แท๊น แท๊น แทน.... มาพบกันอีกแว้ว ใครอยากไปเที่ยวนครนายกกันบ้างเอ่ย วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวนครนายกแบบชิวๆ ไม่เร่งรีบกัน เหมาะสำหรับเพื่อนๆที่มีวันหยุดอันน้อยนิด แต่ไม่อยากไปไหนไกล
นครนายก เมืองฝันที่ใกล้กรุง ภูเขางาม น้ำตกสวย รวยธรรมชาติ ปราศจากมลพิษ
ก่อนจะออกเดินทาง ขอเติมพลังกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวร้านเด็ดร้านนี้กันก่อนนะ ร้านอยู่แถวๆ ดอนเมือง จขกท. จำชื่อร้านไม่ได้อะ ต้องขออภัย แฮ้ๆ

ระหว่างกินกันอยู่ แอบเหลือบไปเห็นน้องแมวนั่งอยู่บนโต๊ะ แหม่ะ!!! ตกใจเล่ยยย... ชิวมากซิน่ะ

ต่อกันด้วย เครปยาวๆ ใหญ่ๆ

เราออกเดินทางจากฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ประมาณ 10 โมงเช้า ไปตามถนนรังสิต-นครนายก (หมายเลข 305) ไปยังจุดหมายแรกของเราก็คือ
"ร้านกาแฟ Montreux Cafe And Farm" เป็นระยะทาง 45 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณชั่วโมงนึง
ถึงแล้วคะ
Montreux Cafe And Farm ร้านกาแฟทุ่งนา ที่ตั้งอยู่ในอำเภอองค์รักษ์ รังสิตคลอง 15 นี่เอง ใครมาไม่ถูกเข้าหาอากู๋ได้เลยจร้า

มาถึงก็สั่งของทานเล่นและเครื่องดื่มกันก่อนเลย ช่วงนี้อากาศกำลังร้อน จัดชาเขียวเย็นไป 1 แก้ว

เอสเปรสโซ่เย็น

และเฟรนช์ฟรายส์ทอดกรอบ

เดินเข้ามาข้างในสุดก็จะพบกับศาลากลางน้ำ บรรยากาศออกแนวบ้านทุ่ง และถ้าใครอยากจะลองพายเรือรอบสระเล็กๆ ก็พายฟรีอีกเช่นกัน เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทางคาเฟ่มีไว้บริการกับนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนกันมาที่นี่

ไฮไลท์ของร้านนี้ น่าจะเป็นจุดนี้นี่แหละคะ "สะพานไม้ไผ่" ที่มีความยาวไม่มาก มีต้นข้าวน้อยๆ อันเขียวขจีให้พวกเราได้ชมและถ่ายรูปกัน

นอกจากจะเป็นคาเฟ่แล้ว ยังมีการปลูกผักสวนครัวที่ปลอดสารพิษ ฟาร์มเลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่และให้อาหารปลาที่ตอบโจทย์แนวเศรษฐกิจพอเพียงได้เป็นอย่างดี มาที่แล้วจะแอบหลงรักความเป็นอยู่แบบพอเพียงเลยก็ได้นะ

สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้ได้เลยจร้า
https://pantip.com/topic/38209312
ออกเดินทางกันต่อ จุดหมายต่อไปจากตรงนี้ ขับรถไปอีก 34 กิโลเมตร พวกเราก็จะถึง
"ซุ้มป่าไผ่ ณ วัดจุฬาภรณ์วนาราม"

ถึงแล้วจร้า ซุ้มป่าไผ่ มีที่จอดรถให้พร้อม วันนี้คนไม่เยอะแฮะ....
ซุ้มป่าไผ่ สถานที่ท่องเที่ยวอันซีนแห่งหนึ่งของเมืองไทย (Unseen in Thailand)

เข้าไปสักการะพระประธานในอุโบสถกัน

ภายในพระอุโบสถยังมีพระประธานให้พวกเราได้สักการะบูชาอีกด้วย แถมภายในบริเวณวัดยังเต็มไปด้วยน้องหมาและน้องแมว น่ารักๆ เต็มไปหมด ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ แผงค้าลอตเตอรี่ สำหรับคนที่ชอบเสี่ยงโชคลาภ

