มาแชร์ประสบการณ์ค่ะ หลายๆคนมาเรียนไกลๆ จนต้องอยู่หอพัก ที่ใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ รุ่นพี่ เพื่อนๆ ก่อนที่เราจะมาอยู่ที่มหาลัย สังคมเราจัดว่าดีค่ะ เพราะไม่ค่อยเจอเรื่องแย่ๆเท่าไหร่ ส่วนตัวก็ไม่ค่อยมีปัญหากับใครอยู่แล้ว เลี่ยงได้ก็เลี่ยงไป การจัดการปัญหาของเราไม่ค่อยดีนัก เพราะเราก็ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ทำตัวไม่ถูกบ้าง เรื่องนี้มันผ่านไปนานแล้ว ขอให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจสำหรับสาวๆค่ะ
ในตอนนี้เรามาอยู่ในที่ไกลๆ เราก็อยากได้รับการยอมรับ มีเพื่อน มีสังคมดีๆ อยากอยู่แบบสงบๆจนเรียนจบ นี่คือสิ่งที่เราคาดหวังไว้ ดูโลกสวยเนาะ55555
ขอเกริ่นหน่อย เด็กปีหนึ่งทุกคนจะต้องมีสายรหัส พี่เทค บลาๆ พวกนี้มีไว้เพื่อสานสัมพันธ์พี่น้อง คอยช่วยเหลือดูแลกัน เวลาเข้ากิจกรรมก็จะมีรุ่นพี่มาขอเทค หรือไม่เราก็ต้องไปขอเทคเขา ตัวเราเอง สำหรับคนที่ไม่รู้จัก เราก็จะเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด เพราะเราไม่รู้ว่าใครเป็นยังไง กลัวทำอะไรไม่ถูกใจ นิ่งๆดีกว่า แต่ถ้ามีเพื่อนก็จะบ้าๆหน่อย เฮฮา ไปไหนไปกัน แต่เราชอบไปไหนคนเดียว เวลาที่จะไปแป๊บเดียวเดี๋ยวมา เช่นเข้าห้องน้ำ หรือซื้อขนมใกล้ๆ (เคยไปเป็นกลุ่มแล้วรู้สึกน้านนาน) เพื่อนชอบบอกว่า “แกก็มีเพื่อนเยอะนี่ แต่ชอบไปไหนมาไหนคนเดียวเหมือนเพื่อนไม่คบ55555” เราก็จะขำๆ แล้วบอกไปว่า “ก็ไปแป๊บเดียวน่า” ตัวเราก็ประมาณนี้ คิดแบบนี้ เข้าเรื่องเลยแล้วกัน
เราค่อนข้างดังในชั้นปี ดังได้ไงเนี่ย5555 เราโดนเล็งให้ไปคัดตัวประกวด,หลีด แต่เราไม่ไป เพราะไม่ชอบ มีรุ่นพี่,เพื่อนมาจีบบ้าง ตามประสา แต่เราไม่ได้สนใจใคร ลืมบอกคณะที่เราเรียนผู้ชายเยอะกว่าผู้หญิงมากๆค่ะ
วันหนึ่ง มีรุ่นพี่มาขอเทคเรา ตอนนั้นยังไม่มีใครมาขอเทคเลยตกลงไป ก่อนหน้านี้รุ่นพี่ที่รู้จักมาเล่าให้ฟัง เกี่ยวกับมหาลัย แนะนำให้เราทำตัวดีๆ อย่าขัดใจรุ่นพี่ เดี๋ยวจะมีปัญหาทีหลัง เราก็เชื่อ ถึงมันจะแปลกๆยังไงไม่รู้แต่เชื่อฟังไว้ก่อนแล้วกัน
