สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิพ หลังจากที่ผมได้เริ่มถ่ายรูปอย่างจริงจังมาสักระยะนึง ก็มีคำถามเข้ามามากมายไม่ว่าจะทางเพจ หรือทาง IG นะครับว่า เริ่มต้นหัดถ่ายรูปใหม่ๆเนี่ย ทำยังไงถึงจะถ่ายสวย แนะนำได้มั้ย หวงเทคนิครึเปล่า ตอบเลยว่าไม่หวงเลยครับ ยิ่งมีคนถ่ายรูปเป็นเยอะๆยิ่งชอบ เพราะนอกจากจะได้เห็นมุมมองและเทคนิคใหม่ๆแล้วเนี่ย ยังได้คอนเนคชั่นดีๆอีกด้วยครับ อ่ะมาว่ากันต่อ จริงๆแล้วถ้าให้เจาะลึกมันอาจจะดูน่าเบื่อ แล้วเข้าใจยากนิดนึง ถ้าต้องมาพูดถึงการลงลึกค่า f ต่างๆ หรือ shutter speed ซึ่งรู้ไว้ก็ดีครับ แต่ว่ามันอาจฟังดูง่วงเบาๆ (ผมก็เป็นตอนเริ่มศึกษาใหม่ๆ กว่าจะเข้าใจเล่นเอางงไปหลายวัน ) วันนี้ผมจะมาแชร์เทคนิคเบื้องต้น ที่ผมได้มาจากการไปถ่ายคู่พรีเวดดิ้งหลายๆ คู่ เราจะมาเริ่มไปด้วยกันไม่มีกั๊กครับ
(ถ้ายังไงก็ขออนุญาตเอารูปลูกค้าที่เคยถ่ายมาเป็นเคสสตั๊ดดี้นะครับ)
.
เริ่มต้นง่ายๆ ต้องรู้ก่อนว่า ‘ ถ่ายอะไร ‘
การถ่ายอะไร มันก็จะสัมพันธ์ กับ เลนส์ที่ใช้
จำง่ายๆครับ ตัวเลขมากภาพแคบ เลขน้อยภาพกว้าง ใช่ครับ ถ้าอย่างแฟนคุณใช้ให้ถ่ายภาพเนี่ย จัดไปเลยครับเลนส์ Portrait ต่างๆ 50mm ก็ว่าไป แล้วยิ่ง f น้อยภาพก็จะละลายพื้นหลังได้ดีครับ อย่างผมถ่ายพรีเวดดิ้งแนวสตรีท ผมก็จะเลือกใช้เลนส์ระยะที่ 30mm ครับ จะได้เก็บภาพได้กว้างพอตัว. ตัวอย่างจากรูประยะเลนส์ 30mm

พอเราเลือกเลนส์ได้แล้วสิ่งสำคัญอย่างต่อไปและสำคัญแทบจะที่สุดสำหรับผมก็คือ ตำแหน่งภาพหรือ composition นั่นเอง
บางคนอาจจะบอก เห้ย ก็วางมันตรงกลางเลยดิ จะได้เด่นๆ ใช่ครับ เด่นแต่เรียบ ก็เหมือนกินแกงจืดแต่ไม่แซ่บนะครับ แล้วเราจะทำยังไงให้มันทั้งเด่น ทั้งแซ่บละ
อธิบายง่ายๆเล่นๆก่อนนะครับ หลายคนอาจจะรู้อยู่แล้วว่า ระยะของภาพมันจะมี 3 ระยะได้แก่ ใกล้ กลาง ไกล หรือที่เค้าเรียกกันเท่ๆว่า foreground midground background ถ้ามีสามสิ่งนี้ เรียกว่าภาพเราก็จะสวยไปสัก 50% ละครับ แต่ว่าถ้ามีไม่ครบเป็นไรมั้ย ตอบได้เลยว่า ไม่เป็นไรครับ

โดยภาพระยะที่ชัดสุด โดยส่วนมากที่ผมชอบใช้จะให้ชัดที่ระยะ mid ground ครับ เพื่อที่จะให้แบบเราเด่นสุดๆ
ทีนี้หลายคนอาจเริ่มงงละว่า อ่ะ ละไหนอะที่บอกว่า ไม่วางแบบไว้ตรงกลางแล้วจะทำให้เด่นได้
เชิญพบกับ กฏสามส่วน หรือว่าไอ้เส้นๆที่แบ่งเป็น 9 ช่องนั่นเอง โดยที่เราจะเอาแบบเราวางไว้ที่เส้นจุดตัดครับ เนื่องจากมันจะตรงกับระยะสายตาของคนนั่นเอง

