[CR] 2019 หนีร้อนไปเที่ยว Tokyo Hokkaido 9 วัน 8 คืน

กระทู้รีวิว

เที่ยวญี่ปุ่น เที่ยวต่างประเทศ Backpack ฮอกไกโด บันทึกนักเดินทาง

Tokyo – Hokkaido 2019

ตอนที่ 1 Tokyo - Asakusa Temple - Kawaguchiko - Shibuya - Harajuku
ตอนที่ 2 Tokyo นั่ง Vanilla Airline ไป Sapporo นั่ง Night bus Hakodate, Noboribetsu https://pantip.com/topic/38716013
ตอนที่ 3 Asahikawa ( Asahiyama Zoo) , Biei ( Christmas Tree) https://pantip.com/topic/38741012
ตอนที่ 4 Tomamu (Hoshino Resort Tomamu), Otaru, Sapporo, Bankei Ski ลานสกีใกล้ซัปโปโร

เมื่อเกิดอยากเที่ยว Hokkaido แต่ไม่อยากหนาวมาก เลยเลือกเดินทางช่วงต้นเดือนมีนาคม ที่ Hokkaido ยังมีหิมะ แต่หิมะตกไม่หนักมากแล้ว และอยากแวะดู ฟูจิซังด้วย เลยเลือกบินลง Tokyo ก่อนแล้วค่อยต่อเครื่องบินภายในประเทศไป Hokkaido ทริปนี้ใช้เวลาเดินทาางทั้งหมด 9 วัน

ตอนที่2 Tokyo นั่ง Vanilla Airline ไป Sapporo นั่ง Night bus Hakodate, Noboribetsu https://pantip.com/topic/38716013/comment2

Day1 Bangkok - Tokyo , Asakusa Temple

Day2 Kawaguchiko , Shibuya ; Harajuku

Day3 Tokyo นั่ง Vanilla Airline ไป Sapporo – นั่ง Night bus Hakodate

Day4 Hakodate , Noboribetsu

Day5 Asahikawa ( Asahiyama Zoo ) Biei ( Chrismas Tree )

Day6 Tomamu ( Hoshino Resort Tomamu นั่ง Unkai Gondola )

Day7 Bankei Ski , Otaru ( Musix Box Museum, Otaru canal )

Day8 Sapporo ( Nijo maket, Hokkaido Shrine, Hokkaido Government office (ตึกอิฐแดง), Clock Tower, Shopping Susukino

Day9 Sapporo - Bangkok

Day1 Bangkok - Tokyo

Airasia XJ 602 DMK – NRT เดินทางโดยหางแดง Depart 4.55 น Arrival 13.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง 15 นาที

ถึง Narita International Airport ผ่าน immigration รับกระเป๋า รอบนี้ผ่านได้สบายมาก ตม ไม่ถามอะไรเลย ออกมา Arrival Hall Terminal 2 ชั้น 1F เดินลงบันไดเลื่อนมาชั้น B1F เพื่อขึ้นรถไฟเข้า Tokyo มีการเดินทางเข้าเมืองหลายวิธี เลือกวิธีที่เหมาะสมกับเงินในกระเป๋า ชั้น B1F ด้านขวาจะเป็นเคาเตอร์ NEX สีแดง และ Keisie สีน้ำเงิน ด้านซ้ายมือ เป็น JR East Travel Service Center สำหรับคนซื้อ JR pass มาจากไทย

หรือต้องการจะซื้อ JR passเราเลือกเดินทางด้วย

Keisie สามารถซื้อตั๋วได้ที่เคาเตอร์ หรือจะหยอดเหรียญซื้อจากตู้ก็ได้

การเดินทาง Narita ไป Ueno station โดยรถไฟ Keisei

มีให้เลือก 3 แบบ

1. Skyliner

ราคา : ผู้ใหญ่ 2,470 เยน เด็ก 1,240 เยน

ระยะเวลา : 41 นาที

2. Excess Express

ราคา : ผู้ใหญ่ 1,240 เยน เด็ก 620 เยน

ระยะเวลา : 59 นาที

3. Keisei Main Line

ราคา : ผู้ใหญ่ 1,030 เยน เด็ก 520 เยน

ระยะเวลา : 70 นาที

เราเลือกเดินทานโดย Keisei main line ( สีแดง )ราคาถูกสุด แต่ใช้เวลาเดินทางนานสุด Narita International Airport 2-3 ถึง Ueno ราคา 1030 เยน ใช้เวลาเดินทาง 70 นาที

ป้ายสีส้ม เลข 1 เป็น Keisei Excess Express ป้ายสีม่วงทางขวา เลข 3 เป็น Keisei Main Line

Keisei Main Line ที่นั่งจะเป็นแบบหันหน้าเข้าหากัน ไม่มีที่เก็บกระเป๋า

จาก Keisei Ueno station เราเดินผ่าน JR Ueno station ไปที่พัก ประมาณ 900 เมตร

เก็บกระเป๋าแล้วเราเดินกลับมาหน้า Ueno station จะมีทางเข้ารถไฟใต้ดินสาย Ginza line นั่งรถไฟ 3 สถานี เพื่อไป Asakusa Temple

ถึง Asakusa station เดินออก Exit 1 เดินต่ออีก 200 เมตร ถึง Asakusa temple

Asakusa Temple / Sensoji Temple

วัดเซ็นโซจิ (Sensoji) เป็นวัดพุทธที่นับถือเจ้าแม่กวนอิม วัดนี้เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว มีประวัติความเป็นมาว่า เมื่อ ค.ศ. 628 มี 2 พี่น้องชาวประมง พบองค์เจ้าแม่กวนอิม (kannon) ขนาดเล็กที่แม่น้ำซูมิดะ (Sumida) แม่น้ำในย่านอาซาคุซะ และได้นำกลับเข้าหมู่บ้านในอาซาคุสะ ต่อมาที่หมู่บ้านนี้ก็ได้สร้างวัดจากบ้านหลังหนึ่งเพื่อเป็นที่เก็บรักษาองค์เจ้าแม่กวนอิม และหลังจากนั้นก็ได้สร้างวัดเซ็นโซจิขึ้นใน ค.ศ. 645

เวลาเปิด – ปิด :

บริเวณวัดเปิดตลอดเวลา 24 ชั่วโมง

ศาลาวัด 6:00 – 17:00 และในเดือนตุลาคม – มีนาคมเปิด 6:30 – 17:00

ขากลับจากวัดอะซากุสะ เราแวะสะพานข้ามแม่น้ำซุมิดะ ชมวิว Tokyo sky tree

นั่งรถไฟใต้ดิน Ginza line 3 สถานี กลับมา Ueno station เดินเล่นตลาด Ameyoko ตัวตลาด อยู่หน้า Ueno station มีร้านอาหาร และร้านค้าหลายร้าน เป็นย่านช้อปปิ้งที่คนนิยมมาซื้อของฝาก