เที่ยวอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล จ.ลำพูน เดินทางโดยรถไฟ 7 - 8 เม.ย. 62

[CR] เที่ยวอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล จ.ลำพูน เดินทางโดยรถไฟ 7 - 8 เม.ย. 62

กระทู้รีวิว

อุทยานแห่งชาติ จังหวัดลำปาง จังหวัดลำพูน เดินป่า รถไฟ

สวัสดีครับกับการเที่ยวครั้งที่ 4 ของผมหลังจากทำงานก็ได้แต่จ้องปฏิทินว่าจะมีวันหยุดยาวเมื่อไหร่ แล้วจะไปไหนดี เทียบกับครั้งที่เที่ยวที่ผ่านมาความแตกต่างคืออุปกรณ์ที่ผมเตรียมไปเดินป่าค่อนข้างจริงจังมากๆ 5555 ทีแรกตั้งใจจะไป เขาหลวง จ.สุโขทัย เพื่อทดสอบอุปกรณ์จองตั๋วรถบัสไว้เรียบร้อยเลยลองทักเฟชบุ๊กของ อช.รามคำแหงแต่ปิด เปิดอีกที 1 พ.ค. ดีที่ของคืนเงินได้ค่าโดยสารหักค่าธรรมเนียม 10 % ของราคาตั๋ว เลยเปลี่ยนมาเป็น อช.ดอยขุนตาล ก็รีบไปจองตั๋วรถไฟเพราะเป็นหยุดยาวเดี๋ยวไม่มีตั๋ว

เตรียมของใส่กระเป๋า (พร้อมมากๆ จริงๆ 555)

มาจองตั๋วล่วงหน้า 3 วันก่อนตั้งใจว่าจะจองขบวนนอนแต่ก็เต็มหมดแล้วเหลือแต่นั่ง ราคา 261 บาท นั่งไป 13 ชม. รอบ 22.00 ออกจากสถานี กท.

ก็จองตั๋วขบวนนอนกลับเลยเดี๋ยวเต็ม (เนื้อตัวกรอบแน่ๆ นั่งนานขนาดนั้น)

22.35 รถไฟมาถึงสถานีบางเขน ได้นั่งกับแก๊งที่จะไปที่ อช.ดอยขุนตาลพอดี

บรรยากาศเช้าๆ ก็เย็นๆ แห้งๆ ได้กลิ่นไอของดิน

ก่อนจะถึงสถานีขุนตานจะผ่าน 3 อุโมงค์ ส่วนอุโมงค์ของขุนตานยาวที่สุดในประเทศไทย 1.3 กม.

ถึงสถานีขุนตาน 11.00

มีร้านค้าข้าวอยู่ 3 ร้าน แถวนี้ไม่มีตู้ ATM นะครับต้องเตรียมๆ เงินสดมาเผื่อๆ ด้วย ข้าวกะเพราหมู+ไข่ดาว 40 บาท

ที่ทำการ อช.ดอยขุนตาล ห่างจากสถานีรถไฟขุนตาน 1.3 กม.

เดินขึ้นมานิดนึงเหมือนจะทางไปวัดอะไรซักอย่าง

เส้นทางก็จะเดินเลาะๆ ริมเขาขึ้นไป มาหน้าร้อน แถมสายๆ แล้วก็จะร้อน เหนื่อยไว+กับแบกของมาน่าจะ 20 กก. เดินมาซัก 1 กม. ยังไม่ทันจะถึงที่ทำการ อช. เริ่มไม่ไหวและ 555

เดินมาเจอถนนดำก็ใกล้ถึงแล้วเหลืออีก 200 ม.

จะถึงแล้ว ค่าธรรมเนียม 20 บาท กางเต็นท์ 30 บาท (สำหรับคนที่เอาเต็นท์มาเอง) หรือใครจะมาเช่าเต็นท์ ถุงนอน แผ่นรองนอน ของ อช. ก็มีเตรียมไว้ให้

จุดยอดนิยมไฮไลต์ ไม่ว่าจะ นอน นั่ง หรือ ยืนได้อยู่สองจังหวัด ลำปาง - ลำพูน ไม่มาถ่ายรูปตรงนี้ก็เหมือนมาไม่ถึง (ถึงแล้วว กลับได้ปวดขาแล้วในใจนี่คิดกลับจริงๆ แต่พอดีจองตัวกลับไว้อีกวัน 555)

พี่ จนท.อช. จะเรียกให้เข้าไปเอาแผนที่ และอธิบายข้อปฏิบัติและข้อควรระวังต่างๆ เช่นห้ามจุดไฟกับพื้นราบ เพราะช่วงนี้เป็นฤดูไฟป่า (แต่จริงๆ ผมค่อนข้างมั่นใจว่ามาจากฝีมือมนุษย์ 99%) เส้นทางศึกษาธรรมชาติแบ่งออกเป็น 4 จุด เรียกว่า ย.1 - 4 (ย. ย่อมาจาก จุดยุทธศาสตร์ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2)

จะสั่งข้าวห่อไปทาน หรือตุนสเบียงตุนน้ำ ได้จากร้านค้าสวัสดิการเลยครับ

จากที่ทำการ อช. มาถึงทางเข้าเส้นทางศึกษาธรรมชาติ 1.8 กม. ถ้าเดินมามีทางลัดขึ้นถนนเรื่อยๆ สังเกตุดีๆ ย่นระยะทางไปได้น่าจะ 800 ม. หรือจะจ้างพี่ที่อุทยานแว๊นมาส่งข้างบนก็ 50 บาท (แน่นอนผมเดินมาเรื่อยๆ)

เดินขึ้นมา 300 ม. ถึงจุด ย.1

จาก ย.1 ไป ย.2 ระยะทาง 2.1 กม. ทางชันที่สุดใน 4 ย.

