North Kyushu Trip วันที่ 3 : Saga - Karatsu ตลาดเช้า ณ เมืองท่าแสนสงบ อาหารทะเลสดล้ำ ปลาหมึกใสตัวโต๊โต

Day 1 >> Shimabara / Kumamoto :  Guzoni (หม้อไฟรวมมิตร) Motsunabe (หม้อไฟเครื่องในวัว) และ Basashi (ซาชิมิเนื้อม้า) https://pantip.com/topic/38367396
Day 2 >> Hakata / Tenjin :  Hakata Ramen และ ร้านยาไต (ร้านรถเข็นริมถนน) https://pantip.com/topic/38410461
Day 3 >> Saga / Karatsu : ตลาดเช้า ณ เมืองท่าแสนสงบ อาหารทะเลสดล้ำ ปลาหมึกใสตัวโต๊โต
Day 4 >> Yufuin - Beppu : ชมวิวเมืองสุดมินิมอลและเมืองแห่งน้ำพุร้อน เป้าหมายคือร้านอร่อยในพื้นที่ https://pantip.com/topic/38714533


เช้านี้ ออกเดินทางด้วยความสดใส เพราะเราจะไปทานปลาหมึกและอาหารทะเลสดๆ ที่เมืองท่า Karatsu กัน

การเดินทางเริ่มจากฟุกุโอกะ นั่งรถไฟ JR ไปสถานี Karatsu แล้วต่อรถบัสจาก Karatsu Bus Center ไปลง Yobuko Bus Stop ถ้าพร้อมแล้วก็ลุยโลดดดดด


เริ่มจากการนั่งรถไฟ เราจะนั่งรถไฟเลาะริมทะเล Genkai ไปยาวๆ เพราะฉะนั้น เราจะเห็นวิวริมทะเลสลับกับหมู่บ้านตลอดเส้นรถไฟ


เนื่องจากช่วงนี้เป็นเทศกาลคริสต์มาส มาถึงสถานี Karatsu ปุ๊ปก็เจอก็อตซิลล่าคุงในยูนิฟอร์มซานต้ามาต้อนรับเราเลย


บรรยากาศหน้าสถานียามเช้า คนไม่พลุกพล่าน ให้ความรู้สึกว่าเดินชิวๆ ได้ สบายๆ


อันนี้น่าจะเป็นป้ายแนะนำสถานที่ในเมือง ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ใหญ่โตพอสมควรเลย


จากสถานีเราก็เดินตรงตาม Google Map เพื่อไปยัง Showa Bus Karatsu Bus Center ระยะทางจากสถานีรถไฟประมาณ 500 เมตรได้ สองข้างทางก็จะมีบรรยากาศเมืองสงบๆ บ้านโบราณ

สวยยันฝาท่อในเมือง 

เดินตรงมาเรื่อยๆ จะเจอ รร.มัธยมตรงนี้ให้เลี้ยวเดินอีกนิดก็ถึงแล้วครับ รร. อยู่ข้างสถานีรถบัสเลย

พอเราเดินเข้าตึกมาจะมีจุดรอรถบัสด้านในเลย เราไม่ต้องซื้อตั๋วอะไรเพิ่มเติม แค่รอรับตั๋วตอนขึ้นรถบัสได้เลย แต่ความยากอยู่ตรงต้องดูขบวนรถให้ถูกว่าคันไหนผ่านตลาดเช้าโยบุโกะบ้าง (จากจุดนี้ใครจะไปแหลมฮาโดะก็สามารถขึ้นรถบัสที่นี่ได้เน้อ)

ป้ายส่วนใหญ่เป็นภาษาญี่ปุ่น แต่เราไม่ต้องขึ้นไปชั้นไหน อยู่ชั้น 1 นี่แหละ รอรถโซนสีเขียวเลย
ปล. ที่สถานีรถบัสมีร้านสะดวกซื้อและ ห้องน้ำพร้อม มาตุนเสบียงที่นี่ก่อนได้


