#SaveOurPets
.
ต้นเรื่องของกระทู้นี้มีเพียงว่า เราได้รับยาที่ ‘หมดอายุ’ ในระหว่างเวลาซึ่งแพทย์ระบุให้กิน มาจากโรงพยาบาลสัตว์ที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของประเทศ ในสภาพซึ่งมีสติกเกอร์สีขาวแปะบนฉลากยาปกปิด ‘วันสิ้นอายุ’ ของยาขวดนั้น ...
.
เรื่องราวต่อไปนี้หาได้มีวัตถุประสงค์ในการทำให้องค์กรใดเสื่อมเสียชื่อเสียง หากแต่ขอให้ถือเป็นการบอกกล่าวตักเตือนไปยังเจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกท่านให้ใช้ความระมัดระวังตรวจสอบก่อนป้อนยาให้น้อง อย่าคิดว่ายาที่ได้รับจากโรงพยาบาลจะปลอดภัยเสมอไป นอกจากนี้ ยังหวังว่าจะเป็นการ ‘กระตุ้น’ ให้ทางโรงพยาบาลจัดหามาตรการป้องกันที่เหมาะสมและยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานของตนเอง
.
ป.ล. เพื่อความเป็นธรรมแก่ทางโรงพยาบาลฯ โปรดอ่านคำอธิบายที่เราได้รับซึ่งลงไว้แล้วในกระทู้นี้
.
ข้อเท็จจริง :
.
27 มี.ค. 62 เราพาน้องบัว (เม่นแคระ) ไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาลสัตว์เล็ก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยอาการมีเนื้องอกที่ขาหลัง คุณหมอเก็บชิ้นเนื้อไปตรวจ และสั่งจ่ายยาน้ำ 3 ตัวให้ทาน โดยมีนัดครั้งต่อไปในอีก 1 สัปดาห์ คือวันที่ 3 เม.ย. 62 (รายละเอียดปรากฏตามใบเสร็จและใบนัดในรูป)
.
29 มี.ค. 62 หลังจากป้อนยามาสามวัน เราเพิ่งสังเกตุว่ามีสติกเกอร์สีขาวบนฉลากยาขวดนึงในส่วนที่ทำให้ไม่สามารถมองเห็นวันสิ้นอายุ (Exp. date) ของยาขวดนั้นได้
.
คืนนั้นเราแกะสติกเกอร์ออกและพบว่ายาสิ้นอายุในวันที่ 28 มี.ค. 62 หมายความว่ายาขวดนี้มีอายุอีกเพียง 1 วันหลังจากที่โรงพยาบาลฯจ่ายมาให้ ทั้งยังอยู่ในระหว่างระยะเวลาที่คุณหมอสั่งให้น้องกิน คือ 27 มี.ค. 62 - 3 เม.ย. 62
.
เราติดต่อแจ้งเรื่องไปยังแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลฯซึ่งเปิด 24 ชม. โดยขอให้บุคคลที่มีอำนาจหน้าที่ในเรื่องนี้ติดต่อกลับเพื่อชี้แจงภายใน 1 วัน เบื้องต้นทางโรงพยาบาลแจ้งว่าเรื่องร้องเรียนต้องมีขั้นตอนภายในหลายอย่างและผู้บริหารอาจจะไม่ค่อยสะดวกเข้ามาวันเสาร์อาทิตย์ แต่จะดำเนินการส่งเรื่องให้ตามระบบ (คุณหมอแสดงความรับผิดชอบโดยการให้เรานำยาไปที่รพ.เพื่อเปลี่ยนขวดใหม่ แต่เนื่องจากเราเพียงต้องการคำอธิบายในส่วนที่นำยาหมดอายุมาจ่ายเป็นสำคัญจึงไม่ได้ตอบรับข้อเสนอนี้)
.
30 มี.ค. 62 คุณหมออีกท่านติดต่อมาช่วงเช้าโดยแจ้งว่าเป็นหมอดูแลห้องยา เราได้รับคำชี้แจงว่ายาขวดนี้น่าจะเป็น ’ปัญหาในเรื่องการจัดเรียงชั้นวางยา’ ทำนองว่าหยิบยาที่ต้องทำลายทิ้งมาจ่ายให้เราแทน เมื่อสอบถามต่อไปว่าถ้ายานี้ตั้งใจจะทำลายทิ้งจริง เหตุใดจึงต้องติดสติกเกอร์ขาวปกปิดวันหมดอายุของยาด้วย คำตอบที่ได้รับคือ ‘ปิดเพื่อให้รู้ว่ายาขวดนั้นจะนำออกจากชั้นแล้วไปทำลาย’ และคุณหมอแสดงความรับผิดชอบว่าจะมอบส่วนลดค่ายาดังกล่าวคืนให้ในการมารักษาครั้งต่อไป
.
