ผมไม่คิดว่าน้องเมย์แพ้ทางทั้งสินธุ และเนห์วาลเลยครับ ก่อนปี 2017 สินธุเจอน้องเมย์ทีไร โดนน้องเมย์ต้อนขาดแบบสู้ไม่ได้ทุกที ส่วนกับเนล์วาลก็มีผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะบ้าง หลังจากที่น้องเมย์ได้แชมป์สามแชมป์ติดต่อกันในปี 2016 ก็เริ่มมีปัญหาบาดเจ็บไปจนถึงสิ้นปี 2016(น้องเมย์เล่นรายการซุปเปอร์ซีรีย์ไฟนอลตอนสิ้นปีไม่จบ ต้องขอถอนตัว) แต่ปัญหาอาการบาดเจ็บก็ดีขึ้นเมื่อถึงประมาณเดือนมีนาคม 2017 ซึ่งน้องเมย์ก็ต้องใช้เวลาเรียกฟอร์มและความเชื่อมั่นหลังอาการบาดเจ็บอยู่หลายเดือน จนมาประสบความสำเร็จในเดือนตุลาคมที่ได้แชมป์ที่เดนมาร์ค และก็ฟอร์มดีต่อเนื่องจนถึงประมาณต้นปี 2018 จากนั้นตั้งแต่ประมาณเดือนพฤษภาคม ก็มีปัญหาเรื่องสภาพจิตใจ จนถึงช่วงเดือนพฤศจิกายนก็ดีขึ้น โดยเข้าชิงที่ฮ่องกงกับโนโซมิ และฟอร์มก็ดีต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน (ยกเว้นรายการออลอิงแลนด์) ถ้าพูดเรื่องฝีมือแล้วน้องเมย์ไม่เป็นรองใครอยู่แล้ว และจะว่าไปแล้ว เหอปิงเจียวมีฝีมือเหนือกว่าทั้งสินธุและเนห์วาลอีก (เพียงแต่เหอปิงเจียวจะมีปัญหาเรื่องพละกำลัง) ถ้าวันไหนน้องเมย์นิ่ง สมาธิดี น้องเมย์เล่นกับใครก็ได้ทั้งนั้น และสามารถเอาชนะได้อย่างไม่ยากเย็นด้วย เมื่อตอนต้นปีก็มีตัวอย่างแสดงให้เห็น ตอนที่เอาชนะมารินที่มาเลเซียแบบที่มารินสู้ไม่ได้เลย (ทั้งที่มารินแข็งแรงแข็งแกร่ง และเร็วกว่าเดิมมาก) ย้อนกลับไปตอนที่น้องเมย์เจอกับสินธุ รายการเวิร์ลทัวร์ไฟน่อลในรอบรองชนะเลิศ สภาพร่างกายของน้องเมย์เป็นรอง เพราะต้องเล่นหนักๆมาในรอบแรก ผมขอกล่าวเพิ่มเติมในเรื่องเทคนิคฝีมือของน้องเมย์ โดยเสนอผ่านคิดเห็นของ Steen Petersen (อดีตหัวหน้าโค้ชทีมชาติเดนมาร์ค) โดยได้กล่าวไว้ในรอบรองชนะเลิศอินเดียโอเพ่นที่ผ่านมา "I know it's impossible to name a shot that Ratchanok can't execute. I don't think there is really. I can't think of one." และ "...when she plays well, she's almost unbeatable" และในรอบชิงรายการเดียวกันที่แข่งกับเหอปิงเจียว ผู้บรรยายร่วมก็ถาม Steen ถึงความคิดเห็นเรื่องสถิติเฮดทูเฮด 4-0 Steen กล่าวว่า "... she knows that when she's at her best, she can beat anybody." จริงๆแล้ว Steen เคยพูดไว้เมื่อ 6ปีก่อน ในตอนศึกชิงแชมป์โลก 2013รอบชิงกับลีเสี่ยวเร่ย (ตอนนั้นไม่มีใครคิดว่าน้องเมย์จะคว้าแชมป์โลกได้ น้องเมย์อายุเพียง 18ปี ส่วนลีเสี่ยวเร่ยเป็นมือหนึ่งของโลก และแชมป์โอลิมปิค 2012) โดยกล่าวไว้ในช่วงเริ่มเกมหนึ่งว่า ถ้าพูดเรื่องทักษะฝีมือ จินตนาการในการเล่นแล้ว น้องเมย์เหนือกว่าลีเสี่ยวเร่ย (หากใครสนใจ ไปหาเทปดูได้ วันนั้น Steen บรรยายร่วมกับ Jill Clark) นอกจากนี้ Morten Frost (อดีตชายเดี่ยวมือหนึ่งของโลก และอดีตโค้ชทีมชาติเดนมาร์ค) ก็ยังได้แสดงความเห็นในการบรรยาย ร่วมกับ Jill Clark ในรายการอินโดนีเซียโอเพ่น 2014 รอบรองชนะเลิศระหว่างน้องเมย์กับหวังซื่อเซียน โดยพูดถึงสถิติเฮดทูเฮด 6-1ว่า การดูแต่สถิติตัวเลขมันอาจจะหลอกได้ ต้องดูองค์ประกอบอื่นด้วย เพราะก่อนหน้านี้เวลาที่น้องเมย์เจอกับหวังซื่อเซียน น้องเมย์ยังมีสภาพร่างกายไม่แข็งแรงสมบูรณ์เต็มที่ และในรายการเดียวกันในปี 2015 รอบรองชนะเลิศที่น้องเมย์ต้องเจอกับหวังซื่อเซียนอีก (น้องเมย์เป็นฝ่ายชนะทั้งสองครั้งในรายการที่กล่าวมา) Morten ก็กล่าวไว้ว่า ถ้าน้องเมย์ฟิตร่างกายสมบูรณ์ เจอกับหวังซื่อเซียนกี่ครั้งก็ชนะ (ผู้สนใจสามารถหาเทปทั้งสองนัดดูได้อีกเช่นกัน) หรือแม้แต่กระทั่งกับหวังยี่ฮานเอง ที่ก่อนแข่งรายการมาเลเซียโอเพ่น 2016 รอบรองชนะเลิศ โดขสถิติเฮดทูเฮดคือ 12-0 น้องเมย์ก็มีฝีมือที่ดีกว่า นอกจากนี้ยังมีผู้บรรยายภาษาอังกฤษอีกหลายคน (จะว่าไปทุกคนที่ผมมีโอกาสได้ฟังบรรยายก็ได้) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Jill Clark ที่มักจะพูดยกย่องเทคนิคฝีมือของน้องเมย์บ่อยๆ และที่พูดบ่อยมากอีกเช่นกันก็คือ ความสวยงามความพลิ้วในการเล่น การเล่นลูกยากๆที่ทำให้ดูเหมือนง่าย การหลอก การอ่านหน้าไม้ไม่ออกของคู่ต่อสู้ ความหลากหลายในการเล่นลูกต่างๆ โดยใช้คำหรือวลีเช่น easy relaxed hitting style, balletic movement, like a ballerina on the court, poetry in motion, takes the game to the artistic level, a joy/delight/beauty to watch, graceful, wonderful deception/disguise, great stroke production และอื่นๆอีกมากมาย
น้องเมย์ vs สินธุและเนห์วาล