ต้นเรื่องคือ
เราอยู่หอพัก แต่จะกลับบ้านทุกๆ วันศุกร์ และกลับมาหออีกครั้งในวันอาทิตย์ ตอนมืดๆ
เรื่องเกิดเมื่อประมาณกลางเดือน ก.พ. เราก็กลับบ้านปกติ แต่พอวันอาทิตย์กลับมาแล้วน้ำไม่ไหล
รปภ. แจ้งว่าปิดวาล์น้ำที่ห้องเรา เนื่องจากเค้าไปเห็นตอนจดมิเตอร์ค่าน้ำว่ามิเตอร์ห้องเราวิ่งตลอด และรู้ว่าไม่มีคนอยู่ห้อง
เค้าก็แจ้งว่าจะเปิดวาล์ให้ แต่วันจันทร์ขอขึ้นมาเช็คที่ห้อง เราก็ตอบโอเครไป
เช้าวันจันทร์เราก็โทรไปแจ้งคนดูแลหอ ว่าพี่รปภ (เป็นช่างของหอพักด้วย) ขอขึ้นมาเช็ค เราก็บอกเราไม่ได้ล็อกห้องไว้ขึ้นมาดูได้เลย
และประจวบเหมาะกับที่กดชักโครกห้องเราเสีย เราก็เลยแจ้งให้ซ่อมเลยทีเดียว
พอเย็นกลับมาห้อง พบว่าที่กดชักโครกถูกซ่อมเรียบร้อย แต่ไม่มีการแจ้งจากเจ้าหน้าที่ที่หอพักเลย ว่าห้องเรามีน้ำรั่ว หรือมีปัญหาอะไรหรือป่าว
และเรื่องก็เงียบไปแบบนั้น จนวันที่บิลค่าห้องออกมา เราถึงกับตกใจ!!! ค่าน้ำ 1500 บาท จากปกติขั้นต่ำที่ต้องจ่าย 150 บาทเรายังไม่เคยใช้ถึงเลย
เราโทรไปถามคนดูแลหอว่าค่าน้ำ 1500 คือมันมาได้ยังไง คำตอบที่ได้กลับมาตลอด 10 นาที ที่เราคุยกับคนดูแลหอพักคือ
น้องต้องการอะไรคะ แล้วจะให้พี่ทำยังไงคะ น้องโทรมานี่ต้องการอะไรคะ ห้องน้องน้องก็ต้องสังเกตสิคะว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันผิดปกติตรงไหน
สรุปเลยคือ เราไม่ได้คำตอบอะไรเลยนอกจากการใส่อารมณ์ของคนดูแลหอพักที่พูดจายียวนกวนประสาทมาก
เราก็เลยแจ้งร้องทุกข์ผ่าน สคบ. เนื่องจากหอพักเราเรียกเก็บค่าน้ำในเดือน ก.พ. จำนวน 66 ยูนิต จากปกติที่เราใช้มาตลอด 2 ปี ไม่เคยเกินเดือนละ 5 ยูนิตค่ะ
และวันที่นัดไกล่เกลี่ย เนื่องจากเราติดสัมมนา จึงได้ส่งหนังสือไปแจ้ง สคบ. ทางหอพักก็ส่งคนมาไกล่เกลี่ย คำตอบที่เราได้จากหอพักคือ
ที่กดชักโครกห้องเราเสีย เลยมีน้ำรั่ว
แต่ประเด็นคือตั้งแต่ที่ที่กดชักโครกเสีย เราเช็คชักโครกตลอดว่ามันไม่เคยมีน้ำรั่วไหลในชักโครกเลย
แล้วน้ำจำนวน 66 ยูนิต คือปริมาณ 66,000 ลิตร ซึ่งมันเป็นปริมาณที่เยอะมาก ถ้าจะรั่วขนาดนั้นมันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไม่เห็น
สคบ. แจ้งว่าถ้าเราอยากดำเนินการต่อ เราต้องหาหลักฐานมาหักล้างกับทางหอพักว่าค่าน้ำที่มันเกิด มันไม่ได้เกิดจากเราเป็นคนใช้
จึงอยากขอคำแนะนำว่าเราจะเอาอะไรไปเป็นหลักฐานได้บ้าง หรือเราควรดำเนินการยังไงต่อ
