เรื่องมันเริ่มจาก...
ระหว่างที่กำลังสอนคำศัพท์ เรื่อง สีกับเสื้อผ้า
และนักเรียนกำลังเข้าจังหวะการออกเสียงอย่างเมามัน
<<<เพี๊ยะ!!! >>> เสียงดังมากกกกก ปากกาที่เคาะกระดานเป็นจังหวะถึงขั้นหยุดชะงัก หันไปมองอีกที เด็กหญิงผมสั้น ซบหน้าลงกับโต๊ะ แล้วตัวสั่นเบาๆ
‘เป็นอะไรลูก ร้องไห้ทำไมคะ’ เข้าไปลูบหัวลูบไหล่ไต่ถาม แต่ไม่ตอบ ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาสบตา
เสียงอีกสองสามแสบในห้องตะโกนบอก
‘เด็กชายหนึ่งตีครับ/ค่ะครู’
‘...ตีแรงไหมคะ’
‘แรงมากกกกกกกก’ (ทั้งห้องประสานเสียง)
หันไปมองโจทก์หลักของเรื่อง ที่กำลังเกาหัวแกรกๆแล้วยิ้มเก้อๆ
‘ตีเพื่อนทำไมคะ’
‘.......’
‘ตีเพื่อนแบบนี้ ถือว่าทำร้ายร่างกาย ผิดนะครับหนึ่ง มีอะไรต้องพูดกันดีๆนะคะ’
‘......’
เอาแล้วไง ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้
เพราะปกติจขกท.สอนเด็กโตค่ะ สอนเดี่ยวบ้าง กลุ่มบ้างแต่แยกอายุกันชัดเจน แต่คลาสนี้เป็นคลาสจิตอาสา รวมเด็กตั้งแต่ ป.1-ป.6 ประมาณ สิบกว่าคน สอนอาทิตย์ละครั้งในช่วงที่เด็กๆปิดเทอมค่ะ
คิดๆๆๆ ทำยังไงดีหนอ จะดุก็ไม่ถนัด จะตีหรือก็ไม่เคย
‘ลุกค่ะ ไปกระโดดตบหลังห้อง 20 ที’
เด็กชายกระโดดไปได้สักหน่อยเท่านั้น เหงื่อโชก ด้วยความที่ค่อนข้างกลมกว่าใครเพื่อน
‘ไหนมาขอโทษเพื่อนซิค่ะ เราเป็นผู้ชายจะรังแกผู้หญิงไม่ได้รู้ไหมค่ะ หนูจะเป็นที่รัก ถ้าหนูรู้จักให้เกียรติและปกป้องคนอื่นนะคะ’ เว้นวรรคเสียง แล้วหันไปมองหน้าเด็กโตซึ่งเป็นสาวๆในห้อง ซึ่งถกแขนเสื้อนั่งเรียนแบบแมนๆ ‘ผู้หญิงเองก็จะเที่ยวไปหาเรื่องผู้ชายหรือข่มเขาก่อนไม่ได้นะจ้ะ’ (พูดไปก็ไม่รู้จะเข้าใจไหม แต่หวังว่าวันนึงเด็กๆจะเข้าใจค่ะ)
‘ขอโทษครับ’ (เสียงเบามากกกก)
‘หนูหายโกรธเพื่อนไหมลูก’
เด็กหญิงส่ายหน้า
‘ไปค่ะ กระโดดต่อ โดดจนกว่าเพื่อนจะหายโกรธเนอะ’
แล้วก็ใหัทำแบบเดิมคือ ทุกสิบกว่าที ให้มาขอโทษต่อหน้าเด็กหญิงครั้งหนึ่ง
‘ทำไมเสียงเบาจังครับ พูดให้ชัดๆเสียงดังเหมือนตอนตอบครูในห้องซิค่ะ’
‘ขอโทษครับ’(ดังขึ้นมานิดนึง)
‘จะแกล้งเพื่อนอีกไหมคะ’
‘ไม่แล้วครับ’
จนน่าจะสักโดดยกที่สี่ เสียงเพื่อนในห้องเริ่มช่วยกัน
‘หายเถอะ จะได้เรียนต่อ หนึ่งมันผอมแน่วันนี้ หายเถอะ หนึ่งไม่กล้าแล้วล่ะ’
‘เพื่อนสำนึกผิดแล้วค่ะ ให้อภัยเพื่อนได้ไหมจ้ะ’
ระหว่างกำลังเจรจา จำเลยของเราแอบอู้เบาๆ
อีกสองสามแสบเลยหันไปแซว
‘เอ้ย โดดไปๆ เขายังไม่หายโกรธ หล่อแน่วันนี้’
เท่านั้นแหละ โจทก์ของเราก็ยิ้มออกแล้วขำทั้งน้ำตา
‘หายโกรธเพื่อนรึยังเอ่ย’
พยักหน้าน้อยๆ
จำเลยเดินมาขอโทษอีกครั้ง พร้อมยกมือไหว้!!
