จากคนที่มีประจำเดือนเฉลี่ยปีละครั้ง แต่ตั้งครรภ์ลูกคนแรกได้เองแบบธรรมชาติ

สวัสดีค่ะ ชาวพันทิปทุกท่าน
วนเวียนอยู่ในพันทิปมาสักระยะ คอยตามอ่านกระทู้ที่มีประโยชน์ของบรรดาสาวๆ วันนี้เลยถือโอกาสมาแชร์เรื่องของตัวเองเป็นครั้งแรก : )

เราเป็นหนึ่งในหลายๆคนที่มีประจำเดือนแบบไม่ปกติมากๆ แต่ก็มีอินเนอร์ความแม่ คิดว่าอยากจะมีครอบครัวมีลูก และพยายามจะหาข้อมูล หาคำตอบ หาทางแก้ความผิดปกตินี้ แล้วก็เจอว่ามีคนเอามาแชร์ค่อนข้างน้อยมาก เลยคิดว่าเรื่องของเราน่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่มีประจำเดือนไม่ปกติ แต่อยากมีครอบครัวค่ะ

ตั้งแต่เด็กเราเป็นคนที่ค่อนข้างแข็งแรงค่ะ ไม่ค่อยหยุดโรงเรียน ป่วยปีละครั้งและมักจะป่วยไม่นาน พอเริ่มเป็นวัยรุ่นก็โตเป็นสาวที่ค่อนข้างปกตินะ หุ่นปานกลางไม่อ้วน ไม่ผอม หน้าอกหน้าใจก็ไม่น้อยหน้าใครด้วยค่ะ แต่พอเป็นวัยรุ่นก็เริ่มควบคุมอาหารบ้าง กินน้อยลง ห่วงสวยเหมือนวัยรุ่นทั่วไป แต่ที่ต่างจากเพื่อนๆคือผิวแห้งมากๆ ไม่ค่อยมีสิวเลย และที่สำคัญประจำเดือนที่มาไม่ปกติตั้งแต่ครั้งแรกในชีวิต

ประจำเดือนแบบไม่ปกติมากๆ คือ?
ประจำเดือนครั้งแรกของเราคือตอนอายุ 12 ตื่นมาตอนเช้าแล้วก็มีคราบสีน้ำตาลๆอยู่บนกางเกงใน แล้วมันก็แค่นั้นเลยค่ะ เราถึงกับงงว่า อ้าวไม่เห็นเหมือนที่เคยอบรมกันมาใน รร.เลย??? แล้วหลังจากนั้นจำได้ว่ารอบเดือนไม่เคยมาแบบรายเดือนอย่างคนอื่นๆเลย เรียกว่าเป็นประจำ 2 เดือนบ้าง 3 เดือนบ้างจะดีกว่า แล้วลักษณะของรอบเดือนถึงแม้จะเป็นวันที่ 2 ก็ไม่ได้เป็นเลือดสีแดงสดทุกครั้ง บางเดือนปกติหน่อยก็จะแดงมากขึ้น มา 7 - 10 วัน แต่ที่เป็นบ่อยที่สุดคือมาแบบกระปิดกระปอย เป็นคราบสีน้ำตาล ใส่แค่ผ้าอนามัยแผ่นบางก็เอาอยู่ แต่จะมีไปยาวๆ ครึ่งเดือนเลยค่ะ กว่าจะหมด