รุ่นพี่คนนั้น เขาก็พูดคุยเป็นมิตรดีค่ะ แต่ค่อนข้างแปลกค่ะ ช่วงแรกๆชวนเราไปเลี้ยงข้าว กินขนม เราวันไหนว่างก็ไปตามปกติ ไม่ให้เสียน้ำใจ แต่หลังจากกินข้าวเสร็จรุ่นพี่คนนั้นมักจะหาเรื่องเข้ามาในห้องเรา ข้ออ้างท้องเสียมั่ง ปวดฉี่มั่ง เราอยู่หอคนเดียวค่ะ เพราะที่บ้านอยากให้อยู่สบายๆ เรานอนดิ้น ชอบวางของเกะกะ ถ้าเก็บของมักจะหาของไม่เจอ ก็เลยวางไว้อย่างนั้น ซกมกดี555555 รุ่นพี่คนนั้นชอบหาข้ออ้างที่เข้ามาในห้องเรา เช่นขอเข้าห้องน้ำ เราก็เจตนาดีก็ให้เข้า เราก็กลัวเขาทำไม่ดีกับเรานะ พอเขาออกมาเราก็เลยหาข้ออ้างให้เขารีบกลับไป โกหกว่าเดี๋ยวรูมเมทจะกลับมา เพื่อนนัดทำงาน บลาๆ เขาก็ยอมกลับไปค่ะ เราโล่งอก แต่ความน่ากลัวก็คือ รุ่นพี่แอบวางโทรศัพท์ไว้ในห้องเรา ประมาณห้านาทีเขาย้อนกลับมาเคาะประตูห้องอีกรอบ บอกว่าลืมมือถือ หลอนมากเลยค่ะ เราก็เลยตั้งสติ โอเค รุ่นพี่คนนี้มันน่ากลัว แต่ก็ไม่อยากมีปัญหาเพราะเป็นเด็กใหม่ ก็เลยตัดปัญหาด้วยการไม่ให้เขาเข้ามาในห้องแทน เราคอยจับตาดูพฤติกรรมของพี่คนนั้น มีครั้งหนึ่งรุ่นพี่คนนั้นเขาบอกว่าซื้อของมาฝาก จะเอามาให้ เราก็รับของฝาก ขอบคุณพี่เขาไป เรายืนคุยด้วยที่หน้าประตู เขาแอบวางมือถือไว้บนโต๊ะในห้องเรา โต๊ะอยู่ข้างประตูค่ะ เป็นเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน คงแอบวางตอนเราเอาของไปเก็บ สักพักเขาย้อนกลับมาเคาะห้องเรา แล้วบอกว่าลืมมือถือ(อีกแล้ว) น่ากลัวจริงๆ นี่ขนาดไม่ได้เข้าไปในห้องนะ ตอนไปดูหนังก็เหมือนกัน เขาบอกจะเลี้ยงหนังน้องเทค เราก็โอเค ไปก็ไป เขาแกล้งลืมมือถือในโรงหนัง พอหนังจบเดินๆไปจนจะถึงรถอยู่แล้ว ก็ต้องเดินย้อนกลับไป เสียเวลาค่ะ จากหัวค่ำกลายเป็นดึก เพราะกว่าพนักงานจะหาของให้ พอจะกลับก็อ้างแวะนั่นนี่ จากไปช่วงเย็นๆ หนังจบช่วงหัวค่ำ กลายเป็นกลับดึกซะงั้น ตอนนั้นรู้สึกแปลกๆ มันไม่โอเค แต่ยังไม่พูด ภายหลังเราอ่านเจอพวกสเต็บการจีบสาว เคยมีบอกไว้ประมาณนี้เลย ให้แกล้งลืมของ,หาข้ออ้างไปนั่นนี่เพื่อให้มีเวลาอยู่ด้วยกันนานๆ โอยยย… ลงทุนจริงๆ เราแอบแช่งในใจ ทำบ่อยๆ ขอให้มือถือหาย55555 แบบนี้สำหรับเรามันไม่โอเคค่ะ
มีครั้งหนึ่งเราทนไม่ไหวแล้ว เขาหาเรื่องเข้ามาในห้องเราอีกแล้ว เราสติขาดผึง เราหยิบมีดทำครัวขึ้นมาจี้คอให้เขาออกไป และก็สำเร็จ เราโล่งใจ