คนสอนก็เพิ่งรู้ตอนนี้ว่า เจ้าแสบเล่นข้ามรุ่น เพราะ
ดันไปตบหัวเด็กหญิงรุ่นพี่นะคะ
แล้วห้องเรียนก็กลับสู่ภาวะปกติ โดยที่คู่กรณีนั่งเรียนข้างๆกันต่อได้ และแอบมีกระซิบช่วยกันตอนโดนครูถาม พอพักก็เห็นนั่งกินข้าวใกล้ๆกัน เล่นกันได้ปกติ
จะว่าไปก็...ดีนะคะ ตอนแด็กๆ เราไม่ค่อยโกรธเกลียดกันนานๆ ถ้าทุกวันนี้เราให้อภัยกันได้ง่ายๆแบบเด็กๆคงดีเนอะ
จากเหตุการณ์ในวันนี้ ทำให้ครูกับนักเรียนสนิทกันมากขึ้นซะอย่างงั้น ตอนแรกคิดว่า คงเคืองครูที่ให้กระโดดตบจนเหนื่อย แต่พอบอกว่า
‘สงกรานต์ไม่มีเรียนนะครับ’
‘ทำไมอ่ะครู ผมอยากเรียน’
‘พอดีครูติดธุระค่ะ’
‘พวกผมว่างนะฮะ ใช่ค่ะ/ใช่ครับ พวกหนูว่าง’
.....
เลยได้แต่ยกการ์ดคำศัพท์ทั้งหมดให้ไป
คิดว่าเหล่าแสบคงไม่สนใจ แต่เปล่าเลย
หัวหน้าขบวนการหลายแสบ วิ่งดุ๊กๆเอาการ์ดคำศัพท์ไปไว้หลังตู้หนังสือ แล้วพูดเสียงจริงจัง
‘ต้องเก็บดีๆครับ เดี๋ยวมีคนเอาลงมาเล่นแล้วไม่เก็บจะหาย’
ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคำพูดของตัวแสบประจำห้องที่ถาม what's your name? ทีไร ก็ตอบชื่อมาไม่เคยซ้ำกันสักที
ภาพสุดท้ายก่อนหยุดยาว คือเหล่าแสบเอาหัวชนกัน นั่งเปิดดูหนังสือที่ยกให้ไว้อ่านช่วงหยุดยาว
เพราะแบบนี้มั้งค่ะ เลยไม่เคยมีวันไหนที่จขกท.ไม่อยากเป็นครู ไม่ว่าจะได้ค่าจ้างหรือไม่ก็ตาม...
>>> จขกท.อยากขอแนวทางการแก้ไขปัญหา เด็กน้อยทะเลาะกันแบบนี้ ไว้ใช้ในคราวต่อๆไปค่ะ ใครมีไอเดียดีๆเสนอหน่อยนะคะ เพราะจขกท.ไม่ได้จบสายคุณครูโดยตรงค่ะ เพียงแค่ชอบสอนหนังสือ เลยไม่แน่ใจว่าในการเรียนครู เขามีการสอนวิธีการรับมือกับเด็กในวัยต่างๆไว้อย่างไรบ้างคะ
อาจจะยาวไปนิด แต่ก็ขอบคุณคนที่อ่านจนจบบรรทัดนี้นะคะ
**แก้ไขนะคะ** จขกท.ลบรูป ไป 1 รูปค่ะ เป็นรูปสองแสบที่ปรองดองกันแล้ว นั่งหันหลังช่วยกันทำแบบฝึกหัด แบบไม่เห็นหน้าน้องๆ ขออนุญาตน้องแล้วนะคะ และทำตามหลักสิทธิเด็ก เรื่อง ‘สื่ออย่างไรให้พิทักษ์สิทธิเด็ก’ ของเครือข่ายสิทธิเด็กประเทศไทย ทุกประการค่า จขกท.รู้สึกว่าเป็นภาพที่น่ารักดี เหมือนได้ย้อนไปดูหนังเรื่อง แฟนฉัน แล้วรู้สึกว่า ข้อดีของเด็กคือ โกรธกันไม่นาน แต่เนื่องจากมีเพื่อนสมาชิกห่วงใยเรื่องการลงรูป เลยลบไปนะคะ ขออภัยด้วยค่ะ
<<< เพิ่มเติมค่าาา >>>
ด้วยความที่จขกท.อาจจะเล่ารายละเอียดเล็กๆน้อยๆไม่ครบนะคะ รู้สึกว่าตอนนี้ก็ยาวมากเลย รบกวนอาจจะหาอ่านเพิ่มได้ในความคิดเห็นที่จขกท.ตอบนะคะ หรือจะถามใหม่ก็ได้ค่ะ ยินดีอธิบายนะคะ ^^’’
แต่โดยสรุปเพื่อลดความกังวลหลายๆกรณี คือ...