ระหว่างทางจาก ย.1 ไป ย.2 จะเจอป้ายที่อธิบายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เคยเสด็จประพาสเป็นการส่วนพระองค์มายังจุดนี้เมื่อ 17 ก.ค. ปี 2512

ขึ้นเนินไปก็ถึงจุด ย.2 เป็นจุดกางเต้นของทาง อช.ดอยขุนตาล

ตรงจุด ย. 2 มีห้องน้ำ 4 ห้อง (จุดกางเต้น ย.2 อยู่ด้านบนของป้าย เดินขึ้นไป ประมาณ 100 ม. ทางชัน)

เส้นทางระหว่าง ย.2 ไป ย.3 ด้านหลังป้ายเป็นบ้านของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช สามารถเข้ามากางเต็นท์ได้ เสียค่าธรรมเนียมเพิ่ม 100 บาท ให้กับพี่ที่เฝ้าอยู่ คิดว่าน่าจะมีบ้านให้เช้ากับน้ำกรองให้กรอก แต่พี่ที่เฝ้าเป็นผู้หญิง ผมไม่รู้ว่าแกคุยภาษากลางไม่ได้หรือยังไง คุยกันไม่รู้เรื่อง 555 (อาจจะเป็นเพราะผมพูดไม่รู้เรื่องเอง)

เดินขึ้นเนินมา 50 ม. จะเจอจุดกางเต็นท์ ย.2 อช.ดอยขุนตาล (จุดที่กางเต็นท์ได้จะเป็น ย.2 และ ย.3)

น้องๆ ม.บูที่กางเต็นท์อยู่ตรงจุด ย.2 บอกมันหลับตลอดเลยตั้งชื่อให้ ชื่อ sleep (เดินมาเห็นทีแรกคิดว่าตายแล้วจะเก็บไปย่างเเล้ว 555)

จาก ย.2 ไป ย.3 ระยะทาง 3 กม. เป็นระยะทางที่ยาวที่สุด ของ 4 ย. และริมเขามีโอกาสเซตกไป ย.0 (แต่ผมว่าเกิน 3 กม. น่าจะ 3.5 กม. ได้รู้สึกไกล หรือเป็นเพราะเหนื่อยก็ไม่รู้ แบกเยอะปวดขาไปหมดแล้วตะคริวจะขึ้นแล้ว 555 )

ระหว่างทางไป ย.3 จะเจอเส้นทางลงไปดูน้ำตกตาดเหมย 1.8 กม. จริงๆ จากตรงที่ทำการอุทยานก็มีอีกเส้นทาง 3 กม. ที่เดินลงไปดูได้ เป็นน้ำตกที่มีเฉพาะหน้าฝน (ถ้าลงไปช่วงแล้งนี้คงได้เห็นแต่น้ำตา 555)

ถึงแล้วววจุด ย.3 มี (ตะคริวกินไป 2 ทีละ เกือบจะเซร่วงไป ย.0) จุดกางเต็นท์นี้เป็นของ ม.พายัพ เสียค่าบริการ 100 บาท (คุ้มค่ามากเลยพี่คนเฝ้ามีแก้ว จาน ชามให้ยืม ที่เจ๋งไปกว่านั้นมีเครื่องกรองน้ำ)

มีห้องอาบน้ำและห้องส้วม 8 ห้อง

ถึงแล้วก็ปักหมุดกางเต็นท์ ทำกับข้าว

ผมแบกเตารัสทำกับทำมื้อเย็น เตาใช้น้ำมันเบนซินขาว เบาเล็กประหยัด น้ำมัน 0.1 ลิตร อยู่ได้ 3 ชั่วโมง

เริ่มมืดก็เตรียมตัวเข้านอน

ออกมาถ่ายดาวซักหน่อย ค่อยไปนอน ซักสามทุ่มมีเสียงฟ้าร้องกับลมเริ่มมาและฝนตกเล็กน้อยพี่ที่เฝ้าบอกว่าถ้าฝนลมมาหนักให้เข้าไปตรงนี้อันตรายเดี๋ยวกิ่งไม้ล้มทับ แต่โชคดีที่ฝนตกแค่ปรอยๆ เช้ามาดินยังไม่เปียกเหมือนไม่มีฝนตกเลยเมื่อคืน (ใช้ขาตั้งโทรศัพท์ กับ Xiaomi Mi A2 ในการถ่ายภาพทั้งหมด)

เช้ามา 05.45 ออกเดินมาที่ ย.4 1 กม. (น้องๆ ที่พัก ย.2 ออกเดินมาตั้งแต่ 03.30 แต่มาถึงกันกี่โมงไม่รู้ ผมมาถึงพวกน้องๆ ก็มาถึงกันก่อนแล้วพร้อมมีเจ้า sleep นำทางมา)

แล้วก็ลงมาต้มมาม่ากับโอวัลตินกิน

มีฝุ่น PM 2.5 เล็กน้อย

สิ่งนึงที่จะลืมบอกไปไม่ได้เลยของที่นี่คือ จั๊กจั่น เวลาเดินตามเส้นทางจะรู้สึกเหมือนว่ามีน้ำมนต์จากสวรรค์หยดลงมาตลอดการเดินทางเย็นๆ ที่จริงแล้วเป็นฉี่ของจั๊กจั่นที่ดูดน้ำเลี้ยงของต้นไม้แล้วมีน้ำเป็นส่วนเกินเยอะต้องขับออก