ฮันนาห์ ชอว์ นักรณรงค์ต่อต้าน USDA ใช้แมวในการทดลอง
อวสานทดลองแมว – กระทรวงเกษตรสหรัฐ สั่งยุติกระบวนการใจร้าย 37 ปี
อวสานทดลองแมว – เดลีเมล์ รายงานว่า กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา หรือ ยูเอสดีเอ ประกาศยุติการนำแมวมาทดลอง หลังจากทำให้แมวต้องตายไปหลายพันตัวในช่วง 37 ปีที่ผ่านมา
การประกาศของยูเอสดีเอมีขึ้นหลังจากสำนักข่าวเอ็นบีซี นิวส์ เปิดเผยว่าเออาร์เอสซื้อแมวและสุนัขหลายร้อยตัวจากตลาดเนื้อเอเชียและทำเป็นอาหารให้แมวสุขภาพดีกิน ซึ่งเชื่อว่าการทดลองให้สัตว์กินเนื้อพวกเดียวกันเองระหว่างปี 2546 และ 2558 รวมถึงสุนัข 400 ตัว จากอเมริกากลาง และแมวกว่า 100 ตัว จากจีน
การทดลองแมวเริ่มตั้งแต่ห้องทดลองของฝ่ายบริการงานวิจัยการเกษตร หรือ เออาร์เอส สังกัดกระทรวงเกษตรฯ นำแมวมาทดลองฉีดเชื้อโซพลาสโมซิสครั้งแรกในปี 2525 และการุณยฆาตเพื่อกำจัดเชื้อปรสิต Toxoplasma gondii
เนื่องจากแมวเป็นสัตว์กลุ่มเดียวที่เชื้อชนิดนี้สืบพันธุ์ได้และแพร่กระจายเชื้อสู่สัตว์อื่นๆ รวมทั้ง มนุษย์ จากการรับประทานเนื้อไม่สุกหรือเนื้อดิบที่มีเชื้อปรสิตและดื่มน้ำหรือของเหลวที่ปนเปื้อนเชื้อ ทำให้เกิดอาการคล้ายเป็นหวัด ปวดศีรษะ มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ เจ็บคอ
ยูเอสดีเอไม่ได้ระบุถึงการให้แมวกินเนื้อแมวในแถลงการณ์ยุติการทดลองกับแมว แต่เผยว่างานวิจัยโรคโซพลาสโมซิสเสร็จสิ้นแล้วและกำลังทำการวิจัยกับสุขภาพของคน พร้อมยืนยันว่าไม่มีแมวถูกการุณฆาต หรือฉีดเชื้อเข้าไปในร่างกายตั้งแต่เดือนกันยายน 2561 ส่วนแมวสุขภาพดี 14 ตัวที่อยู่ในการดูแลจะเข้ากระบวนการหาผู้อุปถัมป์ต่อไป
ด้านองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ไวท์ โคท เวสต์ โปรเจ็ค ผู้เขียนหนังสือชื่อ “อูเอสดีเอ คิตเทน คัลนิบาลิซึม” ระบุว่าการทดลองดังกล่าวเป็นสิ่งเลวร้ายมากและสะท้อนให้เห็นว่าหน่วยงานนี้ไม่สามารถดูแลความปลอดภัยโภชนาการในสหรัฐได้
“รัฐบาลซื้อแมวและสุนัขบางส่วนมาจากตลาดเนื้อเอเชียทั้งที่สภาคองเกรสมีมติประณามการกระทำดังกล่าว”
แอนโทนี เบลอตติ ผู้ก่อตั้ง ไวท์ โคท เวสต์ โปรเจ็กต์ ผู้คัดค้านรัฐบาลสหรัฐ ที่นำสัตว์มาทำการทดลอง ระบุว่าการตัดสินใจของยูเอสดีเอ เป็นชัยชนะในประวัติศาสตร์ของผู้เสียภาษีและสัตว์ทั้งหลาย หลังจากแมวกว่า 3,000 ตัวถูกฆ่า และหมดงบประมาณไป 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 704 ล้านบาทอย่างสิ้นเปลือง
เครดิตคลิปจาก Newsy
ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์
ฆ่าไป 3 พันตัว สหรัฐยอมเลิกใช้ “แมว” ทดลองเชื้อโรค หลังถูกแฉซื้อจากจีน