อดีตที่เจ็บปวดจะถ่ายทอดสู่ตัวหนังสือ...
ผมโตมาในบ้านที่มีไม่สมบูรณ์ ซึ่งหลายๆคนก็เป็น โตมาด้วยครอบครัวแตกแยก ตอนเด็กๆที่ต้องมาเจอพ่อแม่ทะเลาะกันพ่อทำร้ายแม่ บางครั้งก็เอามีดไล่ฟัน จานข้าวพ่อปิดทิ้งใส่ตู้เย็น โทรศัพท์ที่ปาจนแตก รอยนั้นยังอยู่จนปจุบัน พ่อแม่หย่าร้างกัน แม่มีสามีใหม่ พ่อไปอยู่กับญาติ เราเกิดมาเคยเห็นหน้าพ่อ แค่5ครั้ง เท่าที่จำความได้ ซึ้งกลับบ้านมาเมื่อไร ครอบครัวไม่เคยมีความสุขเลย เราพูดได้เลยว่า เราไม่มีความผูกพันธ์กับพ่อเลย เราใจสลายกับสิ่งที่พ่อทำ เราไม่เคยได้ไออุ่นจากพ่อเลย พ่อความรู้สึกมันเป็นยังไง พี่ขายเราถามว่า.. รักพ่อเราตอบได้อย่างชัดเจนเลยว่า ไม่ เมื่อเรามองลอยนั้นเท่าไร อดีตมันยิ่งตอกย้ำ ว่าเราเกิดมาในที่ที่โหดร้าย ทุกครั้งที่เราไปโรงเรียนเรากลายเป็นเด็กก้าวร้าว ลักเล็กขโมยน้อย พูดจาหยาบคาย เป็นเด็กที่ดื้อ ดื้อจนครู เอาเชือกมามัดแขนมัดขา... ตอนเด็กๆเราคิดแค่ว่า จะทำอะไรก็ชีวิตเรา เราถูกเลี้ยงแบบปล่อย พอเริ่มโตเราเริ่มเกเร หนีเที่ยว ไม่กลับบ้าน กินเหล้า กลับอีกทีก็เช้า เพราะคิดว่าคงไม่มีใครสนใจ เราไม่อยากกลับบ้าน บ้านของใครหลายๆคน คือที่ที่สบายใจที่สุด แต่สำหรับเราไม่เลย มันเป็นอดีตที่เรวร้าย ปจุบันแม่เลี้ยงเรา แต่ไม่ค่อยได้อยู่กับเรา เขาจะใช้เวลาอยู่กับสามีใหม่ เราก็เข้าใจ เราต้องอยู่กับพี่สามคน บางครั้งพี่เราก็ทะเลาะกันเอง รวมถึงเราด้วย แต่ยิ่งโตยิ่งทำให้เราเข้าใจอะไรหลายๆอย่าง คำพูดของแม่จำขึ้นใจเสมอ (จะทำอะไรก็ทำไปเอาตัวเองให้รอด) เราจำคำนั้นมาจนปัจจุบัน จนปัจจุบันเราเรียนจบม.6 ได้ที่เรียนคือกทม. ราชภัฏ เราเรียนไม่จบ เรามีปัญหาการเงิน ที่เราออกเพราะว่า เราไม่อยากให้แม่หาเงินส่ง เราจึงหางานพาททามทำ จนค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆจนหางานที่ตอบแทนดี การทำงานหรือสังคมการทำงาน ของบริษัท เรารู้สึกว่า ความเป็นผู้ใหญ่มันเพิ่มขึ้น ระบายกับใครยากมาก ไม่ไว้ใจใคร เรากลัวคนอื่นจะมองเราว่าแย่ ชีวิตตอนนี้ดีมั้ยถือว่าโอเค ในระดับนึง เราไม่กลับบ้าน ปีละ 2 3 ครั้ง ที่ไม่กลับเพราะเหตุผลที่เราไม่อยากเจออดีต คนสองที่ทะเลาะกันทำร้ายร่างกายกันคนที่เจ็บคือ ลูก