น้องๆทุกคน ไม่มีใครเป็นโรคประจำตัวค่ะ
สาเหตุที่น้องผู้ชายตีหัวน้องผู้หญิงคือ ตีเล่นเฉยๆเนอะ
ส่วนน้องผู้หญิงขำที่เพื่อนในห้องแซวว่า ‘วันนี้หล่อแน่ๆ’ ไม่ได้มีการหัวเราะเยาะระหว่างที่เพื่อนกระโดดตบนะคะ เพราะจขกท.ไม่ได้ให้หันไปเผชิญหน้ากันค่ะ (จะได้เห็นหน้ากันตรงๆก็ตอนเอ่ยคำขอโทษ)
ขอบคุณมากๆๆๆสำหรับทุกคำแนะนำนะคะ
จขกท.จะนำไปปรับปรุงการทำโทษเด็กๆให้รัดกุมขึ้นค่ะ หากผิดพลาดตรงไหนไป ต้องขอโทษจริงๆค่ะ
เจตนาของการตั้งกระทู้คือ ไม่สนับสนุนให้ตีเด็ก เพราะจขกท.มองว่า ถ้าเราพูดกับเขาดีๆ เขาจะรับฟังค่ะและไม่ได้เข้าข้างคนใดคนหนึ่งนะคะ สอนกันมา จขกท.ก็รักและเอ็นดูทุกคนค่ะ และอีกประการคือรับฟังแนวทางการลงโทษเด็กน้อยในกรณีแบบนี้ค่ะ เพราะฉะนั้นจขกท.น้อมรับทุกความคิดเห็นไปแก้ไขให้ดียิ่งขึ้นนะคะ
การทำโทษเด็กแบบนี้เหมาะสมรึเปล่าคะ
ระหว่างที่กำลังสอนคำศัพท์ เรื่อง สีกับเสื้อผ้า
และนักเรียนกำลังเข้าจังหวะการออกเสียงอย่างเมามัน
<<<เพี๊ยะ!!! >>> เสียงดังมากกกกก ปากกาที่เคาะกระดานเป็นจังหวะถึงขั้นหยุดชะงัก หันไปมองอีกที เด็กหญิงผมสั้น ซบหน้าลงกับโต๊ะ แล้วตัวสั่นเบาๆ
‘เป็นอะไรลูก ร้องไห้ทำไมคะ’ เข้าไปลูบหัวลูบไหล่ไต่ถาม แต่ไม่ตอบ ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาสบตา
เสียงอีกสองสามแสบในห้องตะโกนบอก
‘เด็กชายหนึ่งตีครับ/ค่ะครู’
‘...ตีแรงไหมคะ’
‘แรงมากกกกกกกก’ (ทั้งห้องประสานเสียง)
หันไปมองโจทก์หลักของเรื่อง ที่กำลังเกาหัวแกรกๆแล้วยิ้มเก้อๆ
‘ตีเพื่อนทำไมคะ’
‘.......’
‘ตีเพื่อนแบบนี้ ถือว่าทำร้ายร่างกาย ผิดนะครับหนึ่ง มีอะไรต้องพูดกันดีๆนะคะ’
‘......’
