ผมทำงานเกี่ยวกับ VR กู้ภัย ..
มีไปช่วยคนเจ็บบ้างคนตายบ้างแล้วแต่วันแล้วแต่เคลส
มีวันนึงที่ผมต้องไปรับศพผู้ตายไปส่งภูมิลำเนาหรือบ้านของเขานั้นเอง เอาจริงๆทำงานมาหลายปีมันชินกับการที่เจอเหตุการณ์แบบนี้แล้ว วันนั้นผมต้องออกจากหน่วยไปรับศพที่โรงพยาบาลในเมืองห่างจากที่ผมอยู่ 30-40 กิโล ผมก็ไปรับศพปกติกับน้องๆในหน่วยประมาณาสองสามคน ผมก็คุยกับน้องๆปกติของคนทำงานพูดกัน
ผม: พวกเอ็งกลัวไมที่ต้องมารับศพเก็บศพเกือบทุกวัน
น้องๆ: ก็กลัวนะพี่อาจจะยังไม่ค่อยชิน นานไปคงชินเอง
พอผมพูดจบเท่านั้นแหละคับได้ยินเสียงเหมือนของหลังรถหล่น ผมเลยจอดรถก่อนลงไปดูผมก็ถามน้องๆว่าปิดท้ายกระบะดีแล้วใช่ไม น้องๆตอบพร้อมกันว่าสนิทแล้วนะพี่ ผมเลยบอกเดี๋ยวพี่ลงไปดูผมเปิดไฟเลี้ยวตีไฟซ้ายไว้พร้อมกับลงไปดู พอลงไปก็ไม่มีอะไรหล่นกระบะปิดสนิท ผมเลยมองไปรอบๆว่ามีอะไรกระเด็นมาโดนรถรึเปล่า ผมมองไปสดุดเห็นคุณลุงคนนึงยืนอยู่ริมถนนพร้อมกับถือกระเป๋า ผมจะเดินไปถามแต่มันก็ดึกพอสมควรแล้ว ผมต้องไปถึงโรงพยาบาลตามนัดเพราะไม่งั้นจะเอาศพกลับมาช้า .. ผมไม่ติดใจอะไรพร้อมกับเดินขึ้นรถไป ผมเลยถามน้องๆว่าเห็นผู้ชายที่ยืนอยู่ต้นไม้ที่เราผ่านมาไม น้องๆก็มองหน้ากันแล้วส่ายหน้า ผมเลยไม่ถามต่อแล้วขับรถออกไป ไม่นานผมก็ขับรถมาถึงผมไปติดต่อที่พี่บุรุษพยาบาลว่าญาติอยู่ไหนคับ พี่เขาชี้ไปทางด้านหลังห้องฉุกเฉิน ผมกับน้องๆขับรถไปจอดเทียบข้างห้องเก็บศพ ผมเดินไปหาญาติ ผมแสดงความเสียใจด้วยนะคับ คุณพี่จะให้ผมดำเนินงานต่อเลยไมคับ พี่เขาบอกน้องจัดการต่อเลย
ผมบอกน้องๆมาจุดธูปบอกกล่าวให้เรียบร้อย พอทำพิธีอะไรเสร็จพวกผมนำศพขึ้นรถพร้อมกับปิดรถอย่างสนิท ผมบอกญาติว่าเดี๋ยวพี่นำผมออกไปก่อนเลยเดี๋ยวพวกผมตามไป ตอนนั้นยังไม่เอะใจอะไร ..
พอผมขับรถกลับมา ถึงจุดที่ผมลงไปดูรถ มีผู้ชายคนเดิมที่ผมเห็นยังยืนอยู่พร้อมกับโบกรถ ผมขับรถมาเร็วพอสมควร แต่ต้องเบรกกะทันหัน พร้อมกับลงไปคุยกับผู้ชายคนนั้น เขาขอผมติดรถกลับบ้านผมถามเขาว่าบ้านพี่อยู่แถวไหนคับ เขาบอกอยู่แถววงเวียนต้นไทร ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านศพที่ผมต้องไปส่ง ผมเลยบอกได้พี่ๆงั้นขึ้นรถเลยคับ ผมบอกนั่งหน้าได้นะพี่พอจะมีที่นั่งอยู่ พี่แกส่ายหน้าพร้อมกับชี้ไปหลังรถ บอกพี่นั่งหลังได้ ผมบอกพี่ข้างหลังมีศพนะผมพึ่งไปรับมา แกบอกไม่เป็นไรนั่งแปบๆเดียว ผมเลยให้แกขึ้น ผมเดินยิ้มขึ้นรถ เพราะคิดในใจว่าเราก็มีน้ำใจไม่เบา น้องสามคนที่มาด้วยหลับไปสองคนเหลือคนนึง มีคนนั่งข้างผมยังไม่หลับ มันถามผมว่าพี่ไปฉี่มาหรอ แล้วพี่ยิ้มไร ผมบอกเปล่าพอดีมีคนขอกลับด้วย น้องที่นั่งกับผมมันอึ้งไปสักพักแล้วมันบอกอ่อ พร้อมกับมองไปด้านหลัง ..