เกิดในครอบครัวที่แตกแยก
ผมโตมาในบ้านที่มีไม่สมบูรณ์ ซึ่งหลายๆคนก็เป็น โตมาด้วยครอบครัวแตกแยก ตอนเด็กๆที่ต้องมาเจอพ่อแม่ทะเลาะกันพ่อทำร้ายแม่ บางครั้งก็เอามีดไล่ฟัน จานข้าวพ่อปิดทิ้งใส่ตู้เย็น โทรศัพท์ที่ปาจนแตก รอยนั้นยังอยู่จนปจุบัน พ่อแม่หย่าร้างกัน แม่มีสามีใหม่ พ่อไปอยู่กับญาติ เราเกิดมาเคยเห็นหน้าพ่อ แค่5ครั้ง เท่าที่จำความได้ ซึ้งกลับบ้านมาเมื่อไร ครอบครัวไม่เคยมีความสุขเลย เราพูดได้เลยว่า เราไม่มีความผูกพันธ์กับพ่อเลย เราใจสลายกับสิ่งที่พ่อทำ เราไม่เคยได้ไออุ่นจากพ่อเลย พ่อความรู้สึกมันเป็นยังไง พี่ขายเราถามว่า.. รักพ่อเราตอบได้อย่างชัดเจนเลยว่า ไม่ เมื่อเรามองลอยนั้นเท่าไร อดีตมันยิ่งตอกย้ำ ว่าเราเกิดมาในที่ที่โหดร้าย ทุกครั้งที่เราไปโรงเรียนเรากลายเป็นเด็กก้าวร้าว ลักเล็กขโมยน้อย พูดจาหยาบคาย เป็นเด็กที่ดื้อ ดื้อจนครู เอาเชือกมามัดแขนมัดขา... ตอนเด็กๆเราคิดแค่ว่า จะทำอะไรก็ชีวิตเรา เราถูกเลี้ยงแบบปล่อย พอเริ่มโตเราเริ่มเกเร หนีเที่ยว ไม่กลับบ้าน กินเหล้า กลับอีกทีก็เช้า เพราะคิดว่าคงไม่มีใครสนใจ เราไม่อยากกลับบ้าน บ้านของใครหลายๆคน คือที่ที่สบายใจที่สุด แต่สำหรับเราไม่เลย มันเป็นอดีตที่เรวร้าย ปจุบันแม่เลี้ยงเรา แต่ไม่ค่อยได้อยู่กับเรา เขาจะใช้เวลาอยู่กับสามีใหม่ เราก็เข้าใจ เราต้องอยู่กับพี่สามคน บางครั้งพี่เราก็ทะเลาะกันเอง รวมถึงเราด้วย แต่ยิ่งโตยิ่งทำให้เราเข้าใจอะไรหลายๆอย่าง คำพูดของแม่จำขึ้นใจเสมอ (จะทำอะไรก็ทำไปเอาตัวเองให้รอด) เราจำคำนั้นมาจนปัจจุบัน จนปัจจุบันเราเรียนจบม.6 ได้ที่เรียนคือกทม. ราชภัฏ เราเรียนไม่จบ เรามีปัญหาการเงิน ที่เราออกเพราะว่า เราไม่อยากให้แม่หาเงินส่ง เราจึงหางานพาททามทำ จนค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆจนหางานที่ตอบแทนดี การทำงานหรือสังคมการทำงาน ของบริษัท เรารู้สึกว่า ความเป็นผู้ใหญ่มันเพิ่มขึ้น ระบายกับใครยากมาก ไม่ไว้ใจใคร เรากลัวคนอื่นจะมองเราว่าแย่ ชีวิตตอนนี้ดีมั้ยถือว่าโอเค ในระดับนึง เราไม่กลับบ้าน ปีละ 2 3 ครั้ง ที่ไม่กลับเพราะเหตุผลที่เราไม่อยากเจออดีต คนสองที่ทะเลาะกันทำร้ายร่างกายกันคนที่เจ็บคือ ลูก