ฉันเป็นผู้หญิงคนนึงที่ซื่อสัตย์กับครอบครัวมาตลอดและพยายามทำหน้าที่ทุกอย่างให้คำว่าครอบครัวสมบูรณ์ แต่แล้ว..ตบมือข้างเดียวย่อมไม่มีเสียงสุดท้ายคำว่าครอบครัวของฉันก็ล้มเหลว
ฉันกลายเป็น...คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว(โดยพาแค่ลูกเดินออกมาโดยไม่เอาอะไรเลย)
ฉันกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวแบบสมบูรณ์
(แทบไม่ต้องถามว่ามันทั้งเจ็บปวดและทั้งเหนื่อยมากขนาดไหน)
ฉันมาเช่าบ้านอยู่ในพื้นที่กงสีแห่งนึง
เป็นบ้านของอาจาย์เกษียรท่านนึงซึ่งท่านได้มีบ้านหลายหลังในเขตรั้วเดียวกัน
แต่ละหลังก็ปล่อยให้คนเช่าครบทุกหลัง(รวมหลังของฉันด้วย)
และฉันก็ได้มาพบกับผู้ชายคนนึงเช่าบ้านอยู่ใกล้กัน(ในเขตรั้วเดียวกันแหละ)ซึ่งเขาได้อยู่มาก่อนฉันน่าจะนานพอสมควร เขาทำงานเป็นทนายความเราจะเจอกันแค่ช่วงเย็นๆตอนเขากลับบ้านพัก(เช้าตื่นไม่ทันเขาอ่ะนะ555)
จนวันนึงฉันได้เอารถยนต์มาจอดในที่จอดรถของเขา...ว่าจะยืมสถานที่เพื่อล้างรถแค่ชั่วคราว(คือมันใกล้ก๊อกน้ำที่บ้านน่ะสายยางมันถึงแค่นั้น) เมื่อเราล้างรถไปได้ไม่นานเขาก็กลับมาแล้วก็เอารถไปจอดไว้ที่จอดรถของฉันแทน(ฉันเกรงใจสุดๆอ่ะเลยบอกเขาไปว่า)"ขอล้างรถเดี๋ยวเดียวเดี๋ยวคืนที่จอดรถให้ค่ะ" เขายิ้มให้แล้วบอกว่า"ไม่เป็นไรครับผมจอดตรงนี้ก็ได้..ฝากล้างซักคันสิครับ(ยิ้มกว้าง)"คือ...ความรู้สึกนี้มันหายไปจากฉันนานมากสิบกว่าปีแล้วแล้วนะ ถามว่าแค่คำพูดไม่กี่คำก็ทำให้ฉันรู้สึกดีแล้วหรอ? ทำไมใจง่ายจัง!!?
ตอบทันควันเลยค่ะว่า...ฉันไม่ได้รู้สึกดีกับทุกคนนะคะ บางคนหยอดคำหวานมากกว่านี้ยังไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย(หรืออาจเป็นเพราะฉันเคยรับแต่ความรู้สึกแย่ๆกับอดีตครอบครัวมามากเลยไม่พร้อมจะรับความรู้สึกอะไรกับใคร)(หรือเป็นพราะเคมีของแต่ละคนอาจตรงกัน??)
แต่....จะเป็นเพราะเหตุผลใดก็ช่าง ฉันก็พึงระลึกถึงเสมอว่า...ฉันเคยผ่านการมีครอบครัวแล้ว,ฉันมีลูกที่ต้องดูแล มันคงเป็นไปไม่ได้ที่คนดีพร้อมจะเลือกอยากรู้จักเราหรืออยากสนธนาด้วย เขาคงแค่พูดแก้เขินไปอย่างนั้นแหละ คนที่เคยล้มเหลวในครอบครัวเขามีสิทธิ์เลือกได้แค่ไหนคะ ทำไมในใจฉันมีแต่คำว่าเป็นไปไม่ได้อยู่ตลอดเวลา เมื่อชีวิตมีการเทียบชั้น ฉันก็กลายเป็นชั้นดินโดยสิ้นเชิงอย่างนั้นหรอคะ
ฉันไม่แม้แต่จะคิดทักทายหรือมองหน้าเขาเลย ต้องมานอยอยู่คนเดียวแบบนี้ตลอดไปใช่ไหม!!?(ขอพื้นที่ระบายนะคะ)
Single mom. สามารถเลือกอะไรได้มั้ยคะ?
