กาลครั้งหนึ่งนานของความรัก

ผมรู้สึกตัวเบา ๆ ได้ยินเสียงใส ๆ ของผู้หญิงอยู่ใกล้ ๆ ผมเริ่มลืมตาขึ้นเห็นสายยางมีน้ำสีแดงเข้มต่ออยู่ที่แขน เห็นคนยืนอยู่ข้าง ๆ เธอคือเจ้าของเสียงที่ผมได้ยินหรือ?

เปลือกตาของผมปิดลงอีกครั้ง แต่ความคิดเริ่มทำงาน
ผู้หญิงหรือ?

ผู้หญิงในความทรงจำเริ่มต้น คือ แม่ เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง
ในวัยเด็กนั้น ผมแยกความเป็นชายหรือหญิงไม่ออก รู้ว่าผู้หญิงแต่งตัวต่างจากผู้ชาย การละเล่นต่าง ๆ ก็เล่นเหมือนกัน กระโดดยาง ทอยตุ๊กตุ่น เล่นซ่อนหา หมากเก็บ

แล้ววันหนึ่งผู้หญิงก็หายไปจากชีวิต ผมถูกส่งเข้าเรียนโรงเรียนผู้ชายล้วนตั้งแต่ 5 ขวบ ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ใหญ่ ความรู้สึกถึงผู้หญิงในวัยเดียวกันจึงไม่มี ชีวิตจากเด็กชายจนเป็นนาย จึงผ่านมาเรื่อย ๆ ผู้หญิงในความคิดของผมไม่มีอะไรต่างจากผู้ชายเลย แม้จะได้เรียนรู้ผ่านวิชาความรู้แล้วก็ตาม

หลังจากเป็นนายได้ไม่นาน ผมต้องย้ายไปอยู่โรงเรียนสหศึกษา เป็นครั้งแรกที่เห็นผู้หญิงวัยเดียวกันกับผม ตัวโตพอกัน เธอยิ้มให้ ผมเลยยิ้มตอบแบบงงงง ในความคิดของผมผู้หญิงก็ไม่ต่างจากผู้ชายเท่าไร

ผมได้รับการคัดเลือกจากเพื่อน ๆ เป็นหัวหน้าชั้นเรียน ความหายนะจากความคิดจึงเกิดขึ้น ผมให้ผู้หญิงทำทุกอย่างเหมือนผู้ชาย จนได้รับคำชมว่า วินัยเยี่ยงทหาร ความเหนื่อยที่เพื่อนผู้หญิงได้รับคงหนักเหมือนเพื่อนผู้ชาย

วันหนึ่งในวิชาภาษาไทย ครูให้ท่องกลอนเรื่อง พระอภัยมณี ที่กล่าวถึงความรักของชายหนุ่มที่มีต่อหญิงสาว

"ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร                  ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน
……
……
ขอติดตามทรามสงวนนวลละออง           เป็นคู่ครองพิศสวาททุกชาติไป"

ความคิดที่เกิดขึ้นในระหว่างท่องกลอนนั้น เป็นไปได้หรือที่ชายคนหนึ่งจะรักหญิงคนหนึ่งได้ขนาดนั้น ถึงตายแล้วยังขอเกิดตามกันทุกชาติไป ผู้ชายอย่างผมไม่อินไปกับบทกลอนเลย

วันนั้นครูให้แต่งกลอนรักระหว่างชายหนุ่มและหญิงสาวในเวลาที่เหลืออยู่ 10 นาที วันที่ฟ้าถล่มดินทลาย ผมกำลังมึนงงกับความรัก และทุกคนในห้องก็ยังเริ่มต้นไม่ได้ ครูจึงเริ่มต้นให้ว่า

“ดอกรักบานในหัวใจใครทั้งโลก            แต่ดอกโศกบานในหัวใจฉัน”

โอ้ ครูเริ่มต้นเหมือนรู้ใจผมเหลือเกิน ผมกำลังโศกกับคำว่า ความรัก มันคืออะไร? จึงต่อกลอนไปว่า

“อันความรักจริงนั้นไม่จีรัง                     ฉันจึงนั่งสร้อยเศร้าและเหงาทรวง”

ครูถูกใจในบทกลอนหรือ? เห็นบอกว่าสัมผัสผิด แต่เลือกผมไปแข่งขันแต่งกลอนในระดับชั้น ครูบอกว่า ไปหัดแต่งกลอนให้เยอะ ๆ จะแต่งได้ต้องมีแรงบันดาลใจ รักมาก โกรธมาก เสียใจมาก ดีใจมาก แล้วบทกลอนจะหลั่งไหลมาเอง

งานเข้าแล้ว ผมเป็นคนเฉย ๆ ไม่รู้จักความรัก ไม่ค่อยเสียใจอะไร มีเรื่องดีใจหรือโกรธก็รู้สึกเฉย ๆ แล้วเราจะเริ่มต้นจากอะไรดี ไปนั่งอ่านบทกลอนส่วนใหญ่ที่คนชอบ คือ ความรัก