หลังจากมีเรื่องแบบนี้เราห่างๆพี่เขาไป ไม่คุยด้วยอีกแล้ว กลัวค่ะ อย่าเอาคำว่าพี่เทคมาเป็นข้ออ้างที่จะมาคุกคามรุ่นน้อง เราไม่ได้บอกเพื่อนว่าพี่เทคเราน่ากลัวแค่ไหน พูดไปก็เหมือนดิสเครดิตเขา เราแค่เฟตตัวออกมาก็พอ…
แต่มันไม่จบค่ะ! กลางดึกคืนหนึ่ง รุ่นพี่มาเคาะประตูห้องเราค่ะ เราไม่ยอมเปิด เขาก็พยายามโทรหาเรา เราปิดเสียงมือถือแทบไม่ทัน เราโกหกว่าเราไม่อยู่ห้อง ตอนนั้นมีเพื่อนจากต่างจังหวัดมาเยี่ยมเรา มาพักอยู่กับเราสองสามวัน เราทนเสียงเคาะประตูไม่ไหว เกรงใจข้างห้องเลยให้เพื่อนไปเปิดให้ (ไม่เปิดไม่ได้ ไฟหน้าประตูจะเปิดเวลามีคนอยู่ในห้อง ถ้าเขาอยู่หน้าห้องเราก็โกหกไม่เนียนค่ะ) เพื่อนบอกว่าเราไม่อยู่ หลังจากพี่เขากลับไปเพื่อนก็มาบอกว่า พี่คนนั้นถามถึงเรา พยายามมองเข้าไปในห้อง มองหาเรา เพื่อนเราเป็นคนแรงๆค่ะ ก็มองกลับแล้วพูด “พี่มองหาอะไร” พี่เขาก็เงียบ แล้วยื่นของให้ แล้วบอกว่า “พี่เอาของฝากมาให้” เพื่อนเรายื่นของให้เราดู เป็นถุงพลาสติก ข้างในเหมือนเสื้อผ้า เลยเปิดดู ใช่ค่ะ! มันคือเสื้อผ้า! แต่เป็นเสื้อผ้าผู้ชาย!!! เขาเอามาให้เราทำไม? เรากับเพื่อนมองหน้ากัน… ก๊อกๆๆๆ! เสียงเคาะประตูดังขึ้น เรากับเพื่อนส่องช่องตาแมวที่ประตู เห็นรุ่นพี่คนนั้นเขาย้อนกลับมาอีกแล้ว!! เพื่อนเราเป็นคนแรงๆยังกลัวเลยค่ะ เพื่อนบอกให้เราไปซ่อนอีกรอบ เพื่อนเปิดประตูและโกหกว่าเรายังไม่กลับมา
พี่คนนั้นก็คงกลัวเพื่อนเราอยู่ไม่น้อย เพราะเพื่อนเราก็ปากจัด ด่าเลยค่ะ ขู่ว่าจะแจ้งความ เขาคุกคามเรามากค่ะ ไม่โอเคจริงๆ เขากลับไป
สักพักเราก็ทักแชทไปหาพี่เขาว่าเราไม่โอเคนะ ที่เขาทำแบบนี้ พี่คุกคามหนูหลายรอบแล้วนะ เสต็บจีบสาวไม่ใช่หนูไม่รู้ หนูเคยอ่าน หนูรู้ว่าพี่จะทำอะไร หนูแค่ไม่พูด ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว หนูไม่โอเค ต่างคนต่างอยู่เถอะ