หลังจากที่ทำไปทำมาตอนนี้รูปเราก็จะสวยขึ้นประมาณ 70% ละครับ ต่อจากนี้อีก 30% ขอเรียกว่าเป็นเทคนิคและสภาพแวดล้อมเฉพาะตัวดีกว่าว่าใครจะชอบให้ภาพออกมาแบบไหน
อย่างตัวผม เริ่มต้นจากการถ่ายภาพแนวสตรีท ซึ่งก็คือถ่ายทีเผลอครับ ผมจะไม่ค่อยชอบให้แบบมองกล้องเท่าไร (โรคจิตเบาๆ)
การถ่ายสตรีทเนี่ย ท้าทายครับ เพราะเราไม่ได้จัดองค์ประกอบอะไรเลย เพราะงั้น ภาพๆนึง อาจจะมีได้แค่ช็อตเดียวครับ แลกอีกอย่างที่สำคัญมากๆนั่นก็คือ สถานที่ครับ ตัวอย่างภาพสตรีท ที่ผมเอามาประยุกต์กับการถ่ายพรีเวดดิ้ง


เดินไปไม่มองกล้อง / / ให้แบบเดินโดยไม่ต้องสนใจกล้อง
สถานที่ธรรมดาแต่ถ้าเรามองมันในมุมมองที่ต่างออกไป มันก็อาจจะไม่ธรรมดาก็ได้ครับ อย่างภาพด้านล่างนี้ ถ่ายที่ไซต์ก่อสร้างครับ เพียงแต่ผมมองว่ามุมนี้แสงเข้ามาสวยดี / รูปข้างบนก็ให้ไปนั่งในพุ่มเล็กๆนี่ละครับ