ระหว่างคิดอยู่นั้นก็เอาดินสอนเขียนลงกระดาษเล่น ๆ

“บทกลอนรักฉันเขียนเล่นไม่เป็นหรอก    ถ้าฉันบอกดาวคู่ฉันเดี๋ยวจันทร์ฉุน
ถ้าฉันบอกฉันอยู่เคียงคู่คุณ                    ก็คงวุ่นคุณคงว่าหายากิน”

ผมแต่งกลอนความรักไปเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่โดนใจตัวเองและคนอื่น วันหนึ่งเกิดรู้สึกชอบผู้หญิงคนหนึ่งแต่สุดที่จะเอื้อมถึงเธอ บทกลอนรักและความพลัดพรากจึงหลั่งไหลพรั่งพรูออกมา ผมหลงรักเธอจนไม่รู้ว่า อะไรคือความจริง เธอไม่มีตัวตน แต่สำหรับผมนั้นเธอ คือ ความรัก

นับแต่นั้นมาจนทำงานมาหลายปี ผมปฏิเสธผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาในชีวิต ผมบอกทุกคนว่า ผมมีแฟนแล้วไม่ต้องการมีใครอีก หลายคนก็ยังคบเป็นเพื่อนเป็นน้องกันเรื่อยมา

วันหนึ่งผมย้ายที่ทำงานใหม่ไปอยู่ต่างจังหวัด เพื่อหลีกหนีความรักจากผู้หญิงทั้งมวล แต่ด้วยพรหมลิขิตหรือโชคชะตาเล่นตลก ในขณะที่ผมอยู่บนรถของบริษัทที่กำลังเลี้ยวเข้าบริษัท ผมเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินอยู่หน้ารถ ข้างหลังของเธอคุ้นตาของผมมาก จนผมต้องเหลียวหลังไปมองหน้าเธอ เธอใบหน้ายิ้มแย้ม ท่าทางคล่องแคล่วดี

ผมเดินเข้าไปในห้องประชุมของบริษัท เธอนั่งอยู่ข้างในห้อง เจ้าของบริษัทแนะนำผมให้รู้จักเธอ เธอมาทำงานวันแรกเช่นกัน เสียงที่เธอทักทายผมนั้น ช่างคุ้นหูผมเหลือเกิน

ผมและเธอทำงานร่วมกันมาหลายเดือน เธอเคยถามถึงแฟนของผม ผมก็ตอบว่ามีแฟนแล้ว จนวันหนึ่งเธอมาอยู่เคียงข้างผม เธอชวนไปกินข้าว ชวนไปดูหนัง แล้วบอกผมว่า ผู้หญิงชอบแบบนี้ อย่าทำอย่างนั้นผู้หญิงไม่ชอบ ผมก็งงงงอยู่ แต่ทุกครั้งที่เจอเธอก็ทำแบบผู้หญิงชอบตามที่เธอบอก

จนผมคิดเปลี่ยนงานอีกครั้ง เธอชวนผมกินข้าวเพื่อเลี้ยงส่ง เราไปกินข้าวกัน 2 คนและดูหนังต่อ วันนี้เธอกอดแขนผมแน่นมาก ผมขับรถไปส่งเธอได้ยินเสียงสะอื้น ผมถามเธอว่า เป็นอะไร เธอร้องไห้ขึ้น และบอกว่า คนไร้ใจ เธอบอกผมว่า เธอรักผมมาก แต่เข้าใจว่า ผมมีแฟนแล้ว แต่เธอก็ยังทำใจไม่ได้

ความคิดผุดขึ้นอย่างรวดเร็ว นี่คือความรักและการพลัดพราก และความเสียใจอย่างมากที่จะจากกัน ผมจอดรถที่หน้าบ้านเธอและคว้าเธอมากอด และบอกเธอว่า ผมอยู่ตรงนี้และจะอยู่ตลอดไป ผมเรียกเธอว่า ความรัก

และเป็นความรักครั้งแรกในชีวิตของผู้ชายคนนี้ที่มีต่อหญิงสาวในวัยเดียวกัน ผมรู้สึกดีกับเธอและรู้สึกแปลกใจตั้งแต่เธอบอกผมถึงความต้องการของผู้หญิงแล้ว ผมทำทุกอย่างตามที่เธอบอกอย่างมีความสุข เธอเข้ามาแทนที่แฟนในจินตนาการของผมเมื่อไรก็ไม่รู้

ผมเล่าเรื่องแฟนในจิตนาการให้เธอฟัง เธอดีใจมาก เธอกอดผมจนแน่น เธอบอกว่า เวลาขึ้นรถด้วยกันทีไร ได้ยินผมท่องกลอนรักทุกที เธอฟังแล้วคิดว่า ผมจีบเธอซะอีก แต่เธอว่า ลิเกไปหน่อย ผมถึงเข้าใจว่า ที่ครูบอกว่ารักมากมันก็พรั่งพรูออกมาเอง

ผมลาเธอกลับบ้านด้วยความรู้สึกดี ๆ มีความสุขไปตลอดการเดินทางกลับบ้าน แต่แล้วความรู้สึกของผมก็ขาดหายไป

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่