สวัสดีครับ ไปเที่ยวมาอีกแล้ว ขาหายดีแล้ว เลยไปนั่งรถไฟเที่ยวซะหน่อย รอบนี้ก็ Backpack อีกตามเคยครับ ไม่มีคำว่าสบาย จ่ายแล้วต้องคุ้มครับ
ไปเที่ยวรอบนี้เดินทางค่อนข้างโหดนิดๆครับ มีทั้งนั่งรถไฟ เรือ รถทัวร์ รถเมล์ เครื่องบิน รถไฟฟ้า ครบครับ
แต่แน่นอนว่าใช้งบประมาณไม่ถึง 7000 บาทแน่นอนครับ เพราะแลกเงินไปน้อยมากครับ แต่กินอิ่มนอนสบายครับ Noของฝากครับ

เริ่มกันเลยครับ ผมเริ่มเดินทางวันที่ 21 มีนาคม 2562 ครับ โดยขึ้นรถไฟที่สถานีชุมทางบางซื่อ เวลา 13:33 น.ครับ
เดินทางไปกับขบวนรถเร็วที่ 171 กรุงเทพฯ-สุไหงโกลก ครับ และจุดหมายปลายทางก็คือสถานีชุมทางหาดใหญ่ครับ
ตอนแรกตั้งใจจะจองตั๋วนอนเตียงล่าง แต่เต็ม ก็นอนเตียงบนไปละกัน คือเตียงบนหนาวสุดคำบรรยายจริงๆ
เริ่มออกเดินทางกันเลยครับ วันนี้รถไฟออกตรงเวลาเป๊ะๆครับ แต่ถึงหาดใหญ่กี่โมงนั้นมาดูกัน

  
สภาพด้านในรถไฟก็ประมาณนี้ครับ ไม่ได้ดีเลิศ แต่ก็ไม่ได้แย่ครับ ที่นั่งค่อนข้างกว้าง แอร์เย็นดีใช้ได้เลยครับ แต่เสียอย่างเดียวไม่มีปลั๊กไฟให้นะครับ

แต่คำร่ำลือของขบวน 171 คือ รถมักจะล่าช้าเป็นประจำครับ และเหตุการณ์ดังกล่าวก็เกิดขึ้น เมื่อท่อลมระหว่างข้อต่อของคันที่ผมนั่งแตก เสียงดังมาก

แต่รถใกล้จะถึงสถานีเพชรบุรี พอดีครับ จึงเข้าซ่อมที่สถานีเพชรบุรีพักใหญ่ๆครับ ทำให้เสียเวลาไปเกือบชั่วโมง แต่ไม่เป็นไรอะไรก็เกิดขึ้นได้ไหนๆก็เสียเวลาแล้ว ไปหาข้าวกินกันดีกว่าครับ
ข้าวผัดปูครับ ซึ่งไม่มีปู ฮาๆๆๆ แต่รับได้เพราะ 20 บาทเอง 1 อิ่ม กินข้าวเสร็จก็ได้ยินประกาศรถออกครับ แอบไปถ่ายรูปซะหน่อย
การนั่งรถไฟไปเที่ยวมันมีเสน่ห์ดีจริงๆครับ มีของขาย 2 ข้างทาง ได้พบผู้คนมากมาย ถึงแม้เที่ยวคนเดียวก็ไม่น่ากลัวเลยครับ

พอออกจากเพชรบุรีแล้ว ก็ไม่ค่อยมีอะไรทำเท่าไหร่ครับ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่กลางเตียงให้ เพราะคนที่นอนเตียงล่างเจ้าหน้าที่บอกขึ้นที่ชุมพร

เลยจะขอนอนเอาแรงเสียหน่อย
    แต่กลายเป็นว่านอนไม่ค่อยหลับ เพราะหนาวมากกกกกกกกกก ก.ไก่ ล้านตัว
ฟิวเหมือนอยู่ในห้องแช่แข็ง อะไรประมาณนั้น นอนไปดูเวลาไป รถไฟก็ล่าช้าลงเรื่อยๆครับ ฮ่าๆๆๆ 
     เอาหละถ้าจะเป็นแบบนี้ก็ต้องนอนคิดแผน 2 กันไว้ก่อนครับ แผนในหัวตอนนั้นมีเยอะมากครับ แต่!!!!!!!!!!!
          หลับไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

