สวัสดีค่ะ
คือเราเพิ่งเลิกกับแฟนไปค่ะ..เมื่อวานนี้เอง
ต้องบอกก่อนว่าเราคบกันมา9เดือนค่ะ และพรุ่งนี้จะเป็นวันครบรอบ10เดือนของเราสองคน
เจ้าของกระทู้เองตอนนี้อายุ18แล้วค่ะ ขึ้นม.6ปีนี้ ส่วนแฟนเก่าเรา เรียนจบมหาลัยปีที่แล้วค่ะ ทุกคนก็คงพอเดาอายุของพี่เขาได้เเล้วใช่ไหมคะ
บางคนอ่านอาจจะคิดว่าเอาอีกละ ความรักป็อปปี้เลิฟอีกละ ความรักเด็กๆอีกละ
เด็กมาตั้งกระทู้เรื่องความรักอีกละ แต่อยากจะบอกว่าไม่เถียงค่ะ แต่สำหรับเราเอง ความรักครั้งนี้มันไม่เหมือนที่เราเคยมีมา
สำหรับบทเรียนนี้ มันทำให้เราโตขึ้น ทำให้เราเข้าใจโลกใบนี้มากขึ้น เดิมทีเราเป็นคนโลกสวยมากค่ะ คนรอบตัวเราพูดเสมอว่าเห้ยโลกสวยจังวะ
ทำไมมองแง่ดีขนาดนี้ล่ะ เเละสิ่งที่ตามมาคือใช่ค่ะ เราโดนเอาเปรียบ เราบอกก่อนนะคะว่าเราเจอกับพี่เขาในแอพๆหนึ่ง ที่เราตั้งใจว่าจะโหลดมาเล่นไปงั้น สองสามวันก็จะลบทิ้งละ แต่เราดันไปเจอเขาซะก่อน เเละเราเองเนี่ยแหล่ะค่ะที่รู้สึกถูกชะตากับคนๆนี้แบบบอกไม่ถูก
เราตัดสินใจลองทักพี่เขาไปและเราก็ได้คุยกันจริงๆค่ะ เราคุยกันมาได้7เดือน เลยตัดสินใจคบกันดู สำหรับเราพี่เขาเป็นเหมือนพ่อ เหมือนพี่เหมือนหลายๆอย่างในชีวิตเรา มันอาจจะดูเว่อร์ แต่ตลอดระยะเวลาที่คบกัน เขาเป็นคนที่ทำให้เราคิดหลายๆอย่างได้จริงๆ เขาบอกให้เรามองโลกให้กว้างขึ้น
บางคนอาจจะคิดว่าเอ้า เรื่องแค่นี้คิดเองไม่ได้เหรอ สำหรับคนแบบเรา มันคงยาก เพราะเมื่อก่อนเราอ่อนต่อโลกจริงๆ
เราไม่เคยเจอตัวจริงกันเลยนะคะ คุยกันผ่านทางโทรศัพท์ทุกวัน จนเราตัดสินใจไปเจอพี่เขาค่ะ
ยอมรับว่าครั้งเเรกเราเขินมากๆ555 เราวิ่งหนีเขาด้วยค่ะ ก็มันเขินแบบบอกไม่ถูกเลย

อารมณ์แบบ คนที่ไม่เคยเจอกันเลย แต่เราคุยกันตลอด แล้วอยู่ๆคนที่อยู่ในโทรศัพท์เรา มายืนต่อหน้าเรา มันดูไม่น่าเชื่อมากค่ะตอนนั้น
ลมแทบจับเลยล่ะค่ะ5555 แต่เรากับพี่เขาอยู่ไกลกันนะคะ การเดินทางมาหากันก็ลำบากนิดหน่อย หลังจากนั้นเราก็ได้เจอกันอีกครั้งที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในงานโอเพ้นเฮ้าส์ค่ะ ตอนนั้นเราไปกับเพื่อนเราและก็เลยชวนให้พี่เขาไปด้วย ถือว่าเป็นโอกาสที่จะได้เจอกันอีกครั้ง
หลังจากที่เราเดินดูกิจกรรมที่ทางมหาลัยจัดขึ้นจนพอใจเเล้ว เราก็เลยไปเที่ยวที่ห้างค่ะ แวะเที่ยวสักนิดก่อนแยกย้ายกัน