รอชานชาลาที่ 2 แต่ชานชาลาที่ 2 มีรถหลายสาย ต้องดูให้ดีว่าไปลงป้ายโยบุโกะ จะให้ชัวร์ถามคนขับอีกทีก็ได้ว่าคันนี้ไปโยบุโกะมั้ย 
ตอนขึ้นรถให้เรากดรับตั๋วมาด้วยถ้าจำไม่ผิดน่าจะเที่ยวละ 810 เยน ใช้เวลา 40 นาที 


ถึงแล้วววว ตอนมาถึงฝนตกปรอยๆ คนไม่ค่อยเยอะเพราะเป็นวันธรรมดา จริงๆ ถ้าจะมาที่นี่แนะนำวันเสาร์ อาทิตย์ ตลาดจะคึกคักกว่านี้ เพราะร้านค้าจะเปิดเยอะกว่า สำหรับทริปนี้เนื่องจากเวลาเรามีจำกัด ก็เลยต้องมาวันธรรมดา แต่บอกเลยว่ายังไงก็ไม่ผิดหวัง ประเดิมด้วยร้านแรกที่อยู่หน้าตลาด


โยบุโกะมันโบว อาหารแนะนำคือ ปลาหมึกเทมปุระ และขนมจีบปลาหมึก 


ปลาหมึกเทมปุระทำสดๆ กล่องละ 500 เยน


ขนมจีบปลาหมึกลูกโต กล่องละ 300 เยน มี 2 ลูก เนื่องจากที่นั่งไม่ค่อยสะดวกเราเลยขอซื้อขนมจีบปลาหมึกมาตุนไว้ก่อน 
ระหว่างรอขนมจีบ มีคนมาสั่งเทมปุระปลาหมึก บอกเลยว่ากลิ่นตอนทอดหอมมากกกกก ขากลับต้องมาโดน

ป้ายหน้าตลาดเช้า อลังการมาก ตลาดนี้ใหญ่เป็นอันดับสามของตลาดเช้าทั่วญี่ปุ่นเลยนาจา

เดินมาเจอร้านขายหอยสดปิ้งน่ากินโฮก จานละ 1000 เยน (ประมาณ 300 บาท) มีทั้งหอยซาซาเอะ หอยนางรม นี่เลยจัดมาคนละถาด กะเอาให้เปรมเลย

ย่างกันสดๆ หน้าร้านเลยนาจา


ของฝากหลากหลาย ราคาเหมาๆ 3 ชิ้น 1000 เยน

มีพวกปลาหมึก สาหร่ายปรุงรส ราคาก็จะสูงขึ้นมาหน่อย
ตุ๊กตุ่น ตุ๊กตาก็มีนะเออ
คุณป้าตั้งใจย่างมาก ตอนมาต้อนรับก็ยิ้มแย้มแจ่มใส แนะนำวิธีการทาน การบริการของคนญี่ปุ่นดีต่อใจมากๆ ฮับ

พร้อมกินแล้ววววว ฮือออ แอบอยากได้น้ำจิ้มซีฟู้ดอะ เสียดายไม่ได้พกไปด้วย

ขนาดย่างเสร็จแล้วยังมีความอวบอิ่มเปล่งปลั่งอยู่เลย 

ขนาดบิ๊กเบิ้มก็มี สดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว หอยนางรมชุมฉ่ำหอมกลิ่นทะเลมากๆ ส่วนหอยซาซาเอะเองก็มีกลิ่นเอกลักษณ์ที่หอมหวาน ไม่มีความคาวเลย กรุบกรอบแน่นสุดๆ ลืมถ่ายหอยซาซาเอะตอนกินมาด้วย ต้องขออภัยจริงๆ แต่บอกเลยว่าไม่ควรพลาด

ขนมจีบปลาหมึกของจริงน่ากินกว่าในรูปอีก ปลาหมึกหั่นเป็นเส้นๆ มีความนุ่มเหนียว ด้านในขนมจีบก็มีเนื้อหมึกสับผสมกับส่วนผสมอื่นๆ ให้ความรู้สึกเต็มปากเต็มคำ ยิ่งกินตอนร้อนๆ ยิ่งทวีความอร่อย เป็นอีกเมนูที่ไม่ควรพลาด
ร้านขายหมึกและปลาตากแห้งตัวโตๆ ก็มีน้อ มีบอกรายละเอียดการเก็บรักษาและบอกด้วยว่าให้อบให้สุกก่อนกินนาจา
ไม่ใช่แค่อาหารทะเล ผักสดๆ อวบๆ ก็มีน้า