สาธุ สาธุ สาธุ

ด้วยความสวยงามของซุ้มป่าไผ่แห่งนี้ ที่เหมือนได้ไปเที่ยว "ป่าไผ่อาราชิยาม่า" ของประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้

ซัมป่าไผ่ ตั้งอยู่ในวัดจุฬาภรณ์วนาราม เป็นวัดที่เงียบสงบมากๆ ทางเข้าวัดเป็นอุโมงค์ต้นไผ่ ที่โค้งเข้าหากัน ทอดยาวกว่าหลายเมตร จึงเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก

สำหรับใครที่อยากจะติดตามข่าวสารของทางวัด สามารถเข้าไปชมได้ที่เพจเฟสบุ๊ค วัดจุฬาภรณ์วนาราม ต.บ้านพริก อ.บ้านนา จ.นครนายก ได้เลยจร้า

นี่เลย!!! เจ้าตัวแสบของเรา ฉลาดจริงๆ พอสาวๆ มานั่งใกล้ๆเนี้ย ยกมือให้เลยนะ

ออกจากวัดมา มุ่งหน้าไปอีกไม่ไกลเท่าไหร่ ขับรถไปอีก 34 กิโลเมตร โดยใช้ถนนสุวรรณศร (หมายเลข 33) แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข 2011 อีก 8 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3049 อีก 22 กิโลเมตร เราก็จะเจอกับ
"สะพานทุ่งนามุ้ย" ซึ่งจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ ก่อนถึงเขื่อนขุนด่านฯ มีป้ายบอกทางเข้าชัดเจน

ถึงแล้วสะพานทุ่งนามุ้ย ต้นหญ้าเขียวขจีมากๆ เลย

สะพานทุ่งนามุ้ย แลนด์มาร์คใหม่ของจังหวัดนครนายก ที่ใครๆก็อยากมาเที่ยวชม ไม่มีค่าเข้าชม แต่เราสามารถช่วยค่าบำรุงสถานที่ได้นะจ๊ะ

ซึ่งต้นข้าวที่เราเห็นกันนี้ไม่ใช่ต้นหญ้าหรือต้นข้าวธรรมดาๆนะ มันคือ ต้นข้าวไรซ์เบอร์รี่ เป็นนาข้าวอินทรีย์ที่ไม่ใช้สารเคมีในการปลูกเลย

โดยมีพื้นที่ในการปลูก 18 ไร่ด้วยกัน แบ่งเป็นปลูกข้าว 15 ไร่และพื้นป่าอีก 3 ไร่ ว้าว...สุดยอดไปเลยคะ

ไปชมภาพบรรยากาศรอบๆทุ่งนากัน

สะพานไม้ไผ่แห่งนี้มีความยาวถึง 150 เมตร ทอดผ่านทุ่งนาอันเขียวขจีกว่า 2 ไร่ด้วยกัน

นอกจากจะมีสะพานทุ่งนาให้พวกเราได้เดินชมและถ่ายรูปกันแล้ว ยังมีร้านอาหารและกาแฟตรงบริเวณปากทางเข้าไว้คอยบริการพวกเราอีกด้วย ซึ่งอาหารส่วนใหญ่ของที่นี่จะใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ (ปลอดสารพิษ)

และถ้าใครอยากมาทำบุญ ที่นี่ก็มีตักบาตรพระสงฆ์ทุกเช้าเวลา 07.30 น. โดยประมาณ

แสงยามบ่ายของวันนี้ อากาศช่างดีเหลือเกิน ไม่ค่อยมีแดด และอากาศไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่นัก

เลยเที่ยงแล้ว และก็บ่ายแล้วด้วย เราตีรถกลับไปหาอะไรกินกันที่หน้าวัดพราหมณี (หลวงพ่อปากแดง)

ร้านนี้เลยจร้า
"แจง & จอย ไก่ย่าง ปลาเผา" ซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำฝั่งตรงข้ามกับวัดพราหมณีเลย

นั่งกินบรรยากาศกันต่อ (ภูเขา - หมอก - ริมน้ำ)

เมนูจร้าเมนู

แซ่บทุกอย่าง

มื้อกลางวันของพวกเรา อาหารรสชาติทั่วไป ราคาไม่แพงมาก ^^ กินบรรยากาศเป็นอันใช้ได้ นั่งแช่วนไป ส่วนตัวร้านนี้ก็สะอาดดี มีห้องน้ำด้วย มีถังขยะและไม่มีการทิ้งเศษอาหารลงในน้ำ ถือว่าใช้ได้