วันนั้นเป็นครั้งเเรกที่เราได้ดูหนังกับพี่เขาค่ะ ตื่นเต้นมากแบบบอกไม่ถูก แต่หนังที่เราสองคนเลือกดูดันเป็นหนังแบบฆ่ากันต่อสู้กัน
เลือดสาดอะไรอย่างงั้นเลยค่ะ5555 ไม่ใช่หนังแนวโรเเมนติกเล้ยยยย หื้ออ เเต่ก็สนุกดีค่ะ แต่เราเป็นคนทำความทรงจำแรกล่มค่ะ5555555
เราตัดสินใจเดินออกจากโรงหนัง เพราะมีปัญหานิดหน่อย พี่เขาหงุดหงิดเรามากค่ะ เพราะเขาเป็นคนจริงจังกับการดูหนังมากถึงมากที่สุด
แง่..รู้สึกผิดนะคะแต่ทำไงได้55555 แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ ก็ยังถือว่าเป็นความทรงจำดีๆได้อยู่แหล่ะ..ถึงมันจะไม่สมบูรณ์แบบ อิอิ
หลังจากนั้นเราก็ได้เจอกันมากขึ้น แต่เวลาของเราสองคนมันไม่ค่อยจะตรงกันหรอกค่ะ เดือนสองเดือนสามเดือนกว่าจะได้เจอกันทีหนึ่ง
ก็คบกันมาเรื่อยๆนะคะ เวลาที่เราเจอปัญหาอะไร เราก็จะมาเล่าให้พี่เขาฟังตลอด เขาก็จะอยู่ข้างๆเรา บางทีก็ไม่ได้มาฟังบ้าง
เวลาพี่เขามีปัญหาเขาก็มาบอกให้เราฟังบ้างเหมือนกัน ก็อยู่แบบนี้มาตลอด จนพี่เขาบวช เราก็รอ ช่วงเวลานั้นไม่ค่อยได้คุยกัน
เพราะมันไม่ดีและก็ไม่ควรจะทำ จนเขาสึก ก็ได้กลับมาคุยกันเหมือนเดิม เราไม่ใช่คนสวยหรือน่ารักอะไรนะคะ
เป็นเด็กคนนึงที่ผิวคล้ำๆ ผอมๆ ไม่น่าสนใจอะไรเลย
เราก็กลัวเหมือนกันว่าสักวันถ้าพี่เขาไปเจอใครที่ตรงกับที่เขาวาดไว้เขาจะไปจากเราไหม เราคิดมากตลอด
พี่เขาจะคอยบอกเราเสมอว่า เขารักเราที่นิสัยเรา แต่มันก็อดกลัวไม่ได้อยู่ดีน่ะค่ะ เราเลยพยายามดูเเลตัวเองมากขึ้น
เรื่องผิว เรื่องต่างๆนานา ที่พอจะทำได้ จนมันก็ขาวขึ้นนิดหนึ่งนะคะ5555
สิ่งที่เรากลัวอย่างหนึ่งคือ ระยะทางกับเวลาที่ไม่ตรงกัน และยังเป็นเรื่องของอายุที่ต่างกันมากๆอีก
นิสัยก็ย่อมต่างกันมาก ไม่เข้าใจกันในหลายๆเรื่องอยู่เเล้ว ทำให้เราสองคนทะเลาะกันบ่อยครั้ง แต่ก็กลับมาคืนดีได้ตลอด
เราจริงจังกับคนนี้มากนะคะ แต่ไม่ได้จริงจังจนไม่เป็นอันทำอะไร ตลอดที่คบ เรามีทะเลาะกันแรงมากๆอยู่หลายครั้ง
แต่ก็ไม่เคยเลิกกันสักที พี่เขาชอบการเล่นเกมมากเป็นชีวิตจิตใจ เป็นงานอดิเรกที่เขาชอบมากๆ พอๆกับการดูหนัง
บางครั้งก็จะมีหัวร้อนบ้าง หงุดหงิดใส่เราบ้าง เพราะเราก็งี่เง่าและงอแงด้วย จนบางทีมันก็คงดูน่ารำคาญสำหรับพี่เขา