ไม่ปกติหาหมอสูติมั้ย?
ที่บ้านเราจะไม่ใช้สายเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆ อีกอย่างเค้าคิดว่าช่วงวัยรุ่นแบบนี้ฮอร์โมนน่าจะยังไม่คงที่ โตไปน่าจะดีขึ้น เพราะแม่เราก็ประจำเดือนมาไม่ปกติเหมือนกันตอนวัยรุ่น (แต่ไม่สุดๆแบบเรานะคะ) ทางบ้านก็คิดว่าอาจจะเป็นกรรมพันธุ์ พอช่วง ม.3 เราเริ่มคุยกับแม่จริงจัง บางทีมันก็มีบ้างหละที่คิดว่าเราอาจจะมีปัญหาภายในแต่ไม่แสดงอาการรึเปล่า สุดท้ายก็ได้ไปหาหมอ แล้วก็จะเจอคำถามแรกว่าตั้งครรภ์รึเปล่า ซึ่งเราไม่ได้ตั้งครรภ์อย่างแน่นอนค่ะ เค้าก็เริ่มดูจากลักษณะผิวเรา เค้าว่าซึดๆหน่อยผิวแห้ง และมีการกดดูก้อนเนื้อจากหน้าท้องก็ไม่พบความผิดปกติอะไร หมอก็จ่ายฮอร์โมนมาให้กินประมาณ 5 เม็ด แล้วประจำเดือนก็มาตามคาด แต่ก็แค่ครั้งนั้นหละค่ะ แล้วก็กลับสู่สภาพเดิม : ( ในช่วงนั้นก็มีเพื่อนอีกคนที่มีปัญหาเรื่องประจำเดือน หมอก็แนะนำให้เพื่อนลองกินยาคุมดูเพื่อปรับฮอร์โมน ซึ่งก็ได้ผล (แต่ท้ายที่สุดเพื่อนเราคนนี้ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นไทรอยด์นะคะ) เราเลยได้รู้ว่าการใช้ยาคุมเป็นอีกทางนึง แต่เราไม่ได้ใช้นะ เพราะยังเป็นวัยเรียนทางบ้านเราคงรับไม่ได้แน่ๆ จะมีแค่ยาสตรีเพ็ญภาคที่เพื่อนสนิทเราลองเอามาให้กินขวดนึง ซึ่งสุดท้ายก็ไม่ได้ผลอยู่ดี
พอเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว เราก็ได้ไปหาหมออีก 1 ครั้ง หมอก็วินิจฉัยว่าฮอร์โมนน้อย จ่ายฮอร์โมนให้ประมาณ 5 เม็ดคล้ายกับครั้งก่อน และบอกเพิ่มเติมว่าถ้าอยากตั้งครรภ์เมื่อไหร่ก็มาฉีดฮอร์โมนให้ไข่ตก เราก็เคยคิดว่าอยากไปตรวจละเอียดระดับเช็คระดับฮอร์โมนในเลือดไปเลย แต่ก็ได้แค่คิดค่ะ ไม่ได้ไปจริงจังสักที

ช่วงที่ผิดปกติแบบสุดๆ
หลังจากเรียนจบ ทำงาน ก็มีช่วงนึงที่เราไปอยู่ต่างประเทศประมาณ 4 ปี ตอนอยู่ที่นั่นเราทำงาน part time หนักมาก บวกกับการกิน อากาศ ฯลฯ ที่เปลี่ยนไป ก็อาจจะมีส่วนทำให้ปีแรกและปีที่สองของการอยู่ต่างประเทศ ประจำเดือนเราไม่มาเลย 2 ปี!! ดูท่าไม่ค่อยดีแล้ว เราเลยคุยกับทางบ้านว่าคราวนี้ต้องขอลองใช้ยาคุมแล้วนะ เพราะ 2 ปีที่หายไปมันเป็นระยะเวลาที่โหดร้ายไป หมอเองก็เคยบอกว่าอย่างน้อยที่สุดควรหายไปไม่เกิน 6 เดือน ที่บ้านเราก็ตกลงและเราก็ได้ลองใช้ยาคุมเพื่อปรับฮอร์โมน และมันได้ผลค่ะ!! เริ่มจากต้นปีที่ 3 เรากินยาคุม 2 เดือนแล้วก็หยุด หลังจากนั้นประจำเดือนมาอย่างต่อเนื่องไปราวๆ 8 เดือน พอเข้าปลายปีเราก็จะป่วย นน.ลดและประจำเดือนก็หายไปด้วย พอเข้าปีที่ 4 เราก็กลับมากินยาคุมอีก 2 เดือนเหมือนเดิม และมาอยู่ 8 เดือน พอป่วยก็หายไปอีกค่ะ พอกลับมาเมืองไทยเราก็มัวแต่ยุ่งกับการทำงานเหมือนเคย เพราะอยากรีบเก็บเงินแต่งงาน เลยทำให้ลืมๆเรื่องนี้ไป 2 ปีแรกที่กลับมาเมืองไทยประจำเดือนก็มาแค่ปีละครั้งเท่านั้น