ผมรีบขับรถกลับตอนนั้นขับไม่นานเพราะถนนไม่ค่อยมีรถ พอกลับมาถึงผมปลุกน้องๆให้ลงไปยกศพลงมาใส่โลงที่ญาติจัดเตรียมไว้ พร้อมจุดธูปบอกลา ไม่ให้วิญญาณตามพวกผมกลับไป ตอนนั้นผมนึกขึ้นได้ว่ามีพี่คนนึงขอกลับด้วย แต่ตอนยกศพลงผมถามน้องๆว่าเจอแกไม น้องบอกกับผมว่าผมไม่เห็นใครตั้งแต่ที่พี่ลงไปคุยแล้วนะ ผมบอกเฮ้ย ไม่จริงหรอก เพราะพี่ยังคุยกับเขาอยู่เลย ผมเลยถามคนแถวนั้นว่าเจอไมก็ไม่มีใครเจอผมเลย งง อึ้งไปสักพัก แล้วผมก็ต้องอึ้งอีกครั้งเมื่อญาติเปิดผ้าขาวห่อศพออกเพื่อที่จะอาบน้ำแต่งตัวให้ศพ ผู้ชายในผ้าขาวนั้นกับผู้ชายที่ผมเจอคือคนเดียวกัน ผมถึงกับอึ้งบอกไม่ถูกเลยทีเดียว ผมต้องไปจุดธูปบอกแกอีกรอบ ญาติถึงกับต้องผูกข้อไม้ขอมือให้พวกผม หลังจากนั้นผมก็กลับมาที่หน่วยปกติ ตอนนั้นได้แต่คิดว่ามันจริงหรือแค่ฝัน ..
ปล.อยากให้ผมมาเล่าประสบการณ์หลอนๆอีกปักหมุด กดหัวใจไว้เยอะๆนะคับ
กู้ภัยขวัญใจผี
มีไปช่วยคนเจ็บบ้างคนตายบ้างแล้วแต่วันแล้วแต่เคลส
มีวันนึงที่ผมต้องไปรับศพผู้ตายไปส่งภูมิลำเนาหรือบ้านของเขานั้นเอง เอาจริงๆทำงานมาหลายปีมันชินกับการที่เจอเหตุการณ์แบบนี้แล้ว วันนั้นผมต้องออกจากหน่วยไปรับศพที่โรงพยาบาลในเมืองห่างจากที่ผมอยู่ 30-40 กิโล ผมก็ไปรับศพปกติกับน้องๆในหน่วยประมาณาสองสามคน ผมก็คุยกับน้องๆปกติของคนทำงานพูดกัน
ผม: พวกเอ็งกลัวไมที่ต้องมารับศพเก็บศพเกือบทุกวัน
น้องๆ: ก็กลัวนะพี่อาจจะยังไม่ค่อยชิน นานไปคงชินเอง
พอผมพูดจบเท่านั้นแหละคับได้ยินเสียงเหมือนของหลังรถหล่น ผมเลยจอดรถก่อนลงไปดูผมก็ถามน้องๆว่าปิดท้ายกระบะดีแล้วใช่ไม น้องๆตอบพร้อมกันว่าสนิทแล้วนะพี่ ผมเลยบอกเดี๋ยวพี่ลงไปดูผมเปิดไฟเลี้ยวตีไฟซ้ายไว้พร้อมกับลงไปดู พอลงไปก็ไม่มีอะไรหล่นกระบะปิดสนิท ผมเลยมองไปรอบๆว่ามีอะไรกระเด็นมาโดนรถรึเปล่า ผมมองไปสดุดเห็นคุณลุงคนนึงยืนอยู่ริมถนนพร้อมกับถือกระเป๋า ผมจะเดินไปถามแต่มันก็ดึกพอสมควรแล้ว ผมต้องไปถึงโรงพยาบาลตามนัดเพราะไม่งั้นจะเอาศพกลับมาช้า .. ผมไม่ติดใจอะไรพร้อมกับเดินขึ้นรถไป ผมเลยถามน้องๆว่าเห็นผู้ชายที่ยืนอยู่ต้นไม้ที่เราผ่านมาไม น้องๆก็มองหน้ากันแล้วส่ายหน้า ผมเลยไม่ถามต่อแล้วขับรถออกไป ไม่นานผมก็ขับรถมาถึงผมไปติดต่อที่พี่บุรุษพยาบาลว่าญาติอยู่ไหนคับ พี่เขาชี้ไปทางด้านหลังห้องฉุกเฉิน ผมกับน้องๆขับรถไปจอดเทียบข้างห้องเก็บศพ ผมเดินไปหาญาติ ผมแสดงความเสียใจด้วยนะคับ คุณพี่จะให้ผมดำเนินงานต่อเลยไมคับ พี่เขาบอกน้องจัดการต่อเลย
ผมบอกน้องๆมาจุดธูปบอกกล่าวให้เรียบร้อย พอทำพิธีอะไรเสร็จพวกผมนำศพขึ้นรถพร้อมกับปิดรถอย่างสนิท ผมบอกญาติว่าเดี๋ยวพี่นำผมออกไปก่อนเลยเดี๋ยวพวกผมตามไป ตอนนั้นยังไม่เอะใจอะไร ..