พอตื่นมาก็ใกล้จะถึงที่หมายแล้วครับ
     และแล้วก็มาถึงสถานีชุมทางหาดใหญ่ครับ ถึงตอน 07:05น. ครับ ที่จึงต้องถึงตอน 05:52น. รถไฟล่าช้ารวมๆแล้วก็ประมาณ 1 ชั่วโมง 13 นาทีครับ
แต่ความโชคดีคือไม่ต้องเปลี่ยนแผนครับ เพราะทันรถไฟขบวนด่วนที่ 947 ครับ ออกจากหาดใหญ่ตอน 7:30น. ครับ

ไปซื้อตั๋วกัน เวลาเหลือน้อยเต็มที ตอนแรกว่าจะไปหาข้าวกิน คงไม่ทันละ

พอได้ตั๋วรถไฟมาแล้วก็เดินไปขึ้นรถกันครับ รถจอดอยู๋ที่ชานชาลที่ 3 ครับ มีความสบายใจ ฮ่าๆๆๆๆๆ
  ขึ้นมานั่งบนรถได้ไม่นานครับ รถออกตรงเวลามากจริง และขบวนนี้ถึงจุดหมายตรงเวลาครับ เพราะเป็น International train ครับ
  แต่ที่นั่งเป็นตู้โดยสารชั้น 3 ครับ ข้อดีคือถ่ายรู้สวย เห็นวิวดี แต่ร้อน ฮ่าๆๆๆ
   วิว 2 ข้างทางคือดีมากๆครับ
และแล้วก็ข้ามมาฝั่งปาดังเบซาร์(มาเลเซีย)

รถไฟจอดที่ชานชาลาที่ 2 ของสถานี Padang Besar ครับ เพื่อลงไปทำการตรวจลงตราครับ หลังจากตรงนี้ก็ถ่ายรูปได้อีกทีคือ ตรวจลงตราเสร็จแล้วครับ

พอตรวจลงตราเสร็จก็เดินขึ้นชั้น 2 เพื่อไปซื้อตั๋ว Komuter ต่อไป Butterworth กันครับ ค่าตั๋ว RM11.40 หรือประมาณ 90 บาท ครับ
ได้ตั๋วเสร็จอย่ารอช้า ลงไปถ่ายรูปสิครับ นานๆจะมาที สถานีนี้ผมมาเป็นครั้งที่ 3 แล้ว แต่ก็ยังคงชอบเป็นที่สุดครับ สะดวก สบาย ใหญ่โต ถ่ายรูปสวย

       
เดินถ่ายรูปไปเรื่อยก็ถึงเวลาขึ้นรถไฟครับ อย่าลืมเปลี่ยนนาฬิกาด้วยนะครับ ที่นี่เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมงครับ ห้ามพลาดเชียวครับ
Komuter จะวิ่งมาจาก Butterworth แล้วเข้าจอที่ชานชาลาที่ 2 ครับ มีเวลาให้ขึ้นรถประมาณ 5 นาทีได้ เวลาออกคือ 10:25AM ครับ
 
วิว 2 ข้างทางโอเคครับ แต่ไม่ค่อยต่างกับไทยมาก แต่สถานีรถไฟคือมาตรฐานดีกว่าพอสมควรครับ
แล้วก็มาถึงสถานีรถไฟ Butterworth ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง มาถึง Butterworth ตอน 12:16PM ครับ
พอถึงสถานี Butterworth ก็เดินไปจองตั๋วรถไฟ ETS เพื่อจะเข้า Kuala Lumpur ต่อในวันที่ 24 มีนาคมครับ เดินไปบอกเจ้าหน้าที่เรียบร้อย แต่!!!!
      ตั๋วรถไฟเต็มครับ 23 24 25 เต็มหมด เอ๋อ!ได้ที่เลยตอนนั้น ตั้งสติได้ เดินต่อไปที่ Penang Sentral เพื่อไปจองตั๋วรถทัวร์แทน มีครับ แต่ต้องมาขึ้น
          รถตอน 23:59น. ในวันที่ 23/03/2019 เพื่อจะได้ถึง Kuala Lumpur ในตอนเช้า เอาก็เอาวะ ไหนๆก็ไหนแล้ว จองครับ จ่ายไป RM33.50 ครับ
               เป็นค่ารถ RM32.50 กับ Charge อีก RM1 ครับ (กลายเป็นว่าถูกกว่ารถไฟเยอะมากครับ)