เเต่บางทีก็มีไม่สนใจความรู้สึกเรา แบบไม่เเคร์เลยจริงๆ แรกๆก็น้อยใจก็งอนจนทะเลาะกันอีก
เพราะเรื่องไม่เเคร์ ไม่สนใจอะไรนี่แหล่ะ เเต่เรายอมรับนะคะ ว่ามันก็รู้สึกแย่มาตลอดเหมือนกัน พี่เขาก็คงไม่ต่างกัน ที่ต้องมามีแฟนงี่เง่าแบบเรา
คนที่บอกลาคือเราค่ะ เราคิดทบทวนมาสักพักหนึ่งเลยนะ ว่าเราจะยังคบกันได้นานแค่ไหน เพราะเรามั่นใจว่าต่อจากนี้เราเองที่จะไม่มีเวลาให้พี่เขา
เรากำลังขึ้นม.6 เราต้องติว ต้องเรียนพิเศษ ต้องทำหลายอย่างมากจริงๆ เเละเราก็ยังเรียนอยู่ คงยังไม่พร้อมอะไรหลายๆอย่าง
เราคิดแค่ว่าตอนนี้เราอยากขอเรียนแบบจริงๆจังๆก่อน ไม่ใช่ว่าเราไม่รักเขานะคะ เเต่เรารู้ตัวเราดีว่า เราเป็นคนยังไง
เราอยากลองตั้งใจเรียนจริงๆจังๆ ไม่ใช่ว่าเราเลือกการเรียนเเล้วทิ้งคนรักอะไรแบบนั้นหรอกนะคะ เเต่เรามีเหตุผลของเราจริงๆที่มันพูดออกมาไม่ได้
เราอยากลองให้ทุกอย่างมันพร้อมมากกว่านี้ ทั้งอายุของเรา การเรียน หน้าที่การงาน ความสำเร็จในชีวิต เราคิดว่าเวลาตอนนั้นเวลาที่เราสองคนจะได้เจอกัน ได้ทำกิจกรรมหลายๆด้วยกันมันคงเหมาะสมกว่าตอนนี้ และเขาก็ต้องไปทำงานจริงจังแล้วด้วยอีก เราว่ายังไงเวลามันจะยิ่งไม่มีมากกว่าเดิมแน่นอน
เราเลยตัดสินใจบอกลาพี่เขาแหล่ะค่ะ เเต่เขาคงไม่เข้าใจเราเท่าไหร่ ปกติเราเป็นคนพูดไม่ค่อยรู้เรื่องอยู่เเล้ว เลยไม่รู้จะพูดยังไงดี อธิบายไม่ถูก
เขาก็เลยคิดว่าเราเลิกกันด้วยเหตุผลบ้าๆ เเต่เขาก็ดูเคารพการตัดสินใจของเรานะคะ
สิ่งหนึ่งที่เรากับพี่เขาสัญญากันคือ เมื่อเรามีงานทำเเล้ว ทุกอย่างโอเคเเล้ว เราสองคนจะไปเที่ยวกระบี่ด้วยกัน ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกัน
หลังจากที่เราบอกลาเขา เราก็ย้ำสัญญานี้ให้เขาฟัง เเละเรามั่นใจในตัวเองนะคะ ว่าถึงวันนั้นเเล้วจริงๆ เราจะไปกับพี่เขาแน่นอน
เราจะทำความฝันที่เราสองคนเคยพูดกันไว้ให้เป็นจริง แต่ที่เรากลัวคือ กลัวว่าก่อนจะถึงวันนั้น มันจะมีบางอย่างมาทำให้เราไม่สามารถ
ทำความฝันให้เป็นจริงได้ แต่เราจะพยายามตั้งใจเเละทำมันให้เป็นจริงให้ได้แหล่ะค่ะ ตอนเเรกเราคิดว่าจะไม่ร้องไห้ เพราะเราลากันด้วยความเข้าใจ
เเต่พอคิดว่าจะไม่ได้โทรไม่ได้คุย ไม่ได้เจอกันแบบเเต่ก่อนไม่ได้หัวเราะมุกเเป้กๆของกันแบบแต่ก่อน มันก็ใจหายเหมือนกันนะคะ