ทีนี้ลองหาแนวของเพื่อนๆให้เจอครับ คนสิบคนถ่ายรูปออกมาก็จะเป็นสิบแบบครับ ไม่ว่าจะเผลอ จะตลก จะจริงจัง จะเซ็กซี่ เรียกว่าไม่มีผิดไม่มีถูกครับ แต่สิ่งสำคัญสิ่งนึงนะครับ ให้คิดว่า ถือกล้องก็เหมือนถือปืนครับ ถ้าเราเจอเป้าหมาย แต่เราใช้ปืนเราไม่เป็น เราก็จะยิงไม่ได้นะคร้าบ เพราะงั้นเราก็ต้องรู้ก่อนว่า กล้องเราเนี่ยใช้ยังไง ผมสรุปให้เป็นข้อๆง่ายๆ อย่างคนที่ยังไม่ได้ไปอ่านค่าต่างๆแบบเจาะลึกนะครับ
เลนส์ เลขมากภาพแคบ เลขน้อยภาพกว้าง
f น้อย หน้าชัดหลังเบลอ f มาก ชัดทั้งภาพ
Iso ความสว่าง ถ่ายกลางแจ้ง iso น้อยถ่ายมืดเพิ่ม iso
ทั้งสามค่านี้จะทำงานสัมพันธ์กันครับ
ขอให้สนุกกับการถ่ายภาพครับ สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ ดูงานเยอะๆครับ มันจะเก็บเป็นเหมือนห้องสมุดในหัวเรา แล้วจะเรียกออกมาใช้ได้อย่างไม่รู้ตัวครับ ผลงานอื่นๆผมติดตามได้ที่นี่นะครับ
https://coolercool.wixsite.com/minestudio17
https://www.facebook.com/minestudio17
หรือถ้ามีข้อสงสัยก็ทักอินบ็อคมาได้ครับ
ปล.ผมโสดครับ ถ่ายรูปได้
ฮั่นแน่ อยากถ่ายรูปสวยเหรอ ! มือใหม่หัดถ่ายยังไงให้ปัง ไม่พังแน่นอน
(ถ้ายังไงก็ขออนุญาตเอารูปลูกค้าที่เคยถ่ายมาเป็นเคสสตั๊ดดี้นะครับ)
.
เริ่มต้นง่ายๆ ต้องรู้ก่อนว่า ‘ ถ่ายอะไร ‘
การถ่ายอะไร มันก็จะสัมพันธ์ กับ เลนส์ที่ใช้
จำง่ายๆครับ ตัวเลขมากภาพแคบ เลขน้อยภาพกว้าง ใช่ครับ ถ้าอย่างแฟนคุณใช้ให้ถ่ายภาพเนี่ย จัดไปเลยครับเลนส์ Portrait ต่างๆ 50mm ก็ว่าไป แล้วยิ่ง f น้อยภาพก็จะละลายพื้นหลังได้ดีครับ อย่างผมถ่ายพรีเวดดิ้งแนวสตรีท ผมก็จะเลือกใช้เลนส์ระยะที่ 30mm ครับ จะได้เก็บภาพได้กว้างพอตัว. ตัวอย่างจากรูประยะเลนส์ 30mm
พอเราเลือกเลนส์ได้แล้วสิ่งสำคัญอย่างต่อไปและสำคัญแทบจะที่สุดสำหรับผมก็คือ ตำแหน่งภาพหรือ composition นั่นเอง
บางคนอาจจะบอก เห้ย ก็วางมันตรงกลางเลยดิ จะได้เด่นๆ ใช่ครับ เด่นแต่เรียบ ก็เหมือนกินแกงจืดแต่ไม่แซ่บนะครับ แล้วเราจะทำยังไงให้มันทั้งเด่น ทั้งแซ่บละ
อธิบายง่ายๆเล่นๆก่อนนะครับ หลายคนอาจจะรู้อยู่แล้วว่า ระยะของภาพมันจะมี 3 ระยะได้แก่ ใกล้ กลาง ไกล หรือที่เค้าเรียกกันเท่ๆว่า foreground midground background ถ้ามีสามสิ่งนี้ เรียกว่าภาพเราก็จะสวยไปสัก 50% ละครับ แต่ว่าถ้ามีไม่ครบเป็นไรมั้ย ตอบได้เลยว่า ไม่เป็นไรครับ
โดยภาพระยะที่ชัดสุด โดยส่วนมากที่ผมชอบใช้จะให้ชัดที่ระยะ mid ground ครับ เพื่อที่จะให้แบบเราเด่นสุดๆ
ทีนี้หลายคนอาจเริ่มงงละว่า อ่ะ ละไหนอะที่บอกว่า ไม่วางแบบไว้ตรงกลางแล้วจะทำให้เด่นได้
เชิญพบกับ กฏสามส่วน หรือว่าไอ้เส้นๆที่แบ่งเป็น 9 ช่องนั่นเอง โดยที่เราจะเอาแบบเราวางไว้ที่เส้นจุดตัดครับ เนื่องจากมันจะตรงกับระยะสายตาของคนนั่นเอง
อย่างตัวผม เริ่มต้นจากการถ่ายภาพแนวสตรีท ซึ่งก็คือถ่ายทีเผลอครับ ผมจะไม่ค่อยชอบให้แบบมองกล้องเท่าไร (โรคจิตเบาๆ)
การถ่ายสตรีทเนี่ย ท้าทายครับ เพราะเราไม่ได้จัดองค์ประกอบอะไรเลย เพราะงั้น ภาพๆนึง อาจจะมีได้แค่ช็อตเดียวครับ แลกอีกอย่างที่สำคัญมากๆนั่นก็คือ สถานที่ครับ ตัวอย่างภาพสตรีท ที่ผมเอามาประยุกต์กับการถ่ายพรีเวดดิ้ง
สถานที่ธรรมดาแต่ถ้าเรามองมันในมุมมองที่ต่างออกไป มันก็อาจจะไม่ธรรมดาก็ได้ครับ อย่างภาพด้านล่างนี้ ถ่ายที่ไซต์ก่อสร้างครับ เพียงแต่ผมมองว่ามุมนี้แสงเข้ามาสวยดี / รูปข้างบนก็ให้ไปนั่งในพุ่มเล็กๆนี่ละครับ
เลนส์ เลขมากภาพแคบ เลขน้อยภาพกว้าง
f น้อย หน้าชัดหลังเบลอ f มาก ชัดทั้งภาพ
Iso ความสว่าง ถ่ายกลางแจ้ง iso น้อยถ่ายมืดเพิ่ม iso
ทั้งสามค่านี้จะทำงานสัมพันธ์กันครับ
ขอให้สนุกกับการถ่ายภาพครับ สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ ดูงานเยอะๆครับ มันจะเก็บเป็นเหมือนห้องสมุดในหัวเรา แล้วจะเรียกออกมาใช้ได้อย่างไม่รู้ตัวครับ ผลงานอื่นๆผมติดตามได้ที่นี่นะครับ
https://coolercool.wixsite.com/minestudio17
https://www.facebook.com/minestudio17
หรือถ้ามีข้อสงสัยก็ทักอินบ็อคมาได้ครับ
ปล.ผมโสดครับ ถ่ายรูปได้