อูนิน่ากินโฮกกกก

ร้านส่วนใหญ่ตามทางเน้นขายปลาหมึกและปลาอาจิตากแห้งเยอะมาก

แม่ค้าร้านนี้พราวด์ทูพรีเซนต์ปลาหมึกเค้ามาก มีให้ชิมด้วย สุดท้ายกลัวปลาหมึกจะขนกลับไม่สะดวกเลยถอยผงสาหร่ายกับปลาแห้งมาคนละถุงสองถุงตามระเบียบ แต่ก่อนซื้อชิมแล้วว่าอร่อยจริง มันออกเค็มๆ หวาน อูมามิ เลยสอยมานี่แล
ปลาบิน ทาบิอุโอะ เจ๊แกเอามากางปีกโชว์ให้ดูว่ามันมีปีกจริงๆ นะ

บรรยากาศท่าเรือวิวดีมากกกกกก

ร้าน Kawataro ที่ดังๆ ยังไม่เปิดเลย เพราะเรามาถึงเร็วไปหน่อย เลยจรลีมากินร้านข้างๆ แทน

ร้านนี้ออกแนวคล้ายๆ ซุปเปอร์ปนร้านอาหาร สั่งมาให้ทำได้ แต่ทำได้แค่ซาชิมินะ ปิ้งย่างต้มบ่มีเด้อ

หอยซาซาเอะ 100 g / 150 เยน เคยกินแต่แบบย่าง ขอลองแบบซาชิมิดูสักที จัดไป 3 ตัว


และอีกเมนูที่ไม่พลาดคือซาชิมิพี่หมึกใส
คนข้างในมาเลือกซื้อของกันเยอะพอสมควรเลย
ที่นั่งมีทั้งด้านนอกรับลมทะเล และด้านในห้องแอร์
เริ่มด้วยซาชิมิหอยซาซาเอะ รสชาติค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ มีกลิ่นหอม แต่ถ้าใครไม่ชอบอะไรลื่นๆ หยึยๆ อาจจะกลัวเมนูนี้ แต่กินกับสาหร่ายและวาซาบิเข้ากันมากๆ
ปลาหมึก ไม่ต้องบรรยายมาก เนื้อหวานกรุบกรอบ เด้งสู้ฟันมากๆ
ทานกับโชยุและวาซาบิ อร่อยขิงๆ

อันนี้สั่งมาเพิ่มความหลากหลาย เป็นปลาอะจิซาชิมิ ทั้งตัว ราคา 400 เยนเองอะ ถูกมั่กๆ 
ทะเลเมืองคารัทสึสวยมากจริงๆ

ก่อนกลับแวะเก็บภาพวิว นิดๆ หน่อยๆ ในตลาดอีกรอบ

คุณลุงคนนี้กำลังโชว์แล่ปลาหมึกให้ลูกค้าเจ้านึง ดูดิบๆ ดี อาจจะมองว่าโหด แต่เป็นวัฒนธรรมการรับประทานของประเทศเค้ามาตั้งแต่ในอดีตแล้วจริงๆ

ก่อนกลับแวะซื้อสตรอเบอร์รี่มานิดนึง ราคาไม่แรง แถมน่ากินแบบนี้ไม่มีพลาด

และแน่นอน ปิดท้ายด้วยเทมปุระหมึกเจ้าแรกที่เดินผ่านมา อร่อยโฮกกกก ทำสดๆ มาแบบร้อนๆ เลย รสชาติจะออกไปทางเค็มแต่บอกเลยว่าสดกรอบอร่อยมาก ไม่มีผิดหวัง

ก็ขอจบรีวิวพาร์ทนี้แต่เเพียงเท่านี้ครับ เดี๋ยวเจอกันในพาร์ทต่อไปเน้อออ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่