เเต่ตอนนี้ เราก็มีความฝันที่เราอยากทำให้มันสำเร็จจริงๆ
แต่ก็ภาวนาให้มันมีโอกาสในอนาคตที่จะได้กลับมาเจอกัน เรารักเขามากนะคะ เเละคิดว่า
ตลอดระยะเวลาการเรียนของเรา เราจะไม่มีใคร เเละเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว เราอยากทำอนาคตของเราให้มันสำเร็จก่อนอ่ะค่ะ
เพราะตอนนี้เราก็ไม่มีอะไรเลย ถ้ามันยังมีโอกาสเราก็อยากสานต่อพี่เขาค่ะ
เเต่ก็นะคะ อนาคตเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน ถึงวันนั้นพี่เขาอาจจะเจอคนที่ดีกว่าเราแล้ว เราก็จะยินดีกับพี่เขา
แต่เราเเค่แอบลุ้น ว่ามันจะยังพอมีโอกาสในอนาคตไหม
หลังจากนี้เราก็จะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดค่ะ
เพื่อนๆเคยบอกลาใคร เพราะเหตุผลบางอย่าง ทั้งที่ยังรักไหมคะ
แล้วที่เราทำแบบนี้มันผิดรึเปล่าคะ เพราะเราก็แอบคิดเหมือนกันว่าเราดูเห็นแก่ตัวไปไหม
แล้วทุกคนคิดว่าเรายังจะพอมีโอกาสกลับมาคบกับคนๆนึงได้ไหมคะ
////ถ้าพิมพ์อะไรผิดหรือไม่สมควรพิมพ์ไป ต้องขอโทษด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
บอกเลิกทั้งที่ยังรัก
คือเราเพิ่งเลิกกับแฟนไปค่ะ..เมื่อวานนี้เอง
ต้องบอกก่อนว่าเราคบกันมา9เดือนค่ะ และพรุ่งนี้จะเป็นวันครบรอบ10เดือนของเราสองคน
เจ้าของกระทู้เองตอนนี้อายุ18แล้วค่ะ ขึ้นม.6ปีนี้ ส่วนแฟนเก่าเรา เรียนจบมหาลัยปีที่แล้วค่ะ ทุกคนก็คงพอเดาอายุของพี่เขาได้เเล้วใช่ไหมคะ
บางคนอ่านอาจจะคิดว่าเอาอีกละ ความรักป็อปปี้เลิฟอีกละ ความรักเด็กๆอีกละ
เด็กมาตั้งกระทู้เรื่องความรักอีกละ แต่อยากจะบอกว่าไม่เถียงค่ะ แต่สำหรับเราเอง ความรักครั้งนี้มันไม่เหมือนที่เราเคยมีมา
สำหรับบทเรียนนี้ มันทำให้เราโตขึ้น ทำให้เราเข้าใจโลกใบนี้มากขึ้น เดิมทีเราเป็นคนโลกสวยมากค่ะ คนรอบตัวเราพูดเสมอว่าเห้ยโลกสวยจังวะ
ทำไมมองแง่ดีขนาดนี้ล่ะ เเละสิ่งที่ตามมาคือใช่ค่ะ เราโดนเอาเปรียบ เราบอกก่อนนะคะว่าเราเจอกับพี่เขาในแอพๆหนึ่ง ที่เราตั้งใจว่าจะโหลดมาเล่นไปงั้น สองสามวันก็จะลบทิ้งละ แต่เราดันไปเจอเขาซะก่อน เเละเราเองเนี่ยแหล่ะค่ะที่รู้สึกถูกชะตากับคนๆนี้แบบบอกไม่ถูก
