[รีวิวที่ 262] Shazam! : จะลากขึ้นฟ้าไปเพื่อ พวกนายบินได้โว้ย
คะแนน: 6/10
(David F. Sandberg, 2019)
.
by ตั๋วหนังมันแพง
.
“พลังวิเศษอะไร ใส่ชุดนี้ฉันจะฉี่ยังไงเหอะ”
.
1.เนื้อเรื่อง ⭐⭐⭐
.
Shazam! น่าจะเป็นหนังเรื่องแรกของจักรวาล DC ที่ฉีกหันมาขาย ‘ความเบาสมอง’ เต็มตัว ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ามันเวิร์กระดับหนึ่งเลยแหละ ถือว่าสอบผ่านในความเป็นหนังฮาได้ไม่มีข้อกังขา
.
แกนสำคัญของเรื่องคือคำว่า ‘ครอบครัว’ มันคือพัฒนาการของตัวละคร “บิลลี่ แบทสัน” ในฐานะเด็กกำพร้าหน่ายโลกที่ยังมุ่งตามหาครอบครัวที่พลัดพรากของตัวเองอย่างไม่ลดละ และด้วยความมุ่งมั่นนี้ก็ทำให้เขาทำร้ายความปรารถนาดีของคนอื่นไปโดยไม่รู้ตัวด้วย
.
ซึ่งมันก็ไปสอดรับกับปมของตัวร้ายที่มีปมด้อยครอบครัวเหมือนกัน ดังนั้นมันจึงเป็นลักษณะภาพขนานที่ค่อนข้างน่าสนใจ แต่น่าเสียดายที่มัน deliver ข้อความของตัวเองไม่ได้เพราะตัวละครทั้งสองตัวมีช่วงวัยที่ห่างกันเกินไป เกินกว่าจะเชื่อมโยงกันได้
.
ในแง่ของการที่มันเป็น ‘หนังเด็ก’ ก็ไม่ถือว่าเป็นข้อเสียซะทีเดียว แต่มันส่งผลให้คนดูกลุ่มผู้ใหญ่ relate กับตัวละครได้ยาก เพราะเนื้อหาทุกอย่างมันเด็กจ๋าเลย ไม่ว่าจะเป็นฉากบู๊, ตัวร้าย, มุกตลก มันก็ตื้นและง่ายตามๆ กันไป
.
2.ตัวละคร/นักแสดง ⭐⭐⭐
.
Zachary Levi คือเดอะแบกอย่างแท้จริง ตัวละคร Shazam! มีความฮาและยียวนในแบบฉบับเด็กอายุ 14 ได้สมบทบาทมากๆ มีความฮาและความทะเล้นของเด็กผู้ชายอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งในขณะเดียวกันตัวละคร “บิลลี่ แบทสัน” อาจจะต้องอัพเกรดกว่านี้หน่อย
.
ปัญหาอย่างหนึ่งที่ผมเห็นก็คือหนังมันกระจายบทค่อนข้างกว้างมาก คือแค่ตัวร้ายกับบิลลี่เองเนื้อหามันก็เยอะพอแล้ว ยังต้องเกลี่ยไปให้เหล่าพี่ๆ น้องๆ ในบ้านอุปถัมภ์เพื่อตอบโจทย์ครอบครัวในเรื่องอีก ทีนี้พอมันเป็นตัวละครสำคัญกันไปหมด มันก็ทำให้ตัวเอกดร็อปลงไปโดยปริยายด้วย
.
3.ความบันเทิง ⭐⭐⭐
.
โอเค ในแง่ของความฮาความเพี้ยนต้องบอกว่าหนังโอเคเลย มันเป็นมุกแบบไร้พิษภัยที่น่ารักดี บางอันก็ได้ทีเด็ดของนักแสดงเข้ามาช่วย บางอันบทก็ส่งได้สวยถูกจังหวะ ขอชื่นชมที่รักษาจุดแข็งตรงนี้ไว้ได้
.
แต่ผมแอบผิดหวังกับฉากต่อสู้พอสมควร คือไม่คิดว่าจะได้มาเห็นฉากแอ็กชั่นที่จืดชืดขนาดนี้ในหนังซูเปอร์ฮีโร่ มันไม่มีอะไรให้รู้สึกว้าวเลย และ ‘ความเป็นหนังเด็ก’ ก็ไม่เกี่ยวกับประเด็นนี้ด้วย
.
ถ้าให้ผมวิเคราะห์ง่ายๆ ประเด็นแรกก็คือ “เราไม่รู้เพดานพลังของชาแซม” คือเราเก็ตคร่าวๆ ว่าเขามีพละกำลังเหนือมนุษย์ ทนกระสุน และสามารถปล่อยสายฟ้าได้ -- แล้วมีอะไรที่เขาทำไม่ได้บ้างล่ะ?
.
พอเราไม่มีข้อมูลตรงนี้ เราก็ไม่รู้จะเอาอะไรไปลุ้นตามในฉากต่อสู้ไคลแม็กซ์ ซึ่งในความเห็นผมมันดูไร้สาระสิ้นดี อะไรคือการที่ต่างฝ่ายต่างพยายามลากคอศัตรูขึ้นไปบนฟ้าเพื่อหวังให้บาดเจ็บ ฮัลโหล พวกนายบินได้ทั้งคู่ ถอดรองเท้าแตะฟาดกันยังจะได้เรื่องซะกว่า
.
นี่ยังไม่พูดถึงไอ้ตัวประหลาดทั้งเจ็ด (เลี่ยงบาลี spoilers) ที่ไม่รู้ว่ามีไว้ทำอะไรกันแน่ คือนอกจากฉากโชว์ความโหดในห้องประชุมแล้ว มันก็ไม่มีคุณค่าเหลือเลย มีหน้าที่ทำเสียงแฮ่ๆ ให้เด็กกลัวไปเรื่อย สู้ก็ไม่ได้ จับต้องก็ยาก เอ๊ะ แล้วมีไว้ทำอะไร
.
.
Shazam! อาจจะเป็นหนังเบาสมองที่ทำหน้าที่เรียกเสียงฮาของมันได้ดี แต่ถ้าจะมองให้ลึกในแง่หนังฮีโร่ที่เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลก็อาจจะมีเสน่ห์ไม่พอ
แถมตัวละครเด็กในวันนี้อาจจะกลายเป็นหนุ่มตัวโตในอีก 1-2 ปีข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เผลอๆ ในภาคต่อไป (ถ้าบังเอิญมี) Zachary อาจจะไม่มีโอกาสได้เล่นเป็นชาแซมแล้วก็ได้
#ตั๋วหนังมันแพง #Shazam! #DCUniverse
[รีวิวที่ 262] Shazam! : จะลากขึ้นฟ้าไปเพื่อ พวกนายบินได้โว้ย by ตั๋วหนังมันแพง