ก่อน-หลังแต่งงาน
ช่วงที่เรากลับมาไทยมาปีแรก ที่บ้านเรายังไม่ยอมให้แต่งงานเพราะคิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม จนเราดราม่าหนักเพราะใจเราคิดอย่างเดียวว่าเราประจำเดือนไม่ปกติแบบนี้ อายุก็ใกล้จะขึ้นเลข 3 แล้ว คบกับแฟนก็เป็น 10 ปี มัวแต่รอเวลาให้พร้อมเรื่องเงินถึงที่สุด เราคงจะต้องไปเสียเงินมากกว่าให้กับการทำ GIFT / IUI / IVF ซึ่งเราคิดว่าแลกกับการแต่งเร็วขึ้นสักนิดและช่วยกันทำงานเก็บเงิน เราเองก็ฐานะปานกลางแต่คิดมาตลอดว่าอยากมีลูกมากๆ ถ้ามีธรรมชาติได้ยังไงก็ดีกว่า จริงมั้ยคะ
เจรจากันอยู่เป็นปีในที่สุดเราก็ได้แต่งงานเมื่อสิงหาคมปีที่แล้ว 2018 และการเตรียมงานแต่งงานหนักๆคือช่วง 6 เดือนก่อนแต่ง ไม่ต้องบอกเลยว่าสุขภาพจะพังแค่ไหน เนื่องจากงานเยอะและพักผ่อนน้อยมาก หลังแต่งงานเราก็ไม่ได้คุมใดๆเลยนะคะ เพราะประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายของเราคือ กุมภาพันธ์ 2018 ไปฮันนี่มูนสั้นๆหลังแต่งงานมา เราก็ค่อนข้างมั่นใจว่าคงไม่ท้องง่ายๆแน่ๆ และก็ไม่ท้องจริงๆค่ะ ยิ่งทำให้เรามั่นใจว่าตราบใดที่ประจำเดือนไม่มา เราไม่มีโอกาสตั้งครรภ์แน่ๆ แต่พอย้ายมาอยู่กับแฟน การกินการนอนก็เปลี่ยนไป เราเริ่มกินจุกจิกมากขึ้นเพราะแฟนก็ชอบกินขนมเหมือนกัน และนอนเร็วตามแฟนมากขึ้น ซึ่งปกติเรานอนแค่ 6-7 ชม.แต่หลังแต่งงานแรกๆ กลายเป็นนอน 8-10 ชม.ไปเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วางแผนมีลูก
ช่วงตุลาคมปีที่แล้ว 2018 เป็นช่วงที่เราเริ่มวางแผนในการมีลูก เนื่องจากเรากังวลเรื่องงานมาก จัดว่าเป็นคนบ้างานคนนึง ยิ่งงานเราเป็น freelance ด้วยแล้ว อยากจะมีลูกสักคนยิ่งต้องวางแผนให้รอบคอบ เลยมานั่งคุยจริงจังว่าอยากจะคลอดลูกในช่วงธันวาคม และอยากให้เป็นปีหมูก็คือปีนี้ 2019 ก็ตั้งใจเลยว่าขอเวลาบำรุงตัวเองก่อนในช่วงปลายปี 2018 ให้ประจำเดือนมาแล้วเราจะตั้งใจจะตั้งท้องให้ได้ภายในมีนาคม 2019

ไม่มีประจำเดือนรู้ตัวว่าท้องได้ยังไง?
อย่างที่เราบอกค่ะว่า เรามั่นใจว่าตราบใดที่ประจำเดือนไม่มา เราไม่มีโอกาสตั้งครรภ์แน่ๆ และครั้งสุดท้ายที่มีประจำเดือนคือกุมภาพันธ์ 2018 สุขภาพก็ปกติดี จะมีที่เราสังเกตว่าแปลกๆไปนิดหน่อยตรงที่ เรากินขนมจุกจิกเยอะขึ้นและคิดว่าน้ำหนักจะต้องขึ้นแน่ๆ แต่มันก็ค่อนข้างคงที่ จนช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2018 เราเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดี กินอะไรไม่ค่อยลง เช้ามาจะผะอีดผะอม อยากกินแต่อาหารน้ำๆผักๆรสไม่จัด รู้สึกอ่อนเพลียอยากนอนทั้งวันแบบไม่มีเหตุผล และดูหน้าตอบโทรมขึ้นจนเรารู้สึกได้
ผ่านไป 1 อาทิตย์อาการดูไม่ดีขึ้นเลย แฟนเราเริ่มสงสัยและแซวๆว่าท้องรึเปล่า? เลยไปซื้อที่ตรวจครรภ์มา แต่ใจเราคิดว่าเราอาจจะทำงานหนักสะสม ป่วยเป็นอะไรอย่าง ไทรอยด์ เพราะกินมากแต่เผาผลาญหมด เหนื่อยง่ายอยากนอนอ่อนเพลีย เพราะป้าเราเคยเป็น เราก็คิดไปต่างๆนานา จนเช้ามาแฟนปลุกให้ตื่นมาตรวจครรภ์ เรายังงัวเงียและคิดว่า อ่ะๆตรวจๆให้จบๆ คือยังไงไม่มีทางท้องหรอก เราแค่ไม่สบายอะไรสักอย่าง
ต้องบอกว่านี่เป็นการตรวจครรภ์ครั้งแรก แต่ก็ไม่ได้ยากอะไรนะคะ ตอนที่จุ่มแท่งตรวจลงไปในปัสสาวะ เรายังง่วงๆอยู่เลย แค่ไม่ถึงนาทีหลังจากนั้น ผลออกมาตามในรูปเลยค่ะ