ขากลับแวะซื้อของฝากกันสักหน่อยที่
"ตลาดโรงเกลือนครนายก" ช้อปปิ้งของมือสองแบบมั่นใจ 100% อยู่ทางทางเข้าวัดพรหมมณี (หลวงพ่อปากแดง) เป็นตลาดนัดที่ค่อนข้างใหญ่ จอดรถได้เกือบ 200 คันแหน่ะ
ขายสินค้าประเภทเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าและเครื่องประดับ เครื่องใช้ในครัวเรือน รวมไปถึงอาหารแห้งและเครื่องดื่ม
ของอาจจะมีไม่เยอะเท่าไหร่นัก ใครไม่รีบเดินทางกลับกรุงเทพฯ ลองมาแวะเดินเล่นกันดูสักรอบนะคะ เผื่อจะได้ของติดไม้ติดมือไปฝากคนทางบ้านกัน
มาสรุปค่าใช้จ่ายกันดีกว่า
** ร้านกาแฟ Montreux Cafe and Farm 199.- บาท
** ร้านไก่ย่าง 185.- บาท
** ค่าน้ำมัน ระยะทางไปกลับ 214 กิโลเมตร 500.- บาท (เราคิดค่าน้ำมันที่กิโลละ 2.- บาท)
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดโดยประมาณ 900.- บาท
คชจ. นี้ยังไม่รวมถึงค่าทำบุญ (ตามกำลังศรัทธา) และของฝากของแต่ละคนนะคะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับ One Day Trip นครนายก แบบไปเช้าเย็นกลับ ไม่ต้องลางานให้เสียเวลา แถมได้เที่ยวครบทั้งทำบุญ ไหว้พระ จิบกาแฟ ชมธรรมชาติและแวะซื้อของฝาก เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้เพื่อนๆชาวพันทิปได้ไปเที่ยวกันในวันหยุด ไม่ควรพลาด!!! แนะนำเลย
ชื่อสินค้า: Montreux Cafe And Farm , ร้านกาแฟนครนายก , ร้านกาแฟวิวทุ่งนา , ร้านกาแฟ , กาแฟ , วัดจุฬาภรณ์วนาราม , ซุ้มป่าไผ่ , บ้านนา , บ้านพริก , ตลาดโรงเกลือ , ตลาดโรงเกลือนครนายก , หลวงพ่อปากแดง , ร้านส้มตำไก่ย่าง , สะพานไม้ไผ่ , สะพานทุ่งนามุ้ย
คะแนน:
[CR] One Day Trip "นครนายก" แบบชิวๆ จิบกาแฟ - ชมทุ่งนา - ไหว้พระ - ซื้อของฝาก
ก่อนจะออกเดินทาง ขอเติมพลังกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวร้านเด็ดร้านนี้กันก่อนนะ ร้านอยู่แถวๆ ดอนเมือง จขกท. จำชื่อร้านไม่ได้อะ ต้องขออภัย แฮ้ๆ
ระหว่างกินกันอยู่ แอบเหลือบไปเห็นน้องแมวนั่งอยู่บนโต๊ะ แหม่ะ!!! ตกใจเล่ยยย... ชิวมากซิน่ะ
ต่อกันด้วย เครปยาวๆ ใหญ่ๆ
เราออกเดินทางจากฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ประมาณ 10 โมงเช้า ไปตามถนนรังสิต-นครนายก (หมายเลข 305) ไปยังจุดหมายแรกของเราก็คือ "ร้านกาแฟ Montreux Cafe And Farm" เป็นระยะทาง 45 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณชั่วโมงนึง
ถึงแล้วคะ Montreux Cafe And Farm ร้านกาแฟทุ่งนา ที่ตั้งอยู่ในอำเภอองค์รักษ์ รังสิตคลอง 15 นี่เอง ใครมาไม่ถูกเข้าหาอากู๋ได้เลยจร้า
มาถึงก็สั่งของทานเล่นและเครื่องดื่มกันก่อนเลย ช่วงนี้อากาศกำลังร้อน จัดชาเขียวเย็นไป 1 แก้ว
เอสเปรสโซ่เย็น
และเฟรนช์ฟรายส์ทอดกรอบ
