สวัสดีค่ะ
ช่วงนี้เรารู้สึกท้อแท้ในสังคมการทำงานของตนเองและคิดว่าหลายๆที่ก็อาจจะมีปัญหาแบบนี้เช่นกัน
เราทำงานที่บริษัทมีชื่อเสียงอันดับต้นๆของอุตสาหกรรม ในตำแหน่งเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆก็ประมาณเซลล์ค่ะ
ความสามารถกลางๆถือว่าเหนือค่าเฉลี่ยของบริษัท แต่ไม่ได้ถึงกับติดอันดับต้นๆ
ทำงานอยู่ที่สาขาใกล้บ้านมีผู้จัดการสาขาและมีลูกทำงานอยู่ในทีมเดียวกัน
แม่เป็นผู้จัดการ ลูกเป็นเซลล์ ใช่ค่ะ และเราก็ทำงานอยู่แบบนี้แหละ มากว่า 5 ปีโดยที่เข้ามาทำงานตอนแรกก็ไม่รู้ว่าเค้าเป็นแม่ลูกกัน
ผลประโยชน์ทับซ้อนมีอยู่แล้ว ผู้จัดการคุมพื้นที่ลูกค้าดีๆคัดไว้ในครอบครัว
นอกจากเรื่องนี้มีเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจอย่างมาก ยอมรับค่ะ ว่าตนเองโลกสวยและไม่ชอบการคอรัปชันเข้าเส้น
เราคิดมาเสมอว่าคอรัปชันคือสาเหตุหลักที่ทำให้บ้านเมืองมีความเหลื่อมล้ำ ได้รับโอกาสไม่เท่ากันและไม่พัฒนา
รับไม่ได้กับสังคมที่ให้หลับหูหลับตา ก้มหน้ารับว่าสังคมที่นี่มันเป็นแบบนี้
เรื่องคือช่วงนี้เสมียนในสาขาซึ่งเป็นคนอัธยาศัยดีและเราก็สนิทกัน เค้ามาบ่นเรื่องปัญหาว่าผู้จัดการให้ปลอมแปลงเอกสาร
เพื่อเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายอาหารต่างๆ(ที่ไปใช้มาส่วนตัว) โดยช่วงแรกๆอ้างว่าไปพบลูกค้ามาจริงแต่ลูกค้ามีหน้ามีตาจะให้มาเซ็นรับอาหารคงไม่เหมาะ
หลังๆก็ทำบ่อยขึ้นๆจนพี่เสมียนปฎิเสธ แต่ผู้จัดการก็อ้างว่าจำเป็นและต้องทำ ด้วยความกลัวว่าจะมีปัญหา พี่เค้าเลยต้องทำแบบนี้มาตลอดร่วมปี
ล่าสุดเริ่มหนักขึ้น เอาใบเสร็จที่ลูกน้องไปกินข้าวมื้อกลางวันโดยพนักงานจ่ายเงินกันเอง(โดยปกติเราจะจับกลุ่มไปกินข้าวกัน 6-8คนพร้อมกับลูกของผู้จัดการ) เอามาเบิกเข้ากระเป๋าตัวเองอย่างไม่อายคนทำเอกสารใดๆ
เราไม่คิดจะฟ้องเรื่องนี้กับใครเพราะ
1. ถ้าฟ้องแล้วพี่เสมียนจะเดือดร้อน
2. ค่อนข้างมั่นใจว่าสังคมบริษัทแบบบ้านเรา มีความเป็นไปได้สูงว่าผู้บริหารระดับสูงก็อาจจะทำเรื่องแบบนี้โดยคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย
3. สุดท้ายเรื่องราววุ่นวายจะย้อนมาหาตนเองแน่ๆ
เรากำลังจะปรับโปรไฟล์ตนเอง เรียนต่อและสอบใบอนุญาตเพิ่ม เพื่อลาออกไปทำงานที่อื่นค่ะ
แต่มันจะมีที่ไหนที่ไม่มีเรื่องเหล่านี้ ให้เรายังคงยึดมั่นในหลักการของตนเองและไม่ถูกกลืนกินไปได้บ้าง