3 เม.ย. 62 (วันนี้) เราเดินทางไปฟังผลตรวจชิ้นเนื้อของน้องและได้สอบถามอาจารย์เจ้าของไข้ว่าทราบเรื่องยาหรือไม่ ปรากฎว่าอาจารย์ไม่ทราบเรื่องนี้แต่อย่างใด ไม่มีใครแจ้ง และยังแสดงความเห็นว่า เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกิดจากความผิดพลาดจริง หรือเป็นนโยบายของรพ. หรือได้รับคำสั่งมา ก็ไม่ควรจ่ายยาลักษณะนี้ โดยอาจารย์บอกว่าจะสอบถามไปยังผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ต่อไป
.
หลังจากนั้นเราไปสอบถามห้องยาว่าเพราะเหตุใดจึงไม่มีการแจ้งอาจารย์หมอเจ้าของไข้ และได้รับคำชี้แจงจากจนท.ว่า เพราะคุณหมอห้องยาที่ติดต่อเราไม่ได้มาทำงาน จึงยังไม่ได้แจ้งอาจารย์ เราเองสอบถามย้ำว่า เรื่องผ่านมาถึงอาทิตย์นึงแล้วยังไม่มีโอกาสไปแจ้งอีกหรือ และก็ได้รับคำตอบว่า ค่ะ ส่วนเรื่องร้องเรียนนั้นเป็นขั้นตอนภายใน จนท.เองก็ไม่ทราบว่าไปถึงไหนอย่างไร
.
.
ความคิดเห็น :
.
ประการแรก ด้วยความเคารพอย่างสูง ส่วนตัวเรามีความเคลือบแคลงสงสัยอย่างยิ่งในคำชี้แจงของทางโรงพยาบาล โดยเฉพาะใน 2 ประเด็น 1)ยาน้ำที่ได้รับมามี 3 ตัว ซึ่งเราไม่ได้บอกชื่อยาเลยว่าตัวไหนมีปัญหา พูดแค่ว่าใน 3 ตัวนี้ มีตัวนึงหมดอายุ หากเหตุการณ์นี้เป็น human error เพราะเหตุใดคุณหมอจึงสามารถทราบได้ทันที่ว่ายาตัวนั้นคือ Biotrim Syrup, 2)การติดสติกเกอร์ขนาดเล็กสีขาว บนฉลากยาสีขาว ด้วยวัตถุประสงค์ที่ชี้แจง คือเพื่อให้คนจ่ายยารู้ว่ายาขวดนี้หมดอายุแล้ว ต้องนำออกจากชั้นไปทำลาย มีความ make sense มากน้อยแค่ไหน ทำไมไม่ติดสีอื่นหรือทำสัญลักษณ์อย่างอื่นที่ฟังขึ้นกว่านี้ เราก้าวล่วงไปชี้ขาดได้ว่าคำชี้แจงเหล่านี้เป็นความจริงหรือไม่ เพียงใด ขอแค่ตั้งข้อสังเกตุไว้ประกอบการตัดสินใจของผู้ที่จะพาสัตว์เลี้ยงของตนไปรับการรักษาเท่านั้น
.
ประการที่สอง โดยปกติยาตามโรงพยาบาลย่อมไม่ได้สั่งเข้ามาจำหน่ายทีละขวดสองขวด แต่มาเป็นล๊อต ซึ่งยาเหล่านี้จะมีวันสิ้นอายุพร้อมกัน เราไม่แน่ใจว่ามียากี่ขวดที่เกิด ‘ปัญหาในเรื่องการจัดเรียงชั้นวางยา’ และถูกจำหน่ายออกไปให้แก่สัตว์เลี้ยงตัวอื่น ๆ เมื่อพยายามสอบถามก็ได้รับคำตอบว่าโรงพยาบาล ‘ตรวจสอบได้’ แต่เราไม่ทราบว่าตรวจสอบอย่างไร และได้ดำเนินการจริงจังหรือไม่ ขอให้จข.สัตว์ที่พาน้องไปรักษาในช่วงนี้ช่วยเหลือตนเองด้วยการสังเกตุให้ดีก่อนป้อนยาน้องน่าจะดีกว่า (และเพราะเหตุนี้เราจึงไม่ได้ปกปิดชื่อรพ. เพื่อให้จข.สัตว์ตัวอื่นทราบและระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่างน้อยก็ในระยะนี้)
.