เดินเข้ามาข้างในสุดก็จะพบกับศาลากลางน้ำ บรรยากาศออกแนวบ้านทุ่ง และถ้าใครอยากจะลองพายเรือรอบสระเล็กๆ ก็พายฟรีอีกเช่นกัน เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทางคาเฟ่มีไว้บริการกับนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนกันมาที่นี่
ไฮไลท์ของร้านนี้ น่าจะเป็นจุดนี้นี่แหละคะ "สะพานไม้ไผ่" ที่มีความยาวไม่มาก มีต้นข้าวน้อยๆ อันเขียวขจีให้พวกเราได้ชมและถ่ายรูปกัน
นอกจากจะเป็นคาเฟ่แล้ว ยังมีการปลูกผักสวนครัวที่ปลอดสารพิษ ฟาร์มเลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่และให้อาหารปลาที่ตอบโจทย์แนวเศรษฐกิจพอเพียงได้เป็นอย่างดี มาที่แล้วจะแอบหลงรักความเป็นอยู่แบบพอเพียงเลยก็ได้นะ
สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้ได้เลยจร้า
https://pantip.com/topic/38209312
ออกเดินทางกันต่อ จุดหมายต่อไปจากตรงนี้ ขับรถไปอีก 34 กิโลเมตร พวกเราก็จะถึง "ซุ้มป่าไผ่ ณ วัดจุฬาภรณ์วนาราม"
ถึงแล้วจร้า ซุ้มป่าไผ่ มีที่จอดรถให้พร้อม วันนี้คนไม่เยอะแฮะ....
ซุ้มป่าไผ่ สถานที่ท่องเที่ยวอันซีนแห่งหนึ่งของเมืองไทย (Unseen in Thailand)
เข้าไปสักการะพระประธานในอุโบสถกัน
ภายในพระอุโบสถยังมีพระประธานให้พวกเราได้สักการะบูชาอีกด้วย แถมภายในบริเวณวัดยังเต็มไปด้วยน้องหมาและน้องแมว น่ารักๆ เต็มไปหมด ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ แผงค้าลอตเตอรี่ สำหรับคนที่ชอบเสี่ยงโชคลาภ
สาธุ สาธุ สาธุ
ด้วยความสวยงามของซุ้มป่าไผ่แห่งนี้ ที่เหมือนได้ไปเที่ยว "ป่าไผ่อาราชิยาม่า" ของประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
ซัมป่าไผ่ ตั้งอยู่ในวัดจุฬาภรณ์วนาราม เป็นวัดที่เงียบสงบมากๆ ทางเข้าวัดเป็นอุโมงค์ต้นไผ่ ที่โค้งเข้าหากัน ทอดยาวกว่าหลายเมตร จึงเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
สำหรับใครที่อยากจะติดตามข่าวสารของทางวัด สามารถเข้าไปชมได้ที่เพจเฟสบุ๊ค วัดจุฬาภรณ์วนาราม ต.บ้านพริก อ.บ้านนา จ.นครนายก ได้เลยจร้า
นี่เลย!!! เจ้าตัวแสบของเรา ฉลาดจริงๆ พอสาวๆ มานั่งใกล้ๆเนี้ย ยกมือให้เลยนะ
ออกจากวัดมา มุ่งหน้าไปอีกไม่ไกลเท่าไหร่ ขับรถไปอีก 34 กิโลเมตร โดยใช้ถนนสุวรรณศร (หมายเลข 33) แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข 2011 อีก 8 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3049 อีก 22 กิโลเมตร เราก็จะเจอกับ "สะพานทุ่งนามุ้ย" ซึ่งจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ ก่อนถึงเขื่อนขุนด่านฯ มีป้ายบอกทางเข้าชัดเจน
ถึงแล้วสะพานทุ่งนามุ้ย ต้นหญ้าเขียวขจีมากๆ เลย
สะพานทุ่งนามุ้ย แลนด์มาร์คใหม่ของจังหวัดนครนายก ที่ใครๆก็อยากมาเที่ยวชม ไม่มีค่าเข้าชม แต่เราสามารถช่วยค่าบำรุงสถานที่ได้นะจ๊ะ