รู้สึกท้อแท้ในสังคมการทำงาน การทุจริต จนอยากจะไปประเทศอื่น
ช่วงนี้เรารู้สึกท้อแท้ในสังคมการทำงานของตนเองและคิดว่าหลายๆที่ก็อาจจะมีปัญหาแบบนี้เช่นกัน
เราทำงานที่บริษัทมีชื่อเสียงอันดับต้นๆของอุตสาหกรรม ในตำแหน่งเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆก็ประมาณเซลล์ค่ะ
ความสามารถกลางๆถือว่าเหนือค่าเฉลี่ยของบริษัท แต่ไม่ได้ถึงกับติดอันดับต้นๆ
ทำงานอยู่ที่สาขาใกล้บ้านมีผู้จัดการสาขาและมีลูกทำงานอยู่ในทีมเดียวกัน
แม่เป็นผู้จัดการ ลูกเป็นเซลล์ ใช่ค่ะ และเราก็ทำงานอยู่แบบนี้แหละ มากว่า 5 ปีโดยที่เข้ามาทำงานตอนแรกก็ไม่รู้ว่าเค้าเป็นแม่ลูกกัน
ผลประโยชน์ทับซ้อนมีอยู่แล้ว ผู้จัดการคุมพื้นที่ลูกค้าดีๆคัดไว้ในครอบครัว
นอกจากเรื่องนี้มีเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจอย่างมาก ยอมรับค่ะ ว่าตนเองโลกสวยและไม่ชอบการคอรัปชันเข้าเส้น
เราคิดมาเสมอว่าคอรัปชันคือสาเหตุหลักที่ทำให้บ้านเมืองมีความเหลื่อมล้ำ ได้รับโอกาสไม่เท่ากันและไม่พัฒนา
รับไม่ได้กับสังคมที่ให้หลับหูหลับตา ก้มหน้ารับว่าสังคมที่นี่มันเป็นแบบนี้
เรื่องคือช่วงนี้เสมียนในสาขาซึ่งเป็นคนอัธยาศัยดีและเราก็สนิทกัน เค้ามาบ่นเรื่องปัญหาว่าผู้จัดการให้ปลอมแปลงเอกสาร
เพื่อเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายอาหารต่างๆ(ที่ไปใช้มาส่วนตัว) โดยช่วงแรกๆอ้างว่าไปพบลูกค้ามาจริงแต่ลูกค้ามีหน้ามีตาจะให้มาเซ็นรับอาหารคงไม่เหมาะ
หลังๆก็ทำบ่อยขึ้นๆจนพี่เสมียนปฎิเสธ แต่ผู้จัดการก็อ้างว่าจำเป็นและต้องทำ ด้วยความกลัวว่าจะมีปัญหา พี่เค้าเลยต้องทำแบบนี้มาตลอดร่วมปี
ล่าสุดเริ่มหนักขึ้น เอาใบเสร็จที่ลูกน้องไปกินข้าวมื้อกลางวันโดยพนักงานจ่ายเงินกันเอง(โดยปกติเราจะจับกลุ่มไปกินข้าวกัน 6-8คนพร้อมกับลูกของผู้จัดการ) เอามาเบิกเข้ากระเป๋าตัวเองอย่างไม่อายคนทำเอกสารใดๆ
เราไม่คิดจะฟ้องเรื่องนี้กับใครเพราะ
1. ถ้าฟ้องแล้วพี่เสมียนจะเดือดร้อน
2. ค่อนข้างมั่นใจว่าสังคมบริษัทแบบบ้านเรา มีความเป็นไปได้สูงว่าผู้บริหารระดับสูงก็อาจจะทำเรื่องแบบนี้โดยคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย
3. สุดท้ายเรื่องราววุ่นวายจะย้อนมาหาตนเองแน่ๆ
เรากำลังจะปรับโปรไฟล์ตนเอง เรียนต่อและสอบใบอนุญาตเพิ่ม เพื่อลาออกไปทำงานที่อื่นค่ะ
แต่มันจะมีที่ไหนที่ไม่มีเรื่องเหล่านี้ ให้เรายังคงยึดมั่นในหลักการของตนเองและไม่ถูกกลืนกินไปได้บ้าง