูกเค้าต้องท่องบทสวดอิติปิโสได้ ต้องบอกได้ว่ากินนมยี่ห้ออะไร (ซึ่งเด็ก1.X ขวบนี้ ยังพูดออกมาได้แค่ทีละคำ เช่น บอล แมว ปลา คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมาตอบว่ากินนมยี่ห้ออะไร สวดมนอิติปิโสยาวๆแบบนั้นได้) ทีนี้แม่เด็กเกิดอาการคุ้มคลั่ง ปาข้าวของออกนอกบ้าน และไม่อุ้มลูกที่ร้องไห้อยู่เพราะคิดว่านั่นไม่ใช่ลูก! อยู่ๆก็อุ้มลูกขึ้นรถขับรถออกไปด้วยอาการคุ้มคลั่งเหมือนคนไม่มีสติ(ตาแข็ง) ใครหยุดก็ไม่ยอมหยุด พยายามขับรถขวางหน้าแล้วไม่หยุด ขับรถเฉี่ยวคนที่เข้าไปขวางกระเด็นออกมาที่ถนนmad พอสถานการณเริ่มคลี่คลายผ่านไปสัก1-2ชม. แม่เด็กจำได้นะว่า ขับรถเฉี่ยวคน (ไม่มาขอโทษเอง ฝากมาขอโทษ) และเป็นที่แน่นอนว่า คนที่ถูกเฉี่ยว ตอนโดนเฉี่ยวกระเด็นนั้น ก็ตะโกนด่ากลางถนน (แม่เด็กก็จำได้อีกด้วยว่าโดนด่าว่าอะไร บอกให้คนนั้นมาขอโทษตน) เวลามาผ่านไปๆ ทุกอย่างพยายามประคองไว้เพื่อตัวเด็ก พ่อก็อดทนเพื่อลูก (เรามีหลักฐานแค่คลิปแม่เด็กให้ลูกถือพระ)

-เหตุการณ์เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นตอนมีลูกแล้ว ครั้งที่ 2
เด็กเป็นคนที่นอนละเมอมากๆๆๆๆ ตอนเด็กมานอนที่บ้านเราละเมอพูดออกมาบ่อยๆ เช่น กินนม ปู่อุ้ม ไม่เอา นอน ซึ่งถ้าน้องละเมอ กินนม..เราก็จะเอานมให้กิน ก็จะเงียบแล้วหลับไป ถ้าบอกให้ปู่อุ้ม...ปู่ก็อุ้ม กล่อมจนหลับไป ล่าสุดนี้เด็กนอนที่บ้านตัวเอง(มีพ่อแม่นอนด้วย) เรียก แม่อุ้มๆ...แม่นอนไม่สนใจ หลับต่อ
ตัวพ่อก็เลยเรียกให้แม่ลุกไปอุ้มลูกหน่อย ลูกเรียก แม่ก็โมโห เหวี่ยงใส่พ่อทะเลาะบ้านแตก (เป็นแบบนี้บ่อยมาก)
****จุดจบเลยแยกทาง เด็กไปอยู่กับแม่ (และตายาย) นี่คือปัจจุบันเลย****

ดาวสาวความไปอีกหน่อย เนื่องจากแม่ไม่งานทำ พ่อให้เงินค่าขนมเป็นวันๆ  วันไหนไม่วางเงินให้ ก็จะหอบหิ้วของและลูกออกจากบ้าน เงินที่เค้าได้รับไม่ได้มีแค่ทางเดียว ทางตายายก็ให้เงินเดือน ใช้เงินเยอะมากๆ (ไม่ใช่พนัน ไม่ติดหนี้ คืองงเอาไปทำอะไรนักหนา อยู่แต่บ้าน ดูแต่ซีรีย์) 
และยังมีอีกหลายอย่างที่รับประกันได้ว่า แม่คนนี้ไม่มีความสามารถในการเลี้ยงดูลูกได้ ด้วยตัวตายายเองก็ไม่ได้เลี้ยงแม่เด็กมาเอง ส่งให้คนอื่นเลี้ยง
ครอบครัวฝั่งยาย ก็มีคนป่วยทางจิต...อาจจะเป็นพันธุกรรมหรือเปล่า
ปล.ฝั่งญาติเหมือนไม่อยากให้แม่เด็กมาอยู่ด้วยเพราะทนอารมณ์แม่เด็กไม่ไหว (อ้าวววว ลูกหลานตัวเอง) เป็นไปได้มั้ยว่า ตายายปกปิดเรื่องการป่วยทางจิตของลูกตัวเอง อยู่ๆมาโทษว่าเพราะมาอยู่กับพี่ชายเราเนี่ยแหละ เลยป่วย...Facepalm

ดาวสิ่งที่เราขอความช่วยเหลือ คือ
-พ่อเด็กมีสิทธิ์อะไรบ้างมั้ยที่จะได้เลี้ยงดูลูก (เนื่องจากหลักฐานหรือใบรับรองแพทย์ก็ไม่มี เอาเป็นว่าเป็นพ่อแค่ในสูติบัตร)
เราไม่ได้ต้องการจะพรากลูกพรากแม่ เราโอเคมากถ้าจะให้ฝั่งพ่อเป็นผู้เลี้ยงดูและให้เด็กได้ไปหาแม่ ก็ขอแค่ไม่อยากให้เด็กต้องไปตกอยู่ในสภาพการเลี้ยงดูแบบนั้น อยู่กับคนที่วี๊ดๆตลอดเวลา อยู่ๆก็บ้าขึ้นมา ต้องเข้าใจนะว่าป่วยทางจิตเป็นอะไรที่เดาไม่ได้ ความรุนแรงของโรคก็คาดเดาไม่ได้เช่นกัน เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของเด็ก และอยู่ไปทุกวันๆในสถานการณ์แบบนี้เด็กมันก็ซึมซับ สักวันก็คงป่วยทางจิตเช่นกัน อีกอย่างไม่มีใครช่วยแม่ดูแลเด็กเลย ตายายก็เลี้ยงไม่เป็น เค้าเคยพูดว่าเลี้ยงไม่ได้ (สงสารเด็ก...)

ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่