สุพรรณบุรีมีคูน้ำเนินดินและกำแพงทางทิศตะวันตก เหนือ และใต้
ด้านตะวันออกไม่พบตัวกำแพงเพราะถูกรื้อทำลายในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิหลังสงคราม พ.ศ.2091
ด้วยทรงเห็นว่าถ้าข้าศึกตีเมืองสุพรรณบุรีได้ ก็จะสามารถการป้องกันตนเองจากกองทัพกรุงศรีอยุธยาได้
พระองค์จึงได้รื้อกำแพงเมืองหน้าด่านสามเมืองคือ สุพรรณบุรี ลพบุรี และนครนายกลง
จากภาพถ่ายทางอากาศ เชื่อกันว่าแต่เดิมเมืองสุพรรณบุรีมีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ทั้งสองฝั่งแม่น้ำ
เป็นเมืองรัฐอิสระร่วมสมัยกับสุโขทัย
มีวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ตั้งอยู่บริเวณศูนย์กลางของเมืองโบราณสุพรรณบุรี
พระปรางค์
เจดีย์ประธานของวัด ศิลปกรรมสมัยอยุธยาตอนต้น
ก่อด้วยอิฐสอดิน ผิวด้านนอกฉาบปูน
*ฐาน*
ฐานเขียง เพื่อยกสูงจากพื้นดิน ... ที่เห็นมีชั้นเดียว
ฐานบัว เพื่อเป็นดอกบัวที่รองรับพระพุทธเจ้าในทุกอิริยาบถ ... ทำเป็นชุดฐานบัวลูกฟัก
บัวลูกฟักคือฐานบัวที่มีการประดับท้องไม้ด้วยแถบสี่เหลี่ยมคล้ายกับลูกฟัก
ท้องไม้คือส่วนกลางของฐานที่เป็นหน้าราบระหว่างบัวคว่ำกับบัวหงาย
ชุดฐานสิงห์สามชั้น เป็นโลกที่ที่มีการเวียนว่ายตายเกิด หรือ สังสารวัฏ ที่ยังมี โลภะ โทสะ โมหะ
ฐานย่อมุมซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไปรองรับองค์เรือนธาตุ มุมที่ย่อขนาดใหญ่อยู่กลาง ขนาดเล็กกว่าขนาบทั้งสองข้าง
*เรือนธาตุ*
เป็นที่อยู่ของเทวดาผู้รักษาโลก มีซุ้มจระนำทั้ง 4 ด้าน
สอบโค้งเข้าหาส่วนบน ย่อมุมรับกับฐาน
เฉพาะด้านทิศตะวันออกเป็นคูหา ประดิษฐานพระปรางค์จำลอง ... ซูมเข้าไปเป็นรูปนี้
หน้าบันเรือนธาตุทำเป็นซุ้มลดซ้อนกัน 2 ชั้น
ประดับลวดลายปูนปั้นเป็นรูปมกร คายนาค 5 เศียร มีเทพพนมอยู่บนมกร
มกร คือ ช้าง มีหางเป็นปลา ว่ายน้ำได้ กินกล้วยเป็นอาหาร มีงวง มีงาซึ่งงาจะพัฒนาไปเป็นเขี้ยว
เป็นสัญญลักษณ์ของ น้ำ ความอุดมสมบูรณ์ กำเนิดของจักรวาล และการให้
บริเวณชั้นบัวรัดเกล้า ลวดลายปูนปั้นเป็นรูปอุบะและกลีบบัว เป็นแบบประเพณีนิยมสมัยอยุธยาตอนต้น
บัวรัดเกล้าคือ บัวหงายที่ลาดชันมาก
เหนือขึ้นไปเป็นชั้นเชิงบาตร ประดับปูนปั้นรูปครุฑแบก ยักษ์แบก ปัจจุบันมีเพียงปูนปั้นรูปยักษ์บริเวณมุมย่อยเท่านั้น
ชั้นเชิงบาตร คือชั้นรัดประคดหรือชั้นซ้อนชั้นแรกที่ต่อขึ้นไปจากตัวเรือนธาตุ
บริเวณหน้ากระดานของวิมานชั้นแรกยังปรากฏลวดลายปูนปั้นเป็นรูปหงส์ รูปใบไม้ ในกระจก
*ส่วนยอดพระปรางค์*
ประกอบด้วย
ชั้นวิมานจำลอง เป็นที่อยู่ของเทวดาในพุทธศาสนาจะมี 6 ชั้น คือ จาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมมานรดี ปรนิมมิตวสวัตดี
นับชั้นได้จากช่องที่เหมือนหน้าต่างโค้ง เรียกว่ากุฑุ
ยอดสอบโค้งเข้าหาปลาย บริเวณมุมและด้านประดับด้วยกลีบขนุนและซุ้มบันแถลง
นภศูล เป็นส่วนยอดสุดของปราสาทและปรางค์
นภ แปลว่า ท้องฟ้า และ ศูล แปลว่า เหล็กแหลม ปลายสุดหมายถึงนิพพาน
เจดีย์ข้างเจดีย์ประธาน ด้านเหนือ และใต้
มุมกำแพงแก้วของปรางค์ประธาน มีวิหารน้อยที่มุม
เจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม จำนวน 2 องค์ ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของพระปรางค์ สองข้างของวิหาร
อาคารด้านขวาของรูปคือวิหารที่อยู่ทางตะวันออกของเจดีย์
อาคารหลังเจดีย์คือวิหารที่อยู่ทางตะวันออกของเจดีย์
อุโบสถ ทางตะวันตกของเจดีย์นอกกำแพงแก้ว
เจดีย์ราย
เนื้ออิฐ
แนวกำแพงวัดเดิม
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ - สุพรรณบุรี