วันต่อมา พี่เขาก็มาขอโทษด้วยเหตุผลว่า “เขาเมา” เพื่อนเราพูดกับเราว่า เป็นการเมาที่ฉลาดมาก (ไม่เชื่อค่ะ) หลังจากเหตุการณ์นั้นเราก็ย้ายมาอยู่บ้านแทนค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่บ้านซื้อบ้านจัดสรรให้พร้อมกับรถยนตร์เพื่อเดินทาง เพราะไม่ได้อยู่หอพักใกล้มหาวิทยาลัยมากๆเหมือนเดิมแล้ว แถมบ้านหลังนั้นก็ห่างประมาณเกือบสิบกิโลค่ะ ไม่มีรถไฟฟ้า,รถประจำทาง แถวมหาวิทยาลัยวิ่งผ่านเหมือนเดิม ก็เลยได้รถมาด้วยเป็นของแถม รุ่นพี่ไม่กล้ายุ่งกับเราอีกแล้ว
แต่เรื่องไม่จบเท่านี้ค่ะ การที่เราอยู่บ้านมันนำไปสู่เรื่องยุ่งยากต่อไป เดี๋ยวมาเล่าต่อ
แชร์ประสบการณ์ความน่ากลัวของรุ่นพี่
ในตอนนี้เรามาอยู่ในที่ไกลๆ เราก็อยากได้รับการยอมรับ มีเพื่อน มีสังคมดีๆ อยากอยู่แบบสงบๆจนเรียนจบ นี่คือสิ่งที่เราคาดหวังไว้ ดูโลกสวยเนาะ55555
ขอเกริ่นหน่อย เด็กปีหนึ่งทุกคนจะต้องมีสายรหัส พี่เทค บลาๆ พวกนี้มีไว้เพื่อสานสัมพันธ์พี่น้อง คอยช่วยเหลือดูแลกัน เวลาเข้ากิจกรรมก็จะมีรุ่นพี่มาขอเทค หรือไม่เราก็ต้องไปขอเทคเขา ตัวเราเอง สำหรับคนที่ไม่รู้จัก เราก็จะเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด เพราะเราไม่รู้ว่าใครเป็นยังไง กลัวทำอะไรไม่ถูกใจ นิ่งๆดีกว่า แต่ถ้ามีเพื่อนก็จะบ้าๆหน่อย เฮฮา ไปไหนไปกัน แต่เราชอบไปไหนคนเดียว เวลาที่จะไปแป๊บเดียวเดี๋ยวมา เช่นเข้าห้องน้ำ หรือซื้อขนมใกล้ๆ (เคยไปเป็นกลุ่มแล้วรู้สึกน้านนาน) เพื่อนชอบบอกว่า “แกก็มีเพื่อนเยอะนี่ แต่ชอบไปไหนมาไหนคนเดียวเหมือนเพื่อนไม่คบ55555” เราก็จะขำๆ แล้วบอกไปว่า “ก็ไปแป๊บเดียวน่า” ตัวเราก็ประมาณนี้ คิดแบบนี้ เข้าเรื่องเลยแล้วกัน
เราค่อนข้างดังในชั้นปี ดังได้ไงเนี่ย5555 เราโดนเล็งให้ไปคัดตัวประกวด,หลีด แต่เราไม่ไป เพราะไม่ชอบ มีรุ่นพี่,เพื่อนมาจีบบ้าง ตามประสา แต่เราไม่ได้สนใจใคร ลืมบอกคณะที่เราเรียนผู้ชายเยอะกว่าผู้หญิงมากๆค่ะ
วันหนึ่ง มีรุ่นพี่มาขอเทคเรา ตอนนั้นยังไม่มีใครมาขอเทคเลยตกลงไป ก่อนหน้านี้รุ่นพี่ที่รู้จักมาเล่าให้ฟัง เกี่ยวกับมหาลัย แนะนำให้เราทำตัวดีๆ อย่าขัดใจรุ่นพี่ เดี๋ยวจะมีปัญหาทีหลัง เราก็เชื่อ ถึงมันจะแปลกๆยังไงไม่รู้แต่เชื่อฟังไว้ก่อนแล้วกัน