ประการสุดท้าย เราเองเข้าใจดีในสิ่งที่ทางโรงพยาบาลพยายามอธิบายว่า ยาที่หมดอายุไปไม่นาน (น่าจะ)ทานได้โดย(คาดว่า)จะไม่เป็นอันตรายแก่น้อง แต่ในฐานะเจ้าของสัตว์เลี้ยง ระหว่างยาไม่หมดอายุกับยาหมดอายุ แน่นอนที่สุดว่าเราต้องเลือกอย่างแรก ส่วนตัวเราขอขอบคุณที่ทางโรงพยาบาลประสงค์รับผิดชอบโดยการมอบส่วนลดค่ายาที่หมดอายุคืนให้ แต่เราตัดสินใจพาน้องไปรับการรักษาที่อื่นแล้วด้วยเหตุผลด้านความไม่ไว้วางใจในมาตรฐานของโรงพยาบาล
.
ประเด็นของเรื่องนี้อาจจะไม่ได้อยู่ที่ยาขวดเดียว หรือสติกเกอร์ใบเดียว
แต่การดำเนินกิจการที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล สิ่งสำคัญซึ่งองค์กรนั้น ๆ จะต้องรักษาไว้อย่างดีที่สุด คือ trust หรือ ความไว้เนื้อเชื่อใจ
.
ด้วยความเคารพ
SUDFAH
.
ป.ล. เราเชื่อว่าความผิดพลาดในครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบุคลากรใน excotic pet clinic ที่รักษาดูแลน้องอย่างดีมาตลอด แต่เป็นเรื่องที่ผู้มีอำนาจหน้าที่จะต้องถอดบทเรียนและแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเร็ว
ป.ล. 2 ไม่ได้อัพโหลดหลักฐานเพิ่มเติมที่เป็นคลิปไว้ในกระทู้นี้ค่ะ แต่ได้มีการบันทึกไว้ตั้งแต่ตอนแกะสติกเกอร์ และตอนที่ติดต่อคุณหมอห้องฉุกเฉิน
#SaveOurPets เมื่อโรงพยาบาลสัตว์ที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งจ่ายยาซึ่ง “หมดอายุ” ในระหว่างระยะเวลาที่แพทย์ระบุให้กินแก่เรา
.
ต้นเรื่องของกระทู้นี้มีเพียงว่า เราได้รับยาที่ ‘หมดอายุ’ ในระหว่างเวลาซึ่งแพทย์ระบุให้กิน มาจากโรงพยาบาลสัตว์ที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของประเทศ ในสภาพซึ่งมีสติกเกอร์สีขาวแปะบนฉลากยาปกปิด ‘วันสิ้นอายุ’ ของยาขวดนั้น ...
.
เรื่องราวต่อไปนี้หาได้มีวัตถุประสงค์ในการทำให้องค์กรใดเสื่อมเสียชื่อเสียง หากแต่ขอให้ถือเป็นการบอกกล่าวตักเตือนไปยังเจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกท่านให้ใช้ความระมัดระวังตรวจสอบก่อนป้อนยาให้น้อง อย่าคิดว่ายาที่ได้รับจากโรงพยาบาลจะปลอดภัยเสมอไป นอกจากนี้ ยังหวังว่าจะเป็นการ ‘กระตุ้น’ ให้ทางโรงพยาบาลจัดหามาตรการป้องกันที่เหมาะสมและยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานของตนเอง
.
ป.ล. เพื่อความเป็นธรรมแก่ทางโรงพยาบาลฯ โปรดอ่านคำอธิบายที่เราได้รับซึ่งลงไว้แล้วในกระทู้นี้
.
ข้อเท็จจริง :
.