เราตัดสินใจลองทักพี่เขาไปและเราก็ได้คุยกันจริงๆค่ะ เราคุยกันมาได้7เดือน เลยตัดสินใจคบกันดู สำหรับเราพี่เขาเป็นเหมือนพ่อ เหมือนพี่เหมือนหลายๆอย่างในชีวิตเรา มันอาจจะดูเว่อร์ แต่ตลอดระยะเวลาที่คบกัน เขาเป็นคนที่ทำให้เราคิดหลายๆอย่างได้จริงๆ เขาบอกให้เรามองโลกให้กว้างขึ้น
บางคนอาจจะคิดว่าเอ้า เรื่องแค่นี้คิดเองไม่ได้เหรอ สำหรับคนแบบเรา มันคงยาก เพราะเมื่อก่อนเราอ่อนต่อโลกจริงๆ
เราไม่เคยเจอตัวจริงกันเลยนะคะ คุยกันผ่านทางโทรศัพท์ทุกวัน จนเราตัดสินใจไปเจอพี่เขาค่ะ
ยอมรับว่าครั้งเเรกเราเขินมากๆ555 เราวิ่งหนีเขาด้วยค่ะ ก็มันเขินแบบบอกไม่ถูกเลย
อารมณ์แบบ คนที่ไม่เคยเจอกันเลย แต่เราคุยกันตลอด แล้วอยู่ๆคนที่อยู่ในโทรศัพท์เรา มายืนต่อหน้าเรา มันดูไม่น่าเชื่อมากค่ะตอนนั้น
ลมแทบจับเลยล่ะค่ะ5555 แต่เรากับพี่เขาอยู่ไกลกันนะคะ การเดินทางมาหากันก็ลำบากนิดหน่อย หลังจากนั้นเราก็ได้เจอกันอีกครั้งที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในงานโอเพ้นเฮ้าส์ค่ะ ตอนนั้นเราไปกับเพื่อนเราและก็เลยชวนให้พี่เขาไปด้วย ถือว่าเป็นโอกาสที่จะได้เจอกันอีกครั้ง
หลังจากที่เราเดินดูกิจกรรมที่ทางมหาลัยจัดขึ้นจนพอใจเเล้ว เราก็เลยไปเที่ยวที่ห้างค่ะ แวะเที่ยวสักนิดก่อนแยกย้ายกัน
วันนั้นเป็นครั้งเเรกที่เราได้ดูหนังกับพี่เขาค่ะ ตื่นเต้นมากแบบบอกไม่ถูก แต่หนังที่เราสองคนเลือกดูดันเป็นหนังแบบฆ่ากันต่อสู้กัน
เลือดสาดอะไรอย่างงั้นเลยค่ะ5555 ไม่ใช่หนังแนวโรเเมนติกเล้ยยยย หื้ออ เเต่ก็สนุกดีค่ะ แต่เราเป็นคนทำความทรงจำแรกล่มค่ะ5555555
เราตัดสินใจเดินออกจากโรงหนัง เพราะมีปัญหานิดหน่อย พี่เขาหงุดหงิดเรามากค่ะ เพราะเขาเป็นคนจริงจังกับการดูหนังมากถึงมากที่สุด
แง่..รู้สึกผิดนะคะแต่ทำไงได้55555 แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ ก็ยังถือว่าเป็นความทรงจำดีๆได้อยู่แหล่ะ..ถึงมันจะไม่สมบูรณ์แบบ อิอิ
หลังจากนั้นเราก็ได้เจอกันมากขึ้น แต่เวลาของเราสองคนมันไม่ค่อยจะตรงกันหรอกค่ะ เดือนสองเดือนสามเดือนกว่าจะได้เจอกันทีหนึ่ง
ก็คบกันมาเรื่อยๆนะคะ เวลาที่เราเจอปัญหาอะไร เราก็จะมาเล่าให้พี่เขาฟังตลอด เขาก็จะอยู่ข้างๆเรา บางทีก็ไม่ได้มาฟังบ้าง
เวลาพี่เขามีปัญหาเขาก็มาบอกให้เราฟังบ้างเหมือนกัน ก็อยู่แบบนี้มาตลอด จนพี่เขาบวช เราก็รอ ช่วงเวลานั้นไม่ค่อยได้คุยกัน