พอผมขับรถกลับมา ถึงจุดที่ผมลงไปดูรถ มีผู้ชายคนเดิมที่ผมเห็นยังยืนอยู่พร้อมกับโบกรถ ผมขับรถมาเร็วพอสมควร แต่ต้องเบรกกะทันหัน พร้อมกับลงไปคุยกับผู้ชายคนนั้น เขาขอผมติดรถกลับบ้านผมถามเขาว่าบ้านพี่อยู่แถวไหนคับ เขาบอกอยู่แถววงเวียนต้นไทร ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านศพที่ผมต้องไปส่ง ผมเลยบอกได้พี่ๆงั้นขึ้นรถเลยคับ ผมบอกนั่งหน้าได้นะพี่พอจะมีที่นั่งอยู่ พี่แกส่ายหน้าพร้อมกับชี้ไปหลังรถ บอกพี่นั่งหลังได้ ผมบอกพี่ข้างหลังมีศพนะผมพึ่งไปรับมา แกบอกไม่เป็นไรนั่งแปบๆเดียว ผมเลยให้แกขึ้น ผมเดินยิ้มขึ้นรถ เพราะคิดในใจว่าเราก็มีน้ำใจไม่เบา น้องสามคนที่มาด้วยหลับไปสองคนเหลือคนนึง มีคนนั่งข้างผมยังไม่หลับ มันถามผมว่าพี่ไปฉี่มาหรอ แล้วพี่ยิ้มไร ผมบอกเปล่าพอดีมีคนขอกลับด้วย น้องที่นั่งกับผมมันอึ้งไปสักพักแล้วมันบอกอ่อ พร้อมกับมองไปด้านหลัง ..
ผมรีบขับรถกลับตอนนั้นขับไม่นานเพราะถนนไม่ค่อยมีรถ พอกลับมาถึงผมปลุกน้องๆให้ลงไปยกศพลงมาใส่โลงที่ญาติจัดเตรียมไว้ พร้อมจุดธูปบอกลา ไม่ให้วิญญาณตามพวกผมกลับไป ตอนนั้นผมนึกขึ้นได้ว่ามีพี่คนนึงขอกลับด้วย แต่ตอนยกศพลงผมถามน้องๆว่าเจอแกไม น้องบอกกับผมว่าผมไม่เห็นใครตั้งแต่ที่พี่ลงไปคุยแล้วนะ ผมบอกเฮ้ย ไม่จริงหรอก เพราะพี่ยังคุยกับเขาอยู่เลย ผมเลยถามคนแถวนั้นว่าเจอไมก็ไม่มีใครเจอผมเลย งง อึ้งไปสักพัก แล้วผมก็ต้องอึ้งอีกครั้งเมื่อญาติเปิดผ้าขาวห่อศพออกเพื่อที่จะอาบน้ำแต่งตัวให้ศพ ผู้ชายในผ้าขาวนั้นกับผู้ชายที่ผมเจอคือคนเดียวกัน ผมถึงกับอึ้งบอกไม่ถูกเลยทีเดียว ผมต้องไปจุดธูปบอกแกอีกรอบ ญาติถึงกับต้องผูกข้อไม้ขอมือให้พวกผม หลังจากนั้นผมก็กลับมาที่หน่วยปกติ ตอนนั้นได้แต่คิดว่ามันจริงหรือแค่ฝัน ..
ปล.อยากให้ผมมาเล่าประสบการณ์หลอนๆอีกปักหมุด กดหัวใจไว้เยอะๆนะคับ