หลังจากจองตั๋วเสร็จเรียบร้อย ก็ไปที่ท่าเรือ Ferry กันต่อเลย มุ่งหน้าสู่ปีนังครับ    
    ค่าเรือ Ferry จาก Butterworth ไป Penang เสียค่าโดย RM1.20 ครับ ประมาณ 10 บาท ส่วนขากลับไม่เสียครับ ฟรี
 
ตั๋วเป็นตั๋วกระดาษมี QR Code ใช้สแกนเข้าที่ Gate ครับ คล้ายกับรถไฟฟ้าบ้านเรา เข้ามาเสร็จก็นั่งรอเรือครับ มีจอบอกเวลา มีร้านขายขนม สะดวกดีครับ
โดนค่าแซนวิซ+ไก่ทอด+น้ำ ไป RM10 ครับ แพงเอาเรื่องเลย อดทนไปกินฝั่งปีนังดีที่สุดครับ
ถึงเวลาขึ้นเรือแล้วครับ 13:10น. ตรงเวลาเป๊ะ! อากาศเริ่มร้อนแล้วครับบ่ายกว่าๆละ
มาถึงก็ออกจากท่าเรือ ตรงไปที่พักเพื่ออาบน้ำก่อนเลยครับ 24 ชั่วโมงแล้วยังไม่ได้อาบน้ำเลย
    รอบนี้ผมพักแบบ Hostel ครับ เนื่องจากมาคนเดียวเลยขอถูกๆ อีกอย่างมาปีนังรอบนี้เพื่อเก็บภาพในเมืองเท่านั้น Penang Hill ก็เคยไปมาแล้ว
        รอบนี้พักที่ Container Hotel Penang ครับ ราคาต่อคืน 180 บาทไทย ที่พักสะอาด นอนสบาย ประเด็นใกล้ท่าเรือ และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ
พอถึงที่พักก็อาบน้ำครับ แล้วความขี้เกียจก็เริ่มเข้ามา และแล้วก็หลับไป ฮ่าๆๆ ตื่นมาก็เดินเล่นครับ ถ่ายรูปตึกถนน Street Art อะไรไปเรื่อยครับ
ทาครีมกันแดด SPF สูงๆหน่อยนะครับ แดดจัดพอสมควรเลย เดินเล่นพอสมควรแล้วก็ หาอะไรกินกัน
   เดินไปเดินมา คิดไม่ออกว่าจะกินอะไรดี จบท้ายด้วยเบอร์เกอร์ไก่+ไข่ เป็นเบอร์เกอร์สไตล์อิสลามครับ อร่อยดี ราคา RM4.6 ครับ ประมาณ 40 บาท
อิ่มแล้วก็กลับไปอาบน้ำแปลงฟันนอนครับ สำหรับใครที่ชอบเที่ยวกลางคืน ข้างๆโรงแรมมีผับด้วยครับ น่าสนุกดี แต่ไม่คนเดียว ไม่ค่อยโอ อิอิ

      เช้าแล้ว ก็ตื่นไปเดินเล่นครับ ถ่ายภาพอีกวันก่อนกลับไปที่ Butterworth ครับ
  จุดหมายต่อไปก็คือ!!!!!!!!!! ข้าวเช้าน่ำเอง
    วันนี้ไปขนมหวาน เป็นน้ำแข็งใส รส มะนาว กับวุ้นหวานๆ อร่อยมากๆ จำชื่อไม่ได้ RM3.20
        ส่วนอาหารหลักคือ Hokkein Mee อร่อยมาก หอมกลิ่นมันกุ้ง ราคา RM4
กินเสร็จก็กลับที่พัก เตรียมกระเป๋า Check out ครับ