เราอยู่ในห้องน้ำแบบเงียบๆ ด้วยความ งง ตกใจ อึ้ง มาก...............
คิดวนๆว่า ใช่หรอ??? จนแฟนมาเคาะประตูเรียก ถามว่าเป็นยังไง เราก็ยังเงียบ เค้าเลยเปิดประตูเข้ามาหยิบที่ตรวจไปจากมือเรา แฟนก็แบบ เฮ้ย!!! เค้าก็ดีใจมากแต่ก็งงมากเหมือนกันว่ามันเป็นไปได้ยังไง?! แล้วก็อยู่ในอาการงงกันต่อไปอีกสักชม. ก็พากันไปตรวจซ่ำที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ผลออกมายืนยันว่าเป็น positive ค่ะ

ช่วงท้องอ่อนๆ
เชื่อว่าเป็นช่วงที่กังวลมากที่สุดของทุกคน และเราก็ไม่ต่างกัน อาจจะมากกว่านิดหน่อยตรงที่ก่อนหน้านี้มาเราไม่มีประจำเดือนมา 8-10 เดือนด้วย นั่นคือไข่เราไม่ตกเลย ถ้านี่บังเอิญเป็นการไข่ตกครั้งแรกในรอบหลายเดือนนั้น ไม่แปลกที่เราจะต้องกลัวมากว่าไข่นั้นจะไม่สมบูรณ์ เราอ่านและหาข้อมูลทั้งด้านบวกและด้านลบ ปกติเราเป็นคนคิดอิงกับความจริงในแง่วิทยาศาสตร์ 3 อย่างที่ทำให้เราอดทนใจเย็นรอไปอีกเกือบ 4 อาทิตย์ (อดทนมากจริงๆนะคะ) ก่อนไปอัลตร้าซาวด์ คือ
- อัลตร้าซาวด์จะเห็นตัวอ่อนได้ชัดเจนราวๆ 8 สัปดาห์ ถ้าไปก่อนหน้านั้น เราไม่เห็น หรือ เห็นแต่ถุง หรือไม่เห็นเลย ก็ไม่สบายใจอีก ขอแบบชัดๆเลยดีกว่า
- ถ้าโครโมโซมของตัวอ่อนไม่สมบูรณ์ น้องก็จะอยู่ต่อไม่ได้
(ข้อนี้ใครๆก็หวังว่าน้องทุกคนจะสมบูรณ์นะคะ แต่นี่ก็เป็นการคัดสรรความสมบูรณ์ในทางธรรมชาติอยู่แล้ว และยิ่งเป็นท้องแรกในคอนดิชั่นแบบเรา เอาตามตรงเราเตือนตัวเองไว้ตลอด ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ค่ะ)
- ที่สำคัญเราสังเกตตัวเองตลอดค่ะ มีเลือดออกมั้ย? ยังมีอาการแพ้แบบที่เป็นมาทุกวันมั้ย? ความคิดของเต้านมน้อยลงมั้ย? อาการเหล่านี้มันสัมพันธ์กับระดับ hCG ในร่างกาย

และความอดทนของเราก็เป็นผลค่ะ : )
ทันทีที่หมอเอาเครื่องอัลตร้าซาวด์นาบกับหน้าท้องเราก็เห็นตัวน้องเลย
เราคาดอายุครรภ์ผิดไปนิดหน่อยค่ะ หมอบอกว่าน้องอายุ 10 สัปดาห์ ณ วันที่ตรวจอัลตร้าซาวด์ครั้งแรก น้องดิ้นโชว์ด้วยนะคะ


บทสรุป
เอาจริงๆเราก็ยังรู้สักว่ามันปาฏิหาริย์นิดหน่อย กับท้องแรกนี้ ส่วนหนึ่งเราคิดว่าหลังจากแต่งงานมาเราอาจจะผ่อนคลายมากขึ้น ทานมากขึ้นทั้งอาหารและขนม นอนหลับพักผ่อนยาวขึ้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

หลังจากคลอดลูกคนแรกไปเราก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นยังไงต่อไป เคสของแม่เรา หลังคลอดเราคุณแม่ก็ประจำเดือนมาปกติเลย ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะคะ แต่อย่างน้อยตอนนี้เราก็ได้คำตอบว่าเราสามารถมีลูกแบบธรรมชาติได้จริงๆ (แบบไม่มีฮอร์โมนหรือตัวช่วยใดๆ) ปัจจุบันเราอายุ 31 และตั้งครรภ์ได้ 6 เดือนเต็มที่มุ่งมั่นจะคลอดธรรมชาติแบบสุดๆ : )

สาวๆหรือคุณแม่คนไหนมีประสบการณ์การมีประจำเดือนแบบไม่ปกติ หรือเป็นแบบคล้ายๆกัน มาแชร์กันนะคะ
และเป็นกำลังใจให้คู่ที่กำลังพยายามจะมีน้อง หรือกำลังเป็นว่าที่คุณแม่ทุกท่านนะคะ ให้แข็งแรงๆทั้งคุณแม่คุณลูกทุกคนเลยค่ะ ♡♡♡
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่