ขอแนวทางในการร้องเรียน สคบ ค่ะ
เราอยู่หอพัก แต่จะกลับบ้านทุกๆ วันศุกร์ และกลับมาหออีกครั้งในวันอาทิตย์ ตอนมืดๆ
เรื่องเกิดเมื่อประมาณกลางเดือน ก.พ. เราก็กลับบ้านปกติ แต่พอวันอาทิตย์กลับมาแล้วน้ำไม่ไหล
รปภ. แจ้งว่าปิดวาล์น้ำที่ห้องเรา เนื่องจากเค้าไปเห็นตอนจดมิเตอร์ค่าน้ำว่ามิเตอร์ห้องเราวิ่งตลอด และรู้ว่าไม่มีคนอยู่ห้อง
เค้าก็แจ้งว่าจะเปิดวาล์ให้ แต่วันจันทร์ขอขึ้นมาเช็คที่ห้อง เราก็ตอบโอเครไป
เช้าวันจันทร์เราก็โทรไปแจ้งคนดูแลหอ ว่าพี่รปภ (เป็นช่างของหอพักด้วย) ขอขึ้นมาเช็ค เราก็บอกเราไม่ได้ล็อกห้องไว้ขึ้นมาดูได้เลย
และประจวบเหมาะกับที่กดชักโครกห้องเราเสีย เราก็เลยแจ้งให้ซ่อมเลยทีเดียว
พอเย็นกลับมาห้อง พบว่าที่กดชักโครกถูกซ่อมเรียบร้อย แต่ไม่มีการแจ้งจากเจ้าหน้าที่ที่หอพักเลย ว่าห้องเรามีน้ำรั่ว หรือมีปัญหาอะไรหรือป่าว
และเรื่องก็เงียบไปแบบนั้น จนวันที่บิลค่าห้องออกมา เราถึงกับตกใจ!!! ค่าน้ำ 1500 บาท จากปกติขั้นต่ำที่ต้องจ่าย 150 บาทเรายังไม่เคยใช้ถึงเลย
เราโทรไปถามคนดูแลหอว่าค่าน้ำ 1500 คือมันมาได้ยังไง คำตอบที่ได้กลับมาตลอด 10 นาที ที่เราคุยกับคนดูแลหอพักคือ
น้องต้องการอะไรคะ แล้วจะให้พี่ทำยังไงคะ น้องโทรมานี่ต้องการอะไรคะ ห้องน้องน้องก็ต้องสังเกตสิคะว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันผิดปกติตรงไหน
สรุปเลยคือ เราไม่ได้คำตอบอะไรเลยนอกจากการใส่อารมณ์ของคนดูแลหอพักที่พูดจายียวนกวนประสาทมาก
เราก็เลยแจ้งร้องทุกข์ผ่าน สคบ. เนื่องจากหอพักเราเรียกเก็บค่าน้ำในเดือน ก.พ. จำนวน 66 ยูนิต จากปกติที่เราใช้มาตลอด 2 ปี ไม่เคยเกินเดือนละ 5 ยูนิตค่ะ
และวันที่นัดไกล่เกลี่ย เนื่องจากเราติดสัมมนา จึงได้ส่งหนังสือไปแจ้ง สคบ. ทางหอพักก็ส่งคนมาไกล่เกลี่ย คำตอบที่เราได้จากหอพักคือ
ที่กดชักโครกห้องเราเสีย เลยมีน้ำรั่ว
แต่ประเด็นคือตั้งแต่ที่ที่กดชักโครกเสีย เราเช็คชักโครกตลอดว่ามันไม่เคยมีน้ำรั่วไหลในชักโครกเลย
แล้วน้ำจำนวน 66 ยูนิต คือปริมาณ 66,000 ลิตร ซึ่งมันเป็นปริมาณที่เยอะมาก ถ้าจะรั่วขนาดนั้นมันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไม่เห็น
สคบ. แจ้งว่าถ้าเราอยากดำเนินการต่อ เราต้องหาหลักฐานมาหักล้างกับทางหอพักว่าค่าน้ำที่มันเกิด มันไม่ได้เกิดจากเราเป็นคนใช้
จึงอยากขอคำแนะนำว่าเราจะเอาอะไรไปเป็นหลักฐานได้บ้าง หรือเราควรดำเนินการยังไงต่อ