เอาแล้วไง ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้
เพราะปกติจขกท.สอนเด็กโตค่ะ สอนเดี่ยวบ้าง กลุ่มบ้างแต่แยกอายุกันชัดเจน แต่คลาสนี้เป็นคลาสจิตอาสา รวมเด็กตั้งแต่ ป.1-ป.6 ประมาณ สิบกว่าคน สอนอาทิตย์ละครั้งในช่วงที่เด็กๆปิดเทอมค่ะ
คิดๆๆๆ ทำยังไงดีหนอ จะดุก็ไม่ถนัด จะตีหรือก็ไม่เคย
‘ลุกค่ะ ไปกระโดดตบหลังห้อง 20 ที’
เด็กชายกระโดดไปได้สักหน่อยเท่านั้น เหงื่อโชก ด้วยความที่ค่อนข้างกลมกว่าใครเพื่อน
‘ไหนมาขอโทษเพื่อนซิค่ะ เราเป็นผู้ชายจะรังแกผู้หญิงไม่ได้รู้ไหมค่ะ หนูจะเป็นที่รัก ถ้าหนูรู้จักให้เกียรติและปกป้องคนอื่นนะคะ’ เว้นวรรคเสียง แล้วหันไปมองหน้าเด็กโตซึ่งเป็นสาวๆในห้อง ซึ่งถกแขนเสื้อนั่งเรียนแบบแมนๆ ‘ผู้หญิงเองก็จะเที่ยวไปหาเรื่องผู้ชายหรือข่มเขาก่อนไม่ได้นะจ้ะ’ (พูดไปก็ไม่รู้จะเข้าใจไหม แต่หวังว่าวันนึงเด็กๆจะเข้าใจค่ะ)
‘ขอโทษครับ’ (เสียงเบามากกกก)
‘หนูหายโกรธเพื่อนไหมลูก’
เด็กหญิงส่ายหน้า
‘ไปค่ะ กระโดดต่อ โดดจนกว่าเพื่อนจะหายโกรธเนอะ’
แล้วก็ใหัทำแบบเดิมคือ ทุกสิบกว่าที ให้มาขอโทษต่อหน้าเด็กหญิงครั้งหนึ่ง
‘ทำไมเสียงเบาจังครับ พูดให้ชัดๆเสียงดังเหมือนตอนตอบครูในห้องซิค่ะ’
‘ขอโทษครับ’(ดังขึ้นมานิดนึง)
‘จะแกล้งเพื่อนอีกไหมคะ’
‘ไม่แล้วครับ’
จนน่าจะสักโดดยกที่สี่ เสียงเพื่อนในห้องเริ่มช่วยกัน
‘หายเถอะ จะได้เรียนต่อ หนึ่งมันผอมแน่วันนี้ หายเถอะ หนึ่งไม่กล้าแล้วล่ะ’
‘เพื่อนสำนึกผิดแล้วค่ะ ให้อภัยเพื่อนได้ไหมจ้ะ’
ระหว่างกำลังเจรจา จำเลยของเราแอบอู้เบาๆ
อีกสองสามแสบเลยหันไปแซว
‘เอ้ย โดดไปๆ เขายังไม่หายโกรธ หล่อแน่วันนี้’
เท่านั้นแหละ โจทก์ของเราก็ยิ้มออกแล้วขำทั้งน้ำตา
‘หายโกรธเพื่อนรึยังเอ่ย’
พยักหน้าน้อยๆ
จำเลยเดินมาขอโทษอีกครั้ง พร้อมยกมือไหว้!!
คนสอนก็เพิ่งรู้ตอนนี้ว่า เจ้าแสบเล่นข้ามรุ่น เพราะ
ดันไปตบหัวเด็กหญิงรุ่นพี่นะคะ
แล้วห้องเรียนก็กลับสู่ภาวะปกติ โดยที่คู่กรณีนั่งเรียนข้างๆกันต่อได้ และแอบมีกระซิบช่วยกันตอนโดนครูถาม พอพักก็เห็นนั่งกินข้าวใกล้ๆกัน เล่นกันได้ปกติ
จะว่าไปก็...ดีนะคะ ตอนแด็กๆ เราไม่ค่อยโกรธเกลียดกันนานๆ ถ้าทุกวันนี้เราให้อภัยกันได้ง่ายๆแบบเด็กๆคงดีเนอะ
จากเหตุการณ์ในวันนี้ ทำให้ครูกับนักเรียนสนิทกันมากขึ้นซะอย่างงั้น ตอนแรกคิดว่า คงเคืองครูที่ให้กระโดดตบจนเหนื่อย แต่พอบอกว่า
‘สงกรานต์ไม่มีเรียนนะครับ’
‘ทำไมอ่ะครู ผมอยากเรียน’
‘พอดีครูติดธุระค่ะ’
‘พวกผมว่างนะฮะ ใช่ค่ะ/ใช่ครับ พวกหนูว่าง’
.....