27 มี.ค. 62 เราพาน้องบัว (เม่นแคระ) ไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาลสัตว์เล็ก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยอาการมีเนื้องอกที่ขาหลัง คุณหมอเก็บชิ้นเนื้อไปตรวจ และสั่งจ่ายยาน้ำ 3 ตัวให้ทาน โดยมีนัดครั้งต่อไปในอีก 1 สัปดาห์ คือวันที่ 3 เม.ย. 62 (รายละเอียดปรากฏตามใบเสร็จและใบนัดในรูป)
29 มี.ค. 62 หลังจากป้อนยามาสามวัน เราเพิ่งสังเกตุว่ามีสติกเกอร์สีขาวบนฉลากยาขวดนึงในส่วนที่ทำให้ไม่สามารถมองเห็นวันสิ้นอายุ (Exp. date) ของยาขวดนั้นได้
เราติดต่อแจ้งเรื่องไปยังแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลฯซึ่งเปิด 24 ชม. โดยขอให้บุคคลที่มีอำนาจหน้าที่ในเรื่องนี้ติดต่อกลับเพื่อชี้แจงภายใน 1 วัน เบื้องต้นทางโรงพยาบาลแจ้งว่าเรื่องร้องเรียนต้องมีขั้นตอนภายในหลายอย่างและผู้บริหารอาจจะไม่ค่อยสะดวกเข้ามาวันเสาร์อาทิตย์ แต่จะดำเนินการส่งเรื่องให้ตามระบบ (คุณหมอแสดงความรับผิดชอบโดยการให้เรานำยาไปที่รพ.เพื่อเปลี่ยนขวดใหม่ แต่เนื่องจากเราเพียงต้องการคำอธิบายในส่วนที่นำยาหมดอายุมาจ่ายเป็นสำคัญจึงไม่ได้ตอบรับข้อเสนอนี้)
.
30 มี.ค. 62 คุณหมออีกท่านติดต่อมาช่วงเช้าโดยแจ้งว่าเป็นหมอดูแลห้องยา เราได้รับคำชี้แจงว่ายาขวดนี้น่าจะเป็น ’ปัญหาในเรื่องการจัดเรียงชั้นวางยา’ ทำนองว่าหยิบยาที่ต้องทำลายทิ้งมาจ่ายให้เราแทน เมื่อสอบถามต่อไปว่าถ้ายานี้ตั้งใจจะทำลายทิ้งจริง เหตุใดจึงต้องติดสติกเกอร์ขาวปกปิดวันหมดอายุของยาด้วย คำตอบที่ได้รับคือ ‘ปิดเพื่อให้รู้ว่ายาขวดนั้นจะนำออกจากชั้นแล้วไปทำลาย’ และคุณหมอแสดงความรับผิดชอบว่าจะมอบส่วนลดค่ายาดังกล่าวคืนให้ในการมารักษาครั้งต่อไป
.
3 เม.ย. 62 (วันนี้) เราเดินทางไปฟังผลตรวจชิ้นเนื้อของน้องและได้สอบถามอาจารย์เจ้าของไข้ว่าทราบเรื่องยาหรือไม่ ปรากฎว่าอาจารย์ไม่ทราบเรื่องนี้แต่อย่างใด ไม่มีใครแจ้ง และยังแสดงความเห็นว่า เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกิดจากความผิดพลาดจริง หรือเป็นนโยบายของรพ. หรือได้รับคำสั่งมา ก็ไม่ควรจ่ายยาลักษณะนี้ โดยอาจารย์บอกว่าจะสอบถามไปยังผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ต่อไป
.
หลังจากนั้นเราไปสอบถามห้องยาว่าเพราะเหตุใดจึงไม่มีการแจ้งอาจารย์หมอเจ้าของไข้ และได้รับคำชี้แจงจากจนท.ว่า เพราะคุณหมอห้องยาที่ติดต่อเราไม่ได้มาทำงาน จึงยังไม่ได้แจ้งอาจารย์ เราเองสอบถามย้ำว่า เรื่องผ่านมาถึงอาทิตย์นึงแล้วยังไม่มีโอกาสไปแจ้งอีกหรือ และก็ได้รับคำตอบว่า ค่ะ ส่วนเรื่องร้องเรียนนั้นเป็นขั้นตอนภายใน จนท.เองก็ไม่ทราบว่าไปถึงไหนอย่างไร
.
.
ความคิดเห็น :
.