ซึ่งต้นข้าวที่เราเห็นกันนี้ไม่ใช่ต้นหญ้าหรือต้นข้าวธรรมดาๆนะ มันคือ ต้นข้าวไรซ์เบอร์รี่ เป็นนาข้าวอินทรีย์ที่ไม่ใช้สารเคมีในการปลูกเลย
โดยมีพื้นที่ในการปลูก 18 ไร่ด้วยกัน แบ่งเป็นปลูกข้าว 15 ไร่และพื้นป่าอีก 3 ไร่ ว้าว...สุดยอดไปเลยคะ
ไปชมภาพบรรยากาศรอบๆทุ่งนากัน
สะพานไม้ไผ่แห่งนี้มีความยาวถึง 150 เมตร ทอดผ่านทุ่งนาอันเขียวขจีกว่า 2 ไร่ด้วยกัน
นอกจากจะมีสะพานทุ่งนาให้พวกเราได้เดินชมและถ่ายรูปกันแล้ว ยังมีร้านอาหารและกาแฟตรงบริเวณปากทางเข้าไว้คอยบริการพวกเราอีกด้วย ซึ่งอาหารส่วนใหญ่ของที่นี่จะใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ (ปลอดสารพิษ)
และถ้าใครอยากมาทำบุญ ที่นี่ก็มีตักบาตรพระสงฆ์ทุกเช้าเวลา 07.30 น. โดยประมาณ
แสงยามบ่ายของวันนี้ อากาศช่างดีเหลือเกิน ไม่ค่อยมีแดด และอากาศไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่นัก
เลยเที่ยงแล้ว และก็บ่ายแล้วด้วย เราตีรถกลับไปหาอะไรกินกันที่หน้าวัดพราหมณี (หลวงพ่อปากแดง)
ร้านนี้เลยจร้า "แจง & จอย ไก่ย่าง ปลาเผา" ซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำฝั่งตรงข้ามกับวัดพราหมณีเลย
นั่งกินบรรยากาศกันต่อ (ภูเขา - หมอก - ริมน้ำ)
เมนูจร้าเมนู
แซ่บทุกอย่าง
มื้อกลางวันของพวกเรา อาหารรสชาติทั่วไป ราคาไม่แพงมาก ^^ กินบรรยากาศเป็นอันใช้ได้ นั่งแช่วนไป ส่วนตัวร้านนี้ก็สะอาดดี มีห้องน้ำด้วย มีถังขยะและไม่มีการทิ้งเศษอาหารลงในน้ำ ถือว่าใช้ได้
ขากลับแวะซื้อของฝากกันสักหน่อยที่ "ตลาดโรงเกลือนครนายก" ช้อปปิ้งของมือสองแบบมั่นใจ 100% อยู่ทางทางเข้าวัดพรหมมณี (หลวงพ่อปากแดง) เป็นตลาดนัดที่ค่อนข้างใหญ่ จอดรถได้เกือบ 200 คันแหน่ะ
ขายสินค้าประเภทเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าและเครื่องประดับ เครื่องใช้ในครัวเรือน รวมไปถึงอาหารแห้งและเครื่องดื่ม
ของอาจจะมีไม่เยอะเท่าไหร่นัก ใครไม่รีบเดินทางกลับกรุงเทพฯ ลองมาแวะเดินเล่นกันดูสักรอบนะคะ เผื่อจะได้ของติดไม้ติดมือไปฝากคนทางบ้านกัน
มาสรุปค่าใช้จ่ายกันดีกว่า
** ร้านกาแฟ Montreux Cafe and Farm 199.- บาท
** ร้านไก่ย่าง 185.- บาท
** ค่าน้ำมัน ระยะทางไปกลับ 214 กิโลเมตร 500.- บาท (เราคิดค่าน้ำมันที่กิโลละ 2.- บาท)
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดโดยประมาณ 900.- บาท
คชจ. นี้ยังไม่รวมถึงค่าทำบุญ (ตามกำลังศรัทธา) และของฝากของแต่ละคนนะคะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับ One Day Trip นครนายก แบบไปเช้าเย็นกลับ ไม่ต้องลางานให้เสียเวลา แถมได้เที่ยวครบทั้งทำบุญ ไหว้พระ จิบกาแฟ ชมธรรมชาติและแวะซื้อของฝาก เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้เพื่อนๆชาวพันทิปได้ไปเที่ยวกันในวันหยุด ไม่ควรพลาด!!! แนะนำเลย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้