รุ่นพี่คนนั้น เขาก็พูดคุยเป็นมิตรดีค่ะ แต่ค่อนข้างแปลกค่ะ ช่วงแรกๆชวนเราไปเลี้ยงข้าว กินขนม เราวันไหนว่างก็ไปตามปกติ ไม่ให้เสียน้ำใจ แต่หลังจากกินข้าวเสร็จรุ่นพี่คนนั้นมักจะหาเรื่องเข้ามาในห้องเรา ข้ออ้างท้องเสียมั่ง ปวดฉี่มั่ง เราอยู่หอคนเดียวค่ะ เพราะที่บ้านอยากให้อยู่สบายๆ เรานอนดิ้น ชอบวางของเกะกะ ถ้าเก็บของมักจะหาของไม่เจอ ก็เลยวางไว้อย่างนั้น ซกมกดี555555 รุ่นพี่คนนั้นชอบหาข้ออ้างที่เข้ามาในห้องเรา เช่นขอเข้าห้องน้ำ เราก็เจตนาดีก็ให้เข้า เราก็กลัวเขาทำไม่ดีกับเรานะ พอเขาออกมาเราก็เลยหาข้ออ้างให้เขารีบกลับไป โกหกว่าเดี๋ยวรูมเมทจะกลับมา เพื่อนนัดทำงาน บลาๆ เขาก็ยอมกลับไปค่ะ เราโล่งอก แต่ความน่ากลัวก็คือ รุ่นพี่แอบวางโทรศัพท์ไว้ในห้องเรา ประมาณห้านาทีเขาย้อนกลับมาเคาะประตูห้องอีกรอบ บอกว่าลืมมือถือ หลอนมากเลยค่ะ เราก็เลยตั้งสติ โอเค รุ่นพี่คนนี้มันน่ากลัว แต่ก็ไม่อยากมีปัญหาเพราะเป็นเด็กใหม่ ก็เลยตัดปัญหาด้วยการไม่ให้เขาเข้ามาในห้องแทน เราคอยจับตาดูพฤติกรรมของพี่คนนั้น มีครั้งหนึ่งรุ่นพี่คนนั้นเขาบอกว่าซื้อของมาฝาก จะเอามาให้ เราก็รับของฝาก ขอบคุณพี่เขาไป เรายืนคุยด้วยที่หน้าประตู เขาแอบวางมือถือไว้บนโต๊ะในห้องเรา โต๊ะอยู่ข้างประตูค่ะ เป็นเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน คงแอบวางตอนเราเอาของไปเก็บ สักพักเขาย้อนกลับมาเคาะห้องเรา แล้วบอกว่าลืมมือถือ(อีกแล้ว) น่ากลัวจริงๆ นี่ขนาดไม่ได้เข้าไปในห้องนะ ตอนไปดูหนังก็เหมือนกัน เขาบอกจะเลี้ยงหนังน้องเทค เราก็โอเค ไปก็ไป เขาแกล้งลืมมือถือในโรงหนัง พอหนังจบเดินๆไปจนจะถึงรถอยู่แล้ว ก็ต้องเดินย้อนกลับไป เสียเวลาค่ะ จากหัวค่ำกลายเป็นดึก เพราะกว่าพนักงานจะหาของให้ พอจะกลับก็อ้างแวะนั่นนี่ จากไปช่วงเย็นๆ หนังจบช่วงหัวค่ำ กลายเป็นกลับดึกซะงั้น ตอนนั้นรู้สึกแปลกๆ มันไม่โอเค แต่ยังไม่พูด ภายหลังเราอ่านเจอพวกสเต็บการจีบสาว เคยมีบอกไว้ประมาณนี้เลย ให้แกล้งลืมของ,หาข้ออ้างไปนั่นนี่เพื่อให้มีเวลาอยู่ด้วยกันนานๆ โอยยย… ลงทุนจริงๆ เราแอบแช่งในใจ ทำบ่อยๆ ขอให้มือถือหาย55555 แบบนี้สำหรับเรามันไม่โอเคค่ะ
มีครั้งหนึ่งเราทนไม่ไหวแล้ว เขาหาเรื่องเข้ามาในห้องเราอีกแล้ว เราสติขาดผึง เราหยิบมีดทำครัวขึ้นมาจี้คอให้เขาออกไป และก็สำเร็จ เราโล่งใจ