เพราะมันไม่ดีและก็ไม่ควรจะทำ จนเขาสึก ก็ได้กลับมาคุยกันเหมือนเดิม เราไม่ใช่คนสวยหรือน่ารักอะไรนะคะ
เป็นเด็กคนนึงที่ผิวคล้ำๆ ผอมๆ ไม่น่าสนใจอะไรเลย
เราก็กลัวเหมือนกันว่าสักวันถ้าพี่เขาไปเจอใครที่ตรงกับที่เขาวาดไว้เขาจะไปจากเราไหม เราคิดมากตลอด
พี่เขาจะคอยบอกเราเสมอว่า เขารักเราที่นิสัยเรา แต่มันก็อดกลัวไม่ได้อยู่ดีน่ะค่ะ เราเลยพยายามดูเเลตัวเองมากขึ้น
เรื่องผิว เรื่องต่างๆนานา ที่พอจะทำได้ จนมันก็ขาวขึ้นนิดหนึ่งนะคะ5555
สิ่งที่เรากลัวอย่างหนึ่งคือ ระยะทางกับเวลาที่ไม่ตรงกัน และยังเป็นเรื่องของอายุที่ต่างกันมากๆอีก
นิสัยก็ย่อมต่างกันมาก ไม่เข้าใจกันในหลายๆเรื่องอยู่เเล้ว ทำให้เราสองคนทะเลาะกันบ่อยครั้ง แต่ก็กลับมาคืนดีได้ตลอด
เราจริงจังกับคนนี้มากนะคะ แต่ไม่ได้จริงจังจนไม่เป็นอันทำอะไร ตลอดที่คบ เรามีทะเลาะกันแรงมากๆอยู่หลายครั้ง
แต่ก็ไม่เคยเลิกกันสักที พี่เขาชอบการเล่นเกมมากเป็นชีวิตจิตใจ เป็นงานอดิเรกที่เขาชอบมากๆ พอๆกับการดูหนัง
บางครั้งก็จะมีหัวร้อนบ้าง หงุดหงิดใส่เราบ้าง เพราะเราก็งี่เง่าและงอแงด้วย จนบางทีมันก็คงดูน่ารำคาญสำหรับพี่เขา
เเต่บางทีก็มีไม่สนใจความรู้สึกเรา แบบไม่เเคร์เลยจริงๆ แรกๆก็น้อยใจก็งอนจนทะเลาะกันอีก
เพราะเรื่องไม่เเคร์ ไม่สนใจอะไรนี่แหล่ะ เเต่เรายอมรับนะคะ ว่ามันก็รู้สึกแย่มาตลอดเหมือนกัน พี่เขาก็คงไม่ต่างกัน ที่ต้องมามีแฟนงี่เง่าแบบเรา
คนที่บอกลาคือเราค่ะ เราคิดทบทวนมาสักพักหนึ่งเลยนะ ว่าเราจะยังคบกันได้นานแค่ไหน เพราะเรามั่นใจว่าต่อจากนี้เราเองที่จะไม่มีเวลาให้พี่เขา
เรากำลังขึ้นม.6 เราต้องติว ต้องเรียนพิเศษ ต้องทำหลายอย่างมากจริงๆ เเละเราก็ยังเรียนอยู่ คงยังไม่พร้อมอะไรหลายๆอย่าง
เราคิดแค่ว่าตอนนี้เราอยากขอเรียนแบบจริงๆจังๆก่อน ไม่ใช่ว่าเราไม่รักเขานะคะ เเต่เรารู้ตัวเราดีว่า เราเป็นคนยังไง
เราอยากลองตั้งใจเรียนจริงๆจังๆ ไม่ใช่ว่าเราเลือกการเรียนเเล้วทิ้งคนรักอะไรแบบนั้นหรอกนะคะ เเต่เรามีเหตุผลของเราจริงๆที่มันพูดออกมาไม่ได้
เราอยากลองให้ทุกอย่างมันพร้อมมากกว่านี้ ทั้งอายุของเรา การเรียน หน้าที่การงาน ความสำเร็จในชีวิต เราคิดว่าเวลาตอนนั้นเวลาที่เราสองคนจะได้เจอกัน ได้ทำกิจกรรมหลายๆด้วยกันมันคงเหมาะสมกว่าตอนนี้ และเขาก็ต้องไปทำงานจริงจังแล้วด้วยอีก เราว่ายังไงเวลามันจะยิ่งไม่มีมากกว่าเดิมแน่นอน