ฉันกลายเป็น...คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว(โดยพาแค่ลูกเดินออกมาโดยไม่เอาอะไรเลย)
ฉันกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวแบบสมบูรณ์
(แทบไม่ต้องถามว่ามันทั้งเจ็บปวดและทั้งเหนื่อยมากขนาดไหน)
ฉันมาเช่าบ้านอยู่ในพื้นที่กงสีแห่งนึง
เป็นบ้านของอาจาย์เกษียรท่านนึงซึ่งท่านได้มีบ้านหลายหลังในเขตรั้วเดียวกัน
แต่ละหลังก็ปล่อยให้คนเช่าครบทุกหลัง(รวมหลังของฉันด้วย)
และฉันก็ได้มาพบกับผู้ชายคนนึงเช่าบ้านอยู่ใกล้กัน(ในเขตรั้วเดียวกันแหละ)ซึ่งเขาได้อยู่มาก่อนฉันน่าจะนานพอสมควร เขาทำงานเป็นทนายความเราจะเจอกันแค่ช่วงเย็นๆตอนเขากลับบ้านพัก(เช้าตื่นไม่ทันเขาอ่ะนะ555)
จนวันนึงฉันได้เอารถยนต์มาจอดในที่จอดรถของเขา...ว่าจะยืมสถานที่เพื่อล้างรถแค่ชั่วคราว(คือมันใกล้ก๊อกน้ำที่บ้านน่ะสายยางมันถึงแค่นั้น) เมื่อเราล้างรถไปได้ไม่นานเขาก็กลับมาแล้วก็เอารถไปจอดไว้ที่จอดรถของฉันแทน(ฉันเกรงใจสุดๆอ่ะเลยบอกเขาไปว่า)"ขอล้างรถเดี๋ยวเดียวเดี๋ยวคืนที่จอดรถให้ค่ะ" เขายิ้มให้แล้วบอกว่า"ไม่เป็นไรครับผมจอดตรงนี้ก็ได้..ฝากล้างซักคันสิครับ(ยิ้มกว้าง)"คือ...ความรู้สึกนี้มันหายไปจากฉันนานมากสิบกว่าปีแล้วแล้วนะ ถามว่าแค่คำพูดไม่กี่คำก็ทำให้ฉันรู้สึกดีแล้วหรอ? ทำไมใจง่ายจัง!!?
ตอบทันควันเลยค่ะว่า...ฉันไม่ได้รู้สึกดีกับทุกคนนะคะ บางคนหยอดคำหวานมากกว่านี้ยังไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย(หรืออาจเป็นเพราะฉันเคยรับแต่ความรู้สึกแย่ๆกับอดีตครอบครัวมามากเลยไม่พร้อมจะรับความรู้สึกอะไรกับใคร)(หรือเป็นพราะเคมีของแต่ละคนอาจตรงกัน??)
แต่....จะเป็นเพราะเหตุผลใดก็ช่าง ฉันก็พึงระลึกถึงเสมอว่า...ฉันเคยผ่านการมีครอบครัวแล้ว,ฉันมีลูกที่ต้องดูแล มันคงเป็นไปไม่ได้ที่คนดีพร้อมจะเลือกอยากรู้จักเราหรืออยากสนธนาด้วย เขาคงแค่พูดแก้เขินไปอย่างนั้นแหละ คนที่เคยล้มเหลวในครอบครัวเขามีสิทธิ์เลือกได้แค่ไหนคะ ทำไมในใจฉันมีแต่คำว่าเป็นไปไม่ได้อยู่ตลอดเวลา เมื่อชีวิตมีการเทียบชั้น ฉันก็กลายเป็นชั้นดินโดยสิ้นเชิงอย่างนั้นหรอคะ
ฉันไม่แม้แต่จะคิดทักทายหรือมองหน้าเขาเลย ต้องมานอยอยู่คนเดียวแบบนี้ตลอดไปใช่ไหม!!?(ขอพื้นที่ระบายนะคะ)