หลังจากมีเรื่องแบบนี้เราห่างๆพี่เขาไป ไม่คุยด้วยอีกแล้ว กลัวค่ะ อย่าเอาคำว่าพี่เทคมาเป็นข้ออ้างที่จะมาคุกคามรุ่นน้อง เราไม่ได้บอกเพื่อนว่าพี่เทคเราน่ากลัวแค่ไหน พูดไปก็เหมือนดิสเครดิตเขา เราแค่เฟตตัวออกมาก็พอ…
แต่มันไม่จบค่ะ! กลางดึกคืนหนึ่ง รุ่นพี่มาเคาะประตูห้องเราค่ะ เราไม่ยอมเปิด เขาก็พยายามโทรหาเรา เราปิดเสียงมือถือแทบไม่ทัน เราโกหกว่าเราไม่อยู่ห้อง ตอนนั้นมีเพื่อนจากต่างจังหวัดมาเยี่ยมเรา มาพักอยู่กับเราสองสามวัน เราทนเสียงเคาะประตูไม่ไหว เกรงใจข้างห้องเลยให้เพื่อนไปเปิดให้ (ไม่เปิดไม่ได้ ไฟหน้าประตูจะเปิดเวลามีคนอยู่ในห้อง ถ้าเขาอยู่หน้าห้องเราก็โกหกไม่เนียนค่ะ) เพื่อนบอกว่าเราไม่อยู่ หลังจากพี่เขากลับไปเพื่อนก็มาบอกว่า พี่คนนั้นถามถึงเรา พยายามมองเข้าไปในห้อง มองหาเรา เพื่อนเราเป็นคนแรงๆค่ะ ก็มองกลับแล้วพูด “พี่มองหาอะไร” พี่เขาก็เงียบ แล้วยื่นของให้ แล้วบอกว่า “พี่เอาของฝากมาให้” เพื่อนเรายื่นของให้เราดู เป็นถุงพลาสติก ข้างในเหมือนเสื้อผ้า เลยเปิดดู ใช่ค่ะ! มันคือเสื้อผ้า! แต่เป็นเสื้อผ้าผู้ชาย!!! เขาเอามาให้เราทำไม? เรากับเพื่อนมองหน้ากัน… ก๊อกๆๆๆ! เสียงเคาะประตูดังขึ้น เรากับเพื่อนส่องช่องตาแมวที่ประตู เห็นรุ่นพี่คนนั้นเขาย้อนกลับมาอีกแล้ว!! เพื่อนเราเป็นคนแรงๆยังกลัวเลยค่ะ เพื่อนบอกให้เราไปซ่อนอีกรอบ เพื่อนเปิดประตูและโกหกว่าเรายังไม่กลับมา
พี่คนนั้นก็คงกลัวเพื่อนเราอยู่ไม่น้อย เพราะเพื่อนเราก็ปากจัด ด่าเลยค่ะ ขู่ว่าจะแจ้งความ เขาคุกคามเรามากค่ะ ไม่โอเคจริงๆ เขากลับไป
สักพักเราก็ทักแชทไปหาพี่เขาว่าเราไม่โอเคนะ ที่เขาทำแบบนี้ พี่คุกคามหนูหลายรอบแล้วนะ เสต็บจีบสาวไม่ใช่หนูไม่รู้ หนูเคยอ่าน หนูรู้ว่าพี่จะทำอะไร หนูแค่ไม่พูด ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว หนูไม่โอเค ต่างคนต่างอยู่เถอะ
วันต่อมา พี่เขาก็มาขอโทษด้วยเหตุผลว่า “เขาเมา” เพื่อนเราพูดกับเราว่า เป็นการเมาที่ฉลาดมาก (ไม่เชื่อค่ะ) หลังจากเหตุการณ์นั้นเราก็ย้ายมาอยู่บ้านแทนค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ รุ่นพี่ไม่กล้ายุ่งกับเราอีกแล้ว
แต่เรื่องไม่จบเท่านี้ค่ะ การที่เราอยู่บ้านมันนำไปสู่เรื่องยุ่งยากต่อไป เดี๋ยวมาเล่าต่อ