ประการแรก ด้วยความเคารพอย่างสูง ส่วนตัวเรามีความเคลือบแคลงสงสัยอย่างยิ่งในคำชี้แจงของทางโรงพยาบาล โดยเฉพาะใน 2 ประเด็น 1)ยาน้ำที่ได้รับมามี 3 ตัว ซึ่งเราไม่ได้บอกชื่อยาเลยว่าตัวไหนมีปัญหา พูดแค่ว่าใน 3 ตัวนี้ มีตัวนึงหมดอายุ หากเหตุการณ์นี้เป็น human error เพราะเหตุใดคุณหมอจึงสามารถทราบได้ทันที่ว่ายาตัวนั้นคือ Biotrim Syrup, 2)การติดสติกเกอร์ขนาดเล็กสีขาว บนฉลากยาสีขาว ด้วยวัตถุประสงค์ที่ชี้แจง คือเพื่อให้คนจ่ายยารู้ว่ายาขวดนี้หมดอายุแล้ว ต้องนำออกจากชั้นไปทำลาย มีความ make sense มากน้อยแค่ไหน ทำไมไม่ติดสีอื่นหรือทำสัญลักษณ์อย่างอื่นที่ฟังขึ้นกว่านี้ เราก้าวล่วงไปชี้ขาดได้ว่าคำชี้แจงเหล่านี้เป็นความจริงหรือไม่ เพียงใด ขอแค่ตั้งข้อสังเกตุไว้ประกอบการตัดสินใจของผู้ที่จะพาสัตว์เลี้ยงของตนไปรับการรักษาเท่านั้น
.
ประการที่สอง โดยปกติยาตามโรงพยาบาลย่อมไม่ได้สั่งเข้ามาจำหน่ายทีละขวดสองขวด แต่มาเป็นล๊อต ซึ่งยาเหล่านี้จะมีวันสิ้นอายุพร้อมกัน เราไม่แน่ใจว่ามียากี่ขวดที่เกิด ‘ปัญหาในเรื่องการจัดเรียงชั้นวางยา’ และถูกจำหน่ายออกไปให้แก่สัตว์เลี้ยงตัวอื่น ๆ เมื่อพยายามสอบถามก็ได้รับคำตอบว่าโรงพยาบาล ‘ตรวจสอบได้’ แต่เราไม่ทราบว่าตรวจสอบอย่างไร และได้ดำเนินการจริงจังหรือไม่ ขอให้จข.สัตว์ที่พาน้องไปรักษาในช่วงนี้ช่วยเหลือตนเองด้วยการสังเกตุให้ดีก่อนป้อนยาน้องน่าจะดีกว่า (และเพราะเหตุนี้เราจึงไม่ได้ปกปิดชื่อรพ. เพื่อให้จข.สัตว์ตัวอื่นทราบและระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่างน้อยก็ในระยะนี้)
.
ประการสุดท้าย เราเองเข้าใจดีในสิ่งที่ทางโรงพยาบาลพยายามอธิบายว่า ยาที่หมดอายุไปไม่นาน (น่าจะ)ทานได้โดย(คาดว่า)จะไม่เป็นอันตรายแก่น้อง แต่ในฐานะเจ้าของสัตว์เลี้ยง ระหว่างยาไม่หมดอายุกับยาหมดอายุ แน่นอนที่สุดว่าเราต้องเลือกอย่างแรก ส่วนตัวเราขอขอบคุณที่ทางโรงพยาบาลประสงค์รับผิดชอบโดยการมอบส่วนลดค่ายาที่หมดอายุคืนให้ แต่เราตัดสินใจพาน้องไปรับการรักษาที่อื่นแล้วด้วยเหตุผลด้านความไม่ไว้วางใจในมาตรฐานของโรงพยาบาล
.
ประเด็นของเรื่องนี้อาจจะไม่ได้อยู่ที่ยาขวดเดียว หรือสติกเกอร์ใบเดียว
แต่การดำเนินกิจการที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล สิ่งสำคัญซึ่งองค์กรนั้น ๆ จะต้องรักษาไว้อย่างดีที่สุด คือ trust หรือ ความไว้เนื้อเชื่อใจ
.
ด้วยความเคารพ
SUDFAH
.
ป.ล. เราเชื่อว่าความผิดพลาดในครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบุคลากรใน excotic pet clinic ที่รักษาดูแลน้องอย่างดีมาตลอด แต่เป็นเรื่องที่ผู้มีอำนาจหน้าที่จะต้องถอดบทเรียนและแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเร็ว