เราเลยตัดสินใจบอกลาพี่เขาแหล่ะค่ะ เเต่เขาคงไม่เข้าใจเราเท่าไหร่ ปกติเราเป็นคนพูดไม่ค่อยรู้เรื่องอยู่เเล้ว เลยไม่รู้จะพูดยังไงดี อธิบายไม่ถูก
เขาก็เลยคิดว่าเราเลิกกันด้วยเหตุผลบ้าๆ เเต่เขาก็ดูเคารพการตัดสินใจของเรานะคะ
สิ่งหนึ่งที่เรากับพี่เขาสัญญากันคือ เมื่อเรามีงานทำเเล้ว ทุกอย่างโอเคเเล้ว เราสองคนจะไปเที่ยวกระบี่ด้วยกัน ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกัน
หลังจากที่เราบอกลาเขา เราก็ย้ำสัญญานี้ให้เขาฟัง เเละเรามั่นใจในตัวเองนะคะ ว่าถึงวันนั้นเเล้วจริงๆ เราจะไปกับพี่เขาแน่นอน
เราจะทำความฝันที่เราสองคนเคยพูดกันไว้ให้เป็นจริง แต่ที่เรากลัวคือ กลัวว่าก่อนจะถึงวันนั้น มันจะมีบางอย่างมาทำให้เราไม่สามารถ
ทำความฝันให้เป็นจริงได้ แต่เราจะพยายามตั้งใจเเละทำมันให้เป็นจริงให้ได้แหล่ะค่ะ ตอนเเรกเราคิดว่าจะไม่ร้องไห้ เพราะเราลากันด้วยความเข้าใจ
เเต่พอคิดว่าจะไม่ได้โทรไม่ได้คุย ไม่ได้เจอกันแบบเเต่ก่อนไม่ได้หัวเราะมุกเเป้กๆของกันแบบแต่ก่อน มันก็ใจหายเหมือนกันนะคะ
เเต่ตอนนี้ เราก็มีความฝันที่เราอยากทำให้มันสำเร็จจริงๆ
แต่ก็ภาวนาให้มันมีโอกาสในอนาคตที่จะได้กลับมาเจอกัน เรารักเขามากนะคะ เเละคิดว่า
ตลอดระยะเวลาการเรียนของเรา เราจะไม่มีใคร เเละเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว เราอยากทำอนาคตของเราให้มันสำเร็จก่อนอ่ะค่ะ
เพราะตอนนี้เราก็ไม่มีอะไรเลย ถ้ามันยังมีโอกาสเราก็อยากสานต่อพี่เขาค่ะ
เเต่ก็นะคะ อนาคตเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน ถึงวันนั้นพี่เขาอาจจะเจอคนที่ดีกว่าเราแล้ว เราก็จะยินดีกับพี่เขา
แต่เราเเค่แอบลุ้น ว่ามันจะยังพอมีโอกาสในอนาคตไหม
หลังจากนี้เราก็จะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดค่ะ
เพื่อนๆเคยบอกลาใคร เพราะเหตุผลบางอย่าง ทั้งที่ยังรักไหมคะ
แล้วที่เราทำแบบนี้มันผิดรึเปล่าคะ เพราะเราก็แอบคิดเหมือนกันว่าเราดูเห็นแก่ตัวไปไหม
แล้วทุกคนคิดว่าเรายังจะพอมีโอกาสกลับมาคบกับคนๆนึงได้ไหมคะ
////ถ้าพิมพ์อะไรผิดหรือไม่สมควรพิมพ์ไป ต้องขอโทษด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