จุดที่ผิดพลาดที่สุดของชีวิต...คือการที่เลือกสายเรียนผิดพลาดสำหรับหนู ... หนูอยากฝากถึงน้องม.3 ที่กำลังจะเรียนต่อ

สวัสดีค่ะเริ่มต้นเลย หนูเป็นเด็กที่กำลังจะจบ ม.3 ในปี 2560 ตอนนั้นหนูกำลังคิดถึงเรื่องเรียนต่อว่าจะไปต่อสายไหนดี? เพราะตอนนั้นก็ยังไม่รู้ตัวเองหรอกค่ะ คุณแม่หนูบอกให้หนูเข้าสายศิลป์-ภาษา เพราะแม่เห็นว่าหนูเรียนเก่งในเรื่องภาษา แต่ว่าหนูก็ยังไม่รู้หรอกค่ะว่าหนูอยากเป็นอะไรกันแน่? หนูมีพี่สาวลูกของป้าเค้าก็แนะนำว่าให้เข้าสายวิทย์-คณิต และบอกว่าอยากให้หนูเป็นจิตแพทย์
    คราวนี้หนูก็ลองสอบห้องเรียนพิเศษ ที่ชื่อว่า LMS ดูซึ่งเขาเน้นวิชาพวก วิทย์ - คณิต - ภาษา (หนูก็คิดว่าภาษาน่าจะเน้นมากกว่ากัน) พอถึงวันประกาศผลสอบ ชื่อของหนูก็อยู่ในลำดับที่ 41 พอดี หนูดีใจมากเลยค่ะ ที่หนูสอบติด
   พอถึงวันเปิดเทอมม.4 ช่วงเทอมแรกก็เรียนไปด้วยที่ว่าความฝันอยากเป็นจิตแพทย์ในตอนนั้น หนูก็ซื้อหนังสือเกี่ยวกับแพทย์มาอ่านแล้วหนูก็รู้สึกกดดันมันเหมือนไม่ใช่ทางของตัวเอง หนูก็เริ่มรู้สึกปวดหัวอยู่บ้างตอนที่อ่านหนังสือแพทย์ แต่พอมาอ่านพวกภาษาหนูรู้สึกว่าหนูผ่อนคลายและทำให้หนูยิ้มได้อ่านได้ทั้งวันช่วงเวลาที่อ่านวิชาภาษาแล้วหนุก็รู้สึกมีความสุขมากๆเลย แต่พอช่วงเทอม2 หนูก็รู้ตัวเองแล้วว่าหนูอยากเรียนต่อสายภาษา อยากเข้าคณะอักษรศาสตร์ ซึ่งเป็นความฝันของหนู หนูคิดถูกแล้ว...
   แต่แล้วก็มีเหตุเกิดขึ้นในระหว่างที่เรียนวิชาฟิสิกส์ซึ่งหนูรู้สึกว่าหนูเรียนไม่รู้เรื่องแล้วมีอาจารย์ท่านนึงเขาบอกให้หนูยืนชึ้นเพื่อหาสูตรการเคลื่อนที่ แล้วหนูตอบไม่ได้ อาจารย์ท่านก็ว่าหนูว่า “ถ้าคนที่คิดวิเคราะห์ไม่ได้!! ก็คือคนที่ไม่มีสมองอย่างนี้แหละ” คำพูดที่อาจารย์ว่าหนูตอนนั้นทำให้หนูร้องไห้และกลับมาคิดวนไปวนมา จนหนูรู้สึกเกลียดวิชาฟิสิกส์ไปเลยค่ะ (หนูไม่ถนัดวิชาวิทย์-คณิต)
     พอขึ้นม.5 เทอม1 หนูก็เรียนไปตามปกติ แล้วหนูไม่ถนัดวิชาวิทย์ พอสอบเก็บคะแนน คะแนนออกมาหนูก็ไม่ผ่านเลยซักครั้ง บ่อยครั้งที่ตอนกลางคืนหนูจะแอบร้องไห้ไม่ให้ใครเห็นอยู่บ่อยครั้งและใจก็เริ่มสั่น 10นาทีหายและหยุดมาตลอด จนกระทั่งกลางเทอม หนูมีอาการใจหวิวๆ ใจสั่น ใจเต้นรัวๆ มือสั่น หนูได้เดินเข้าไปหาแม่แล้วร้องไห้ แม่ก็พาหนูไปที่คลินิก แล้วให้หมอตรวจ หมอก็ส่งตัวหนูไปที่โรงพยาบาล แล้วไปตรวจคลื่นหัวใจ แต่ผลตรวจกลับเป็นปกติ ไม่ตรวจพบอะไร หมอก็ให้ยาคลายเครียด และยาลดความดันเลือดมากิน จากนั้นอาการก็ดีขึ้น จนผ่านไปสองเดือนอาการก็กลับมาเป็นอีก คราวนี้รุนแรงขึ้นกว่าเดิม แต่หนูก็ไม่กล้าบอกแม่เพราะกลัวแม่เป็นเสียเวลาในการทำงาน ที่ต้องพาหนูไปหาหมอ
    ตอนนี้หนูก็กำลังจะขึ้นม.6 หนูรู้สึกกดดันและกังวลตลอดว่าจะติดไหม? ยากไหม? จนกระทั่งมีอาการแปลกๆแบบนี้เกิดขึ้นกับหนู ตอนเช้าอาการเป็นปกติ อารมณ์ดี ร่าเริงตลอด พอตกกลางคืนหนูจะกลายเป็นคนละคน หนูจะร้องไห้ออกมาและกังวล ใจเต้นรัวๆ ใจสั่น นอนไม่หลับ กินยานอนหลับแล้วนอนไม่หลับ ในวันที่ 3 เดือนเมษายนในปีนี้ แม่ก็ได้พาไปหาหมออีกครั้ง คราวนี้ไปห้องจิตเวช และหนูได้คุยกับนักจิตวิทยา หนูก็บอกเล่าอาการและเหตุการณ์ของหนูไปว่าเครียดเรื่องเรียน นักจิตวิทยาก็แนะนำหนูว่าเวลาใจสั่นก็ให้ผ่อนคลายลมหายใจ และ ก็ให้หนูจัดระเบียบในการอ่านหนังสือ แล้วก็พบกับจิตแพทย์อีกที และตรวจโรคของหนูพบว่าหนูเป็นโรคซึมเศร้าและเป็นโรคตื่นตระหนก หนูก็ได้ยา Fluoxetine Tablet มากินตอนเช้าหลังอาหารทุกครั้ง เพื่อแก้โรคตื่นตระหนก และยานอนหลับ Tranxene เพื่อแก้อาการนอนไม่หลับ แต่ตอนนี้หนูก็พึ่งรักษาค่ะ
ปล.หนูอยากจะให้ข้อคิดในประสบการณ์ของหนูที่หนูเจอให้เป็นข้อคิดว่า “เราต้องรีบค้นหาตัวเองให้เจอค่ะ และศึกษา เกี่ยวกับในสิ่งที่ตัวเองชอบ ให้เร็วที่สุดค่ะ เพราะ ว่าถ้าไม่รีบค้นหาตัวเอง ให้เจอ แล้วอาจจะมีผลตามมาในภายหลังค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่