เลยได้แต่ยกการ์ดคำศัพท์ทั้งหมดให้ไป
คิดว่าเหล่าแสบคงไม่สนใจ แต่เปล่าเลย
หัวหน้าขบวนการหลายแสบ วิ่งดุ๊กๆเอาการ์ดคำศัพท์ไปไว้หลังตู้หนังสือ แล้วพูดเสียงจริงจัง
‘ต้องเก็บดีๆครับ เดี๋ยวมีคนเอาลงมาเล่นแล้วไม่เก็บจะหาย’
ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคำพูดของตัวแสบประจำห้องที่ถาม what's your name? ทีไร ก็ตอบชื่อมาไม่เคยซ้ำกันสักที
ภาพสุดท้ายก่อนหยุดยาว คือเหล่าแสบเอาหัวชนกัน นั่งเปิดดูหนังสือที่ยกให้ไว้อ่านช่วงหยุดยาว
เพราะแบบนี้มั้งค่ะ เลยไม่เคยมีวันไหนที่จขกท.ไม่อยากเป็นครู ไม่ว่าจะได้ค่าจ้างหรือไม่ก็ตาม...
>>> จขกท.อยากขอแนวทางการแก้ไขปัญหา เด็กน้อยทะเลาะกันแบบนี้ ไว้ใช้ในคราวต่อๆไปค่ะ ใครมีไอเดียดีๆเสนอหน่อยนะคะ เพราะจขกท.ไม่ได้จบสายคุณครูโดยตรงค่ะ เพียงแค่ชอบสอนหนังสือ เลยไม่แน่ใจว่าในการเรียนครู เขามีการสอนวิธีการรับมือกับเด็กในวัยต่างๆไว้อย่างไรบ้างคะ
อาจจะยาวไปนิด แต่ก็ขอบคุณคนที่อ่านจนจบบรรทัดนี้นะคะ
**แก้ไขนะคะ** จขกท.ลบรูป ไป 1 รูปค่ะ เป็นรูปสองแสบที่ปรองดองกันแล้ว นั่งหันหลังช่วยกันทำแบบฝึกหัด แบบไม่เห็นหน้าน้องๆ ขออนุญาตน้องแล้วนะคะ และทำตามหลักสิทธิเด็ก เรื่อง ‘สื่ออย่างไรให้พิทักษ์สิทธิเด็ก’ ของเครือข่ายสิทธิเด็กประเทศไทย ทุกประการค่า จขกท.รู้สึกว่าเป็นภาพที่น่ารักดี เหมือนได้ย้อนไปดูหนังเรื่อง แฟนฉัน แล้วรู้สึกว่า ข้อดีของเด็กคือ โกรธกันไม่นาน แต่เนื่องจากมีเพื่อนสมาชิกห่วงใยเรื่องการลงรูป เลยลบไปนะคะ ขออภัยด้วยค่ะ
<<< เพิ่มเติมค่าาา >>>
ด้วยความที่จขกท.อาจจะเล่ารายละเอียดเล็กๆน้อยๆไม่ครบนะคะ รู้สึกว่าตอนนี้ก็ยาวมากเลย รบกวนอาจจะหาอ่านเพิ่มได้ในความคิดเห็นที่จขกท.ตอบนะคะ หรือจะถามใหม่ก็ได้ค่ะ ยินดีอธิบายนะคะ ^^’’
แต่โดยสรุปเพื่อลดความกังวลหลายๆกรณี คือ...
น้องๆทุกคน ไม่มีใครเป็นโรคประจำตัวค่ะ
สาเหตุที่น้องผู้ชายตีหัวน้องผู้หญิงคือ ตีเล่นเฉยๆเนอะ
ส่วนน้องผู้หญิงขำที่เพื่อนในห้องแซวว่า ‘วันนี้หล่อแน่ๆ’ ไม่ได้มีการหัวเราะเยาะระหว่างที่เพื่อนกระโดดตบนะคะ เพราะจขกท.ไม่ได้ให้หันไปเผชิญหน้ากันค่ะ (จะได้เห็นหน้ากันตรงๆก็ตอนเอ่ยคำขอโทษ)
ขอบคุณมากๆๆๆสำหรับทุกคำแนะนำนะคะ
จขกท.จะนำไปปรับปรุงการทำโทษเด็กๆให้รัดกุมขึ้นค่ะ หากผิดพลาดตรงไหนไป ต้องขอโทษจริงๆค่ะ
เจตนาของการตั้งกระทู้คือ ไม่สนับสนุนให้ตีเด็ก เพราะจขกท.มองว่า ถ้าเราพูดกับเขาดีๆ เขาจะรับฟังค่ะและไม่ได้เข้าข้างคนใดคนหนึ่งนะคะ สอนกันมา จขกท.ก็รักและเอ็นดูทุกคนค่ะ และอีกประการคือรับฟังแนวทางการลงโทษเด็กน้อยในกรณีแบบนี้ค่ะ เพราะฉะนั้นจขกท.น้อมรับทุกความคิดเห็นไปแก้ไขให้ดียิ่งขึ้นนะคะ